เที่ยวจากเช้ายันค่ำ! สัมผัสวัฒนธรรมและของอร่อยย่านสนามบินฮาเนดะ!
คานางาวะเป็นจังหวัดที่มีสถานที่น่าสนใจอยู่มากมาย ทั้งยังเดินทางสะดวกจากสนามบินฮาเนดะ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับย่านคาบสมุทรมิอุระของคานางาวะและย่านสนามบินฮาเนดะในเขตโอตะของโตเกียว เนื่องจากมีวัฒนธรรมและเมนูท้องถิ่นที่สามารถสัมผัสได้เฉพาะในช่วงเช้าและค่ำ จึงเหมาะมากสำหรับการมาเที่ยวแบบค้างคืน!
*บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก จังหวัดคานางาวะ
◆ เมืองมิอุระ จังหวัดคานางาวะ
ข้อมูลเบื้องต้นและวิธีการเดินทาง
คาบสมุทรมิอุระของจังหวัดคานางาวะเป็นบริเวณที่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมาย ยกตัวอย่างเช่น หาดทรายสวยๆ ของย่านซุชิ (逗子) และฮายามะ (葉山) ที่อยู่ใกล้กับเมืองโบราณคามาคุระ ในครั้งนี้เราจะมาสำรวจเมืองมิอุระ (三浦市) ที่อยู่ทางใต้สุดของคาบสมุทรมิอุระ นอกจากจะสามารถสนุกไปกับมีทะเลสีครามเข้มและกีฬาทางทะเลที่น่าตื่นเต้นแล้ว ยังสามารถดื่มด่ำไปกับผักผลไม้มิอุระและปลามากุโระที่เป็นของขึ้นชื่อได้อีกด้วย
กรณีที่คุณเดินทางด้วยระบบคมนาคมสาธารณะ เราขอแนะนำให้นั่งรถไฟ Keikyu (京浜急行電鉄) ที่จุดขนส่งหลักๆ อย่างสนามบินฮาเนดะ ชินากาว่า หรือโยโกฮาม่า แล้วไปลงที่สถานี Miurakaigan (三浦海岸駅) หรือสถานี Misakiguchi (三崎口駅) จากนั้นต่อรถบัส Keikyu (京浜急行バス) ไปลงที่ป้าย Misakiko (三崎港)
ระยะเวลาเดินทางโดยรถไฟ Keikyu
สนามบินฮาเนดะ→สถานี Miurakaigan, สถานี Misakiguchi ประมาณ 80 นาที
ชินากาว่า→สถานี Miurakaigan, สถานี Misakiguchi ประมาณ 65 นาที
โยโกฮาม่า→สถานี Miurakaigan, สถานี Misakiguchi ประมาณ 50 นาที
ระยะเวลาเดินทางโดยรถบัส Keikyu
สถานี Miurakaigan → Misakiko ประมาณ 25 นาที
สถานี Misakiguchi → Misakiko ประมาณ 15 นาที
กิจกรรมลิมิเต็ดช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้าพลางชมวิวทะเลอันกว้างใหญ่ที่ "Beachend café"
ชื่อ "Beachend" ของร้านนี้หมายถึงตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่ปลายสุดของคาบสมุทรมิอุระ ในขณะเดียวกันก็เป็นตัวแทนของจุดหมายปลายทางสำหรับทริปชมธรรมชาติสวยๆ ประมาณ 9 โมงเช้าที่ผู้เขียนมาถึงคาเฟ่บนทางหลวงริมทะเลแห่งนี้ หน้าร้านก็ได้เรียงรายไปด้วยเมนูอาหารเช้า และมีลูกค้านั่งรับประทานอาหารอยู่ริมระเบียงด้านนอก
เมื่อเข้าไปในร้านก็จะมองเห็นท้องฟ้าสีฟ้าใสที่อยู่นอกหน้าต่างและโต๊ะเก้าอี้ที่ทำจากไม้และไม้ไผ่ ให้บรรยากาศราวกับว่าได้มาพักร้อน แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้วยังอยู่ในเมืองใหญ่ที่แสนวุ่นวาย นอกจากวิวสวยๆ ของหาดทรายแล้ว แยมและวัตถุดิบท้องถิ่นที่วางขายอยู่หน้าร้าน ของหวานที่เรียงรายอยู่ในตู้โชว์ และเมนูอาหารเช้าที่หลากหลายก็ดึงดูดสายตาไม่แพ้กัน
หากคุณอยากลิ้มลองเมนูที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เราก็ขอแนะนำให้เริ่มวันใหม่ด้วย "ข้าวแกงกะหรี่มิซากิมากุโระ" (三崎マグロのカレーライス) ที่ทำจากปลามากุโระซึ่งเป็นของดีประจำพื้นที่ ทั้งยังมีเมนูผักหวานๆ อย่าง "สลัดจากสวนกับขนมปังปิ้ง" (農園サラダとトースト) และ "ซุปเย็นจากผักสดใหม่ที่ปลูกในคาบสมุทรมิอุระ" (三浦半島で育った新鮮なお野菜の冷製スープ) ให้เพลิดเพลินอีกด้วย มาดื่มด่ำกับอาหารเช้าสุดหรูริมทะเล และชาร์จพลังสำหรับวันใหม่กันเถอะ!
นอกจากนี้ใกล้ๆ กับร้านก็ยังมี PIZZA&BAR "Chill Terrace" สาขา 2 และที่พักแบบหลังเดี่ยว "VILLA BLU" ทั้งสองแห่งล้วนมีวิวชายหาดกว้างขวางราวกับรีสอร์ท หากคุณรู้สึกสนใจก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน
กิจกรรมลิมิเต็ดช่วงค่ำ
ชมตะวันตกดินที่แสนโรแมนติกและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่ "สวนสาธารณะ Jogashima"
เมื่อออกเดินทางจากอ่าวหาปลา Misaki (三崎漁港) ข้ามสะพาน Jogashima Ohashi (城ヶ島大橋) คุณก็จะพบกับ "Jogashima" (城ヶ島) เกาะที่ได้รับ 2 ดาวใน Michelin Green Guide Japan ส่วนตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะนี้เป็นที่ตั้งของ "สวนสาธารณะ Jogashima" (城ヶ島公園) ซึ่งกินพื้นที่กว่า 1 ใน 3 ของเกาะ เป็นจุดที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวหินผาที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะและทิวทัศน์ทุ่งหญ้าที่จะแตกต่างไปตามฤดูกาล
ช่วงฤดูร้อนจะมีนักถ่ายภาพดวงดาวมากมายพากันมาที่สวนแห่งนี้เพื่อเก็บภาพทางช้างเผือก หากคุณต้องการเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์สวยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา เราก็ขอแนะนำพักค้างแรมที่บริเวณรอบๆ คุณจะได้ชมพระอาทิตย์ตกอย่างสบายๆ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศโรแมนติก ทั้งยังสามารถเดินเล่นตอนกลางคืน พลางชื่นชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวจากจุดชมวิวที่อยู่ภายในสวนได้อีกด้วย
ที่พักแนะนำ
"Misaki Jyuku" ที่พักที่รีโนเวทมาจากบ้านเก่าแก่ยุคเอโดะ
"Misaki Jyuku" (三浦半島の旅宿 三崎宿) เป็นที่พักที่นำบ้านเรือนเก่าแก่จากยุคเอโดะมารีโนเวทใหม่โดยคงไว้ซึ่งบรรยากาศและรสนิยมของยุคนั้น นอกจากจะเป็นการให้ชีวิตใหม่กับตัวอาคารแล้ว ยังช่วยให้แขกที่มาเข้าพักได้มองเห็นภาพของคาบสมุทรมิอุระในอดีต ทั้งยังเป็นที่พักแบบเช่าเหมาหลังที่มีความเป็นส่วนตัวสูงอีกด้วย
ในครั้งนี้ผู้เขียนได้เข้าพักที่อาคาร "Misakijyuku Edonokurayado" (三崎宿 江戸の蔵宿) ซึ่งเป็นคุระสึคุริ (โรงเก็บของแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น) ที่สร้างขึ้นในยุคเอโดะ (ปี 1603-1867) แม้ว่าอาคารด้านในที่เชื่อมอยู่กับทางเดินจะเป็นอาคารสไตล์ตะวันตกที่สร้างเพิ่มขึ้นภายหลัง แต่ส่วนนี้เองก็มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 60 ปี ภายในอาคารมีแท่นบูชาเทพ ตู้เซฟและช่องเก็บของใต้บันไดอยู่ตามจุดต่างๆ สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่
นอกจากห้องนอนที่กว้างขวาง 3 ห้องแล้ว ยังมีห้องประชุม ครัว และห้องอาบน้ำรวม รวมถึงระเบียงกลางแจ้งที่เห็นอยู่ในภาพด้านบนซึ่งเป็นไฮไลท์ของอาคารนี้ เหมาะมากสำหรับการสนุกสนานไปกับปาร์ตี้บาร์บีคิว โดยทางเดินไปซื้ออาหารทะเลสดใหม่อย่างปลามิซากิมากุโระ ผักมิอุระท้องถิ่น และเบียร์ท้องถิ่นที่ "Urari Marche" ที่เราจะกล่าวถึงในส่วนถัดไป
เนื้อก็เป็นอีกวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้สำหรับบาร์บีคิว เราขอแนะนำให้ไปที่ Urari Marche และลองซื้อ "ฮายามะกิว" (葉山牛) เนื้อวากิวชั้นเลิศของจังหวัดคานางาวะมารับประทานดูสักครั้ง เป็นเนื้อวากิวหายากที่แม้จะได้รับรางวัลมากมาย แต่ก็สามารถผลิตได้เพียงปีละ 200 ตัวเท่านั้น สุดยอดผลิตภัณฑ์นี้ส่วนใหญ่แล้วมีวางขายอยู่ที่บริเวณคาบสมุทรมิอุระเท่านั้น!
เคล็ดลับเพิ่มเติม
ซื้อผักมิอุระและปลามากุโระสดใหม่ที่ "Urari Marche"
"Urari Marche" (うらりマルシェ) ตั้งอยู่ในอ่าวหาปลามิซากิที่มีชื่อเสียงเรื่องแหล่งขึ้นปลามากุโระ นอกจากปลามิซากิมากุโระแล้ว ยังวางขายผักมิอุระสดใหม่ที่สดตรงมาจากสวน คุณสามารถหาซื้อซาชิมิปลามากุโระและส่วนแปลกๆ ของมากุโระอย่างหางและเนื้อแก้มได้ที่โซนปลาสดในชั้น 1 ของอาคาร รวมถึงของทะเลอื่นๆ ที่จับได้ในบริเวณใกล้เคียงและอาหารปรุงแต่งจากของทะเลเหล่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าที่สามารถรับประทานได้ทันทีอย่างโทโระมัง (ซาลาเปาไส้มิซากิมากุโระ) มากุโระโคร็อกเกะ และน้ำผลไม้จากผลไม้สดใหม่ตามฤดูกาล
คาบสมุทรมิอุระมีอากาศอบอุ่นตลอดปี น้อยมากที่จะมีหิมะหรือน้ำค้างแข็ง ส่งผลให้มีดินที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผักอร่อยๆ ที่หาไม่ได้ในที่อื่นอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ไชเท้ามิอุระและผักกาดมิอุระ ชั้น 2 ของ Urari Marche เป็นโซนผักสดที่คุณสามารถหาซื้อผักเหล่านี้ได้ในสภาพที่สดใหม่ กรุบกรอบ และเพิ่งเก็บขึ้นมาใหม่ๆ ในเช้าวันเดียวกัน
สนุกไปกับการผจญภัยใต้น้ำ "Nijiiro Sakana-go"
"Nijiiro Sakana-go" (にじいろさかな号) คือเรือชมวิวแบบกึ่งดำน้ำที่หน้าตาน่ารักสีสันสดใส เป็นหนึ่งในสิ่งห้ามพลาดหากมีโอกาสได้มาที่อ่าวหาปลามิอุระ Nijiiro Sakana-go นี้แตกต่างจากเรือชมวิวทั่วไป เรือลำนี้ไม่ได้มีดีแค่วิวสวยๆ เท่านั้น
เมื่อเรือออก นกนางนวลจะจับกลุ่มและบินตามเรืออย่างทันที เนื่องจากแขกบนเรือให้อาหารนกนางนวลและเหยี่ยวดำพวกนี้อยู่เป็นประจำ พวกมันจึงรู้ว่าเวลาที่เรือออกนั้นคือเวลาที่จะได้รับอาหาร เมื่อโยนอาหารขึ้นบนฟ้า คุณก็จะได้เห็นภาพอันน่าตื่นตาของนกที่ใช้กรงเล็บจับอาหารกลางอากาศอย่างรวดเร็ว
ในระหว่างการเดินเรือ กัปตันจะส่งสัญญาณให้คุณใช้บันไดลงไปในตัวเรือ คุณจะสามารถชมปลาที่ว่ายอยู่ใต้น้ำผ่านหน้าต่างกระจกใส เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากเรือชมวิวลำอื่นๆ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกไปกับทัวร์ 40 นาทีนี้ได้อย่างแน่นอน!
รับลมทะเลและเป็นหนึ่งเดียวไปกับทิวทัศน์ชนบทของมิอุระ "Miura Rent-a-Cycle"
แม้ว่าคุณจะสามารถนั่งรถบัสจากหาดมิอุระไปอ่าวหาปลามิอุระได้ แต่หากต้องการเพลิดเพลินไปกับลมทะเลและความสวยงามของคาบสมุทรมิอุระให้มากขึ้นแล้วล่ะก็ การเช่าจักรยานไฟฟ้าก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน
ในครั้งนี้ผู้เขียนได้ติดต่อเช่าจักรยานจากจุดให้บริการในอ่าวหาปลามิอุระ (อยู่ติดกับ Urari Marche) และปั่นเล่นเลียบชายหาด จากนั้นก็ปั่นกลับไปที่สถานี Miurakaigan ระหว่างทางได้ผ่านกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ แปลงเกษตรที่อยู่บนเนินสูง และอ่าวหาปลาขนาดย่อมๆ แม้ว่าจะมีเนินขึ้นลงอยู่มาก แต่พลังของจักรยานไฟฟ้าก็ช่วยให้ปั่นขึ้นเนินได้อย่างสบายๆ การได้ชมทะเลจากเนินสูงและปล่อยตัวไปกับทิวทัศน์ชนบทของมิอุระนั้น กล่าวได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่สามารถสัมผัสได้จากการเดินทางด้วยจักรยานเท่านั้น
◆ ละแวกสนามบินฮาเนดะ
ข้อมูลเบื้องต้นและวิธีการเดินทาง
เขตอุตสาหกรรมเคฮิน (京浜工業地帯) มีศูนย์กลางอยู่ที่เขตโอตะของโตเกียว รวมถึงเมืองโยโกฮาม่าและเมืองมิซากิของคานางาวะ เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญที่คอยสนับสนุนเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่
เมื่อเดินทางจากเมืองมิซากิ จังหวัดคานางาวะ ข้ามแม่น้ำทามางาวะ (多摩川) ไป ก็จะพบกับย่านคามาตะ (蒲田) ของเขตโอตะ กรุงโตเกียว เป็นบริเวณที่มีชื่อเสียงจากอิซากายะ (บาร์แบบญี่ปุ่น) และย่านการค้าที่มีบรรยากาศยุคโชวะหลงเหลืออยู่ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ได้มีชื่อเสียงจากโรงอาบน้ำที่วิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นที่รู้จักในฐานะย่านเกี๊ยวซ่าของโตเกียวอีกด้วย สนามบินฮาเนดะที่อยู่ในเขตโอตะเดียวกันนี้ก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 มาดูกันว่าบริเวณดังกล่าวจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ระยะเวลาการเดินทางโดยรถไฟ - สถานี Kawasaki (川崎駅) -
สนามบินฮาเนดะ → สถานี Keikyu Kawasaki (京急川崎駅) นั่ง Keikyu Airport Line (京急空港線) ประมาณ 15 นาที
ชินากาว่า → สถานี Kawasaki นั่งรถไฟ JR สาย Keihin-Tohoku (京浜東北線) ประมาณ 15 นาที
ระยะเวลาการเดินทางโดยรถไฟ - สถานี Kamata (蒲田駅) -
สนามบินฮาเนดะ → สถานี Keikyu Kamata (京急蒲田駅) นั่ง Keikyu Airport Line ประมาณ 11 นาที
ชินากาว่า → สถานี Kamata นั่งรถไฟ JR สาย Keihin-Tohoku ประมาณ 11 นาที
กิจกรรมลิมิเต็ดช่วงเช้า
รับประทานราเมงเป็นมื้อเช้าที่ "Gamushara สาขาคามาตะ"
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาญี่ปุ่นมักมีร้านราเมงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง หากคุณได้มาคามาตะ ก็ขอแนะนำให้ลองราเมงเป็นมื้อเช้าดูสักครั้ง คามาตะมีร้านราเมงที่เปิดให้บริการตั้งแต่เช้า คุณจะได้เห็นภาพของคนทำงานกะดึกที่มารับประทานราเมงอร่อยๆ เพื่อเยียวยาความเหนื่อยล้าก่อนกลับบ้าน
ร้านที่เราจะแนะนำในครั้งนี้คือ "ร้านราจัง Gamushara สาขาคามาตะ" (ラーチャン専門店 我武者羅 蒲田店) ที่โด่งดังจาก "ราจัง" (เซ็ตราเมงกับจาฮัง (ข้าวผัดสไตล์จีน)) ในช่วงเปิดร้านใหม่ๆ ร้านนี้จะเสิร์ฟเมนูหลักเป็น "แกงกะหรี่มื้อเช้า" (朝カレー) ที่มีปริมาณครึ่งหนึ่งของปกติ ความเผ็ดร้อนของแกงกะหรี่จะช่วยให้หายง่วงได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องดื่มฟรีให้บริการเฉพาะช่วงเช้าอีกด้วย
ราเมงมื้อเช้าที่เป็นอาหารจานหลักนั้นจะเปลี่ยนเมนูไปทุกวัน ในวันที่เราเข้าไปขอสัมภาษณ์ก็มีให้เลือกอยู่ 2 ประเภท โดยผู้เขียนได้เลือก "โชกะโชยุ" (โชยุผสมขิงบด) ในตอนแรกก็กังวลว่าการทานราเมงรสชาติเข้มข้นตั้งแต่เช้าจะหนักท้องเกินไป แต่น้ำซุปก็รับประทานง่ายผิดคาด ทั้งยังมีขิงที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น หลังจากซดน้ำซุปหมดก็รู้สึกร่าเริงขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว
สัมผัสออนเซ็นสีดำที่โรงอาบน้ำ "Kamata Onsen"
กล่าวกันว่าโอตะเป็นเขตที่มีโรงอาบน้ำหนาแน่นที่สุดของโตเกียว สามารถตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ โดยมีตั้งแต่แบบเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น ไปจนถึงแบบย้อนยุคสไตล์ญี่ปุ่น จุดเด่นของบริเวณนี้คือมีออนเซ็นสีดำ โรงอาบน้ำหลายแห่งก็ได้ใช้น้ำพุสีดำนี้เป็นหลัก หนึ่งในนั้นก็คือ "Kamata Onsen" (蒲田温泉) ที่มีจุดขายเป็นน้ำพุสีดำที่มีความเข้มข้นสูง ปกติแล้วโรงอาบน้ำของญี่ปุ่นจะเปิดให้บริการช่วงบ่าย 3 ไปจนถึงกลางดึก แต่ในกรณีของ Kamata Onsen ที่ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยและมีซุ้มประตูสีแดงกับโลโก้สิงโตน่ารักๆ นี้ จะมีลูกค้ามาต่อแถวรอกันตั้งแต่ 10 โมงเช้าเลย
ด้านในร้านปูพื้นด้วยพรมลายดอกไม้สีแดงสไตล์ย้อนยุค ตรงกลางมีชั้นวางที่ทำจากแก้วสำหรับจำหน่ายอุปกรณ์อาบน้ำ เสื้อเชิ้ตและผ้าขนหนูลายออริจินัล
ชั้น 2 ของโรงอาบน้ำนี้เป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับพักผ่อน สามารถเพลิดเพลินไปกับของขึ้นชื่อประจำท้องถิ่นอย่างชิโอะยากิโซบะ (塩焼きそば) และออนเซ็นคามะเมชิ (温泉釜飯) โดยจะมีอีเวนท์จัดขึ้นเป็นครั้งคราวอีกด้วย ผนังของชั้นนี้เรียงรายไปด้วยลายเซ็นของนักแสดงและบุคคลที่มีชื่อเสียง แสดงให้เห็นถึงความโด่งดังของ Kamata Onsen
กิจกรรมลิมิเต็ดช่วงค่ำ
ราวกับฉากในหนังไซไฟ! เรือชมวิวโรงงานยามดึก "Nikushokukei Kotsusen"
เขตอุตสาหกรรมเคฮินที่รวมถึงเมืองคาวาซากินั้น เป็นที่ตั้งของเตาผลิตพลังงาน โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานสารเคมี และโกดังตู้คอนเทนเนอร์มากมาย พอตกดึกก็จะแผ่กว้างไปด้วยทิวทัศน์น่าพิศวงที่แตกต่างกับตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง ทัวร์ชมวิวดังกล่าวนี้ได้รับความนิยมมาก ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำหรือทางบก มีผู้คนมากมายที่เดินทางมาเพื่อสัมผัสทิวทัศน์ที่แสนแฟนตาซีนี้
ในครั้งนี้ผู้เขียนได้สัมผัสคอร์สที่ขึ้นเรือที่โยโกฮาม่าโอซันบาชิ (横浜大さん橋) แล่นไปทางโยโกฮาม่ามินาโตะมิไร (横浜みなとみらい) ที่ส่องประกายระยิบระยับ ผ่านคลองเคฮิน (京浜運河) และวนรอบเขตอุตสาหกรรมของคาวาซากิ เนื่องจากเรือที่นั่งนี้เดิมทีเป็นเรือที่ใช้ขนส่งคนงานสำหรับการก่อสร้างรันเวย์ของสนามบินฮาเนดะ จึงรวดเร็วและน่าตื่นเต้นมากกว่าเรือชมวิวทั่วไป ส่งให้ผลให้มันมีชื่อเล่นว่า "Nikushokukei Kotsusen" (肉食系交通船 / เรือขนส่งสายชายโหด)
คุณนากาอิผู้เป็นกัปตันเรือได้อธิบายถึงสถานการณ์ของวันที่ผู้เขียนได้เดินทางไปอย่างเป็นกันเอง ทั้งยังจอดในบางจุดเพื่อให้แขกลงไปบนด่านฟ้าเรือและเก็บภาพทิวทิศน์ที่ราวกับหนังไซไฟ ทิวทัศน์ที่สามารถหาชมได้เฉพาะทัวร์กลางคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นปล่องควันโรงงานที่มีไอน้ำและเปลวไฟพวยพุ่ง ท่อเหล็กที่พัวพันกันอย่างซับซ้อน หรือสิ่งก่อสร้างมหึมาที่ส่องประกายระยิบระยับ ก็จะกลายเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าเกินราคาอย่างแน่นอน
"HANEDA INNOVATION CITY" แช่เท้าและดื่มด่ำไปกับวิวสนามบินยามค่ำคืน
HANEDA INNOVATION CITY อยู่ห่างจากสนามบินฮาเนดะเพียง 1 สถานี เป็นอาคารคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับการช็อปปิ้ง อาหารอร่อย และวัฒนธรรมญี่ปุ่น เนื่องจากเปิดให้บริการเมื่อปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่ของนักท่องเที่ยวมากนัก
บริเวณที่เราขอแนะนำเป็นพิเศษคือ "Ashiyu Skydeck" (足湯スカイデッキ) ที่อยู่บนชั้น 3 ของโซน E นอกจากสามารถมองเห็นเครื่องบินบินขึ้นลงแล้ว ยังมีออนเซ็นแช่เท้าให้ใช้บริการฟรีอีกด้วย เมื่อตกดึกรันเวย์ของสนามบินจะส่องแสงสีสันสดใส กลายเป็นทิวทัศน์ที่น่าหลงใหลยิ่งขึ้นไปอีก
ดื่มและสังสรรค์ไปกับคนพื้นเมืองที่ "Bourbon Road"
ใต้ทางยกระดับของรถไฟโตคิวสายอิเคกามิเป็นตรอกที่เรียงรายไปด้วยบาร์และอิซากายะกว่า 60 ร้าน คนในพื้นที่เรียกตรอกนี้ว่า "Bourbon Road" (バーボンロード) โดยอ้างอิงมาจากวิสกี้ชื่อดัง เมื่อพระอาทิตย์ตกจะมีแสงส่องสว่างและเกิดเป็นบรรยากาศแบบย้อนยุคที่น่าหลงใหล ที่ตรอกนี้คุณสามารถยืนดื่มเบียร์ที่ร้านแผงลอยคุชิยากิ (เมนูเสียบไม้ย่าง) ดูการถ่ายทอดสดเบสบอลร่วมกับพนักงานบริษัทที่กลับจากการทำงาน หรือจะเข้าบาร์และฟังสูตรลับของการลิ้มรสวิสกี้จากเจ้าของร้านก็ได้
ที่พักแนะนำ
Hotel Oriental Express Tokyo Kamata
หากต้องการเที่ยวบริเวณนี้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ เราขอแนะนำ Hotel Oriental Express Tokyo Kamata ที่นอกจากจะเดินทางสะดวกแล้ว ยังอยู่ห่างจากสถานีคามาตะของรถไฟเคคิวโดยเดินเพียง 3 นาที นอกจากตำแหน่งที่ตั้งที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังตกแต่งภายในด้วยวัฒนธรรมการก่อสร้างของท้องถิ่น ตัวเลขที่ระบุชั้นนั้นทำขึ้นโดยการเจาะ ฝน และงอ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ละเอียดอ่อนมากๆ ส่วนเพดานของห้องโถงและทางเดินไปห้องพักนั้นดูเรียบง่าย ในขณะเดียวกันก็ทำให้สัมผัสถึงความหรูหราได้อย่างน่าประหลาด
"EXPRESS Café" ที่ชั้น 1 เปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนถึงเที่ยงคืน สามารถใช้เป็นสถานที่พูดคุยและทำงานได้ และยังมีเครื่องดื่มให้บริการฟรีอีกด้วย หนึ่งในเมนูที่ไม่ควรพลาดก็คือ "ชาเขียวนึ่งนาน" (超深蒸し茶) ที่ส่งตรงมาจากของโรงชาในพื้นที่และมีจุดขายเป็นรสชาติที่เข้มข้น ส่วนห้องพักก็น่าอยู่และสะอาดสะอ้าน มีการผสมผสานวัสดุไม้และโลหะอย่างลงตัว ทั้งยังใช้ฟูก airweave อันโด่งดัง รับรองได้ว่าคุณจะหลับสบายอย่างแน่นอน
เคล็ดลับเพิ่มเติม
"Kawasaki Daishi" เรียกดวงและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
"Kawasaki Daishi Heiken-ji" (川崎大師 平間寺) เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 900 ปี เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ด้านการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย มีผู้คนมากมายเดินทางมาจากสถานที่ห่างไกลเพื่อเข้าสักการะวัดนี้ กล่าวกันว่ามีจำนวนผู้เข้าสักการะในช่วงปีใหม่มากเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคคันโต โดยเป็นรองแค่ศาลเจ้าเมจิและวัดชินโชจิ
ถนนด้านหน้าทางเข้าวัดมีชื่อเรียกว่า "Nakamise Dori" (仲見世通り) โดยจะคึกคักไปด้วยผู้คน และเรียงรายไปด้วยร้านขายของฝากที่จำหน่ายของจำพวกลูกอมแก้ไอและคุซุโมจิ (久寿餅) ที่เป็นของขึ้นชื่อของ Kawasaki Daishi รวมถึงของที่เกี่ยวข้องกับการเรียกโชคดีอย่างตุ๊กตาดารุมะ
นอกจากการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายแล้ว วัดนี้ยังเปิดการฝึกโกมะ (護摩修行 / การเผาเครื่องหอมและใช้เปลวไฟช่วยในการทำสมาธิ) ขึ้นทุกวันเพื่อช่วยให้ผู้คนสมหวังในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนปลอดภัย ค้าขายร่ำรวย หรือชีวิตยืนยาว ในครั้งนี้ผู้เขียนก็ได้ลองสัมผัสประสบการณ์โกมะด้วยเช่นกัน การได้มองเปลวไฟของโกมะและอธิษฐานให้จิตใจสงบ จะช่วยให้เกิดความสงบทั้งกายและใจอย่างแน่นอน
"BIGFUN Heiwajima" คอมเพล็กซ์ที่มีทั้งแหล่งช็อปปิ้ง เอนเตอร์เทนเมนท์ และออนเซ็น
"BIGFUN Heiwajima" สามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายๆ โดยนั่งรถบัสจากสถานี Omori (大森駅) ของรถไฟ JR หรือจากสถานี Heiwajima (平和島駅) ของรถไฟ Keikyu ภายในมีสถานที่เที่ยวเล่นมากมาย ทั้งลานโบว์ลิ่ง โรงหนัง เกมเซ็นเตอร์ และคาราโอเกะ รวมถึง "ดองกิโฮเต้" ที่ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และ "Tennenonsen Heiwajima" (天然温泉 平和島) ออนเซ็นที่เปิดให้บริการโดยไม่มีวันหยุด
Tennenonsen Heiwajima ที่อยู่บนชั้น 2 นั้นมีบริการให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ ออนเซ็นที่ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น ซาวน่าหินที่ใช้หินธรรมชาติ 7 ชนิด และซาวน่าแบบฟินแลนด์ที่ใช้น้ำลาดลงบนหินเพื่อให้เกิดไอน้ำ นอกจากนี้ยังมีพนักงานที่ทำหน้าที่เป็น "เนปปะชิ" (熱波師) ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัวของญี่ปุ่น โดยจะใช้ผ้าขนหนูมาช่วยพัดเพื่อให้เกิดลมร้อน การันตีได้ว่าเหงื่อของคุณจะไหลเป็นน้ำตกอย่างแน่นอน
เมื่อออกมาจากออนเซ็น คุณสามารถรับประทานอาหารหรือผ่อนคลายได้ที่พื้นที่พักผ่อน เนื่องจากอยู่ใกล้กับสนามบินฮาเนดะ จึงเหมาะมากสำหรับแวะมาก่อนและหลังขึ้นเครื่องบินเที่ยวเช้ามืดหรือกลางดึก
"OTA Tourist Information Center" เช็คข้อมูลท่องเที่ยวและสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย
หากคุณต้องการข้อมูลสถานีท่องเที่ยวของเขตโอตะมากกว่านี้ ก็ขอแนะนำให้ไปที่ "OTA Tourist Information Center" (大田区観光情報センター) ที่อยู่ใกล้ๆ กับสถานีคามาตะของรถไฟเคคิว คุณจะได้พบกับแผนที่และหนังสือนำเที่ยวมากมายที่มีให้บริการอยู่หลายภาษา
ขนมชื่อดังจากร้านเก่าแก่ในพื้นที่ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากตัวละครโปรโมทการท่องเที่ยวเขตโอตะ ก็มีวางจำหน่ายอยู่ที่ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
ส่งท้าย
คาวาซากิมักเป็นที่คุ้นเคยในฐานะมหานคร แต่จริงๆ แล้วเมืองนี้ก็มีสถานที่สัมผัสวิวชนบทและบรรยากาศชานเมืองอยู่เช่นกัน หากคุณมีโอกาสได้มาเที่ยวญี่ปุ่น เราก็หวังว่าเส้นทางสัมผัสประสบการณ์จากเช้ายันค่ำในบทความนี้ จะมีส่วนช่วยทำให้ทริปของคุณเป็นที่น่าจดจำมากขึ้น
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่