เข้าครัวสู้ COVID! วิธีทำเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นง่ายๆ ที่บ้าน + เคล็ดลับกินเนื้อย่างให้อร่อย!

สถานการณ์โรค COVID19 ระบาดต้องกักตัวอยู่บ้านแบบนี้ เบื่อๆ ก็มาทำอาหารกินกันดีกว่าค่ะ วันนี้ขอแนะนำวิธีทำเนื้อย่างยากินิคุ (Yakiniku) สไตล์ญี่ปุ่นแบบง่ายมากๆ ไม่ว่าใครก็ทำได้ แถมสูตรหมักหมู หมักเนื้อฉบับคนญี่ปุ่นมาเอง แนะนำน้ำจิ้มเด็ด พร้อมบอกเคล็ดลับในการกินเนื้อย่างให้อร่อย ไม่ต้องไปร้านแพงๆ ก็อร่อยกับเนื้อย่างได้ที่บ้าน!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

เตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบกัน!

ก่อนเริ่มทำก็ต้องเตรียมวัตถุดิบกันก่อน เราอยู่บริเวณย่านที่อยู่อาศัยในโตเกียวค่ะ ก็จะมีซูเปอร์มาร์เก็ตให้ไปเลือกช็อปของสดกัน ในซูเปอร์เองก็มีเนื้อให้เลือกเป็นแพ็กๆ แต่เราชอบไปร้านที่ขายเนื้อโดยเฉพาะเลยมากกว่า (รูปขวา) เพราะจะมีเนื้ออย่างดีและสดใหม่ในราคาไม่แพงมาก

ครั้งนี้เราซื้อผัก ซอส ส่วนเนื้อเราจะซื้อทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัวที่เป็นแพ็กจากซูเปอร์ และเนื้อสำหรับทำเนื้อย่างโดยเฉพาะจากร้านเนื้อ ใครอยู่ไทยก็ลองเลือกเนื้อวากิวอร่อยๆ มากันได้นะคะ! 

ช็อปของสดกันแล้วก็เอามาวางเรียงให้ดูก่อน นี่คืออุปกรณ์และวัตถุดิบของเราในวันนี้ค่ะ! เย้! จริงๆ ตอนเอาของมาเรียงถ่ายรูปนี่ก็เริ่มหิวแล้วแต่เราต้องอดทน เตรียมล้าง หั่น หมักอะไรให้เรียบร้อยก่อน

ต่อไปจะขออธิบายอุปกรณ์และขั้นตอนอย่างละเอียดกันนะคะ

เริ่มจากเนื้อที่เลือกซื้อมาจะเป็นเนื้อส่วนคอถึงไหล่ (Chuck ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 肩ロース:Kata Roosu) ทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัวเลยค่ะ เนื้อส่วนนี้จะมีไขมันแทรกกระจายอยู่ทั่ว จึงนุ่มสุดๆ และมักนำมาทำเนื้อย่างหรือชาบูชาบูนั่นเอง 

ส่วนจากร้านเนื้อก็เลือกเนื้อสไลด์บาง สำหรับทำเนื้อย่างโดยเฉพาะเช่นกัน แต่จะมีไขมันน้อยกว่าหน่อยค่ะ 

เนื้ออีกส่วนที่เหมาะกับการทำเนื้อย่าง (แต่ไม่ได้ซื้อมาในครั้งนี้เพราะหมดพอดี) คือ เนื้อคารุบิ (カルビ:Karubi) หรือก็คือ ส่วนอกถึงท้องที่จะมีไขมันแทรกอยู่ค่อนข้างมาก นุ่มอร่อย ในภาษาไทยเรียกกันว่าเสือร้องไห้นั่นเองค่ะ ทั้งนี้ก็เลือกตามใจคนกินได้เลยนะคะ ชอบส่วนไหน มันน้อย มันมาก ลุยโลด!

ต่อมาคือเครื่องปรุงที่จะใช้ในวันนี้ประกอบด้วย โชยุ, สาเก, มิริน, น้ำมันงา, เกลือ, พริกไทย, น้ำตาลทราย, เนย และซอสน้ำจิ้มเนื้อย่างหลากรสที่จะแนะนำต่อไป ทั้งเครื่องปรุงญี่ปุ่นและน้ำจิ้มสามารถหาซื้อได้ที่ไทยเช่นกันค่ะ

ส่วนผักนี่ก็เลือกตามที่ชอบได้เลย แนะนำเห็ดชนิดต่างๆ หน่อไม้ฝรั่ง หัวหอม และเราเลือกกะหล่ำปลีมาทำเครื่องเคียงค่ะ

และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เตาย่างนั่นเอง ถ้าจะกินกับครอบครัวเพื่อนฝูงให้สนุกก็ต้องเลือกเตาตั้งโต๊ะได้แบบนี้ โดยจะปรับความแรงไฟได้ และเติมเชื้อเพลิงเป็นแก๊สกระป๋องค่ะ ถ้าเอากระทะออกแล้วเอาหม้อมาวางแทนก็ทำเมนูอื่นอย่างสุกี้ยากี้หรือชาบูชาบูได้เหมือนกัน สะดวกสุดๆ

อุปกรณ์พร้อมเรียบร้อยแล้วก็มาเตรียมหมักหมูหมักเนื้อกันเลยดีกว่า!

สูตรเด็ดสำหรับหมักหมูและเนื้อ

เริ่มจากการหมักหมูกันก่อนเลยค่ะ สูตรง่ายๆ เลยก็คือ ใส่เครื่องปรุง โชยุ : มิริน : สาเก ด้วยอัตราส่วน 2 : 1 : 1 ครั้งนี้เราใส่ด้วยหน่วยช้อนโต๊ะค่ะ ต่อเนื้อหมูประมาณ 250 กรัม เพิ่มเกลือพริกไทยนิดหน่อย และใส่น้ำมันงาไปอีกเล็กน้อย ประมาณ 1 ช้อนชา ให้หมูนุ่มและมีกลิ่นหอมค่ะ

จากนั้นก็หมักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ส่วนใครจะหมักนานกว่านี้ก็ได้เช่นกัน หมักข้ามคืนได้เลยยิ่งดีค่ะ

ต่อไปจะเป็นสูตรหมักเนื้อนะคะ อันที่จริงเนื้อไม่จำเป็นต้องหมักก็ได้ค่ะ บางคนก็ชอบแบบไม่หมักจะได้รับรสของเนื้อและน้ำจิ้มได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเนื้อบางๆ ไม่หมักก็ไม่เป็นไรค่ะ (เนื้อแดงๆ ที่เห็นในรูปคือเราไม่หมักค่ะ)

แต่เราอยากได้รสที่หลากหลาย เลยหมักเนื้อสูตรแม่บ้านญี่ปุ่นไปด้วย เนื้อที่เราใช้ครั้งนี้ประมาณ 200 กว่ากรัม ต่อซอสหมักโชยุตามสูตรนี้ค่ะ : 

 

โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมสับเล็กน้อย (เราใช้ผงกระเทียมแทนค่ะ)

น้ำมันงา 1 ช้อนชา

งาคั่ว พริกไทย เกลือ ตามใจชอบ

 

ผสมเรียบร้อยแล้วก็หมักทิ้งไว้คู่กับหมูได้เลยค่ะ~

ระหว่างรอหมักเนื้อ ต่อไปจะขอทำเครื่องเคียงเป็นสลัดกะหล่ำปลีสไตล์ญี่ปุ่น วิธีทำก็ง่ายมากค่ะ ล้างกะหล่ำปลีเรียบร้อยแล้วก็ใส่ถุงซิปล็อก แล้วใส่เกลือ พริกไทย และน้ำมันงาอย่างละนิดละหน่อย ปิดถุงซิป แล้วเขย่าๆ ให้เข้ากัน เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

ใครชอบรสจัดก็ใส่เครื่องเยอะๆ ใครชอบรสอ่อนก็ใส่น้อยหน่อย แต่ระวังอย่าใส่น้ำมันงามากเกินไปนะคะ กลิ่นจะฉุนเอา 

ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เรียงใส่จานสวยๆ แบบนี้ได้เลยค่ะ

เตรียมเนื้อเตรียมเครื่องเคียงเสร็จแล้วก็มาเตรียมผักกันบ้าง ล้างผักและเห็ดต่างๆ นำไปหั่นให้เรียบร้อยแล้วมาจัดใส่จานเตรียมพร้อมลงเตา พอดีที่บ้านเรามีกิมจิจากเกาหลีอยู่ด้วย เลยเอามากินด้วยซะเลย เข้ากับเนื้อย่างสุดๆ

เตรียมเนื้อ เตรียมผัก เตรียมเครื่องเคียงเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็เตรียมตัวกินกันเลยค่ะ!

เคล็ดลับการกินเนื้อย่างให้อร่อย

พร้อมแล้วก็เริ่มกินได้เลย! แค่วางเนื้อลงไปก็อดใจไม่ไหวแล้ว~ และจะขอแบ่งปันเคล็ดลับการกินเนื้อย่างให้อร่อยด้วยเลยค่ะ

  1. ถ้าใครหมักเนื้อทิ้งไว้ในตู้เย็น ก่อนกินให้นำออกมาวางข้างนอกก่อนประมาณ 10 นาที ให้อุณหภูมิเนื้อเท่าอุณหภูมิห้อง จะทำให้ความร้อนกระจายทั่วเนื้อตอนย่าง
  2. ใช้ฮอตเพลทสำหรับทำเนื้อย่างโดยเฉพาะ (แบบที่มีรู) เพราะจะทำให้ไขมันออกมาจากเนื้อและไม่ค้างเติ่งอยู่บนกระทะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรนะคะ ใช้กระทะธรรมดาก็ได้ไม่ว่ากัน
  3. เปิดไฟอุ่นเตาให้เรียบร้อยก่อนเริ่มย่าง ใครไม่แน่ใจว่าเตาร้อนหรือยังก็ลองหยดน้ำลงไป ถ้ามีเสียงซู่ๆ ก็แสดงว่าพร้อมแล้ว!
  4. เริ่มย่างจากเนื้อที่มีมันมากก่อน เพื่อให้มีน้ำมันออกมาเคลือบผิวกระทะก่อนนั่นเอง
  5. อย่าพลิกเนื้อบ่อย พลิกแค่ครั้งเดียวได้ยิ่งดีเลยค่ะ เพราะจะทำให้น้ำในเนื้อไหลออกไป และไม่ชุ่มฉ่ำแล้วนั่นเอง

การเลือกน้ำจิ้มก็สำคัญนะ

แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการกินเนื้อย่างก็คือ น้ำจิ้มเนื้อย่างนั่นเอง ที่ไทยก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องปรุงญี่ปุ่น เราขอแนะนำแบรนด์ Kikkoman แบรนด์ดังเรื่องน้ำจิ้มและเครื่องปรุง

ครั้งนี้เราเลือกน้ำจิ้มเนื้อย่างของ Kikkoman มาลอง 2 รส คือ รสเผ็ด (ขวดซ้าย 中辛 : Chukara) และรสหวาน (ขวดกลาง 甘口 : Amakuchi) ส่วนขวดขวาเป็นซอสสตามินากระเทียม ซึ่งจริงๆ ใช้กับเมนูผัด แต่เราอยากลองอะไรใหม่ๆ บ้างเลยลองเอามากินกับเนื้อย่างดูค่ะ

ว่าแล้วก็มาลองน้ำจิ้มกันเลยดีกว่า! ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเนื้อหมูหมักแล้วอร่อยสุดๆ ไม่มีกลิ่นหมูเลย หอมงา และก็นุ่มสุดๆ ลองจิ้มน้ำจิ้มเนื้อย่างทั้ง 2 แบบแล้ว ส่วนตัวชอบซอสหวานมากกว่าเพราะเข้ากับเนื้อได้ดี ซอสเผ็ดก็อร่อยเหมือนกัน แต่ส่วนตัวคิดว่ามันเผ็ดน้อยไปหน่อย รสเลยจะจางๆ ไปสักนิดค่ะ (แต่ก็อร่อยเหมือนกันนะ)

ส่วนซอสกระเทียมเราว่าไม่ค่อยเหมาะเอามาเป็นน้ำจิ้มสักเท่าไรเพราะข้นเกินไป เป็นซอสผัดดีอยู่แล้วค่ะ ฮ่าๆ 

กินหมูแล้วก็ต้องกินเนื้อด้วย สมแล้วที่เป็นเนื้อเกรดดี อร่อยมากก เราชอบกินแบบไม่ต้องสุกมากค่ะ และอย่าลืมเคล็ดลับว่าพลิกแค่รอบเดียวพอถ้าทำได้ เนื้อจะชุ่มฉ่ำ นุ่มอร่อย

คำเตือน : ควรกินในห้องที่มีการระบายอากาศที่ดี เพราะอาจมีควันโขมง และกลิ่นเนื้อย่างคลุ้งตลอดคืนได้!

ขอถ่ายรูปให้ดูใกล้ๆ สักรูป จิ้มน้ำจิ้มก็คือมันดีมากกกก หมักก็อร่อย ไม่หมักก็อร่อย หมูว่าอร่อยแล้วนะ แต่เนื้อนี่แหละคืออันดับ 1 ของเนื้อย่าง Yakiniku

กินเนื้ออย่างเดียวไม่ดีต้องกินผักด้วยนะคะ แนะนำให้เอาเห็ดต่างๆ ไปย่างกับเนย บอกได้คำเดียวว่าอร่อยมากกก ไม่แพ้เนื้อย่างเลย โดยเฉพาะเห็ดเข็มทอง ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลยล่ะ

ระหว่างกินเนื้อย่างก็ต้องมีเครื่องดื่มอร่อยๆ ด้วยถึงจะเลิศ เราเลยจัดเหล้าบ๊วยมาดื่มคู่กัน ส่วนตัวชอบเหล้าบ๊วยของ Santory ค่ะ ราคาไม่แพง หาซื้อง่ายมีขายทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อที่ญี่ปุ่น 

กินเนื้อย่างอิ่มแล้ว ก็ต้องปิดท้ายด้วยของหวานสักหน่อย อันนี้เป็นขนมที่เราชอบมากๆ Yukimi Daifuku ไดฟุกุไส้ไอศกรีมชิ้นขนาดมินิ ข้างนอกหนึบๆ ข้างในหวานฉ่ำ อร่อยสุดๆ ยิ่งกินหลังเนื้อย่างแบบนี้ก็ยิ่งฟินขึ้นไปอีก

ปกติจะมีวางขายแพ็กเกจเล็ก (2 ชิ้น) ด้วยนะคะ แต่ครั้งนี้กินกันหลายคนก็เลยซื้อเป็นแพ็กใหญ่เอาให้จุใจไปเลย

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

เนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่น อยู่บ้านก็ทำเองได้ง่ายๆ~

จบไปแล้วกับเนื้อย่าง Yakiniku แสนอร่อย ถึงเราจะทำที่ญี่ปุ่น แต่ทุกคนที่ไทยก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นก็อร่อยกับอาหารญี่ปุ่นสุดหรูหราแบบนี้ได้ที่บ้าน ใครอยู่บ้านไม่มีอะไรทำ หรือกำลังหาเมนูใหม่ๆ ทำอยู่ ก็อย่าลืมเก็บเนื้อย่างโฮมเมดนี้ไว้เป็นตัวเลือกกันนะคะ

ครั้งหน้า tsunagu Japan จะรีวิวอาหารญี่ปุ่นเมนูไหน รอติดตามกันได้เลย!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

eve_elmt
eve_elmt
เราเป็นนักเรียนไทยอาศัยอยู่ในโตเกียว อยู่ญี่ปุ่นมาก็สามปีกว่าแล้ว ชอบเที่ยว ชอบลองสิ่งใหม่ๆ และชอบประเทศญี่ปุ่นมากๆ ก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ดีๆ ที่ญี่ปุ่นให้ทุกคน หวังว่าจะชอบบทความของเรานะ :)
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร