แนะนำ 10 ย่าน "ออนเซ็น" แห่ง "จังหวัดชิซูโอกะ" สวรรค์ออนเซนใกล้โตเกียวเพียงเอื้อมมือ!
ชิซูโอกะเป็นจังหวัดที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิ เดินทางสะดวกใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงจากกรุงโตเกียวโดยรถไฟชินคันเซ็น ที่ชิซูโอกะมีย่านออนเซ็นมากถึง 40 แห่งด้วยกัน และในที่นี้เราจะขอเสนอย่านออนเซ็นที่โดดเด่น 10 แห่ง ทั้งย่านที่เป็นที่นิยม และรวมไปถึงบางแห่งที่มีความพิเศษแต่น้อยคนนักจะรู้จัก
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. ย่านออนเซ็น Atami (熱海温泉)
ถ้าพูดถึงออนเซ็นในชิซูโอกะแล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าต้องมีชื่อของ ย่านออนเซ็น Atami ซึ่งมีประวัติอันน่าภาคภูมิใจยาวนานถึง 1,250 ปี เป็นแหล่งน้ำพุร้อนยอดนิยมที่คึกคักอยู่เสมอเนื่องจากความสะดวกสบายในการเดินทางเพียง 35 นาทีด้วยรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียว
คุณสมบัติของน้ำพุร้อนที่นี่จะประกอบด้วยน้ำพุร้อนคลอรีน (塩化物温泉) กับน้ำพุร้อนกำมะถัน (硫酸塩温泉) มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ สารประกอบเกลือที่ผสมในบ่อนั้นจะช่วยรักษาอาการแพ้ความหนาว (อาการหนาวสั่นง่ายที่จากระบบไหลเวียนของเลือดไม่ดี) หรือโรคทางนรีเวช (โรคที่เกิดขึ้นในระบบภายในของผู้หญิง) และถึงแม้สารผสมต่างๆ ในบ่อจะเข้มข้นแต่กลับอ่อนโยนต่อผิวหนังจึงทำให้สามารถแช่ได้เรื่อยๆ
ที่นี่ถูกเรียกอีกชื่อว่า "ทะเลร้อน" เพราะน้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นทะเลทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้น ซึ่งวิวรอบทะเลก็สวยไม่แพ้กัน อาหารทะเลสดๆ ส่งตรงจากท่าเรือประมงก็มีให้เลือกชิมมากมาย
2. ย่านออนเซ็น Itou (伊東温泉)
ย่านออนเซ็น Itou เป็นหนึ่งในย่านที่มีปริมาณน้ำพุร้อนมากที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่มีบ่อน้ำร้อนหลายแห่งที่ไม่จำเป็นต้องวนน้ำในบ่อไปมาแต่สามารถปล่อยน้ำใหม่ให้ไหลออกมาได้เรื่อยๆ เรียกกันว่า Kakenagashi (かけ流し) เนื่องด้วยปริมาณน้ำที่มีมากเกินพอ คุณสมบัติของน้ำที่นี่ส่วนใหญ่จึงจะเป็นน้ำบริสุทธิ์ (単純泉 หรือน้ำอุ่นมีความเข้มข้นของแร่ธาตุน้อยทำให้อ่อนโยนต่อผิวหนัง) กับน้ำเกลืออ่อนๆ (弱食塩泉) ซึ่งมีเกลือผสมเพียงเล็กน้อยแค่พอที่จะรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้
จะหาเรียวกัง (旅館: ที่พักสไตล์ญี่ปุ่น) แล้วเข้าโรงอาบน้ำหรูๆ งามๆ ก็ดี แต่สำหรับสายประหยัดก็สามารถเข้าใช้บริการบ่อน้ำพุร้อนสาธาณะได้ ที่ Itou มีบ่อน้ำพุร้อน 7 เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (七福神の湯) ตามความเชื่อดั้งเดิมของญี่ปุ่นเรื่อง 7 เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (七福神) และแต่ละบ่อก็จะมีเทพเจ้าแต่ละองค์รอต้อนรับอยู่ด้านหน้านั่นเอง ลองเข้าดูหน่อยอาจพบกับโชคลาภก็เป็นได้
ที่เมือง Itou ยังมีบ่อน้ำร้อนสำหรับแช่มือแช่เท้าให้แวะไปใช้บริการอีกมากมาย แค่จุ่มบางส่วนของร่างกายลงไปก็อุ่นไปทั้งตัวแล้ว แถมยังไม่เสียค่าบริการ ดีนาดนี้ใครบ้างล่ะจะไม่ปลื้ม
3. ย่านออนเซ็น Shuzenji (修善寺温泉)
ย่านออนเซ็น Shuzenji เป็นออนเซ็นแห่งหนึ่งในคาบสมุทร Izu ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและกล่าวขานกันว่าเปิดให้บริการมาแล้วถึง 1,200 ปี น้ำมีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อน ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดทั้งปลายประสาท กล้ามเนื้อ ข้อต่อและอื่นๆ เพราะสรรพคุณอันหลายหลายนี้เองที่ทำให้ทั้งผู้สูงอายุหรือเด็กๆ สามารถเข้าไปแช่ได้อย่างสบายใจ
หากเดินเล่นจนเหนื่อย ริมแม่น้ำจะมี Azumaya (คล้ายๆ กับศาลาพักใจบ้านเรา) สำหรับแช่เท้านามว่า Tokko no yu ให้คุณพักผ่อนหย่อนใจ ที่สำคัญคือเข้าฟรี! เพียงแค่แวะไปแช่เท้าแป๊บเดียวก็อุ่นไปทั่วร่างกาย
คราวนี้ไม่เกี่ยวกับออนเซ็น แต่อุตส่าห์เดินทางมาถึงย่าน Shuzenji ก็มีสถานที่ดีๆ ที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาด นั่นก็คือ ทางเดินป่าไผ่ (竹林の小径) ซึ่งตั้งอยู่ข้างแม่น้ำ Katsura (桂) ที่ไหลผ่านกลางย่าน Shuzenji Onsen พื้นปูด้วยหินและล้อมรอบด้วยป่าไผ่ เป็นที่ที่สามารถเดินเล่นได้ด้วยความสงบใจ และถ่ายรูปได้สวยมากๆ
4. บ่อน้ำร้อน Dougashima onsen (堂ヶ島温泉)
ย่านออนเซ็น Dougashima เป็นพื้นที่ขนาบข้างด้วยทิวทัศน์ที่งดงามของทะเล มีตำนานเล่าขานว่าตั้งแต่ 700 ถึง 800 ปีก่อนหน้ามีทหารเรือจำนวนมากมาแช่พักฟื้นฟูบาดแผลที่ออนเซ็นแห่งนี้ น้ำที่นี่มีสภาพเป็นด่างอ่อน
บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งของโรงแรม Dougashima Onsen ที่แทบจะอยู่ในระดับเดียวกับระดับน้ำทะเลทำให้คุณสามารถกวาดสายตาชมทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่และยังมอบประสบการณ์เสมือนว่าคุณกำลังแช่อยู่ในทะเลเลยทีเดียว เกาะที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำที่เรียกกันว่า Sanshiro (三四郎島) จะปรากฏทางเดินเชื่อมเกาะขึ้นก็ต่อเมื่อน้ำลดเท่านั้น จัดว่าเป็นเกาะที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ที่นี่เป็นชายหาดที่คึกคักในช่วงฤดูร้อน แต่นอกจากการเล่นน้ำในหน้าร้อนแล้วยังสามารถสนุกสุขสันต์ไปกับทิวทัศน์ถ้ำเหนือทะเลหรือตะวันตกดิน เป็นต้น และหลังจากเที่ยวด้านนอกจนเหนื่อยแล้วคงไม่มีอะไรเยี่ยมไปกว่าการแช่ออนเซ็นเป็นแน่แท้!
5. ย่านออนเซ็น Izunagaoka (伊豆長岡温泉)
ย่านออนเซ็น Izunagaoka ตั้งอยู่ใจกลางคาบสมุทร Izu หากเดินทางโดยทางด่วนสามารถมุ่งตรงจากชินจูกุไปถึงได้ภายใน 2 ชั่วโมงกับอีก 10 นาที และยังอยู่ใกล้กับเมืองออนเซ็นที่โด่งดังอย่าง ฮาโกเน่ อีกด้วย ทำให้การเดินทางมาเที่ยวชมที่นี่นั้นไม่ยากอย่างที่คิด
ชื่อ Izunagaoka เป็นการประสานชื่อของออนเซ็นที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี อย่าง Kona (古奈温泉) กับออนเซ็นที่เพิ่งค้นพบเมื่อประมาณ 100 ปีก่อนหน้านี้นั้นก็คือ Nagaoka (長岡温泉) นอกจากบ่อน้ำร้อนของที่เรียวกัง (ที่พักสไตล์ญี่ปุ่น) แล้วยังมีแหล่งบ่อน้ำร้อนสาธารณะที่เข้าไปใช้บริการได้โดยไม่ต้องเข้าพัก เหมาะกับการแวะไปแช่แบบไปเช้าเย็นกลับอีกหลายแห่ง น้ำที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำพุร้อนบริสุทธิ์
ย่าน Izunagaoka ถึงจะเป็นย่านเก่าแต่บ้านเมืองก็เก๋าไม่น้อยหน้า ที่สนามยิงเป้าที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 1 ทุ่ม คุณจะได้รับรางวัลหากยิงโดนตุ๊กตา บริเวณใจกลางเมืองยังมีทั้งวัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ กระเช้าลอยฟ้า และอื่นๆ อีกมากมายให้คุณได้เพลิดเพลิน
6. ย่านออนเซ็น Heda (戸田温泉)
ย่านออนเซ็น Heda เป็นย่านที่อยู่ติดกับอ่าว Suruga (駿河湾) อีกฟากหนึ่งของอ่าวจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ ยิ่งเป็นช่วงตะวันตกดินทิวทัศน์จะสวยขึ้นเป็นเท่าตัว น้ำที่นี่มีสภาพเป็นกำมะถันซึ่งรักษาอาการทางผิวหนังและความดันสูงได้ดี
ด้วยความที่เป็นย่านออนเซ็นหน้าใหม่ที่พึ่งผุดขึ้นมาได้เพียงแค่ 30 ปี ที่นี่จึงมีทั้งบ่อสุนัขให้สัตว์เลี้ยงได้แช่ ปั๊มออนเซ็นที่ดูภายนอกเหมือนแต่ไม่ใช้ปั๊มแก๊สอย่างที่คิด และเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงน้ำออนเซ็นดื่มได้และบ่อแช่เท้าฟรีๆ ในจุดพักรถก็มีเช่นเดียวกัน
หากเทียบที่นี่กับสถานที่ที่โด่งดังอย่าง Atami หรือ Itou แล้วถือว่ายังมีจำนวนนักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อยทำให้สามารถใช้เวลาที่นี่ได้อย่างไม่เร่งรีบ ทั้งยังสามารถชื่นชมทิวทัศน์หลากหลายที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นพื้นหลัง
7. ย่านออนเซ็น Atagawa (熱川温泉)
ย่านออนเซ็นแห่งนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยทะเลและภูเขา ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของคาบสมุทร Izu เนื่องจากที่แห่งนี้ถูกค้นพบจากการแช่แม่น้ำอุ่นๆ ของฝูงลิง จึงถูกตั้งชื่อว่า Atagawa (แปลว่าแม่น้ำร้อน) ออนเซ็นที่นี่หลักๆ เป็นประเภทเกลือซึ่งช่วยรักษาอุณหภูมิกับความชื้นของร่างกายได้ดี
ในย่านออนเซ็น Atagawa มีตาน้ำจำนวนมากจนกระทั่งมีบางบ้านถึงขั้นมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาในบ้านตัวเองเลยทีเดียว! ด้วยปริมาณน้ำจำนวนมาก จึงถูกปล่อยให้ไหลไปทั่วอย่างอิสระ ส่งผลให้เห็นคราบขององค์ประกอบในน้ำออนเซ็นเกาะที่ขอบก๊อกน้ำหรืออ่างอาบน้ำนั่นเอง หากเป็นมือใหม่หัดลงออนเซ็นก็ควรลองไปดูสักครั้ง ยิ่งเป็นแฟนตัวจริงของน้ำพุร้อนก็ยิ่งไม่ควรพลาด!
ณ เมืองแห่งนี้ที่อุดมไปด้วยน้ำพุร้อน จะมีเสาหินงอก (噴泉塔) คอยพ่นไอน้ำที่ถูกกลั่นออกมาอยู่ทั่วทุกมุมจนภายในเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยควันไอน้ำ เพียงแค่เดินเล่นในเมืองก็สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกราวกับกำลังแข่ออนเซ็น
8. ย่านออนเซ็น Umegashima (梅ヶ島温泉)
ย่าน Umegashima ตั้งอยู่อย่างลับๆ ในส่วนเหนือของจังหวัดชิซูโอกะใกล้กับขอบจังหวัดยามานาชิ ที่นี่คุณสามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็นที่มีประวัติการค้นพบมายาวนานถึง 1,700 ปีท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
น้ำที่นี่มีสภาพเป็นกำมะถันล้วน (単純硫黄泉) จะมีความหนืดและติดเหนอะหนะไปที่ผิว ซึ่งมีฤทธิ์รักษาอาการทางระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร หรือกระทั่งการบำรุงผิว กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนไข่ต้มเป็นตัวยืนยันถึงความเข้มข้นของกำมะถันคุณภาพสูง
ขนาบข้างสองฝั่งแม่น้ำมีทั้งเรียวกังและบ้านผู้คนตั้งเรียงรายมากถึงสิบหลัง นับว่าเป็นเมืองออนเซ็นที่หนาแน่นใช่ย่อย สิ่งก่อสร้างจากไม้ตลอดสองข้างทางยังพร้อมทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศความเก่าแก่แบบญี่ปุ่นอีกด้วย
9. ย่านออนเซ็น Sumatakyo (寸又峡温泉) [Senzu]
ย่านออนเซ็นแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บริเวณเทือกเขา Akaishi (赤石山脈) ที่ทอดตัวผ่านจังหวัดนากาโนะ ยามานาชิ และชิซูโอกะซึ่งรู้จักในนามว่า "แอลป์ตอนใต้" (南アルプス) น้ำที่ผุดขึ้นมาจากเทือกเขามีคุณภาพเป็นเลิศ ความร้อนอยู่ที่ประมาณ 43.7 องศากำลังดี สภาพน้ำที่มีส่วนผสมของกำมะถันทำให้ผิวเปล่งปลั่งถูกเรียกขานกันว่า "น้ำร้อนที่สรรค์สร้างสาวงาม"
หากคุณซื้อคูปองที่ทำจากแผ่นไม้ หรือ Yuragi-tegata (ゆらぎ手形) ซึ่งขายอยู่ทั่วไปตามที่พักและร้านของฝากในราคา 1,000 เยน คุณจะสามารถเข้าอาบน้ำในที่โปรดได้ถึงสามแห่งด้วยกัน สำหรับนักล่าออนเซ็นไม่ควรพลาด!
ไม่ว่าจะฤดูไหนก็น่ามาเที่ยวทั้งนั้น เพราะที่นี่ไม่ได้มีแต่ออนเซ็น แต่ล้อมรอบด้วยความงามของธรรมชาติ และมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมีมากมาย ทั้งสะพานแขวน Yume no Tsuribashi (夢の吊り橋) ที่พาดผ่านบึงสีน้ำเงินอร่าม รถจักรไอน้ำ หรือทิวทัศน์สีอบอุ่นของใบไม้เปลี่ยนสี ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะชอบชื่นชมทิวทัศน์หรือชอบแช่ออนเซ็นก็สามารถมาเที่ยวเล่นได้ทั้งนั้น
10. ย่านออนเซ็น Kanzanji (舘山寺温泉)
ย่านแห่งนี้ตั้งติดกับทะเลสาบ Hamana ตั้งแต่ปี 1958 เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ที่มีวิวอันงดงามซึ่งนับว่าค่อนข้างใหม่หากเทียบกับกับย่านออนเซ็นอื่นๆ ในชิซูโอกะ ทะเลสาบ Hamana ที่เห็นอยู่ตรงหน้ามีขนาดใหญ่มากจนไม่ต่างกับทะเลเลยก็ว่าได้
น้ำที่นี่จะมีสมบัติเป็นเกลือเข้มข้น (塩化物強塩温泉) ทั้งอาการปวดเมื่อยและปวดเส้นประสาทสามารถถูกรักษาได้ด้วยเกลือที่เจือปนอยู่ในน้ำ บ่อน้ำร้อนที่เพียบพร้อมไปด้วยอ่างกว้างๆ จนสามารถรองรับผู้ใหญ่หลายๆ คนให้เหยียดแข้งเหยียดขากันได้อย่างเต็มที่
เราสามารถมองเห็นวิวของทั้งทะเลสาบ Hamana และเมืองออนเซ็นได้จากบริการกระเช้าลอยฟ้าที่พาขึ้นไปถึงยอดภูเขา ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาดทิวทัศน์สวยงานในที่ที่มีชื่อเสียงแห่งนี้
ทั้งคุณสมบัติน้ำ หรือบรรยากาศของออนเซ็นต่างก็มีให้เลือกหลากหลายนับไม่ถ้วน รับรองได้ว่าจะต้องมีว่าที่แหล่งออนเซ็นโปรดของคุณซุกซ่อนตัวอยู่สักแห่งในชิซูโอกะอย่างแน่นอน ถ้าได้มีโอกาสมาเยื่ยมเยียนชิซูโอกะละก็ขอให้สลัดความอายทิ้งไป แล้วไปลุยออนเซ็นด้วยกันเถอะ!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่