ทุกเรื่องควรรู้เกี่ยวกับการใช้ Internet Cafe ในญี่ปุ่น ลำบากเมื่อไหร่ก็แวะไปได้เลย !
Internet Cafe ในญี่ปุ่นนั้นเรียกได้ว่ามีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ โดยปกติแล้วจะเป็นที่ที่ไปเพื่อใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง แต่ทว่าในปัจจุบัน การบริการถูกพัฒนาขึ้นมาจนถึงขั้นที่ว่า ถ้าไม่ไปใช้ต้องเสียดายอย่างแน่นอน ! บทความนี้จะขอเสนอวิธีการใช้ Internet Cafe ซึ่งทั้งถูกทั้งสะดวกสบาย ไปดูกันเลยค่ะ!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่า Internet Cafe ของญี่ปุ่นนั้นสะดวกสบายมาก
Internet Cafe ในญี่ปุ่นนั้นแทบทุกที่จะเปิดบริการ 24 ชม.ทั้งปีโดยไม่มีวันหยุด หากมีที่ว่าง ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้ตลอดเวลา ทั้งค่าบริการยังมีราคาถูก ในตอนกลางคืนที่ไม่มีรถไฟวิ่ง ในตอนที่โรงแรมเต็ม หรือจะเป็นตอนว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร ก็สามารถแวะไปที่ Internet Cafe ได้ สะดวกสบายในทุกสถานการณ์จริงๆ เลยนะคะเนี่ย
และถ้าหากพูดถึงการบริการอันยอดเยี่ยมแล้วล่ะก็ เล่าได้ไม่รู้จบเลยทีเดียวค่ะ ทั้งบริการบุฟเฟต์เครื่องดื่มนั้นรับรองว่าต้องมี และบางแห่งยังมีบริการบุฟเฟต์ซอฟครีม หรือปริ้นเตอร์พิมพ์งานอยู่ด้วยนะคะ !
อนึ่ง นอกจากจะเรียกว่า Internet Cafe แล้วยังมีชื่ออีกชื่อเรียกว่า Manga-kitsu หรือเรียกย่อๆ ว่า Mankitsu นั่นเองค่ะ
1. ใช้อินเตอร์เน็ตได้ ! อ่านการ์ตูนก็ได้ !
เนื่องจากเป็น Internet Cafe แน่นอนอยู่แล้วว่าสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ และอินเตอร์เนตของที่นี่ต้องขอบอกเลยว่า แรงมาก เพราะใช้อินเตอร์ไฟเบอร์ใยแก้วนำแสงซึ่งมีความเสถียร นอกจากนี้ยังมีร้านที่มีบริการยืมสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ หรือมีเครื่องเล่นบลูเรย์ให้ดูหนังเพลินๆ อีกด้วยค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีมังงะให้อ่านได้ฟรีทันทีที่เดินเข้าร้าน ซึ่งชนะร้านหนังสือทั่วๆ ไปขาดตัว เพราะมีตั้งแต่มังงะใหม่ล่าสุดไปจนถึงผลงานชื่อดังเก่าๆ ให้เลือกอ่านมากมาย สำหรับท่านที่ชื่นชอบมังงะ ห้ามพลาดเลยนะคะ!
2. เลือกที่นั่งได้ ห้องส่วนตัวก็มี !
ที่นั่งมีให้เลือกหลากหลาย ไม่เพียงแต่ที่นั่งแบบเปิดโล่ง ยังมีที่นั่งแบบห้องกึ่งส่วนตัวซึ่งมีฉากกั้น นอกจากนี้บางร้านยังมีห้องส่วนตัวไว้บริการอีกด้วย ราวกับว่าอยู่โรงแรมบิซิเนสเลยล่ะค่ะ
ที่นั่งคู่นั้นกว้างพอสำหรับใช้บริการ 2 ท่าน เก้าอี้ปรับเบาะให้เอนได้ ให้ท่านเพลิดเพลินไปกับการเล่นอินเตอร์เน็ตบนที่นั่งนิ่มเด้ง ที่นั่งแบบราบซึ่งมีเบาะอยู่บนพื้น ราวกับว่ากำลังเล่นเน็ตอยู่บนเตียง หรือจะใช้นอนเล่นเอกเขนกก็ยังได้ด้วยนะคะ
3. พักค้างคืนที่นี่ก็ได้ !
Dick Thomas Johnson/Flickrถ้าคุณมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไม่ต้องการจ่ายค่าโรงแรมแพงๆ สามารถไปค้างคืนที่ Internet Cafe ได้ค่ะ
ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่มีห้องพักแบบมีเตียงในตัว แต่ส่วนใหญ่จะมีห้องส่วนตัวซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัย และยังมีระบบการสมัครเป็นสมาชิกจึงหมดกังวลได้ บางที่คุณสามารถทิ้งกระเป๋าไว้ในห้องที่คุณเช่า แล้วออกไปทานอาหารข้างนอกหรือเที่ยวชมวิวได้อีกด้วย สะดวกสบายอะไรอย่างนี้ !
ช่วงหลังๆ มานี้มีหลายที่ถึงกับมีห้องอาบน้ำให้ด้วย หรือมีร้านที่มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไว้บริการ ถึงแม้ว่าราคาของที่นั่ง (ห้องส่วนตัว) แต่ละเกรดราคาจะแตกต่างกัน แต่รับรองว่าถูกว่าโรงแรมอย่างแน่นอนค่ะ
4. การเข้าใช้บริการ
ถึงแม้ค่าบริการจะแตกต่างกันไปแต่ละร้าน แต่ส่วนใหญ่แล้วต้องลงทะเบียนสมาชิกในการเข้าใช้ครั้งแรก จำเป็นต้องกรอกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตน และเนื่องจากค่าเข้าใช้บริการมีราคาถูก ถ้าหากไม่มีขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ก็ค่อนข้างจะน่ากลัว ยิ่งไปกว่านั้น ค่าเข้าใช้บริการครั้งแรกส่วนใหญ่จะต้องจ่ายเพิ่ม 200-300 เยน แน่นอนว่าครั้งถัดไปไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
มีหลายที่ที่ระบบคิดค่าบริการของการใช้บริการระยะสั้นกับการใช้บริการระยะยาวต่างกัน การใช้บริการระยะยาวจะมีค่าใช้จ่ายรายชั่วโมงที่ถูกกว่า
5. ค่าบริการ
โดยภาพรวมแล้ว ความพิเศษของ Internet Cafe อยู่ที่ค่าใช้บริการที่แสนถูก ถึงแม้แต่ละร้านจะมีระบบคิดค่าบริการที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ค่าบริการนอกจากจะครอบคลุมค่าการใช้อินเตอร์เน็ตแล้ว ยังครอบคลุมการยืมมังงะ บุฟเฟต์เครื่องดื่ม หรือรวมไปถึงห้องอาบน้ำด้วย ตามรูปคือ Internet Cafe ที่สามารถเล่นบิลเลียดไม่จำกัดชั่วโมงได้ นอกจากนี้ยังมีร้านที่มีเกมส์ปาลูกดอก เกมส์ VR ที่กำลังฮิตอยู่ด้วย
การใช้บริการระยะสั้น มักจะมีค่าบริการที่แพงกว่า เช่น 30 นาที 200 เยนจะคิดค่าบริการเป็นนาที ถ้าเป็นคอร์สยาวๆ แล้วล่ะก็ ส่วนใหญ่มักจะกำหนดตายตัวเป็นรายชั่วโมง เช่น 3 ชม. ราคาตั้งแต่ 750 เยน, 8 ชม. ราคาตั้งแต่ 1,480 เยน ในกรณีที่จะพักค้างแรม แน่นอนว่าเลือกแบบระยะยาวจะคุ้มกว่า ทั้งบางร้านยังมีอาหารว่าง หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ (ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ไดร์เป่าผม ฯลฯ) วางจำหน่ายด้วยค่ะ
ถ้าหากสนใจ ลองเช็คจุดหมายที่จะไปเที่ยวดูว่า มี Internet Cafe อยู่หรือเปล่า แล้วคุณจะพบว่าที่นั่นมันสะดวกสบายมากจริง แต่อย่าอยู่เพลินจนลืมเที่ยวชมสถานที่ข้างนอกนะคะ !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่