แนะนำอาหารเด็ดฮอกไกโด เจาะลึก "เนื้อย่างเจงกิสข่าน" และร้านดังที่ควรไป [อัพเดต2020]
เนื้อย่างเจงกิสข่าน เป็นอาหารพื้นเมืองของฮอกไกโดที่คนญี่ปุ่นทั่วประเทศต่างก็คุ้นเคยกันดี ในวันนี้เราจะมาสอนวิธีรับประทานและแนะนำร้านอร่อยในฮอกไกโดให้ทุกคนได้รู้จักกัน
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
เนื้อย่างเจงกิสข่าน คืออะไร?
เนื้อย่างเจงกิสข่าน (ジンギスカン) เป็นอาหารประเภทปิ้งย่างที่ใช้เนื้อแกะ เรียกว่า "มัทเทิน" (マトン เนื้อแกะที่โตเต็มวัย) หรือ "แลม" (ラム เนื้อลูกแกะ) เป็นเมนูที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในฐานะ "โซลฟู้ด (Soul Food อาหารที่ทำให้คิดถึงบ้าน) ของชาวฮอกไกโด
ในปัจจุบัน เนื้อย่างเจงกิสข่านได้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศญี่ปุ่นจนถึงกับมีร้านที่ขายอุปกรณ์และเครื่องปรุงเพื่อให้คนสามารถซื้อกลับไปทำเองที่บ้านได้
การรับประทานเนื้อย่างเจงกิสข่านจะต้องใช้หม้อชนิดพิเศษที่เรียกว่า “หม้อเจงกิส” (ジンギス鍋) ที่มีลักษณะนูนตรงกลาง บริเวณร่องด้านข้างมีไว้สำหรับใส่ผักและส่วนที่นูนขึ้นมาจะใช้ย่างเนื้อแกะ ทำให้น้ำซุปจากเนื้อแกะที่กำลังย่างไหลลงไปสู่เนื้อผัก คนส่วนใหญ่มักจะรู้สึกว่าเนื้อแกะเป็นเนื้อที่มีกลิ่นสาบเฉพาะตัวค่อนข้างแรง แต่ที่ฮอกไกโด ร้านต่างๆ จะมีซอสสูตรลับใช้ที่กลบกลิ่นเหล่านี้ได้จนหมด เหลือไว้เพียงรสสัมผัสนุ่มๆ ชุ่มฉ่ำเกินบรรยายของเนื้อแกะ
1. Genghis Khan Daruma สาขาหลัก (ซัปโปโร)
Genghis Khan Daruma (成吉思汗だるま 本店) เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดตัวขึ้นในปี 1964 มีจุดเด่นอยู่ที่การใส่หัวหอมลงไปเป็นจำนวนมาก เนื้อที่ย่างบนเตาถ่านและหอมหัวใหญ่จะช่วยดึงความหวานออกมาได้มากเป็นพิเศษจนได้เป็นรสชาติที่ไม่เหมือนใคร
ร้าน Genghis Khan Daruma จะมีพนักงานมาเตรียมการย่างเนื้อเจงกิสข่านพร้อมกับนำวัตถุดิบออกมาให้ตั้งแต่คุณยังไม่เริ่มสั่งอาหาร นี่ถือเป็นสไตล์เฉพาะตัวของทางร้านที่อาจจะทำให้คนที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรกตกใจได้ หากคุณไปในช่วงเวลาที่คนเยอะมากๆ อาจจะต้องรอคิวนานถึง 3 ชั่วโมง ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้รีบไปกันนะครับ
2. Itadakimasu (ซัปโปโร)
Itadakimasu (いただきます) เป็นร้านที่เสิร์ฟเฉพาะเนื้อแกะชั้นสูงสายพันธุ์ “ซัฟฟอล์ค” (Suffolk) ที่มาจากฟาร์มของทางร้านเท่านั้น แกะพันธุ์นี้มีอัตราการเพาะเลี้ยงในญี่ปุ่นประมาณ 0.5% นอกจากราคาจะค่อนข้างจะเป็นมิตรแล้ว เนื้อแกะยังมีชั้นไขมันที่กำลังดี ให้รสหวานและไม่มีกลิ่นสาบรุนแรงสมชื่อเนื้อชั้นดีของมัน ทำให้มีทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาที่ร้านนี้กันอย่างไม่ขาดสาย
3. Sapporo Genghis Khan สาขาหลัก (ซัปโปโร)
บนชั้น 2 ของอาคารสีขาวที่มีป้ายเขียนไว้ว่า「松田つり具」(อุปกรณ์ตกปลา Matsuda) คือ ที่ตั้งของร้าน Sapporo Genghis Khan สาขาหลัก (さっぽろジンギスカン本店) เนื้อย่างเจงกิสข่านที่นำมาเสิร์ฟนั้นเป็นเนื้อลูกแกะสุดหรูจากนิวซีแลนด์ซึ่งทางร้านจะแล่ด้วยมือเท่านั้น ทำให้สามารถตัดส่วนที่เป็นพังผืดหรือไขมันส่วนเกินอออกไป เพื่อให้คุณได้รับประทานเนื้อแดงสดใหม่ที่ไม่ติดมัน น้ำจิ้มของทางร้านทำจากโชยุหมักเองใส่งาลงไปเยอะๆ
ในขณะที่ร้านส่วนใหญ่ให้ทานเนื้อย่างเจงกิสข่านคู่กับถั่วงอกและหัวหอม ร้าน Sapporo Genghis Khan แห่งนี้จะให้ทานคู่กับต้นกระเทียม เห็ดไมตาเกะและผักฮอกไกโดชนิดต่างๆ ตามฤดูกาล
4. Aji no Hitsujigaoka (ซัปโปโร)
Aji no Hitsujigaoka (味の羊ヶ丘) เป็นร้านที่พิถีพิถันเรื่องการคัดสรรเนื้อและน้ำจิ้มเป็นพิเศษ หัวหน้าพ่อครัวจะเลือกเนื้อแกะคุณภาพสูงที่ไม่มีกลิ่นสาบเท่านั้นมาใช้ ทำให้กลายเป็นจุดเด่นของร้านนี้ไป น้ำจิ้มทำจากโชยุที่มีแอปเปิ้ลหรือหัวหอมและผักผลไม้อื่นๆ อีก 10 ชนิด มาผสมรวมกันและใช้เวลาเคี่ยวหมักนานถึง 1 เดือน รสชาติของน้ำจิ้มที่หมักจนได้ที่จะสามารถไปกันได้ดีกับเนื้อแกะ ผักร้านนี้เติมได้ไม่อั้น แถมยังมีแบบที่ซื้อกลับไปทำกินเองที่บ้านได้ด้วยครับ
5. Sapporo Beer garden (ซัปโปโร)
Sapporo Beer garden (サッポロビール園) เป็นร้านที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับเบียร์และเนื้อย่างเจงกิสข่านในเวลาเดียวกัน ร้านนี้จะขายเฉพาะเบียร์ที่มีขายแค่ในฮอกไกโดเท่านั้น อย่างเช่น “Sapporo Classic” หรือ “Sapporo Five Stars” พื้นที่ในร้านแบ่งออกเป็น 5 ห้องโถง แต่ละห้องจะมีเจงกิสข่านและเมนูอาหารที่แตกต่างกันออกไป
นอกจากนี้ คุณยังสามารถไปชมเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เบียร์ซัปโปโรได้ที่ “พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร” (サッポロビール博物館) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันได้อีกด้วย
6. Fukuro - tei (ซัปโปโร)
ว่ากันว่าเนื้อย่างเจงกิสข่านของร้าน Fukuro-tei (ふくろう亭) มีที่มามาจากบ้านเกิดภรรยาของเจ้าของร้านรุ่นแรกซึ่งอยู่ในเขตโตโยฮิระ (อำเภอซัปโปโร) และเป็นเมนูที่คนในแถบทซึกิซามุต่างก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
เนื้อที่ใช้เป็นเนื้อส่วนไหล่ของลูกแกะจากออสเตรเลียที่มีความนุ่มชุ่มฉ่ำและแทบจะไม่มีกลิ่นสาบเฉพาะตัวแบบเนื้อแกะทั่วไปเลย น้ำจิ้มเจงกิสข่านของร้านนี้ทำจากโชยุ กระเทียมและขิงเป็นหลัก เสริมด้วยเครื่องเทศอีก 16 ชนิด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี นอกจากจะมีเนื้อลูกแกะที่สดใหม่ให้รับประทานแล้ว ยังมีไส้กรอกเนื้อลูกแกะที่ปรุงรสด้วยกระเทียมอยู่ด้วย เนื้อส่วนลิ้นของลูกแกะก็เป็นเมนูแนะนำเช่นกัน
7. Tsukisappu Jingisukan Club (ซัปโปโร)
Tsukisappu Jingisukan Club (ツキサップじんぎすかんクラブ) เป็นร้านที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1953 และจะเสิร์ฟเฉพาะเนื้อแกะชั้นดีเท่านั้น โต๊ะตั้งอยู่ริมระเบียงและเฟอร์นิเจอร์ในร้านล้วนทำจากไม้ในสไตล์เรียบหรู ร้านนี้มีเซ็ตเนื้อย่างเจงกิสข่านแบบที่แถมผักและข้าวปั้นมาให้ด้วย
น้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้านเข้ากันได้ดีกับเนื้อแกะและจะทิ้งอาฟเตอร์เทสต์ที่เผ็ดร้อนอยู่ในปาก และการรับประทานคู่กับไวน์ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของร้าน Tsukisappu Jingisukan Club ร้านนี้มีไวน์อยู่หลายชนิดซึ่งคุณสามารถเลือกให้ตรงกับความชอบของตัวเองได้เลย
8. Sapporo Genghis Khan Shirokuma (ซัปโปโร, โตเกียว)
ร้าน Sapporo Genghis Khan Shirokuma (札幌成吉思汗 しろくま) ใช้เนื้อจาก "ฟาร์มแกะ Charomen” ที่อยู่ในเมืองชิรานุกะ ฟาร์มแห่งนี้จะส่งเนื้อแกะสำหรับทำเนื้อย่างเจงกิสข่านให้กับร้านนี้เท่านั้น และเนื่่องจากเนื้อไม่ได้ผ่านการแช่แข็งมา จึงทำให้คุณสามารถลิ้มรสความสดใหม่ตามธรรมชาติของเนื้อแกะได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ร้าน Sapporo Genghis Khan Shirokuma ยังมีเนื้อแกะอีก 3 ประเภท ซึ่งเป็นเนื้อนำเข้าที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี เมนูแนะนำของร้านนี้ คือ ข้าวแกงกะหรี่เนื้อแกะที่ทั้งข้าวและเนื้อแกะต่างก็ผ่านการเลือกมาอย่างพิถีพิถัน
9. Genghis Khan Okuroya (อาซาฮิคาวะ)
Genghis Khan Okuroya (成吉思汗 大黒屋) ร้านเนื้อย่างเจงกิสข่านที่เปรียบเสมือนตัวแทนของเมืองอาซาฮิคาวะ ที่นั่งภายในร้านเป็นแบบนั่งพื้นซึ่งให้บรรยากาศแนวญี่ปุ่นโบราณ ทางร้านใส่ใจในการเลือกสรรและรักษาความสดใหม่ของเนื้อโดยไม่ใช่การแช่แข็งเพื่อเน้นความนุ่มของเนื้อลูกแกะเป็นจุดขาย เมนูแนะนำของทางร้าน คือ “เนื้อลูกแกะสดหมักสมุนไพร” ซึ่งทางร้านต้องใช้เวลาคิดค้นและลองผิดลองถูกอยู่เป็นระยะเวลากว่า 1 ปี กว่าจะได้สูตรที่สมบูรณ์
10. Matsuo Jingisukan (ซัปโปโร, ชิโตเสะ)
เนื้อย่างเจงกิสข่านของร้าน Matsuo Jingisukan (松尾ジンギスカン) เป็นเนื้อที่ผ่านการปรุงรสมาเป็นอย่างดีและถือเป็น “รสชาติดั้งเดิม” สำหรับชาวฮอกไกโด น้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้านจะมีส่วนผสมของแอปเปิ้ล หัวหอม ขิง โชยุและเครื่องเทศลับตามสูตรของทางร้านอีก 10 ชนิด เป็นสูตรเดิมที่ใช้มาตลอดตั้งแต่เปิดร้านและได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
เนื้อแกะที่ใช้เป็นเนื้อแกะชั้นดีจากนิวซีแลนด์และออสเตรเลียที่ทางร้านคัดมาอย่างพิถีพิถัน เนื้อที่นำไปย่างบนหม้อเจงกิสจะแช่ในซอสมาอยู่แล้ว เมื่อนำไปย่าง ตัวซอสและน้ำซุปจากเนื้อจะไหลลงไปกองที่บริเวณร่องของหม้อเพื่อให้เรานำผักลงไปต้มรับประทาน ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยเส้นอุด้งที่จะดูดเอาความอร่อยทั้งหมดเข้ามาไว้ในเส้น ในฮอกไกโดมีร้าน Matsuo Jingisukan อยู่ทั้งหมด 10 สาขา และในโตเกียวมี 3 สาขา อยู่ที่ชินจุกุ อากาซากะและกินซ่า ในวันธรรมดาจะมีอาหารเที่ยงแนะนำเป็นเมนู "ผัดยากิโซบะเจงกิสข่าน" ซึ่งมีขายแค่วันละ 20 ชุดเท่านั้น
เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีรับประทานเนื้อย่างเจงกิสข่านและร้านเด็ดที่เราเอามาแนะนำในวันนี้ มีร้านไหนที่คุณสนใจบ้างไหม? เมนูเจงกิสข่านนี้ นอกจากจะหารับประทานได้ที่ฮอกไกโดแล้วก็ยังมีร้านเด็ดๆ อยู่ในเมืองใหญ่ด้วยเช่นกัน จะนั่งทานที่ร้านหรือซื้อกลับมาทำเองที่บ้านก็ได้ ยังไงก็หาโอกาสไปลองทานเนื้อย่างเจงกิสข่านกันให้ได้นะครับ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่