[รีวิว] ครั้งแรกของโลกกับ "โค้กสตอเบอรี่"

Coca-Cola Stawberry วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา (เลขสวยเชียว) ราคาอยู่ที่ขวดละ 151 เยน (รวมภาษี) เป็นขวดขนาด 500 มิลลิลิตร หุ้มด้วยฉลากสีชมพูสดใสเข้ากับลายสตอเบอร์สีแดงสดที่ล้อมอยู่ตรงก้นขวดและเรียงตัวขึ้นไปจนสุด นี่ต้องการจะสื่อว่าโค้กขวดนี้มีความเป็นสตอเบอรี่อัดแน่นอยู่เต็มไปหมดใช่ไหม! สื่อสารได้ดีนะ แถมยังมีรายละเอียดเล็กๆ น่ารักเป็นฟองอากาศที่โอบอุ้มผลสตอเบอรี่อยู่ด้วย เรียกว่าแค่เห็นขวดก็รู้แล้วว่า หวาน ซ่า น่ากินแค่ไหน 
 

ก่อนจะรีวิวเรื่องรสชาติ เราขอเตือนทุกคนไว้ก่อนเลยนะคะ ว่าซื้อมาแล้วอย่าเผลอเขย่าขวดหรือแกว่งแรงๆ เพราะขวดนี้เขาอัดแก๊สมาแบบเต็มพิกัดเลย ขนาดเราจับขยับถ่ายรูปไปมาเฉยๆ ตอนเปิดขวดยังได้ยินเสียงดังจนตกใจ สะดุ้งไปเบาๆ เลยเหมือนกัน (นึกว่าจะระเบิดตู้มซะแล้ว)
 

แค่เอาขวดมาจ่อที่ปาก กลิ่นสตอเบอรี่ก็ลอยมาแตะจมูกแล้ว เราก็ไม่เคยสังเกตเหมือนกันว่าโค้กแบบปกติมันมีกลิ่นที่ลอยมาแตะจมูกไหม แต่เปิดมาแล้วได้กลิ่นหอมละมุนๆ ลอยมากับไอเย็นๆ แบบนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกันแฮะ

เอาล่ะ เรามารีวิวรสชาติกันหน่อยดีกว่า 

รสชาติที่มี...คือ หวาน (ก็น้ำหวานนี่นา) เราว่าเรามาพูดถึงรสสัมผัสกับกลิ่นหอมของโค้กขวดนี้แทนดีกว่า

สำหรับรสสัมผัส ต้องบอกเลยว่าซ่าลงคอดีมากๆ นี่เป็นหนึ่งในความน่าประทับใจของโค้กญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ คือเขาอัดแก๊สมาในปริมาณที่มากพอตัว ทำให้เวลาดื่มเข้าไปแล้วรู้สึกตื่น รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้ ส่วนกลิ่นสตอเบอรี่ พอดื่มเข้าไปแล้วรู้สึกว่าต่างจากที่เราคิดไว้นิดหน่อยค่ะ เพราะตอนแรกคิดไว้ว่าน่าจะเป็นกลิ่นสตอเบอรี่เปรี้ยวๆ แต่โค้กขวดนี้มีกลิ่นสตอเบอรี่ที่ออกไปทางหวานละมุนมากกว่า ชวนให้นึกถึงสตอเบอรี่ญี่ปุ่นลูกโตๆ หวานๆ เลย แถมกลิ่นสตอเบอรี่ก็ชัดเจนมากๆ ด้วยค่ะ เพื่อนของเราก็ดื่มไปขวดหนึ่งเหมือนกัน เพื่อนบอกว่า ถ้าไม่บอกว่าเป็นโค้กนี่คงจะเดาไม่ถูกเลย เพราะกลิ่นสตอเบอรี่ชัดมากจนรู้สึกเหมือนดื่มน้ำสตอเบอรี่ญี่ปุ่นใส่โซดาเลย
 

(ซื้อมาแล้วก็ต้องถ่ายรูปหน่อย แอ็กท่าแข่งกับพรีเซนเตอร์เขานิดนึง)

Coca-Cola Strawberry นี้จะวางขายในช่วงเวลาที่จำกัด (เพราะเป็น Limited Edition) ใครที่ได้มาญี่ปุ่นช่วงนี้แล้วอยากรู้ว่าโค้กรสสตอเบอรี่ขวดแรกของโลกรสชาติเป็นยังไงก็ไปหาซื้อมาลองกันได้นะคะ เท่าที่เห็นตอนนี้ก็มีวางขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่อีกหน่อยอาจจะมีขายตามร้านขายยาบ้างก็ได้ ลองส่องๆ กันดูนะ
 

สำหรับบทความในวันนี้เราคงต้องขอลาไปก่อน ใครที่ชื่นชอบบทความ ก็สามารถตามไปอ่านต่อได้ที่ tsunagu Japan แล้วก็รออ่านบทความต่อไปของพวกเรากันด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ :)

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !