【สุดยอดไกด์พาเที่ยว】คิโนซากิออนเซ็น เมืองออนเซ็นที่ดีที่สุดในจังหวัดเฮียวโกะ
คิโนซากิออนเซ็นคือเมืองน้ำพุร้อน ("ออนเซ็น" ในภาษาญี่ปุ่น) ในจังหวัดเฮียวโกะ จังหวัดที่สามารถนั่งรถไฟจากโอซาก้าไปได้โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ที่นี่เป็นตัวเลือกในการเที่ยววันเดียวแบบไปเช้า-เย็นกลับของคนที่มาเที่ยวโอซาก้า โดยเฉพาะผู้ที่เหน็ดเหนื่อยจากการสำรวจเมืองหลักๆ ของญี่ปุ่นมาจนทั่ว บทความนี้ครอบคลุมครบทุกเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับสถานที่แสนสวยแห่งนี้ ตั้งแต่ที่พักที่ดีที่สุดไปจนถึงกิจกรรมที่คุณสามารถทำได้ พร้อมแล้วก็ไปอ่านกันเลย
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
"คิโนซากิออนเซ็น" คืออะไร
คิโนซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen) คือบริเวณที่มีโรงอาบน้ำสาธารณะ 7 แห่งตั้งเรียงไปตามแม่น้ำกับต้นหลิวในจังหวัดเฮียวโกะ โรงอาบน้ำเหล่านี้มีน้ำพุร้อนอุณหภูมิ 42°C (107.6°F) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าช่วยในเรื่องของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และบรรเทาอาการปวดท้องได้ บริเวณนี้ล้อมรอบไปด้วยโรงแรมแบบญี่ปุ่น ("เรียวคัง" ในภาษาญี่ปุ่น) จึงสามารถพักค้างคืนและเพลิดเพลินไปกับอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกันได้
อย่าพลาด "โซโตยุ เมกูริ"
โดยทั่วไปแล้ว นักท่องเที่ยวจะเดินเล่นไปตามแม่น้ำเพื่อเยี่ยมชมโรงอาบน้ำสาธารณะทั้ง 7 แห่งในคิโนซากิออนเซ็น ซึ่งเชื่อกันว่าจะเป็นการนำโชคดีมาให้ การทำแบบนี้เรียกว่า "โซโตยุ เมกูริ" หรือแปลตรงตัวได้ว่า "ตะลุยบ่อน้ำพุร้อนข้างนอก" โดยสิ่งที่คุณต้องการก็มีแค่บัตรผ่านใบเดียวเท่านั้น ซึ่งบัตรนี้จะทำให้คุณสามารถเข้าโรงอาบน้ำได้ทุกแห่ง แล้วถ้าคุณค้างคืนที่โรงแรมสวยๆ ในบริเวณนั้นล่ะก็ คุณก็จะได้บัตรผ่านนี้มาแบบฟรีๆ เลย
ดื่มน้ำพุร้อนและแช่ออนเซ็นเท้ากันให้ผ่อนคลาย
ใครบอกว่าน้ำพุร้อนมีดีแค่ไว้อาบอย่างเดียว ที่คิโนซากิออนเซ็นคุณสามารถหาน้ำพุร้อนดื่มได้ที่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟและ Ichino-yu (หนึ่งในโรงอาบน้ำทั้ง 7 แห่ง) ลองไปจิบๆ ดูสิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารแบบเรื้อรัง
ในขณะที่คุณเดินเรื่อยเปื่อยไปรอบๆ เมือง สุดท้ายแล้วคุณก็จะต้องบังเอิญมาเจอชิโรซากิออนเซ็น (Shirosaki Onsen) หรือแลนด์มาร์กชื่อดัง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดของทั้งบริเวณนี้ อุณหภูมิน้ำของที่นี่สูงถึง 80°C (176°F) เลยทีเดียว
คุณสามารถหาบ่อน้ำร้อนสำหรับแช่เท้าหรือที่เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "อาชิยุ" ได้ทั้งด้านในและด้านนอกโรงอาบน้ำ รับรองว่าพวกมันจะช่วยทำให้เท้าคุณอุ่นขึ้นในวันที่อากาศหนาวๆ ได้ดีเลยล่ะ
เดินเที่ยวรอบเมืองในชุดยูกาตะ
ถ้าคุณไม่ถือเรื่องที่รู้สึกเหมือนปลาขึ้นมาอยู่เหนือน้ำ คุณคงต้องสวมชุดยูกาตะสำหรับโซโตยุ เมกูริแล้วล่ะ ชุดยูกาตะคือชุดกิโมโนที่มีเนื้อผ้าเบากว่าแต่มีดีไซน์และสีสันสวยเหมือนกัน ส่วนใหญ่แล้วที่พักในคิโนซากิออนเซ็นจะมีบริการให้เช่าหรือจำหน่ายเซตชุดยูกาตะ ซึ่งประกอบไปด้วยเสื้อคลุม โอบิ (ผ้าคาดเอว) รองเท้าไม้ที่เรียกว่า "เกตะ" และบางครั้งก็ถึงขั้นมาพร้อมกับเครื่องประดับที่เข้าชุดกันด้วย คุณไม่ต้องกังวลว่าจะไม่รู้วิธีใส่เลย เพราะพนักงานจะช่วยคุณเอง
กินสตรีทฟู้ดอร่อยๆ ขณะเที่ยวเมือง
Kinosaki Sweets สาขาหลัก Main Branch
คงไม่มีอะไรที่เหมาะเจาะไปกว่าการแต่งตัวเต็มยศแล้วออกเดินเที่ยวเรื่อยเปื่อยไปรอบๆ เมืองพร้อมกับกินของอร่อยหลายๆ อย่างอีกแล้วล่ะ หนึ่งในร้านขนมที่ดีที่สุดคือ Kinosaki Sweets สาขาหลัก ซึ่งถ้าดูจากชื่อคุณก็น่าจะพอเดาได้ว่าที่นี่ขายขนมหวานอย่างไอศกรีม พาร์เฟ่ต์และขนมอบต่างๆ ที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่น
ไอศกรีม Kinosaki Gelato ของที่ร้านนั้นโด่งดังมากในหมู่คนที่มาเดินตะลุยบ่อน้ำพุร้อน (โซโตยุ เมกูริ) เป็นไอศกรีมที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติล้วนๆ มีหลายรสชาติให้เลือกทั้งมัทฉะ ราสเบอร์รี่ มะม่วง ฯลฯ รับรองว่าทานแล้วคุณจะสดชื่นและรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเป็นแน่
งานเทศกาลที่คิโนซากิออนเซ็น
เทศกาลดันจิริ (Danjiri Festival)
ถึงคุณจะสามารถไปเที่ยวคิโนซากิออนเซ็นได้ตลอดทั้งปี แต่เราขอแนะนำให้คุณเดินทางไปในช่วงงานเทศกาลประจำฤดูกาลของเมือง รูปภาพด้านบนเป็นภาพจากงานเทศกาลดันจิริซึ่งเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดของเมือง จัดขึ้นในวันที่ 14 และ 15 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นงานที่มีความหมายว่าขอให้โชคดีมาสู่นั่นเอง
"ดันจิริ" คือเกวียนไม้ที่ประดับตกแต่งเหมือนที่คุณเห็นในรูปด้านบน ช่วงงานเทศกาลนี้จะมีดันจิริหลายเล่มเคลื่อนขบวนไปรอบๆ เมือง เป็นภาพที่น่าตื่นตาซึ่งจะติดอยู่ในความทรงจำของคุณแม้จะจากญี่ปุ่นไปแล้วก็ตาม
คานิ โอโกกุ (Kani Okoku)
ประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งที่คุณสามารถสัมผัสได้ที่คิโนซากิออนเซ็นคือ คานิ โอโกกุ งานเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศให้ปู ("คานิ" ในภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งบังเอิญตรงกับฤดูปูของญี่ปุ่นในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมพอดี คิโนซากิออนเซ็นเป็นบ้านของปูหิมะชั้นดีเนื่องจากอยู่ใกล้กับทะเลญี่ปุ่น ในช่วงฤดูปู นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มรสปูในร้านอาหารและเรียวคังทั่วเมือง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีพิธีมอบรางวัลให้กับปูที่ดีที่สุดที่จับได้ในช่วงเวลานั้นด้วย
เรียวคังแนะนำ
ถ้าคุณอยากสัมผัสประสบการณ์ในคิโนซากิออนเซ็นอย่างเต็มรูปแบบ เราขอแนะนำให้คุณพักที่นั่นอย่างน้อยหนึ่งคืน แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าจะพักที่โรงแรมหรือเรียวคังไหนดี งั้นลองดูบทความด้านล่างเพื่อประกอบการตัดสินใจดูสิ
ของฝากต้องซื้อ
ชีสเค้กแป้งข้าวของร้าน Kinosaki Sweets สาขาหลัก
นอกจากความอร่อยของเจลาโต้แล้ว Kinosaki Sweets ก็ยังเป็นที่ที่เหมาะกับการซื้อของฝากสำหรับครอบครัวและเพื่อนที่สุดอีกด้วย ขนมชิ้นเล็กๆ ในรูปด้านบนเป็นชีสเค้กงานศิลป์ที่ทำมาจากแป้งข้าว มีหลายรสด้วยกัน เช่น ช็อกโกแลต มัทฉะและวานิลลา แถมยังขนาดพอเหมาะพอดีคำ ปริมาณก็ไม่มากจนเกินไปด้วย
สิ่งที่ทำให้ชีสเค้กชิ้นเล็กๆ เหล่านี้พิเศษขึ้นไปอีกก็คือข้าวที่ใช้ทำแป้งนั้นปลูกในทุ่งที่มีนกกระสาอาศัยอยู่ นกพวกนี้เป็นสัญลักษณ์ของความสุข แล้วความสุขนี้เองที่เป็นสิ่งที่นักทำขนมของร้านมุ่งหมายจะส่งต่อไปยังลูกค้าของพวกเขา ลึกซึ้งมากเลยใช่ไหมล่ะ
ตอนนี้คุณคงรู้แล้วว่าจะทำอะไร จะใส่อะไร จะกินร้านไหนและจะพักที่ไหนในคิโนซากิออนเซ็น ครั้งหน้าถ้ามีวันหยุดยาว ลองพิจารณาเรื่องการไปเยือนคิโนซากิออนเซ็นดู หรือจะไปผ่อนคลายแค่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็น่าสนใจไม่น้อย รับรองว่าคุณจะเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่ได้รับมากเสียจนอยากจะกลับไปใหม่อีกหลายๆ รอบเลยล่ะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่