12 อันดับทุ่งดอกไม้ที่สวยงามไม่แพ้ซากุระในญี่ปุ่นตะวันออก ที่ญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ดอกซากุระนะ !
ในช่วงหลังๆ มานี้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมดอกซากุระโดยเฉพาะในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น สถานที่ชมซากุระมีมากมายจนนับไม่ท่วน แต่ยังมีสถานที่ชมดอกไม้ชนิดอื่นที่สวยงามไม่น้อยไปกว่ากัน วันนี้เราจะมาแนะนำทุ่งดอกไม้ที่คัดมาในญี่ปุ่นตะวันออกกัน
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. Hokuryu (北竜) ทุ่งดอกทานตะวันแสนสวย [ฮอกไกโด]
Captain76/Wikipediaชาวสวนท้องถิ่นได้เดินทางไปสำรวจยุโรปในปี 1979 และเมื่อเห็นทุ่งดอกทานตะวันได้ตัดสินใจนำมาเพาะปลูกในญี่ปุ่นเพื่อเป็นอาหารสุขภาพ ช่วงเริ่มแรกปลูกไว้เพื่อเก็บเกี่ยวน้ำมันดอกทานตะวันแต่ปัจจุบันปลูกเพื่อการท่องเที่ยวเป็นหลัก มีดอกทานตะวันถึง 1,500,000 ต้นในพื้นที่มากกว่า 23 เฮกตาร์ ดอกทานตะวันเหล่านี้จะบานช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ค่าเข้าชมฟรี
โฮมเพจ: portal.hokuryu.info/himawari (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 143-2 Itaya, Hokuryu-cho, Uryu-gun, Hokkaido (Google Map)
2. Farm Tomita (ファーム富田) ทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น [ฮอกไกโด]
663highland/Wikipediaพื้นที่บริเวณ Furano นั้นเต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์และเมื่อดอกไม้เหล่านี้บานจะหอมละมุนไปทั่ว ในปี 1903 ตระกูล Tomita ได้ย้ายไปตั้งถิ่นฐานที่ Furano และได้เริ่มปลูกลาเวนเดอร์ในปี 1958 น้ำมันดอกลาเวนเดอร์ของที่นี่ได้ชนะรางวัลชนะเลิศในงานประกวดน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ที่จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสในปี 1990 ปัจจุบันที่แห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นจุดท่องเที่ยวชมวิว นอกจากนี้ที่นี่ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นหลากหลายก่อให้เกิดเป็นวิวทิวทัศน์สีสันสดใสสวยงาม ดอกลาเวนเดอร์จะบานในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมแต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปชมคือเดือนกรกฎาคม
โฮมเพจ: www.farm-tomita.co.jp/en/
ที่ตั้ง: 15 Go Nakafurano Kisen Kita, Nakafurano-cho, Sorachi-gun, Hokkaido (Google Map)
3. Hanamiyama (花見山) สวนเอเดนแห่งญี่ปุ่น [ฟุกุชิมะ]
เริ่มต้นในปี 1935 ชาวสวนท้องถิ่นได้ปลูกไม้ดอกเพื่อการจัดจำหน่ายเป็นเวลาหลายปี ต่อมาความสวยงามของทุ่งดอกไม้แห่งนี้ได้ดึงดูดผู้คนมาเยี่ยมชม เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของคนทั่วไปที่อยากชมความสวยงามของดอกไม้ท่ามกลางธรรมชาติ ทุ่งดอกไม้แห่งนี้จึงได้เปิดตัวสาธารณะในปี 1959 ที่นี่มีดอกไม้หลายชนิดเช่น พลัม ซากุระ ลิลลี่แมกโนเลีย ลูกพีช ทั้งหมดจะบานในช่วงเดือนเมษายน ฟรีค่าเข้าชม
โฮมเพจ: www.f-kankou.jp/en/sight.htm
โฮมเพจ: www.hanamiyamakoen.jp/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Watari, Fukushima-shi, Fukushima (Google Map)
4. Ashikaga Flower Park (足利フラワーパーク) สวนดอกฟูจิอันสดใสที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของญี่ปุ่น [โทจิงิ]
ดอกฟุจิหรือดอกวิสทีเรียเป็นดอกไม้ที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยโบราญ มีแม้กระทั่งบทกวีหลายบทที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่ 1500 ปีก่อนกล่าวถึงดอกไม้นี้ ที่ Ashikaga Flower Park มีไม้ดอกจำนวนมากรวมถึงดอกฟุจิบนที่ดินกว่า 94,000 ตารางเมตร ที่นี่ต้นฟุจิขนาดใหญ่มีทั้งชนิดสีม่วงและชนิดสีขาว นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์ดอกฟุจิสีขาวยาว 80 เมตร ดอกไม้เหล่านี้จะบานตั้งแต่เดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมซึ่งต้นเดือนพฤษภาเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการไปชม ค่าเข้าชมราคา 300-1200 เยนสำหรับผู้ใหญ่ (ราคาเปลี่ยนแปลงขึ้นกับสภาพการบานของดอกไม้)
โฮมเพจ: www.ashikaga.co.jp/english/index.html
ที่ตั้ง: 607 Hasama-cho, Ashikaga-shi, Tochigi (Google Map)
5. Ozegahara (尾瀬) ทุ่งดอก Mizubasho สถานที่ลึกลับของญี่ปุ่น [ฟุกุชิมะ, นีงาตะ, กุมมะ]
houroumono/FlickrOzegahara เป็นที่ราบที่มีบึงตื้นบริเวณเชิงเขาในชายแดนจังหวัดฟุกุชิมะ นีงาตะ และกุมมะ เป็นหนึ่งในสถานที่ลึกลับในญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเนื่องมาจากถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่สูงมากกว่า 2000 เมตร ที่ราบนี้มีพื้นที่ 8690 เฮกเตอร์ จากทิศเหนือไปทิศใต้กว้างสุด 6 km และจากทิศตะวันออกไปตะวันตก 3km ต้น Mizubasho คือพืชที่เจริญเติบโตได้ดีบนที่ราบน้ำขังในอากาศหนาวเย็น ซึ่งที่ราบ Ozegahara สำหรับดอก mizubasho แล้วถือว่าเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ช่วงเวลาออกดอกคือพฤษภาคมถึงมิถุนายน สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากโตเกียวและเป็นทริปแบบไปกลับวันเดียวควรมาทางจังหวัดกุมมะ สำหรับผู้ที่อยากชมหมู่บ้านภายในหุบเขาลึกซึ่งตัดขาดจากโลกภายนอกหรืออยากค้างคืนควรมาทางจังหวัดฟุกุชิมะ หรือสำหรับผู้ที่อยากเดินทางโดยเรือผ่านทะเลสาบเขื่อนควรมาทางจังหวัดนีงาตะ ที่นี่ไม่เสียค่าเข้าชมแต่เนื่องจากต้องเดินเท้าทางไกลจากถนนจึงขอแนะนำว่าสำหรับผู้ที่มาครั้งแรกควรจ้างไกด์
โฮมเพจ: www.env.go.jp/en/nature/nps/park/parks/oze.html
ที่ตั้ง: Hinoemata-mura, Minamiaizu-gun, Fukushima; Yunotani, Uonuma-shi, Niigata; Katashina-mura, Tone-gun, Gunma (Google Map)
6. Hitsujiyama Park (羊山公園) ทุ่งดอกชิบะซากุระที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น [ไซตามะ]
京浜にけ/WikipediaHitsujiyama Park อยู่ค่อนข้างใกล้โตเกียวและมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีดอกชิบะซากุระอันสวยงาม บนพื้นที่นี้ได้ปลูกดอกชิบะซากุระสีต่างๆให้เกิดเป็นลวดลาย มีพื้นที่ 17,600 เฮกตาร์, มีดอกไม้ 9 ชนิด และมีจำนวนประมาณ 400,000 ต้น ช่วงเวลาออกดอกคือกลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม ค่าเข้าชม 300 เยน
โฮมเพจ: navi.city.chichibu.lg.jp.e.qg.hp.transer.com/p_flower/1808/
ที่ตั้ง: 6360 Omiya, Chichibu, Saitama(Google Map)
7. Kominato Railway (小湊鐵道) รถไฟที่วิ่งผ่านทุ่งดอก Nanohana บนรางรถไฟเล็กๆ บริเวณรอบนอกโตเกียว [ชิบะ]
Kominato Railway เป็นบริษัทรถไฟขนาดเล็กทางตะวันออกของโตเกียวในจังหวัดชิบะ ในเดือนมีนาคมระหว่างหุบเขาเตี้ยๆทั่วสองข้างทางที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่านเป็นเส้นทางยาว39 kmจะมีดอก nanohana (rape blossoms) ออกดอกบานสะพรั่ง เป็นวิวสงบๆให้หลบหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่
โฮมเพจ: www.kominato.co.jp/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: From Ichihara-shi, Chiba to Otaki-cho, Isumi-gun, Chiba
8. ศาลเจ้า Nezu (根津神社) ทุ่งดอกสึสึจิ ดอกไม้ที่มีมาแต่โบราณกาล [โตเกียว]
kanegen/Flickrสึสึจิเป็นพุ่มดอกไม้ที่เจริญเติบโตได้ทั่วไปในเอเชียและเป็นดอกไม้ที่มีหลายสีเช่นสีแดง สีขาวฯลฯ ในญี่ปุ่นคุ้นเคยกับดอกไม้นี้มาตั้งแต่สมัยโบราณและถูกพูดถึงใน Tanka (โครงก่อนที่มีรูปแบบแน่นอน) ซึ่งกล่าวกันว่าถูกเขียนมาตั้งแต่เมื่อสมัย 1300 ปีก่อน ศาลเจ้า Nezu อยู่ใกล้กับเขตอุเอโนะในโตเกียว ในบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้มีสวนดอกสึสึจิบนพื้นที
โฮมเพจ: www.nedujinja.or.jp/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 1-28-9 Nezu, Bunkyo-ku, Tokyo (Google Map)
9. Jojuin Temple (成就院) สวนไฮเดรนเยีย ดอกไม้แห่งเดือนมิถุนายน [คานากาว่า]
ไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้ที่จะบานในเดือนมิถุนายนและเป็นดอกไม้ที่มีหลายสีได้แก่ สีชมพู ขาว ฟ้า และม่วง นอกจากนี้ดอกไม้นี้ยังอาจจะเปลี่ยนสีได้ตามเวลาที่ผ่านไป ดอกไฮเดรนเยียเป็นที่นิยมชมชอบของคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่โบราณกาล ในเมืองคามาคุระซึ่งอยู่ใกล้กับโตเกียวมีหลายวัดที่สามารถชมดอกไฮเดรนเยียได้ Jojuin Temple วัดที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1219 เป็นจุดชมดอกไฮเดรนเยียซึ่งเป็นที่นิยมเนื่องจากวิวสองฝั่งข้างทางของถนนที่นำไปสู่วัดล้อมรอบไปด้วยพุ่มไฮเดรนเยียและวิวของชายหาด Yuigahama นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับพุ่มดอกไฮเดรนเยยียได้ที่วัด Meigetsu-in และที่วัด Hasedera ซึ่งอยู่ในคามาคุระ ทั้งสองที่ไม่คิดค่าเข้าชม
โฮมเพจ: www.jojuin.com/engish.html
ที่ตั้ง: 1-1-5 Gokurakuji, Kamakurashi, Yokohama (Google Map)
10. Mori (森) ต้นกล้าที่นำติดตัวมาด้วยเมื่อตอนออกเรือนได้กลายมาเป็นสวนเอพริคอตที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น! [นากาโน่]
Lovechikuma/Wikipediaเอพริคอตเป็นต้นไม้สายพันธุ์ใกล้กับพลัมและซากุระ เอพริคอตจะออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิและออกผลก่อนหน้าร้อน บนบริเวณ Mori ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Chikuma จังหวัดนากาโน่มีลักษณะเป็นเนินต่ำซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเล 380-450m ได้กลายมาเป็นสวนเอพริคอต ดอกไม้นี้จะบานในเดือนเมษายนและมีมากจนอาจเรียกได้ว่าสามารถมองเห็นหนึ่งหมื่นต้นพร้อมกันในคราวเดียว ทุกปีจะมีผู้มาเยี่ยมชมสวนแห่งนี้กว่า 20,000 คน แม้กระทั่งในปี 2013 จักรพรรดิและจักรพรรดินีก็มาเยี่ยมชมอีกด้วย เป็นที่พูดต่อกันมาว่าในศตวรรษที่ 17 เจ้าหญิงจากเกาะชิโกกุได้มาแต่งงานกับไดเมียว(ขุนนางญี่ปุ่นในสมัยโบราณ)ที่บริเวณนี้และได้นำต้นกล้าอ่อนเอพริคอตมาด้วยแล้วมันได้เจริญเติบโตแตกหน่อกลายมาเป็นสวนแห่งนี้ ฟรีค่าเข้าชม
โฮมเพจ: chikuma-kanko.com/modules/contents/index.php?content_id=1 (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Mori, Chikuma-shi, Nagano or Kurashina, Chikuma-shi, Nagano (Google Map)
11. เมือง Fuefuki (笛吹市) แหล่งผลิตดอกท้อที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น [ยามานาชิ]
revelyrist/Flickrจังหวัดยามานาชิเป็นแหล่งผลิตลูกพีช(ลูกท้อ)ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เมือง Fuefuki เป็นทุ่งที่มีต้นท้อกว่า 30,000 ต้นและในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายาดอกท้อจะบานย้อมสีทุ่งนี้เป็นสีชมพูเข้ม กล่าวโดยคนท้องถิ่นว่าดูเหมือนพรมสีชมพูลาดยาวไปทั่วพื้นดิน นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นด้วยที่บานในบริเวณนี้ ห้ามพลาดเลยกับการไปเพลิดเพลินกับสีสันที่เปลี่ยนแปลงได้ของสวนแห่งนี้
โฮมเพจ: www.fuefuki-syunkan.net/momo_kaika.html (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Fuefuki-shi, Yamanashi (Google Map)
12. ดอกฟรีเซียที่เกาะ Hachijo-jima (八丈島) ถึงแม้ที่อยู่จะอยู่ในโตเกียวแต่จริงๆ แล้วตั้งอยู่ใจกลางทะเลแปซิฟิก! [โตเกียว]
Hachijo-jima เป็นเกาะที่อยู่มาทางใต้ของโตเกียว 300 km ตรงกลางทะเลแปซิฟิก สามารถเดินทางจากโตเกียวมาที่นี่โดยเครื่องบินหรือเรือ เป็นเกาะที่ค่อนข้างมีอากาศอบอุ่นและในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนดอกฟรีเซียกว่า 350,000 ต้นจะออกดอกผลิบาน ดอกฟรีเซียซึ่งมีหลายสีได้แก่ สีเหลือง ขาว ชมพู ม่วงและแดงปกคลุมไปทั่วภูเขา Hachijo-fuji ฟรีค่าเข้าชม นอกจากนี้บนเกาะ Hachijo-jima มีกิจกรรมทางน้ำหลายอย่างท้าทายให้คุณได้ลองเช่น การดำน้ำสคูบ้า และอาหารทะเลที่ปรุงโดยชาวประมงท้องถิ่นของที่นี่ยังอร่อยมาก
โฮมเพจ: www.infiorata88.com/freesia2016/index.html (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Hachijo-jima, Tokyo (Google Map)
จุดชมวิวดอกไม้เหล่านี้มีวิวที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ดังนั้นสามารถไปชมดอกไม้ทุกที่ที่กล่าวมาก็ยังได้!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่