ร้านอาหาร 6 แห่งใน "พอนโตะโจ" ย่านเกอิชาในเกียวโตที่วัยรุ่นก็แวะไปได้!
ถนนต่างๆ ในตัวเมืองเกียวโตที่ตัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบจากเหนือไปใต้ ตะวันออกไปตะวันตกเหล่านี้ มีจุดให้ท่องเที่ยวเดินเล่นอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละถนนเองก็มีเอกลัษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไป.. จากเสียงเรียกร้องของหลายๆ ท่านที่อยากรู้ว่า จะเที่ยวโตเกียวอย่างไรให้คุ้มค่าดีนะ? เวลาก็ไม่ได้มีเยอะมากด้วย? ในวันนี้เราขอเสนอภาคต่อของการแนะนำการท่องเที่ยวเกียวโต บทความที่สองในพื้นที่ที่มีชื่อว่า "พอนโตะโจ (先斗町)" ทั้งสองฝั่งของซอยแคบแห่งนี้ เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีทั้งบาร์ ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงร้านอาหารญี่ปุ่นตั้งเรียงรายอยู่มากมาย แม้ว่าจะเป็นย่านที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบผู้ใหญ่ๆ ก็ตาม แต่ในคราวนี้เราได้รับความอนุเคราะห์จากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยท้องถิ่นเป็นผู้แนะนำ "ร้าน 6 แห่งที่แม้จะอายุรุ่นๆ 20 กว่าปีก็สามารถแวะไปใช้บริการได้ง่ายๆ" ให้ทุกท่านได้รู้จักไปด้วยกัน!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
พอนโตะโจหมายถึงอะไร?
"พอนโตะโจ" เป็นย่านซอกซอยทางทิศเหนือไปใต้ที่ยาวประมาณ 500 เมตรตั้งแต่ถนนซันโจ (三条通) มุ่งไปทางใต้เลียบแม่น้ำคาโมงาวะ (鴨川) ไปจนถึงถนนชิโจ (四条通) ซึ่งเป็นสถานที่ที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายที่มีบ้านร้านค้าที่มีจุดเด่นอยู่ที่ไม้ระแนงขัดแตะ (ฝากั้นห้องที่ทำขึ้นด้วยไม้ไผ่หรือไม้สี่เหลี่ยมเรียวๆ แล้วประกอบเข้าด้วยกันราวกับเส้นตารางหมากล้อม) ตั้งเรียงรายอยู่ตามตรอกซอกซอย ด้วยความที่เป็นย่านเกอิชาแห่งหนึ่งที่เลื่องชื่อ ทำให้บางทีท่านอาจจะเห็นไมโกะ (舞妓 หมายถึงนางรำ) เดินอยู่ตามซอกซอยด้วยนะ
นอกจากโอชายะ (お茶屋 หมายถึงร้านกินดื่มในย่านเกอิชาที่จะเรียกเกอิชามาคอยให้บริการลูกค้า) แล้วก็ยังมีร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเกียวโต ซูชิ หรือแม้แต่อาหารจีน เรียกได้ว่ามีอยู่หลากหลายมากๆ แม้จะดูเหมือนว่ามีร้านสไตล์ท้องถิ่นและร้านสุดหรูอยู่มากก็ตาม แต่ในบรรดาร้านเหล่านั้นก็มีร้านที่คนรุ่นหนุ่มๆ สาวๆ สามารถแวะเข้าไปใช้บริการได้ง่ายๆ อยู่ด้วย
ขอเสริมอีกนิดนึงว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม〜เดือนกันยายน จะมีร้านที่สามารถใช้บริการ "คาโมงาวะโนเรียวยูกะ (ลานยกระดับเหนือแม่น้ำคาโมงาวะ)" ซึ่งเป็นเหมือนห้องรับแขกสไตล์ญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นเลียบแม่น้ำคาโมงาวะได้อยู่ด้วย
ในขณะที่ท่านได้ชมวิวแม่น้ำคาโมงาวะที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเกียวโต ก็จะได้เพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหารอีกด้วย
นี่เลยที่อยากจะแนะนำ!
นับจากตรงนี้ไป เราจะขอนำเสนอร้านแนะนำโดยในคราวนี้จะเน้นไปที่ร้านแบบสบายๆ ที่แนะนำสำหรับผู้ที่มีอายุรุ่นๆ 20 ปีให้ท่านได้รู้จัก
เราจะขอนำเสนอโดยไล่เดินตามซอยจากเหนือไปใต้ไปตามลำดับนะ!
Pontocho Robin
"Pontocho Robin (先斗町 魯ビン)" เป็นร้านสไตล์บ้านพ่อค้าที่สร้างขึ้นมากว่า 150 ปี ซึ่งท่านจะได้ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นแบบแท้ๆ ที่ทำจากวัตถุดิบตามฤดูกาล
แม้ว่าที่พอนโตะโจจะมีตรอกซอกซอยทั้งใหญ่และเล็กอยู่มากมายก็ตาม แต่สถานที่ที่ร้านนี้ตั้งอยู่คือซอยที่ 2 ซึ่งที่ปากทางเข้าซอยจะมีป้ายลายฟันสุนัข (แพทเทิร์นลายตารางแฉกสี่เหลี่ยมสลับกันสองสี) ที่เขียนเลขซอยเอาไว้ตั้งอยู่ ขอให้ดูป้ายนี้เป็นจุดสังเกตนะ
ของขึ้นชื่อของร้านนี้ก็คือ "ข้าวอบคามะเมชิตามฤดูกาล (季節の釜飯) (2,300 เยน (รวมภาษี)〜)" ที่ปรุงขึ้นมาด้วยน้ำซุปและวัตถุดิบตามฤดูกาล และนอกจากเมนูอาหารทะเลอย่างเช่น ซาชิมิรวมมิตร (お造り盛り合わせ) (2,500 เยน (รวมภาษี)) จากของทะเลสดใหม่ที่สั่งเข้ามาในวันนั้นๆ แล้ว ก็ยังมีเมนูเนื้อสัตว์อย่างเนื้อวากิวย่างเกลือ (和牛の塩焼き) (3,240 เยน (รวมภาษี)) รวมถึงเมนูอื่นๆ อย่างนามาฟุเด็นงากุ (生麩田楽 เป็นขนมจากกลูเตนแป้งสาลีราดซอสมิโซะ) และเต้าหู้ต้ม (湯豆腐) (1,080 เยน (รวมภาษี)) อยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีเหล้าญี่ปุ่นที่เลือกสรรจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศเป็นอย่างดีอยู่อีกมากมาย
งบที่ต้องใช้โดยเฉลี่ยสำหรับอาหารกลางวันจะอยู่ที่ 3,500 เยน ส่วนอาหารเย็นจะอยู่ที่ 6,000 เยนโดยประมาณ สำหรับฤดูร้อนจะมี Noryo-yuka (ลานยกระดับ) ให้เลือกใช้บริการได้ด้วย อีกทั้ง ที่นี่ยังมีเมนูที่เป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ
Manzara-tei Pontocho
ต่อไปก็ร้าน "Manzara-tei Pontocho (まんざら亭 先斗町店)" ร้านที่ท่านจะได้เพลิดเพลินแบบสบายๆ ไปกับอาหารญี่ปุ่นที่สร้างสรรค์เมนูขึ้นเอง ซึ่งเป็นอาคารที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายที่ใช้ประโยชน์จากบ้านพ่อค้าที่สร้างขึ้นมากว่า 120 ปี
เมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือ "โมจิหัวไชเท้ากับอังคาเคะหมูสามชั้นตุ๋น (大根もち 豚角煮あんかけ) (680 เยน (ไม่รวมภาษี))" ซึ่งเป็นสุดยอดเมนูที่บนโมจิหัวไชเท้าที่ทำจากหัวไชเท้าที่ฝานมาแล้วปรุงรสจนมีรสสัมผัสที่เหนียวหนึบและนุ่มฟูนั้น จะราดไปด้วยซอสอังคาเคะ (ซอสประเภทหนึ่งที่มีความเหนียวข้น) ที่มีหมูสามชั้นที่เมื่อรับประทานเข้าไปจะแทบละลายได้ในปาก อีกทั้งมันยังเข้ากับเหล้าได้อย่างลงตัวสุดๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีเมนูแนะนำอีกเมนูคือ "เทริยากิต้นหอมคุโจพันด้วยหมูสันนอก (豚ロースに巻かれた 九条ネギの照り焼き) (780 เยน (ไม่รวมภาษี))" ซึ่งเป็นเมนูที่นำต้นหอมคุโจ (九条ネギ) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนแห่งเกียวยาไซ (京野菜 หมายถึงผักที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษในเกียวโต หรือผักที่นำมาใช้ทำอาหารแบบดั้งเดิมในเกียวโต) มาพันไว้ด้วยหมูสันนอกแล้วทำเป็นเทริยากิ (วิธีการปรุงอาหารที่ปรุงรสด้วยซอสที่มีรสหวาน) และคุโระชิจิมิ (黒七味 เป็นเครื่องปรุงรสสีดำที่ผลิตขึ้นในเกียวโตซึ่งเกิดจากการผสมผสานเครื่องเทศ 7 ชนิดเข้าด้วยกัน) ก็ยังช่วยเสริมรสชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เหล้าท้องถิ่นตามฤดูกาลที่เข้ากับอาหารได้อย่างลงตัวเป็นที่สุดก็ยังมีให้เลือกมากมายเช่นกัน
งบที่ต้องใช้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4,800 เยนโดยประมาณ ไม่เปิดให้บริการอาหารกลางวัน มีเมนูที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่ด้วย
Rokuden-ya Ponto-cho Branch
ร้าน "Rokuden-ya Ponto-cho Branch (六傳屋 先斗町店)"ที่มีผ้าแขวนอยู่หน้าร้านที่วาดเป็นรูปและเขียนตัวอักษร "Suppon (すっぽん หมายถึงตะพาบน้ำ)" เอาไว้ ร้านนี้เป็นร้านยอดนิยมที่มีเมนูที่เน้นไปที่อาหารจีนเป็นหลักอยู่มากมาย
เมนูแนะนำของที่นี่ก็คือ "โดเตะยากิ (土手焼き) (150 เยน (ไม่รวมภาษี))" ที่มีพื้นฐานมาจาก "มิโซะขาว" ของเกียวโต เป็นเมนูที่นำมิโซะที่ผสมกัน 5 ชนิด มาเคี่ยวกับเนื้อเอ็นวัว เนื้อซี่โครงหมู ผัก เต้าหู้ และนามาฟุ (生麩 หมายถึงกลูเตนข้าวสาลี) จนได้ที่ นอกจากนี้ ยังมี "ตะพาบน้ำหม้อไฟ (すっぽん鍋) (สำหรับ 1 ท่าน 2,980 เยน (ไม่รวมภาษี) / ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไปสามารถออเดอร์ได้)" ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและรสอร่อยจากตะพาบน้ำที่เป็นเมนูยอดนิยมเช่นกัน
ราเมง "ตันตันเมง (880 เยน (ไม่รวมภาษี))" ที่สามารถเลือกได้ 10 รูปแบบ อย่างเช่น มิโซะขาว งาดำ ไม่มีน้ำซุป ฯลฯ ก็ขอให้มาลองรับประทานกันดูนะ
งบที่ต้องใช้โดยเฉลี่ยสำหรับอาหารกลางวันจะอยู่ที่ 2,000 เยน ส่วนอาหารเย็นจะอยู่ที่ 3,000 เยนโดยประมาณ
Ponto-cho Kappa Sushi
ต่อไปก็ร้าน "Ponto-cho Kappa Sushi (先斗町 かっぱ寿司)" ที่จะได้เพลิดเพลินไปกับซูชิสไตล์เอโดะในราคาที่สมเหตุสมผล และยังเป็นร้านยอดนิยมในหมู่คนท้องถิ่นด้วยนะ
"นิกิริซูชิ" ของร้านนี้สามารถเลือกออเดอร์หน้าที่ชอบได้ในราคาตั้งแต่ 120 เยน (รวมภาษี) ต่อ 1 คำ อีกทั้งยังมีเมนูแบบเซตอย่าง "โจนิกิริ (นิกิริซูชิชั้นดี) (1,500 เยน (รวมภาษี))" ที่เพลิดเพลินได้ง่ายๆ หรือ "นิกิริซูชิที่เชฟเลือกให้ (3,000 เยน (รวมภาษี))" อยู่ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีเมนูจานเดียวอย่างเช่น "โอสึคุริ (ชื่อเรียกซาชิมิในแบบคันไซ) (700 เยน (รวมภาษี))" "ฟองเต้าหู้สด (850 เยน (รวมภาษี))" และ "ไข่ตุ๋นทะเล (650 เยน (รวมภาษี))" แล้วยิ่งถ้าเป็นฤดูร้อน ท่านยังสามารถมาลิ้มรสชุดซูชิไคเซกิ (5,000 เยน (รวมภาษี)) ในขณะที่ชมวิวแม่น้ำคาโมงาวะจากลานยกระดับได้อีกด้วย
งบที่ต้องใช้โดยเฉลี่ยสำหรับอาหารเย็นจะอยู่ที่ 4,000 เยนโดยประมาณ ส่วนอาหารกลางวันจะเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการในเดือนพฤษภาคมเท่านั้น
Kyo-no-Izakaya Ponto-cho Ponto
ร้าน "Kyo-no-Izakaya Ponto-cho Ponto (京の居酒屋 先斗町 ぽんと)" ที่ปรับปรุงมาจากอดีตร้านโอชายะ (お茶屋 หมายถึงร้านที่จะเรียกเกอิชามาคอยบริการอาหารให้ลูกค้า) นั้น เป็นร้านเหล้าสไตล์บ้านๆ ที่สามารถมาใช้บริการได้แบบสบายๆ ท่านสามารถมาดื่มด่ำไปกับอาหารนานาชนิดของเกียวโตที่ไม่เหมือนใครได้ที่ที่นั่งแบบห้องรับแขกสไตล์ญี่ปุ่นที่ชั้น 2 หรือที่นั่งแบบโต๊ะ ซึ่งมองเห็นมินามิสะ (南座) ซึ่งเป็นโรงละครที่มีการแสดงพวกละครคาบุกิ (歌舞伎) ได้ด้วย
เมนูแนะนำของร้านนี้ก็คือ "นามาฟุเด็นงากุ (生麩田楽 หมายถึง กลูเตนข้าวสาลีราดซอสมิโซะ) (620 เยน (ไม่รวมภาษี))" ที่รับประทานคู่กับเด็นงากุมิโซะโฮมเมด (ทำโดยการใส่น้ำตาลและเหล้ามิรินลงในมิโซะสีแดงแล้วเคี่ยว) รวมถึง "พริกมันกันจิย่าง (焼き万願寺とうがらし) (580 เยน (ไม่รวมภาษี))" ที่รับประทานง่ายๆ กับซอสพอนสึ (เครื่องปรุงรสอาหารญี่ปุ่นที่ทำมาจากน้ำผลไม้ตระกูลส้ม) ที่เปี่ยมไปด้วยรสชาติของส้มยูซึ
นอกจากนี้ ยังมีเมนูที่พิถีพิถันเรื่องวัตถุดิบในเกียวโตอยู่อีกมากมาย เช่น ซาชิมิฟองเต้าหู้ ทาทากิไก่ทัมบะ (อาหารชนิดหนึ่งที่ใช้มีดปังตอสับเนื้อไก่ให้ละเอียด) และของดองต่างๆ เป็นต้น อีกทั้งยังมีพวกของย่าง ของทอด และเมนูข้าวต่างๆ อยู่อีกมากมาย แน่นอนว่าเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีอยู่เพียบเช่นกัน รวมถึงเหล้าญี่ปุ่นจากเกียวโตก็มีให้เลือกสรรอีกมากมาย
งบที่ต้องใช้โดยเฉลี่ยสำหรับอาหารเย็นจะอยู่ที่ 3,500 เยนโดยประมาณ ไม่มีบริการอาหารกลางวัน มีเมนูที่เป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน หรือจะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนก็โอเคเช่นกัน
BAR Rinto (BAR 凛ト)
ร้านที่จะนำเสนอเป็นลำดับสุดท้ายนี้ คือร้าน BAR Rinto (BAR 凛ト) เป็นบาร์ที่คล้ายกับที่หลบซ่อนตัวที่น่าแวะมาหลังจากรับประทานอาหารเย็น เมื่อเดินผ่านม่านผ้าที่แขวนอยู่หน้าร้านแล้วเดินลงบันไดเล็กๆ ไปล่ะก็ จะมีบาร์เทนเดอร์หนุ่มคอยต้อนรับท่านอยู่
ภายในร้านที่ชวนให้นึกถึงห้องประกอบพิธีชงชานั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่น นอกจากที่นั่งเคาน์เตอร์ที่มีประมาณ 8 ที่ และที่นั่งแบบโต๊ะสำหรับ 2 ท่านจำนวน 1 ที่แล้ว ก็ยังมีห้องเล็กๆ สำหรับหลายท่านจัดเตรียมไว้ให้ด้วย
แม้ว่าจะอยู่ใต้ดิน แต่จากที่นั่งเคาน์เตอร์ก็สามารถชมวิวแม่น้ำคาโมงาวะได้เหมือนกันนะ ขอให้ท่านดื่มด่ำไปกับบรรยากาศยามค่ำคืนในเกียวโตที่มืดลงเรื่อยๆ ในขณะที่นั่งดื่มค็อกเทลหรือวิสกี้ให้เต็มที่ไปเลย
เมนูแนะนำของร้านนี้ก็คือค็อกเทลที่ทำจากผลไม้สดตามฤดูกาล กลิ่นหอมของเหล้าและความชุ่มฉ่ำสดใหม่ของผลไม้จะแผ่ไปทั่วปากของท่านเลยทีเดียว
งบที่ต้องใช้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4,000 เยนโดยประมาณ
พอจะมีร้านที่ท่านสนใจอยู่บ้างหรือเปล่า? พอนโตะโจเป็นย่านที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายที่สมกับความเป็นเกียวโตเป็นอย่างมาก ขอให้ท่านไม่เพียงแค่สนุกไปกับการเดินเล่น แต่ขอให้เพลิดเพลินไปกับอาหารให้เต็มที่ด้วยนะ
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่