ทริปสัมผัสธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมที่แต่งแต้มสีสันให้กับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
คิวชู ภูมิภาคที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ทั้งยังเป็นขุมทรัพย์ของเมนูอร่อยมากมาย ในบทความนี้เราจะมาแนะนำคอร์สเที่ยวห้ามพลาดของคิวชู เน้นไปที่สถานที่ทางประวัติศาสตร์และสวนต่างๆ เหมาะมากสำหรับผู้ที่เดินทางมาคิวชูเป็นครั้งแรก รับรองว่าจะเป็นโยชน์ต่อการวางแผนทริปของคุณอย่างแน่นอน (รูปปก / เอื้อเฟื้อภาพโดย: สำนักงานปราสาทคุมาโมโตะ)
*บทความนี้ได้รับการสนับสนุนโดย GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN
ค้นพบญี่ปุ่นในมุมที่คุณไม่เคยรู้จัก !
เมื่อพูดถึงทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่น หลายคนก็อาจนึกถึงโตเกียว โอซาก้า เกียวโต ภูเขาไฟฟูจิ และฮอกไกโด แต่จริงๆ แล้วญี่ปุ่นก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ "GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN" ที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวพากันจับตามอง เป็นบริเวณที่มีสภาพอากาศอบอุ่น สามารถสัมผัสกับประสบการณ์แบบญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลาย ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเมนูอร่อย นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่เดินทางมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกแล้ว ยังสามารถมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ที่เคยมาญี่ปุ่นได้ด้วย
ดูข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทาง GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ : https://japan-west-goldenroute.com/
Kitakyushu เมืองที่มีเสน่ห์เป็นทิวทัศน์ย้อนยุคจากประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สวยงาม
เมือง Kitakyushu ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะทางทิศเหนือสุดของคิวชู เป็นเมืองใหญ่ที่คึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย ในขณะเดียวกันก็เป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ มีทั้งทะเลและภูเขา ภายในเมืองเป็นที่ตั้งของสถานที่ 4 แห่งซึ่งคอยพลักดันการเข้าสู่ยุคโมเดิร์นของญี่ปุ่น และได้รับการระบุให้เป็น "มรดกการปฏิวัติอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยุคเมจิ" โดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2015
▼ ดูข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดเมือง Kitakyushu ได้ที่นี่
https://www.gururich-kitaq.com/th/
ดูข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทาง GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ : https://japan-west-goldenroute.com/
Mojiko สัญลักษณ์ของเมืองท่าที่คอยสนับสนุนญี่ปุ่นสมัยใหม่
Mojiko เป็นท่าเรือที่เปิดกิจการขึ้นในปี 1889 ได้รุ่งเรืองขึ้นในฐานะจุดพักการซื้อขายถ่านหินระหว่างประเทศ และศูนย์กลางการติดต่อซื้อขายกับประเทศฝั่งแผ่นดินใหญ่ ภายในบริเวณมีอาคารที่มีเสน่ห์หลงเหลืออยู่มากมาย สามารถรับชมสิ่งก่อสร้างจากช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ยุคโมเดิร์น เช่น อดีตด่านศุลกากร Moji Zeikan ที่สร้างขึ้นในปี 1912 และโดดเด่นด้วยโครงสร้างอิฐแดงกับหลังคาปูกระเบื้อง และสถานี JR Mojiko ที่เพิ่งได้รับการฟื้นฟูสู่สภาพดั้งเดิมในยุค 1914 เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งยังมีศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวที่รองรับภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลีอยู่อีกด้วย
การท่องเที่ยวในบริเวณนี้สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเช่าจักรยานจากร้าน Joyint Mojiko ที่อยู่ห่างสถานี Mojiko โดยเดินเพียง 10 นาที เหมาะสำหรับปั่นรับลมทะเลพลางมุ่งหน้าไปยังศาลเจ้า Mekari ที่ประดิษฐานอยู่บนช่องแคบ Kanmon มาตั้งแต่ 1,800 ปีก่อน หากเข้าสักการะก็จะสามารถรับโอมิคุจิทรงปลาปักเป้าซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของช่องแคบ Kanmon กลับมาเป็นของที่ระลึกได้ด้วย
กรณีที่ต้องการเดินเล่นรอบๆ Mojiko ก็ไม่ควรพลาดย่านการค้า Sakaemachi Ginten เป็นบริเวณที่สามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินชมเมืองในหลากหลายบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นการช้อปสินค้าตามร้านที่คนท้องถิ่นชอบใช้บริการ หรือเดินไปตามตรอกซอยที่เรียงรายคาเฟ่และบาร์
ปราสาท Kokura ปราสาทชื่อดังที่สัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม
ปราสาท Kokura ก่อตั้งขึ้นในปี 1602 เป็นปราสาทที่โดดเด่นด้วยอาคารหลักอันยิ่งใหญ่ แม้จะถูกเผาทำลายไปในสงครามปี 1866 แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1959 ตัวอาคารหลักมีชั้น 5 ใหญ่กว่าชั้น 4 เป็นลักษณะเด่นที่ไม่มีใครเหมือนในยุคนั้น เมื่อเข้าสู่ฤดูชมซากุระหรือใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีการจัดอีเวนต์ขึ้น เป็นช่วงเวลาที่คึกคักไปด้วยผู้คนมากเป็นพิเศษ
ภายในปราสาทมีการจัดแสดงเกี่ยวกับขุนพลที่เกี่ยวข้องกับปราสาท Kokura และแบบจำลองตัวอาคารหลักในยุคเริ่มก่อตั้ง รวมถึงมุมให้บริการถ่ายรูปที่ระลึกในชุดซามูไรหรือเจ้าหญิง ทั้งยังมีแผ่นพับภาษาอังกฤษ เกาหลี จีนตัวย่อ และจีนตัวเต็มให้บริการอีกด้วย
ปราสาทนี้มีกองพล Kokurajo Bushotai ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเผยแพร่ประวัติศาสตร์ของ Kokura และเสน่ห์ของตัวปราสาท โดยจะออกปฏิบัติการทำความสะอาดเกือบทุกวัน สามารถเข้าไปขอถ่ายรูปหรือวิดีโอเพื่อเป็นที่ระลึกได้ด้วย
นอกจากนี้ ชั้นบนสุดของอาคารหลักยังเป็น Castle Cafe ที่ให้คาเฟ่ชื่อดังในเมือง Kitakyushu มาพลัดเปลี่ยนกันให้บริการในแต่ละวัน สามารถผ่อนคลายได้ราวกับเป็นเจ้าของปราสาทเลยทีเดียว
ฝั่งตะวันออกของปราสาทเป็นที่ตั้งของสวนปราสาท Kokura สามารถแวะไปเพื่อสัมผัสประสบการณ์ชงชาหรือเวิร์คช็อปผ้า Kokura Ori ได้
หลังจากชมปราสาท Kokura แล้ว ในระหว่างเดินทางกลับสถานี Kokura ก็สามารถแวะเดินชิมอาหารอร่อยๆ ได้ที่ตลาด Tanga ที่มีประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี และย่านการค้า Uomachi Ginten ที่อยู่ติดกัน
เมืองฟุกุโอกะ มหานครแห่งคิวชูที่เป็นประตูหน้าของการเดินทางทางบก ทะเล และอากาศ
เมืองฟุกุโอกะตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะ เมืองแสนคึกคักแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของคิวชูในหลากหลายด้าน ทั้งการปกครอง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และแฟชั่น เนื่องจากมีสนามบินอยู่ใกล้ใจกลางตัวเมืองจึงสะดวกต่อการท่องเที่ยวมาก ใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาทีโดยรถไฟใต้ดินจากสนามบินฟุกุโอกะไปยังสถานีฮากาตะ
▼ ดูข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดเมือง Fukuoka ได้ที่นี่
https://yokanavi.com/th/
ดูข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทาง GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ : https://japan-west-goldenroute.com/
Kitazaki ย่านใกล้ตัวเมืองที่มาพร้อมกับวิวภูเขาและทะเล
ย่าน Kitazaki ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงโดยนั่งรถบัสจาก Tenjin ซึ่งเป็นย่านการค้าอันดับหนึ่งของคิวชู สามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมหลากหลายท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของคาบสมุทร Itoshima สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อมาถึงบริเวณนี้คือเดินทางไปที่สมาคมท่องเที่ยว Itoshima Hanto Eco Tourism Kyokai และขอเช่า E-Bike จักรยานประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมกับระบบเสริมแรงปั่นด้วยไฟฟ้า บริเวณนี้มีจุดน่าสนใจอยู่มากมาย เช่น คาเฟ่เก๋ๆ อ่าว Imazu ที่สามารถเล่น SUP ได้ และสวนสาธารณะ Umizuri ที่สามารถตกปลาทะเลได้โดยไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์มาเอง การเดินทางด้วย E-Bike ช่วยให้เที่ยวสถานที่เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย สามารถใช้ได้ทั้งถนนริมทะเลและเส้นทางตามป่าเขา ส่วนที่พักเราก็ขอแนะนำ Karadomari Village ที่จะให้คุณได้ตั้งแคมป์ท่ามกลางธรรมชาติ สะดวกมากเนื่องจากมีแพลนแบบไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์มาเอง สามารถเช่าอุปกรณ์แคมป์และซื้อวัตถุดิบอาหารได้ที่ที่พักเลย แม้แต่มือใหม่ด้านการตั้งแคมป์ก็สามารถดื่มด่ำบรรยากาศสุดพิเศษที่แสนอิสระได้
ร้านแผงลอยของฟุกุโอกะ ประสบการณ์อาหารหลากแนวที่ได้รับการจับตามองในระดับโลก
ร้านแผงลอยของเมืองฟุกุโอกะได้รับการจับตามองเป็นอย่างสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ได้ไปปรากฏอยู่บน New York Times และไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึงขนาดที่มี "ผู้เชี่ยวชาญร้านแผงลอย" คอยให้บริการอยู่ที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวภายในสนามบินฟุกุโอกะ เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการทราบวิธีใช้บริการร้านแผงลอย
ภายในเมืองฟุกุโอกะมีร้านแผงลอยกว่า 100 ร้าน โดยเฉพาะย่าน Nakasu ในเขตฮากาตะนั้น เป็นบริเวณที่มีร้านแผงลอยมากมายเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ ให้ทิวทัศน์ที่สมกับเป็นฟุกุโอกะมากๆ ในพักหลังนี้ก็มีการเปิดโซนร้านแผงลอยใหม่ที่ย่าน Nagahama ด้วยเช่นกัน พลักดันให้ฟุกุโอกะมีชีวิตชีวาขึ้นไปอีก ร้านส่วนใหญ่จะพากันเปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเย็น และจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมากมาย
เมนูที่รับประทานได้ที่นี่มีทั้งยากิโทริ โอเด้ง (เมนูต้มจากวัตถุดิบอย่างผักและลูกชิ้นปลา) และทงคตสึราเมงซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำฟุกุโอกะ ในพักหลังนี้ก็มีร้านแผงลอยแนวใหม่ๆ เปิดขึ้นด้วย เช่น อาหารฝรั่งเศส อาหารนานาชาติ บาร์ และกาแฟ หากเลือกร้านที่ต้องการใช้บริการไว้ล่วงหน้า ก็จะช่วยให้การเที่ยวร้านแผงลอยของคุณราบรื่นขึ้นอย่างแน่นอน
ร้านแผงลอยของเมืองฟุกุโอกะเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1945 ซึ่งเป็นช่วงหลังสงครามเพียงไม่นาน ปัจจุบันนี้ก็ยังมีบรรยากาศแบบยุคนั้นหลงเหลืออยู่ สามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมร้านแผงลอยที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น ทั้งยังสามารถพูดคุยกับผู้คนท้องถิ่นและชมการปรุงอาหารได้อย่างใกล้ชิด เป็นวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์ของญี่ปุ่นที่ควรสัมผัสให้ได้สักครั้ง
เมืองคุมาโมโตะ การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
เมืองคุมาโมโตะตั้งอยู่เกือบใจกลางคิวชู เดินทางถึงได้อย่างสะดวกเพียงนั่ง Kyushu Shinkansen จากเมืองฟุกุโอกะ (สถานีฮากาตะ) ประมาณ 33 นาที ภายในมีบรรยากาศเมืองชานปราสาทเก่าแก่คอยให้สัมผัสอยู่มากมาย เช่น ร้านค้าที่รีโนเวทมาจากบ้านเรือนโบราณ และปราสาทคุมาโมโตะที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมือง
▼ ดูข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดเมือง Kumamoto ได้ที่นี่
https://kumamoto-guide.jp/th/
ดูข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทาง GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ : https://japan-west-goldenroute.com/
ปราสาทคุมาโมโตะ หนึ่งในสามปราสาทดังแห่งญี่ปุ่น
ปราสาทคุมาโมโตะก่อตั้งขึ้นโดย Kato Kiyomasa ขุนผลผู้ถูกขนานนามว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างปราสาท โดยเริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 1601 และใช้เวลาสร้างถึง 7 ปี เป็นปราการขนาดใหญ่ที่คำนึงถึงการเกิดสงครามจริงๆ ตัวปราสาทมีพื้นที่ 98 เฮกตาร์ กินพื้นที่รอบข้างถึง 5.3 กิโลเมตร อาคารหลักและอาคาร Honmaru Goden ได้ถูกเผาทำลายไปในเหตุการณ์อัคคีภัยใหญ่ปี 1877 ภายหลังในปี 1960 จึงมีการก่อสร้างอาคารหลักขึ้นใหม่ ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวเขตคุมาโมโตะปี 2016 ก็ได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน แต่ตัวอาคารหลักก็ได้รับการบูรณะอย่างทั่วถึง ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่มีการจัดนิทรรศการอยู่ภายใน และสามารถขึ้นไปชมวิวที่ชั้นบนสุดได้ หากใช้บริการแอปพลิเคชั่นทางการของปราสาทคุมาโมโตะ ก็จะสามารถฟังคำบรรยายนิทรรศการในภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลีได้ด้วย
ส่วนอื่นๆ ของปราสาทก็อยู่ในระหว่างบูรณะเช่นกัน สามารถชมความคืบหน้าของการบูรณะเหล่านี้ได้ที่ Tokubetsu Kengaku Tsuro ทางเดินลอยฟ้าสุดพิเศษของปราสาทคุมาโมโตะที่อยู่เหนือพื้นดิน 6 เมตร ช่วยให้ชมปราสาทคุมาโมโตะได้อย่างชิด ทั้งส่วนอาคารหลักและเหล่าป้อมปราการที่เป็นทรัพย์สมบัติทางวัฒนธรรม
Suizenji Jojuen สวนที่สามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์สวยงามของสี่ฤดูกาล
Suizenji Jojuen เป็นสวนญี่ปุ่นที่มีศูนย์กลางเป็นบ่อน้ำจากน้ำบาดาลของ Aso ทำการจัดวางหินปริ่มน้ำและเนินจำลองไว้ให้ดูราวกับเป็นภูเขาฟูจิ มีจุดเริ่มต้นจากการสร้างโรงน้ำชาในปี 1632 โดยเจ้าครองแคว้นคุมาโมโตะ และเสร็จสมบูรณ์อยู่ในสภาพที่สวยงามแบบปัจจุบันเมื่อปี 1671 ภายในบ่อน้ำที่กว้างราว 1 เฮกตาร์นี้มีปลาโคยสีสันสดใสว่ายอยู่ เหมาะสำหรับการเดินชมธรรมชาติที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เช่น ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง หลังจากเดินชมสวนแล้วก็ไม่ควรพลาด Kokin Denju no Ma ซึ่งอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน เป็นอาคารที่ขนย้ายมาจากพระราชวังเกียวโตในปี 1912 หลงเหลือไว้ด้วยโครงสร้างเก่าแก่อย่างเสาและหน้าต่างจากประมาณ 400 ปีก่อน เป็นจุดที่สามารถชมสวนได้อย่างผ่อนคลาย พลางลิ้มรสมัทฉะและขนมอร่อยๆ
เนื่องจากมีทัวร์ทัศนศึกษาภาษาอังกฤษให้บริการด้วย จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เรื่องราวของ Suizenji Jojuen อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น (มีค่าใช้จ่าย)
เมืองคาโกชิม่า สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่จากอิทธิพลของภูเขาไฟ
เมืองคาโกชิม่าเปรียบเสมือนศูนย์กลางจังหวัดคาโกชิม่าที่อยู่ทางสุดขอบทิศใต้ของคิวชู ภายในเมืองมีทั้งสถานี Kagoshima Chuou ที่รองรับรถไฟ Kyushu Shinkansen และ Tenmonkan ที่เป็นย่านช็อปปิ้งอันดับหนึ่งของคิวชูฝั่งใต้ ใกล้กับตัวเมืองคาโกชิม่านี้มี Sakurajima ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ สามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมหลากหลายท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
▼ ดูข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดเมือง Kagoshima ได้ที่นี่ (ภาษาอังกฤษ)
https://www.kagoshima-yokanavi.jp/en
ดูข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทาง GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ : https://japan-west-goldenroute.com/
Sakurajima สัมผัสชีพจรของโลกผ่านภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่
Sakurajima ดูราวกับว่าลอยอยู่บนอ่าว Kinko ของเมืองคาโกชิม่า เป็นภูเขาไฟทรงผสานตัวที่มีขนาดประมาณ 80 ตารางกิโลเมตร และกินพื้นที่รอบข้างราว 52 กิโลเมตร ได้รับการระบุให้เป็นอุทยานแห่งชาติ Kirishima Kinkowan ภูเขาไฟลูกนี้ก่อตัวขึ้นราว 26,000 ปีก่อน ในอดีตเคยปะทุขึ้นอย่างรุนแรงถึง 17 ครั้ง และยังคงคุกรุ่นอยู่ในปัจจุบัน ใกล้ๆ กับจุดจอดเรือข้ามฟากมี Sakurajima Visitor Center ที่สามารถเรียนรู้ปฏิกิริยาทางภูเขาไฟของ Sakurajima วิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่น และธรรมชาติของบริเวณนี้ ผ่านทางวิดีโอ แบบจำลอง และแผ่นจัดแสดง หากมีโอกาสได้มา Sakurajima ก็ควรแวะให้ได้สักครั้ง
หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับ Sakurajima แล้วก็ขอแนะนำให้ลองเช่าจักรยานครอสไบค์และปั่นเที่ยวภายในเกาะดู รับรองว่าจะได้ดื่มด่ำทะเลสวยๆ และธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ไปพร้อมๆ กับสายลมที่เย็นสบาย
Senganen สวนที่สามารถชมทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ของ Sakurajima
ตระกูล Shimazu เป็นตระกูลที่ปกครองละแวกคาโกชิม่าตั้งแต่ยุคกลางถึงยุคโมเดิร์น รวมระยะเวลากว่า 800 ปี Senganen เป็นสถานที่พักตากอากาศของตระกูลดังกล่าว สร้างขึ้นบนตำแหน่งอันยอดเยี่ยมริมทะเลในปี 1658 โดย Mitsuhisa ผู้เป็นหัวหน้าตระกูลรุ่นที่ 19 จุดเด่นของสวนนี้คือการใช้ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เป็นพื้นหลัง จัดวางอ่าว Kinko และ Sakurajima ไว้ให้ดูเหมือนบ่อน้ำและเนินจำลอง ซึ่งเป็นสไตล์ที่มักพบเห็นได้ตามสวนญี่ปุ่น ภายในบริเวณที่กว้างขวางนี้มีจุดน่าสนใจมากมาย เช่น ห้องของเจ้าครองแคว้นที่อยู่ภายในคฤหาสน์ และประตู Suzumon ที่ในอดีตอนุญาตให้เจ้าครองแคว้นและผู้สืบทอดผ่านได้เท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีทัวร์ภาษาอังกฤษให้บริการในวันพุธและอาทิตย์ช่วง 12:00 น. เป็นต้นไปอีกด้วย
Senganen มีกิจกรรมทางวัฒนธรรมให้ลองสัมผัสอย่างหลากหลาย เช่น ประสบการณ์ตัดแก้ว Satsuma Kiriko ที่เป็นงานฝีมือดั้งเดิมของจังหวัดคาโกชิม่า และการลองสวมชุดเกราะที่จำลองขึ้นจากคอลเลคชั่นของตระกูล Shimazu (ต้องจองล่วงหน้า)
ติดกับ Senganen เป็นที่ตั้งของ Shoko Shuseikan อาคารที่เป็นต้นกำเนิดของ Shuseikan ซีรีย์สิ่งก่อสร้างสไตล์ตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งสร้างขึ้นโดย Shimazu Nariakira ผู้เป็นเจ้าครองแคว้นในศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันได้กลายมาเป็นอาคารที่ทำการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของตระกูล Shimazu
ทั้งหมดนี้เป็นคอร์สคิวชูยอดฮิตตั้งแต่ทิศเหนือไปจนถึงทิศใต้ พลางดื่มด่ำกับเมนูอร่อยและสถานที่น่าสนใจมากมาย สถานที่ทางประวัติศาสตร์ของคิวชูจะสวยงามมากๆ เมื่อได้รับการแต่งแต้มสีสันจากธรรมชาติของสี่ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นซากุระ พืชพรรณเขียวขจี หรือใบไม้เปลี่ยนสี เหมาะมากที่จะลองเดินทางมาในฤดูกาลโปรดของคุณ
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่