คอร์สเดทแสนวิเศษ! ตะลุยอาโอยาม่าและโอโมเตะซันโด ย่านโรแมนติกเพียงแห่งเดียวของโตเกียว
ย่านอาโอยาม่าและโอโมเตะซันโด ย่านที่เรียงรายไปด้วยคาเฟ่และภัตตาคารสุดหรู และมีถนนเคยากิโดริแสนสวยที่เป็นศูนย์รวมของร้านแบรนด์ดัง เป็นจุดออกเดทยอดนิยมอันดับต้นๆ ของโตเกียว ที่นอกจากการช็อปปิ้งและรับประทานอาหารแล้ว ยังสามารถสนุกไปกับการเดินเล่นได้อีกด้วย ในบทความนี้ เราจะขอแนะนำร้านในย่านนี้ที่เหมาะสำหรับการเดทที่แสนโรแมนติก ตั้งแต่ร้านของใช้จุกจิกจากนิวยอร์ก ร้านจิวเวลรี่ยอดนิยม ไปจนถึงภัตตาคารชั้นเลิศที่กำลังเป็นที่พูดถึง ลองมาวางแผนการออกเดทที่แสนวิเศษให้กับคนสำคัญของคุณดูหน่อยไหม?
เพลิดเพลินไปกับกาแฟและรายการอาหารมากมายภายในบรรยากาศสุดชิค - Ralph's Coffee โอโมเตะซันโด
ร้านแรกที่เราอยากแนะนำคือ “Ralph's Coffee โอโมเตะซันโด” คาเฟ่ที่บริหารงานโดย Ralph Lauren แบรนด์แฟชั่นระดับโลก ซึ่ง Ralph's Coffee มีสาขาอยู่มากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะที่นิวยอร์ก ลอนดอน หรือปารีส สาขานี้เป็นสาขาแรกในญี่ปุ่นที่เปิดกิจการขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 โดยตั้งอยู่ริมถนนโอโมเตะซันโด ย่านที่เรียงรายไปด้วยร้านสุดหรูจากแบรนด์ต่างๆ
ภายในร้านมีการตกแต่งสไตล์คลาสสิกในโทนสีเขียวเหมือนกับโลโก้ของแบรนด์ Ralph Lauren ภายใต้คอนเซ็ปต์ว่า “ร้านที่ส่งมอบไลฟ์สไตล์” ร้านนี้มีบรรยากาศแสนผ่อนคลายที่เหมาะกับการออกเดทเป็นอย่างยิ่ง หากแวะมาในวันที่อากาศดี ขอแนะนำให้ใช้บริการที่นั่งนอกระเบียงดูสักครั้ง
ซ้ายบน: Bacon, Egg & Cheese (1,000 เยน+ภาษี)
ขวาบน: Avocado Toast (850 เยน+ภาษี)
ซ้ายล่าง: Pancake (1,200 เยน+ภาษี) เริ่มจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน
ขวาล่าง: Cafe Latte (580 เยน+ภาษี), Ralphs Chocolate Cake (950 เยน+ภาษี)
แม้ว่าที่ย่านโอโมเตะซันโดจะมีร้านอาหารและคาเฟ่อยู่มากมาย แต่ก็มีไม่มากที่เปิดให้บริการตั้งแต่เช้า ในจุดนี้ การที่ Ralph's Coffee เปิดตั้งแต่ 9 โมงเช้า ทั้งยังมีเมนูอื่นๆ นอกจากเครื่องดื่มอยู่มากมาย จึงถือว่าสะดวกเป็นอย่างยิ่ง ในช่วง 9:00 - 12:00 น. จะมีเมนูอาหารมากมายให้เลือกสั่ง ตัวอย่างเช่น “Bacon, Egg & Cheese (1,000 เยน+ภาษี)”, “Eggs Benedict (1,500 เยน+ภาษี)”, และ “Avocado Toast” เหมาะสำหรับเริ่มต้นการเดทด้วยการรับประทานเช้าอย่างสบายๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูใหม่ที่น่าจับตามองเป็นแพนเค้กที่ตกแต่งด้วยเบอร์รี่สีสันสดใสที่จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้อีกด้วย
ที่ร้าน Ralph's Coffee คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับกาแฟออร์แกนิคคุณภาพสูง ซึ่งเป็นเบลนด์พิเศษที่ร้านกาแฟชื่อดังจาก “La Colombe” ผลิตให้กับ Ralph Lauren โดยเฉพาะ หากลองสั่งกาแฟลาเต้ที่มีลาเต้อาร์ตสวยๆ แล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าแฟนของคุณจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ Ralph Lauren ยังเปิดให้บริการตั้งแต่ 11:00 น. จึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการช็อปปิ้งได้หลังจากรับประทานอาหารหรือดื่มกาแฟที่คาเฟ่ เนื่องจากเป็นร้านสาขาใหญ่ของ Ralph Lauren จึงมีสินค้าอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าสำหรับผู้หญิงหรือผู้ชาย
ข่าวดีสำหรับผู้ที่อ่านบทความนี้ หากในตอนสั่งเมนูคุณบอกกับพนักงานของร้านว่า “มาจาก tsunagu Japan” แล้วล่ะก็ คุณจะได้รับของขวัญเป็น เข็มกลัดสั่งทำพิเศษของ Ralph's Coffee (ไม่มีวางขาย) บอกเป็นภาษาอังกฤษได้เลย เนื่องจากพนักงานของร้านสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโปรโมชั่นที่มีจำนวนจำกัด หากรู้สึกสนใจก็ขอแนะนำให้รีบเข้าไว้ (เป็นโปรโมชั่นสำหรับสาขาโอโมเตะซันโดเท่านั้น)
ศูนย์รวมสินค้าดีไซน์ยอดเยี่ยมและใช้งานได้จริงจากทั่วโลก - MoMA Design Store
"MoMA Design Store" ที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของ "GYRE" ศูนย์การค้าที่อยู่ห่างจากสถานีโอโมเตะซันโดโดยเดินเพียง 6 นาที เป็นร้านที่ภัณฑารักษ์ของ The Museum of Modern Art พิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ของนิวยอร์ก ได้ตกแต่งภายในร้านด้วยสินค้าทั่วไปที่โดดเด่นทั้งในด้านดีไซน์และประสิทธิภาพการใช้งาน ร้านแห่งนี้เป็น Design store ของ The Museum of Modern Art และยังเป็นสาขาแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ยึดมั่นในคอนเซ็ปต์ของ The Museum of Modern Art ที่ว่า "อยากให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับงานศิลปะ" ในร้านมีการวางจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่ของใช้ในครัว เครื่องเขียน เครื่องประดับแฟชั่น ไปจนถึงสินค้าที่เกี่ยวกับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ทั้งยังมีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้ประจำการอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ก็สามารถใช้บริการได้อย่างสบายใจ
ที่มุมผลงานของช่างฝีมือญี่ปุ่นจะเรียงรายไปด้วยผลิตภัณฑ์แก้วและเครื่องปั้นที่มีดีไซน์ญี่ปุ่นแบบโมเดิร์น คุณจะได้สัมผัสกับเทคนิคอันละเอียดอ่อนที่มีความเป็นเฉพาะตัวของญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าล้ำยุคที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอยู่มากมาย ตัวอย่างเช่น ไฟประดับที่มีประสิทธิภาพสูง หมอน Therapy robot ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และลำโพงที่กระจายเสียงได้ถึง 360 องศา อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสินค้าในความร่วมมือกับแบรนด์ดังๆ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากสินค้าที่วางหน้าร้านจะเปลี่ยนไปในทุกๆ เดือน จึงมีอะไรใหม่ๆ ให้ค้นหาอยู่ตลอดเวลา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแวะมาเลือกของขวัญให้กันและกันในระหว่างออกเดท
เครื่องเพชรสวยงามแสนประณีตที่หาซื้อได้ในญี่ปุ่นเท่านั้น - Room403
เครื่องเพชรสวยๆ จะช่วยให้การเดทของคุณดูโรแมนติกขึ้นอย่างแน่นอน ที่ศูนย์การค้า "La Porte Aoyama (ラ・ポルト青山)" ที่ตั้งอยู่ในย่าอาโอยาม่าซึ่งอยู่ติดกับโอโมเตะซันโดนั้น เป็นที่ตั้งของ "Room403" ร้านจิลเวลรี่ที่มีคอนเซ็ปต์ว่า “ห้องที่รังสรรค์ความหรูหราอันละเอียดอ่อน” วางจำหน่ายเครื่องเพชรในดีไซน์ที่ประณีตละเอียดอ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก เครื่องเพชรของร้านนี้ถูกทำขึ้นแบบแฮนด์เมดโดยผู้เชี่ยวชาญชิ้นต่อชิ้น มีประเภทสินค้าหลักเป็นสินค้าจากเพชรและทอง (K10, K18)
สำหรับคู่รักทุกคู่ เราขอแนะนำ แหวนคู่ “Orne pinkie ring (オルネピンキーリング)” ราคา 20,000 เยน+ภาษี แหวนคู่ที่เป็นสินค้าซิกเนเจอร์ของ Room403 ได้รับความนิยมจากดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ก็ดูหรูหรา นอกเหนือจากแหวนคู่แล้ว ทางร้านก็ยังเพียบพร้อมไปด้วยสินค้าอื่นๆ อย่างกำไลคู่และสร้อยคอคู่ เหมาะสำหรับการค้นหาสินค้าที่ทั้งสองชื่นชอบเช่นกัน แหวนของ Room403 นั้นส่วนใหญ่จะมีดีไซน์ละเอียดอ่อนและไม่เด่นจนเกินไป จึงสามารถสวมใส่ได้ในหลายๆ โอกาส ถือว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มันคงความนิยมไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถดัดแปลงสวมใส่ได้หลากหลายรูปแบบ เช่นนำมาสวมซ้อนกันเพื่อให้ดูมีวอลลุ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ สินค้าของร้านนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นของที่สามารถหาซื้อได้ในญี่ปุ่นเท่านั้น จึงคุ้มค่าแก่การแวะมาลองเลือกซื้อดูสักครั้ง แม้ว่าจะไม่มีพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ประจำอยู่ที่ร้านตลอดเวลา แต่ก็สามารถซื้อทางโทรศัพท์ผ่านคอลเซนเตอร์ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ จีน เกาหลี และไทยได้ คุณจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการช็อปได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกำแพงภาษา
สุดยอดแห่งการบริการที่รองรับทั้งมังสวิรัติและผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ - GENTLE Italian & Sushi Bar
การเลือกร้านอาหารมื้อค่ำถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการปิดท้ายการเดท แห่งแรกที่เราขอแนะนำก็คือ "GENTLE Italian & Sushi Bar" ภัตตาคารแบบอิตาเลี่ยนที่ผสมผสานซูชิบาร์ไว้ด้วยกัน ตั้งอยู่ใกลักับสถานีโอโมเตะซันโดโดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที มีห้องส่วนตัวที่สามารถใช้บริการได้ในหลายโอกาส มีเสน่ห์เป็นการที่สามารถตอบรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ตัวอย่างเช่น มีการเตรียมเมนูสำหรับมังสวิรัติและผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ไว้ให้
มีที่นั่งส่วนตัวแบบห้องกึ่งส่วนตัวและห้องส่วนตัวไว้รองรับ จึงสามารถรับประทานอาหารได้อย่างผ่อนคลายและเป็นกันเอง มีพนักงานที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ประจำการอยู่ตลอดเวลา การจองที่นั่งผ่านทางโทรศัพท์ก็รองรับภาษาอังกฤษเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถกรอกแบบฟอร์มจองที่นั่งผ่านทางเว็บไซต์ได้ (รองรับ 18 ภาษา อาทิ อังกฤษ จีนตัวเต็ม จีนตัวย่อ และเกาหลี) นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็สามารถใช้บริการได้อย่างสบายใจ หากต้องการที่จะใช้บริการห้องส่วนตัวแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ทำการจองล่วงหน้าไว้ก่อนที่จะเดินทางมา
ชั้น 1 ของร้านเป็นพื้นที่สำหรับอาหารอิตาเลี่ยน มีที่นั่งทั้งหมด 92 ที่นั่ง (ไม่รวมที่นั่งนอกระเบียง) ภายในร้านที่โล่งสบายได้รับการตกแต่งโดยของประดับและเฟอร์นิเจอร์ในโทนสีหรูหรา ก่อให้เกิดเป็นพื้นที่ที่น่าผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง
ในส่วนของอาหารอิตาเลี่ยนนั้น วัตถุดิบที่ใช้กว่า 70% เป็นวัตถุดิบออร์แกนิค เพื่อให้ผู้ที่เป็นมังสวิรัติหรือไม่รับประทานเนื้อสัตว์สามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ อาหารเรียกน้ำย่อยและของหวานจึงถูกเสิร์ฟในสไตล์ที่ใส่เมนูหลากหลายชนิดไว้ในรถเข็น และให้แขกเป็นผู้เลือกรับประทานเอง หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ทางร้านมีความเอาใจใส่เช่นนี้ก็คือ เชฟของร้านเคยเป็นผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์มาก่อน เมนูพาสต้ากว่าครึ่งก็เป็นแบบกลูเตนฟรี ทำให้รู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ของเชฟเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ เมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างออร์แกนิคไวน์ (ไวน์ธรรมชาติ) ค็อกเทล และสาเกญี่ปุ่น ก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ที่ชั้น 1 นั้นมีที่นั่งแบบบาร์อยู่ประมาณ 7 ที่นั่ง จึงสามารถเลือกที่จะนั่งเพลิดเพลินไปกับการดื่มได้ด้วยเช่นกัน
ชั้นใต้ดินที่ 1 ของร้านเป็นซูชิบาร์ มี 10 ที่นั่งแบบปกติ และ 6 ที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ สามารถรับประทานอาหารได้อย่างไม่ต้องรีบร้อน พลางรับชมฝีมือของเชฟได้อย่างใกล้ชิด มีเมนูเพียงอย่างเดียวคือ "โอมากาเสะคอร์ส (ทั้งหมด 20 อย่าง)" ราคา 11,000 เยน+ภาษี เชฟซูชิจะเลือกเสิร์ฟเมนูจากปลาในฤดูกาลให้คุณเอง เนื่องจากในกรณีของร้านซูชิชั้นสูงในญี่ปุ่น ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มักจะปล่อยให้ทางร้านเป็นผู้เลือกเองว่าจะเสิร์ฟเมนูแบบไหน แม้ว่าจะไม่รู้ชื่อปลาหรือวิธีการสั่งก็สามารถเพลิดเพลินไปได้อย่างสบายใจ
หากคุณไม่ถูกกับปลาชนิดไหน ก็สามารถบอกกับเชฟได้ล่วงหน้า ทางร้านจะเสิร์ฟให้คุณโดยยกเว้นปลาดังกล่าวให้ เนื่องจากคอร์สนี้จะเสิร์ฟซูชิสลับกับอาหารอื่นๆ อย่างเมนูถ้วย จึงรับรองได้ว่าจะไม่เบื่อ และได้เพลิดเพลินไปกับความอร่อยแบบญี่ปุ่นพลางลิ้มรสชาติอันหลากหลายอย่างแน่นอน ในด้านของภาชนะเองก็มีความพิถีพิถันเช่นกัน ไม่ควรพลาดที่จะสังเกตดูทุกครั้งที่อาหารแต่ละจานเสิร์ฟออกมา
ลองมาใช้เวลายามค่ำคืนที่แสนวิเศษที่ GENTLE Italian & Sushi Bar สถานที่ซึ่งส่องประกายไปด้วยความเอาใจใส่ทั้งในด้านบรรยากาศ อาหาร ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แห่งนี้ดูหน่อยไหม?
ดื่มด่ำไปกับอูมามิของวากิว - Nikuyakiya D-29 (肉焼屋 D-29)
สำหรับผู้ที่อยากรับประทานวากิวมากกว่าซูชิหรืออาหารอิตาเลี่ยน เราขอแนะนำ "Nikuyakiya D-29" ที่เดินจากสถานีโอโมเตะซันโดเพียง 3 นาที วากิวเป็นเนื้อวัวญี่ปุ่นที่เป็นที่จับตามองในระดับโลก ร้านแห่งนี้ได้พิถีพิถันเรื่องผู้ผลิตวากิว โดยจะเสิร์ฟ "โอมิซาวาอิฮิเมะวากิว (近江澤井姫和牛)" จากเมืองริวโอในจังหวัดชิกะ และ "เนื้อมัตสึซากะ (松阪牛)" ของคุณ Hata Keishiro (畑敬四郎) เป็นหลัก เป็นร้านเนื้อย่างที่มีเนื้อส่วนหายากที่เหล่าแฟนๆ เนื้อมักจะชื่นชอบ ทั้งยังเป็นร้านที่ได้รับการยอมรับจากนักชิมชื่อดังอีกด้วย เนื่องจากลวดลายของเนื้อดูอลังการมาก จึงเหมาะสำหรับถ่ายรูปลงโซเชียลอย่างยิ่ง!
เมนูที่เราอยากให้ลองสั่งเป็นอย่างยิ่งก็คือ "คอร์สโอมากาเสะสำหรับผู้คลั้งไคล้เนื้อ" ราคา 10,000 เยน+ภาษี เป็นคอร์สที่เน้นไปที่ส่วนหายากของเนื้อคุโรเกะวากิวของวัวเพศเมีย เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสอูมามิของวัวได้อย่างเต็มที่ จึงเสิร์ฟสเต็กมาก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนของร้านนี้ แม้ว่าจะสามารถเลือกระดับการย่างที่ชอบได้ แต่การปล่อยให้พนักงานเลือกให้นั้นก็จะทำให้ได้การย่างที่เหมาะกับเนื้อชิ้นนั้นๆ มากที่สุด จึงควรค่าแก่การลองดูสักครั้ง รายละเอียดของคอร์สนั้นประกอบไปด้วย สเต็กเนื้อลายหินอ่อน สเต็กเนื้อแดง สเต็กตับ เครื่องในแดง เครื่องในขาว เนื้อย่าง สลัด ซุป กิมจิ และข้าว เรียกได้ว่าเป็นคอร์สที่ปริมาณเต็มอิ่ม ไม่ว่าใครก็ต้องอิ่มท้องอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ทางร้านไม่ได้มีพนักงานที่พูกภาษาอังกฤษได้ประจำอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของการจองขอแนะนำให้จองทางโทรศัพท์ หรือจองผ่านเว็บไซต์ Tabelog นอกจากนี้ ทางร้านยังมีมื้อกลางวันที่มีเช็ตเนื้อย่างให้รับประทานในราคาที่สมเหตุสมผลอีกด้วย หากจองล่วงหน้าแล้ว จะสามารถสั่งคอร์สมื้อค่ำมารับประทานในช่วงกลางวันได้ด้วย ทั้งยังเป็นร้านที่มีเมนูภาษาอังกฤษ รับรองได้ว่าคุณจะไม่มีปัญหาในการสั่งอย่างแน่นอน
โอโมเตะซันโดและอาโอยาม่านั้นมีร้านค้าต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การเดินเล่นเป็นอย่างมาก เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลในบทความนี้จะช่วยให้คุณมีเดทที่แสนวิเศษ!
ข้อมูลโดยย่อของอาคารที่อยู่ในบทความนี้
เกี่ยวกับ JRF
ศูนย์การค้าในบทความนี้บริหารโดย Japan Retail Fund Investment Corporation (JRF)
JRF ได้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Real Estate Investment Trust (“REIT”) ของ Tokyo Stock Exchange (รหัสหลักทรัพย์: 8953) ตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2002 เป็นห้างหุ้นส่วนแห่งแรกในญี่ปุ่นที่มุ่งเน้นเป้าหมายและลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สำหรับทำการค้า
ในฐานะ J-REIT ที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมุ่งเน้นด้านอสังหาริมทรัพย์สำหรับทำการค้า JRF ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างความมั่นคงในการกระจายส่วนแบ่งให้กับผู้ถือหุ้น รวมถึงเพิ่มมูลค่าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการเลือกสรรอสังหาริมทรัพย์สำหรับทำการค้าที่มีคุณภาพสูง
ข้อมูลเพิ่มเติม: คลิกที่นี่
คำสงวนสิทธิ์
* บทความนี้เขียนขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอ Japan Retail Fund Investment Corporation (JRF) มิใช่คำเชิญชวนให้ลงทุนในหลักทรัพย์ของ JRF หรือกองทุนใดๆ กรุณาเลือกลงทุนด้วยการตัดสินใจและความเสี่ยงของคุณเอง
บริษัทหลักทรัพย์: Mitsubishi Corp. -UBS Realty Inc.
(ผู้บริหารตราสารทางการเงิน: Kanto Local Finance Bureau (FIBO) No. 403, สมาชิก The Investment Trusts Association, Japan)
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่