9 สถานที่ยอดฮิต ชมดอกไม้ญี่ปุ่นบานสะพรั่ง เพราะญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ซากุระ !
ในญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชมดอกซากุระสีชมพูอยู่หลายแห่ง แต่ก็ยังมีดอกไม้อื่นๆ ที่บานสะพรั่งรอให้เราไปชมอยู่อีกหลายแห่ง คราวนี้เราขอแนะนำสถานที่ชมดอกไม้งามๆใน Kyoto และ Nara เป็นหลักค่ะ!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. ชมดอกบัวยามเช้าที่ "วัดดอกบัว": Hokongo-in [Kyoto]
ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ ทั้งยังเป็นดอกไม้ที่ปลูกในญี่ปุ่นกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีความเชื่อว่า การที่ดอกบัวงอกเงยขึ้นจากในโคลนตม และเบ่งบานอย่างบริสุทธิ์สวยงามนั้นถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและปัญญา
วัด Hokongo-in (法金剛院)ใน Kyoto นี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1130 มีพระพุทธรูปบางองค์ที่นี่ถูกยกย่องเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติ และมีสวนที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 11 ซึ่ง ณ สวนแห่งนี้ยังมีน้ำตกที่คนสร้างขึ้นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ขึ้นชื่ออีกด้วย
วัด Hokongo-in มีอีกชื่อหนึ่งว่า "วัดดอกบัว" เป็นสถานที่ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีของคนญี่ปุ่น
ค่าเข้าชมสถานที่สำหรับผู้ใหญ่ 500 เยน
HP: kanko.city.kyoto.lg.jp/detail.php?InforKindCode=1&ManageCode=1000209 (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่อยู่: 49 Hanazonooginocho, Ukyo-ku, Kyoto-shi (Google Map)
2. ชมดอกไฮเดรนเยีย ที่วัด Mimurotoji [Kyoto]
Yu-Ching Chu / Flickr
ดอกไฮเดรนเยีย (アジサイ) เป็นพรรณไม้ดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยของคนญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณ ดอกไม้นี้จะบานในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน และมีหลายสีทั้งสีขาว สีฟ้า สีชมพู สีม่วง เข้ากันอย่างมากกกับทัศนียภาพยามฝนตก
วัด Mimurotoji (三室戸寺) ที่ Kyoto นี้เป็นวัดเก่าแก่ที่เล่าสืบต่อกันมาว่าก่อตั้งในปี 770 ณ สวน Yorakuen (与楽園) ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางถึง 15,000 ตารางเมตร มีดอกไฮเดรนเยียกว่าหมื่นต้น และ กว่า 50 ชนิดบานสะพรั่งในเดือนมิถุนายน
ค่าเข้าชมสถานที่สำหรับผู้ใหญ่ 500 เยน
HP: www.mimurotoji.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่อยู่: 21 Shigatani, Todo, Uji-shi, Kyoto (Google Map)
3. ดอกโบตั๋นบานอวดโฉมที่ "วัดดอกไม้": วัด Hasedera [Nara]
วัด Hasedera (長谷寺) ตั้งอยู่ที่ Nara เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1000 ปี อาคารหลักของวัดถูกสร้างบนหน้าผาสูงชัน เจดีย์ห้าชั้นก็ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชาติ
ที่วัด Hasedera มีดอกไม้นานาพันธุ์ อาทิ ดอกโบตั๋น ดอกไฮเดรนเยีย ดอกซากุระ และถูกขนานนามให้เป็น "วัดดอกไม้" โดยเฉพาะดอกโบตั๋น ซึ่งมีความงดงามมาก โดยในสมัยก่อนนั้น ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้คนในชนชั้นสูงศักดิ์เท่านั้นที่จะได้ชื่นชม แต่ในปัจจุบันคนทั่วไปก็สามารถชื่นชมได้
ค่าเข้าชมสถานที่สำหรับผู้ใหญ่ 500 เยน
HP: www.hasedera.or.jp/free/?id=345&PHPSESSID=16u20he4u0tatcq7q9fhg0nnp3
HP: www.hasedera.or.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่อยู่: 731-1 Hase, Sakurai-shi, Nara (Google Map)
4. ซากุระสีขาว...ต่างกับที่เคยเห็นมาก่อน!:ภูเขา Yoshino [Nara]
ภูเขา Yoshino (吉野山) โด่งดังทั่วประเทศสำหรับการเป็นสถานที่ชมดอกซากุระ ในช่วงต้นถึงกลางเดือนเมษายนนั้นจะมี ดอก Shiroyama Sakura (シロヤマザクラ) กว่า 3 หมื่นต้นบานสะพรั่งสวยงาม ซึ่งที่พิเศษก็คือ ดอกซากุระที่นี่เป็นสีขาวต่างจากซากุระที่คุ้นเคยกัน เป็นที่เชื่อกันว่าต้นซากุระของภูเขา Yoshino นั้นมีขึ้นเมื่อ 1300 ปีก่อนโดยนักเดินทางผู้แสวงบุญได้แกะสลักรูปพระพุทธรูปลงบนต้นซากุระ หลังจากนั้นก็มีผู้มาเยี่ยมเยียนวัด Kongobu-ji (金剛峯寺) ซึ่งอยู่บนเขา Yoshino มากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมีขนบธรรมเนียมการถวายต้นซากุระให้กับวัด ทำให้มีต้นซากุระเพิ่มขึ้นมากมายบนเขา Yoshino ลองมาสัมผัสกับทัศนียภาพที่ต่างกับดอกซากุระตามในเมืองกันดูดีกว่า ที่นี่ไม่มีค่าเข้าสถานที่ แต่ระวังกฎจราจรที่ป้องกันการจราจรติดขัดกันด้วยนะคะ
HP: www.town.yoshino.nara.jp/kanko-event/kanouki/kaika/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่อยู่: Yoshino-cho, Yoshino-gun, Nara (Google Map)
5. ทุ่งดอก Rape blossom บนเกาะ Awaji บนอ่าว Osaka: Awaji Hanasajiki [Hyogo]
ดอก Rape blossom (菜の花) เป็นดอกไม้ที่พบได้ทั่วไปตามแถบชนบทของญี่ปุ่น ดอกไม้สีเหลืองที่เป็นที่คุ้นเคยของชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างดี "Awaji Hanasajiki (あわじ花さじき)" ตั้งอยู่ที่เกาะ Awa่ji (淡路島) จังหวัด Hyogo (兵庫県) ซึ่งอยู่ใกล้กับ Osaka
ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ดอก Rape blossom จะเบ่งบานปกคลุมพื้นดินด้านหนึ่งเป็นสีเหลืองสวยงาม และในช่วงเวลาเดียวกัน ก็จะมีดอก Chinese violet cress (花大根) สีม่วงบานสะพรั่งตัดกันเป็นลวดลายสวยงาม
ทุกคนสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามนี้จากด้านบนได้ที่หอชมวิวไม้ และไม่เสียค่าเข้าชม
HP: www.hyogo-park.or.jp/hanasajiki/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่อยู่: 2865-4 Kusumoto, Awaji-shi, Hyogo (Google Map)
6. ดอกไอริสกว่าล้านต้น ดอกไม้ที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยมาตั้งแต่พันปีก่อน: สวนดอกไอริส Banshu Yamasaki [Hyogo]
ดอกไอริสเป็นดอกไม้ที่ชาวญี่ปุ่นปลูกเพื่อตกแต่งสถานที่มาตั้งแต่สมัยโบราณ กลีบดอกเป็นสีม่วง มีลวดลายสีฟ้า ขาว และเหลือง เป็นภาพที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สวนไอริส Banshu Yamasaki (播州山崎花菖蒲園) ตั้งอยู่ที่ Shiso (宍粟市) จังหวัด Hyogo (兵庫県) ซึ่งมีบ่อน้ำตรงกลางที่เกิดจากภูมิประเทศโดยธรรมชาติ ช่วงเดือนพฤษภาคม ในพื้นที่ประมาณ 60,000 ตารางเมตร นั้นมีดอกไอริสกว่าล้านดอกบานสะพรั่งให้ได้เยี่ยมชมกัน
ค่าเข้าชมสถานที่สำหรับผู้ใหญ่ 800 เยน
HP: www.hanashoubu.or.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่อยู่: 621 Yamasakicho Kozo, Shiso-shi, Hyogo-ken (Google Map)
7. สวน Wisteria ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก: Kawachi Fujien [Fukuoka]
ดอก Wisteria (藤) เป็นดอกไม้ที่มีมาแต่โบราณของญี่ปุ่น ดอกไม้นี้ถูกนำมาพันกับชั้นและค่อยๆเลื้อยโตขึ้น ซึ่งในเดือนเมษายนจะมีความยาวกว่า 50 ซม. ดอกไม้จะเลื้อยลงมาจากชั้นและบานสะพรั่งสวยงาม ในญี่ปุ่นสีม่วงอ่อนๆ จะถูกเรียกว่า "สี Wisteria" ซึ่งมีที่มาจากสีของดอกไม้นี้ นอกจากนี้ ดอกไม้นี้ยังส่งกลิ่นได้ไกล หากอยู่ใกล้บริเวณที่มีดอกไม้นี้ ถึงแม้จะมองไม่เห็นก็สามารถได้กลิ่นดอกไม้นี้
สวน Kawachi Fujien (河内藤園) ตั้งอยู่ที่จังหวัด Fukuoka (福岡) ในภูมิภาค Kyushu มีพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร และมีดอก Wisteria กว่า 22 ชนิดปลูกอยู่ที่นี่ มีชั้นดอก Wisteria ขนาดใหญ่ และยังมีอุโมงค์ดอก Wisteria ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุด สามารถเข้าชมดอกไม้นี้ได้ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
มาลองชมดอก Wisteria ที่ถูกใช้ในศิลปะและวัฒนธรรมญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณ สัมผัสกับความงามฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่นกันเถอะ ค่าเข้าชมสถานที่ 300 เยน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงราคาตามช่วงดอกไม้บาน)
HP: kawachi-fujien.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่อยู่: 2-2-48 Kawachi, Yagatahigashi-ku, Kitakyushu-shi, Fukuoka (Google Map)
8. สถานที่ชมดอก Azalea ชั้นเยี่ยมในญี่ปุ่น: สวน Mifuneyama [Saga]
สวน Mifuneyama (御船山楽園) ที่จังหวัด Saga (佐賀県) ในภูมิภาค Kyushu เป็นสถานที่ชื่อดังสำหรับดอกไม้ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น ดอก Azalea ดอกซากุระ ดอก Wisteria
โดยเฉพาะดอก Azalea (アザレア) ซึ่งถูกปลูกที่นี่กว่า 2 แสนต้น โดยรวมถึงบางสายพันธุ์ที่หาชมที่อื่นไม่ได้อีกด้วย ช่วงเวลาสำหรับการเข้าชมคือ ปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน (ประมาณ 1 เดือน)
ค่าเข้าชมสถานที่สำหรับผู้ใหญ่ ตั้งแต่ 400 เยน
HP: www.mifuneyamarakuen.jp/index.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่อยู่: 4100 Takeocho Oaza Takeo, Takeo-shi, Saga-ken (Google Map)
9. กุหลาบพันปีธรรมชาติบนที่ราบสูง หนึ่งในไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น: หุบเขา Sensui [Kumamoto]
ต้นกุหลาบพันปี (ミヤマキリシマ) เป็นพันธุ์ของดอก Azalea ที่ขึ้นบนภูเขา เมื่อบานจะมีสีชมพูสวยและย้อมทั้งเขาให้เป็นสีชมพูงดงาม
หุบเขา Sensui (仙酔峡) เป็นหุบเขาในภูเขา Aso (阿蘇山) หนึ่งในภูเขาไฟของภูมิภาค Kyushu ซึ่งเกิดขึ้นจากการไหลของลาวา ช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงที่ดอกไม้บานและระบายภูเขานี้ให้กลายเป็นสีชมพูทั้งเขา เป็นที่เชื่อกันว่าความงามของดอกไม้นี้ทำให้ชาวเขา (仙人) ของที่นี่หลงมัวเมา (酔) จึงเป็นที่มาของชื่อหุบเขาแห่งนี้นั่นเอง
ไม่เสียค่าเข้าชม
HP: www.aso-aso.com/009sightseeing/15flower/miyamakirishima/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่อยู่: Higashi-Kobori, Ichinomiyamachi Miyaji, Aso-shi, Kumamoto (Google Map)
เป็นอย่างไรบ้างคะ? ที่ญ๊่ปุ่นฝั่งตะวันตกมีสถานที่ชมดอกไม้ที่มีแค่ในญี่ปุ่นอยู่มากมาย ควรค่าแก่การแวะมาชมอย่างยิ่งเลยค่ะ!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่