SOYFFEE นัตโตะยุคใหม่ที่ทานง่ายและหอมกลิ่นกาแฟ

นัตโตะ ซูเปอร์ฟู้ดของญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน

ก่อนจะเข้าประเด็นหลัก เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่านัตโตะคือของกินแบบไหนกันแน่ นัตโตะเป็นหนึ่งในอาหารหมักดั้งเดิมของญี่ปุ่น กล่าวกันว่าผู้คนรับประทานนัตโตะมาตั้งแต่ยุคยาโยอิ (300-250 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เป็นอาหารประวัติศาสตร์ยาวนานที่ได้เปลี่ยนหน้าตาและเป็นที่ชื่นชอบมาหลายศตวรรษ

ในปัจจุบัน นัตโตะทั่วๆ ไปจะทำขึ้นโดยนำถั่วเหลืองตากแห้งไปแช่น้ำให้กลับสู่สภาพเดิม จากนั้นจึงนำไปต้มและใส่แบคทีเรียนัตโตะ (แบคทีเรียที่ขึ้นอยู่ตามฟางข้าว) เพื่อกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาการหมัก นัตโตะมีจุดเด่นเป็นกลิ่นฉุนแรงและรสสัมผัสเหนียวๆ ยืดเป็นใย เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองทั่วๆ ไป นัตโตะจะมีสารอาหารที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามินบี ซิงก์ หรือไฟเบอร์ กล่าวกันว่านัตโตะสามารถช่วยซ่อมแซมลำไส้ได้โดยการเพิ่มแบคทีเรียที่มีประโยชน์ และเป็นที่รู้จักในต่างประเทศภายใต้ชื่อ "ซูเปอร์ฟู้ด"

"SOYFFEE (ソイフィー)" นัตโตะยุคใหม่จากการผสมผสานกับกาแฟ

การจับคู่ที่คาดไม่ถึงนี้อาจทำให้คุณจินตนาการไม่ออก พูดง่ายๆ แล้ว SOYFFEE ก็คือนัตโตะรสกาแฟนั่นเอง แม้ว่ามีหน้าตาเหมือนนัตโตะเม็ดโตๆ ทั่วไป แต่ก็แทบไม่มีกลิ่นฉุนของนัตโตะเลย และสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟ ถึงจะไม่เหนียวจนยืดใยเหมือนนัตโตะทั่วไป แต่ก็มีรสสัมผัสที่แทบไม่ต่างกัน เมื่อนำเข้าปากแล้วจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุน

ความใส่ใจตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงแพ็กเกจ

SOYFFEE ผลิตขึ้นภายใต้ความเอาใจใส่ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงตัวแพ็กเกจ ถั่วเหลืองเป็นสายพันธุ์เม็ดใหญ่ที่ปลูกขึ้นอย่างพิเศษในฮอกไกโด ปลูกโดยไม่ใช้ปุ๋ยที่เป็นสารเคมี และใช้เครื่องจักรหรือมือคนดึงวัชพืชออกอยู่เสมอ ส่วนกาแฟนั้นเป็นอาราบิก้าสายพันธุ์แท้จากลาว ในขั้นตอนการผลิตได้มีการให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ โดยจะเพิ่มเพียงแบคทีเรียนัตโตะ และน้ำตาลทรายแดงที่อัดแน่นไปด้วยแร่ธาตุของโอกินาว่า ตัวแพ็กเกจเองก็ทำขึ้นจากแก้วที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ นอกจากจะดีต่อสภาพแวดล้อมแล้ว ยังใส่ใจในการให้ผู้คนรับประทานได้อย่างสบายใจอีกด้วย

SOYFFEE วางจำหน่ายในหลายรส หลายรูปแบบ มีตั้งแต่แบบพื้นฐาน "Original", แบบเพิ่มปริมาณกาแฟ "Original-Double", แบบใส่น้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสหวาน "Original-Honey", แบบ "Roasted" ที่เหมาะกับการทานคู่กับลูกกวาดหรือผลไม้อบแห้ง, ไปจนถึงแบบ "Powder" ซีรีย์นัตโตะแบบผงที่ผ่านการคั่วในอุณหภูมิต่ำก่อนที่จะนำไปบด

เนื่องจากมีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบบนุ่มละมุน แบบแห้ง หรือแบบผง จึงสามารถเข้ากันได้กับทุกอย่าง ตั้งแต่อาหารจานหลักไปจนถึงของหวาน ยกตัวอย่างเช่น ขนมปัง ของหวาน โยเกิร์ต แกงกะหรี่ และพาสต้า ทั้งยังเหมาะกับชาวมังสวิรัติและวีแกนอีกด้วยเพราะมีวัตถุดิบหลักเป็นถั่วเหลือง

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่กล่าวนี้สามารถซื้อได้ผ่านทาง "Shonan Soy Studio" ซึ่งเป็นทั้งออนไลน์ช็อป โรงผลิต และโชว์รูปของ SOYFFEE

* สำหรับรายละเอียดการสั่งซื้อ สามารถตรวจสอบได้ที่ส่วนท้ายสุดของบทความ

ความเห็นของผู้เรียบเรียงซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ไม่คุ้นเคยกับนัตโตะสักเท่าไร

ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว SOYFFEE มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมาก แต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีวิธีการทานที่เหมาะกับมันเป็นพิเศษ ในส่วนต่อไปนี้ เราจะขอยกตัวอย่างวิธีการทาน "Original-Double" และ "Roasted Chocolate Block" ซึ่งทางเราได้ลองซื้อมาจริงๆ

Original-Double มีปริมาณกาแฟมากกว่า Original และเข้ากันได้ดีมากกับขนมปังปิ้งหรือครีมสด เราได้ลองวิธีง่ายๆ โดยวางมันลงบนขนมปังปิ้งและรับประทานคู่กับครีมชีส ปรากฏว่ารสสัมผัมที่ละมุนของนัตโตะนั้น เข้ากันได้ดีมากกับครีมชีสที่อ่อนนุ่มและให้รสชาติที่ชื่นใจ รสของกาแฟช่วยกลบรสของหมักดั้งเดิมของนัตโตะได้เป็นอย่างดี และมีรสสัมผัสที่คล้ายกับถั่วที่ต้มจนนิ่ม มีความอ่อนนุ่ม ละเอียดอ่อน และรสหวานอ่อนๆ ราวกับของทานเล่นเลยทีเดียว เนื่องจากจะมีความเหนียวหลงเหลืออยู่ในปากหน่อยๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบอาหารเหนอะหนะก็อาจไม่ชอบได้

อีกด้านหนึ่ง Roasted Chocolate Block เป็นของทานเล่นมังสวิรัติที่คิดค้นขึ้นโดยร่วมมือกับ "Dari K" ร้านช็อกโกแลตในเกียวโตที่ให้ความสำคัญกับการประกอบธุรกิจแบบยั่งยืน เป็นผลิตภัณฑ์รสช็อกโกแลตดีต่อสุขภาพที่มีทั้งโปรตีนและแบคทีเรียนัตโตะ ผิวนอกเคลือบด้วยช็อกโกแลตโกโก้ 78% ที่ทำจากเมล็ดโกโก้ของอินโดนีเซีย กาแฟนัตโตะที่หวานและเคี้ยวนุ่มนั้น ตัดกันได้ดีมากกับช็อกโกแลตที่กรุบกรอบและขมหน่อยๆ กล่าวกันว่าเข้ากับไวน์และกาแฟขมๆ ได้ดี แต่วิธีที่เราลองก็คือ นำมารับประทานคู่กับโยเกิร์ตรสหวานอมเปรี้ยวที่โปะหน้าด้วยส้ม ผลที่ได้คือมีรสชาติที่ลุ่มลึกและเคี้ยวสนุกมาก

"SOY BREWERY (ソイブリュワリー)" ร้านเทคเอาท์ที่ให้บริการอาหารสายกรีน

คุณโอโนะโอกะ ผู้คิดค้นนัตโตะกาแฟ SOYFFEE ขึ้นมานั้น ได้พัฒนาร้านค้าและสินค้าใหม่ขึ้นมาอีก โดยเปิด "SOY BREWERY (ソイブリュワリー)" ขึ้นในเดือนเมษายน 2022 ที่ Chigasaki ของละแวกโชนัน เป็นร้านเทคเอาท์ที่มีคอนเซ็ปต์เป็นอาหารหมักต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่นัตโตะ

SOY BREWERY มีเมนูที่เน้นอาหารแพลนต์เบส (อาหารจากพืช) ภายใต้คอนเซ็ปต์ดีต่อสุขภาพ ยั่งยืน และมีศิลปะ  วัตถุดิบหลักที่ใช้เป็นของพัฒนาขึ้นโดย Shonan Soy Studio ซึ่งเป็นโรงผลิตเดียวกันกับ SOYFFEE เรียบรางไปด้วยเมนูที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ จากการผสานกันระหว่างผลิตภัณฑ์นัตโตะที่ไม่ใส่สารกันบูดกับผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง อาทิ มิโซะ ถั่วแระญี่ปุ่น และซอยมีต (เนื้อมังสวิรัติที่ทำจากถั่วเหลือง)

หนึ่งในเมนูที่เตะตาเราเป็นพิเศษคือ "มิโซะลาเต้ (味噌ラテ)" เป็นเครื่องดื่มที่มีเบสเป็นซุปสาหร่ายคอมบุและผงปลาแห้งคัตสึโอบุชิ เติมด้วยมิโซะหมักสามปี มิโซะขาว และนมถั่วเหลือง อัดแน่นไปด้วยรสชาติออริจินัลที่เราไม่เคยพบมาก่อน สามารถสัมผัสรสเค็มของมิโซะไปพร้อมกับกลิ่นที่หอมหวน

นอกจากนี้ เราก็ยังได้ลองทาโก้อีกสามแบบ ได้แก่ เทริมาโย ทาโกะ และบุดด้า เป็นเมนูที่ทานง่าย ดีต่อสุขภาพ ในขณะเดียวกันก็อัดแน่นไปด้วยปริมาณ เกิดจากการผสมผสานกันของวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ซอยมีต ผักสด และข้าวกล้องกับโคจิ (ข้าวหมัก) ของโชนัน
สินค้าของ SOY BREWERY มีราคาที่สบายกระเป๋า ซื้อรับประทานได้ง่ายๆ และให้บริการในแบบเทคเอาท์ทุกเมนู ซีรีย์ Powder ของ SOYFFEE ที่เราได้กล่าวถึงข้างต้นก็มีวางจำหน่ายอยู่เช่นกัน

นอกจากนี้ เนื่องจากทางร้านให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมและความยั่งยืน ภายในร้านจึงไม่ใช้วัสดุที่ทำจากพลาสติก และยังแนะนำให้ลูกค้าพกแก้วไปเองด้วยหากเป็นไปได้
ตัวร้านอยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงทะเลได้ โดยจะเปิดตั้งแต่ 8:00 น. เพื่อให้เหล่านักเล่นเซิร์ฟสามารถซื้อเป็นอาหารเช้าได้ด้วย

"Shonan Soy Studio" โรงผลิตนัตโตะที่มอบนิยามใหม่ให้กับอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น

Shonan Soy Studio เป็นโรงผลิตนัตโตะยุคใหม่ SOYFFEE ทั้งยังทำหน้าที่เป็นโชว์รูม (พื้นที่ให้ลองผลิตภัณฑ์) ในตัวด้วย มันเปิดขึ้นเมื่อปี 2019 ที่ Nakagun Ooisomachi ของจังหวัดคานางาวะ เป็นโรงผลิตที่เปลี่ยนของกินดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยเน้นไปที่ถั่วเหลือง ให้กลายเป็นแบรนด์ พร้อมกับมุ่งมั่นที่จะค้นหารสชาติและวิธีรับประทานใหม่ๆ

ตัวอาคารของที่นี้รีโนเวทมาจากบ้านเรือนเก่าแก่ริมชายฝั่ง Ooiso โดยคงหลังคากระเบื้องที่มีเสน่ห์ไว้เหมือนเดิม และทาสีผนังภายนอกด้วยสีขาว ทำให้ตัดกันอย่างลงตัวกับม่านหน้าร้านที่มีสีเข้ม บริเวณเอนกาวะ (ชานนั่งที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน) ของชั้น 1 นั้นมีเบาะรองนั่งวางไว้ ให้คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศชิวๆ ราวกับได้มาบ้านเพื่อนเลยทีเดียว

สะพานเชื่อมระหว่างนัตโตะกับคนรักสุขภาพ! เรื่องราวของผู้ก่อตั้งกิจการ คุณโอโนะโอกะ เคตะ (小野岡圭太)

ผู้ก่อตั้ง Shonan Soy Studio คุณโอโนะโอกะ เคตะ ได้เริ่มกิจการนี้จากความคิดว่า "อยากบอกถึงความสำคัญของการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ พลางทำให้นัตโตะ อาหารสุดเฮลท์ตี้ของญี่ปุ่น ได้กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกสามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น"

ในสมัยที่เรียนอยู่ต่างประเทศ คุณโอโนะโอกะเคยแนะนำให้เพื่อนชาวต่างชาติรับประทานนัตโตะดู อย่างไรก็ตาม กลิ่นของมันก็ทำให้มีหลายคนมากที่รับประทานไม่ได้ หนึ่งในนั้นถึงกับบอกว่า "เหมือนกลิ่นถุงเท้าที่ใส่ติดต่อกับสามวัน" ประสบการณ์ดังกล่าวนี้เองที่ทำให้คุณโอโนะโอกะใช้เวลากว่าสองปีไปกับการลองผิดลองถูก และคิดค้นวิธีดับกลิ่นของนัตโตะด้วยกาแฟขึ้นมา

อาหารที่ไม่ใช่แค่การกินแต่เป็นถึงไลฟ์สไตล์

จาก SOYFFEE รสกาแฟ ไปถึง SOY BREWERY ฟาสต์ฟู้ดเพื่อสุขภาพ สินค้าทุกชิ้นสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึก "อยากเผยแพร่ผลิตภัณฑ์อาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น" ของคุณโอโนะโอกะ ความรู้สึกนี้ไม่ได้มีต่อคนในประเทศเท่านั้น แต่เป็นความต้องการที่จะช่วยให้คนจำนวนมากขึ้นมีสุขภาพที่ดี ผ่านการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์อาหารหมักจากถั่วเหลืองสไตล์ใหม่ไปยังต่างประเทศ

ในอดีตคุณโอโนะโอตะเคยเดินทางไปประเทศกำลังพัฒนา เขาจึงตระหนักถึงความเลื่อมล้ำด้านคุณภาพของคนเราได้เป็นอย่างดี ชีวิตในญี่ปุ่นนั้นสะดวกสบาย อยากไปไหน อยากกินอะไร ก็สามารถทำได้เสมอ หากมีฝันก็สามารถสานได้ด้วยการพยายาม อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกประเทศที่คนเราจะสามารถมีชีวิตเช่นนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่นลาว ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มี GDP ต่ำสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ยังคงมีเด็กๆ ที่ประสบการณ์ปัญหาขาดแคลนโปรตีนอยู่ตลอดเวลา

ด้วยเหตุนี้ คุณโอโนะโอกะจึงตั้งปรัชญาบริษัทของ Shonan Soy Studio ไว้ว่า "BITE for BITE (หนึ่งคำของฉันคือหนึ่งคำของใครสักคนในโลก)" ทั้งยังนำรายได้ส่วนหนึ่งไปซื้อถั่วเหลืองและบริจาคให้ลาว ในขณะเดียวกันก็จัดอีเวนต์ชิมกาแฟของลาวขึ้นภายใน Shonan Soy Studio ด้วย

ในระยะหลังนี้ได้มีการร่วมมือกับโรงอาหารเด็กในละแวกโชนัน และช่วยเหลือด้านสารอาหารโดยมอบถั่วเหลืองให้กับเด็กที่มีปัญหาทางการเงิน เป็นการกระทำที่อัดแน่นไปด้วยความต้องการที่จะแก้ไขความเลื่อมล้ำจากถิ่นกำเนิดและสภาพแวดล้อม โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นในหรือนอกประเทศ

ลิ้มรสนัตโตะกาแฟที่ไม่มีใครเหมือน

หากคุณเคยรับประทานนัตโตะแต่มีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก การรับประทานนัตโตะยุคใหม่ SOYFFEE ก็อาจทำให้คุณลบภาพจำเก่าๆ ออกได้ แม้แต่คนอยากลองนัตโตะแต่ยังรวบรวมความกล้าไม่ได้สักที SOYFFEE ก็เหมาะที่จะเป็นตัวเลือกแรกของคุณเช่นกัน

เป็นอย่างไรบ้าง? บทความนี้ทำให้คุณอยากลอง SOYFFEE ขึ้นมาบ้างไหม? ในปัจจุบันนี้ นอกจากไปซื้อโดยตรงที่ Shonan Soy Studio แล้ว คุณยังสามารถสั่ง SOYFFEE ผ่านทางเว็บไซต์ของพวกเขาได้อีกด้วย หากได้ลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่เข้าตัวคุณ และดัดแปลงวิธีการรับประทานตามใจคุณเอง คุณก็อาจหลงใหลเสน่ห์ของนัตโตะก็เป็นได้

▼สำหรับเรื่องราวของคุณโอโนะโอกะ คุณสามารถอ่านต่อได้ที่
〈เปลี่ยนโลกด้วยนัตโตะกาแฟ! ความรู้สึกและสไตล์การทำงานของคุณโอโนะโอกะ เคตะ ผู้ปฏิวัติวงการนัตโตะ〉