ทำไมคนญี่ปุ่นฮิตใส่หน้ากากอนามัย? พร้อมแนะนำวิธีเลือกหน้ากากอนามัยในญี่ปุ่น
นับตั้งแต่วินาทีที่คุณก้าวเท้าออกจากเครื่องบินสู่ประเทศญี่ปุ่น ใครที่มาเยือนเป็นครั้งแรกก็ Culture shock มากมาย ตั้งแต่โถชักโครกมากฟังก์ชัน ไปจนถึงตู้ขายของอัตโนมัติมากมายละลานตา และอีกหนึ่งสิ่งที่คนญี่ปุ่นนิยมทำกันคือ การใส่หน้ากากอนามัย! บทความนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า เพราะอะไรการใส่หน้ากากอนามัยจึงเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น และมียี่ห้อไหนบ้างที่น่าสนใจ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
เพราะอะไรหน้ากากอนามัยจึงเป็นที่นิยม?
แม้ประเทศญี่ปุ่นจะมีจำนวนประชากรมากติดอันดับต้นๆ ของโลก แต่จำนวนผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์นั้นกลับไม่ได้มีมากสักเท่าไหร่ ในขณะที่การใส่หน้ากากอนามัยนอกสถานพยาบาลนั้นถือเป็นภาพอันชวนให้แปลกตาสำหรับชาวตะวันตก แต่ในประเทศญี่ปุ่นการใส่หน้ากากอนามัยเดินนอกบ้าน ถือเป็นเรื่องปกติไม่ต่างจากการใส่แว่นกันแดดในหน้าร้อน หรือการพันผ้าพันคอในหน้าหนาวเลย โดยปัจจัยหลักที่ทำให้การใช้งานหน้ากากอนามัยเป็นที่แพร่หลายนั้นมีประโยชน์มาก
สุขภาพและสุขอนามัย
ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก พนักงานจะได้รับวันลาพักร้อน และวันลาป่วยสำหรับปัญหาสุขภาพ แต่สำหรับญี่ปุ่นนั้น วันลาสองประเภทนี้จะไม่ถูกแยกออกจากกัน และพนักงานญี่ปุ่นโดยส่วนมาก จะใช้วันลาน้อยกว่าเจ็ดวันต่อปีจนแทบจะกลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมในการทำงานไปเสียแล้ว
แม้ว่าการทำงานในสภาวะที่ร่างกายเจ็บป่วยนั้นอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ในวัฒนธรรมการทำงานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จึงมีการใช้หน้ากากอนามัยในระหว่างการทำงานด้วย เพื่อลดผลกระทบในการแพร่เชื้อต่อผู้ร่วมงาน
ในเมืองที่แออัดอย่างโตเกียว การแพร่ระบาดของเชื้อโรคทางอากาศนั้นสามารถขยายวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการใช้หน้ากากอนามัยทำให้สามารถลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดและการติดเชื้อได้เป็นอย่างมาก ในขณะที่หน้ากากอนามัยนั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันผู้สวมใส่จากการแพร่เชื้อสู่คนอื่นเป็นหลัก มากกว่าการป้องกันตัวเองจากการได้รับเชื้อนั้น ยังมีผู้ที่คำนึงถึงสุขภาพเป็นจำนวนมาก ที่นิยมใส่หน้ากากอนามัยทุกวันในฤดูที่เกิดไข้หวัดได้ง่ายเพื่อเป็นการป้องกันเพิ่มเติมอีกด้วย
ป้องกันการเจ็บป่วยตามฤดูกาล
นอกเหนือจากการใช้งานทางการแพทย์แล้ว หน้ากากอนามัยยังถูกนำมาใส่เพื่อความสบายใจอีกด้วย เนื่องจากสภาพอากาศช่วงหน้าหนาวในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะแห้งมาก เป็นสาเหตุให้จมูกมีเลือดออกและริมฝีปากแห้งแตกได้ง่าย ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันการเกิดปัญหาเหล่านี้คือการสวมใส่หน้ากาก เพราะความชื้นจากลมหายใจของคุณจะถูกกักไว้ในพื้นที่ใต้หน้ากากและให้ความอบอุ่นแก่จมูกและริมฝีปากได้
นอกจากนี้ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ต้นซีดาร์ญี่ปุ่นจะเริ่มผลิใบ ซึ่งเปรียบเสมือนฝันร้ายของผู้เป็นภูมิแพ้เกสรดอกไม้เลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การใส่หน้ากากอนามัยสามารถลดปริมาณละอองเกสรดอกไม้ที่คุณสูดเข้าไปในระหว่างอยู่นอกบ้านได้เป็นอย่างดี
วันที่เร่งรีบและไม่มั่นใจ
หากวันไหนที่คุณตื่นสาย ไม่มีเวลาแม้แต่จะแต่งหน้าทาปาก หรือเกิดมีสิวที่คางที่อาจทำให้ความมั่นใจของคุณหายไป การหยิบหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ไว้ก็เป็นเรื่องที่ช่วยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ในญี่ปุ่นมีวัยรุ่นจำนวนมากที่ใส่หน้ากากอนามัยในวันที่ต้อง "ลุกจากเตียงและออกจากบ้านทันที" เพราะการสวมใส่หน้ากากอนามัยถือเป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่นนั่นเอง
หน้ากากแบบไหนที่คุณควรซื้อ?
หากคุณมีโอกาสได้แวะเวียนเข้าไปที่ร้านขายยาในญี่ปุ่น คุณจะได้พบกับแบรนด์หน้ากากอนามัยมากมายที่เรียงรายอยู่บนชั้น มองผิวเผินคุณอาจจะคิดว่าหน้ากากทุกแบบก็คงเหมือนกันหมด แต่จะมีจุดเล็กๆ บางจุดที่คุณควรสังเกตไว้ และหากคุณสนใจที่จะซื้อหน้ากากอนามัยระหว่างเที่ยวอยู่ที่ญี่ปุ่น บทความต่อจากนี้จะทำให้คุณได้หน้ากากที่ถูกใจติดมือกลับบ้านแน่นอน
B.M.
หากคุณอยากใส่หน้ากากอนามัย แต่ไม่อยากกลมกลืนกับคนทั่วไป หน้ากากชาโคลถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดย B.M. (ย่อมาจาก Black Mask) ออกแบบมาให้ดูโดดเด่นขึ้นด้วยสีดำ มีคุณสมบัติการใช้งานเหมือนกับหน้ากากสีขาวทั่วไป พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของคาร์บอนที่ทอผสมในเนื้อผ้าเพิ่มชั้นพิเศษในการกรองสารพิษ และสามารถช่วยป้องกันกลิ่นปากได้อีกด้วย
ราคา : ราคาประมาณ 400 เยน ต่อ 1 ซอง (5ชิ้น)
Unicharm Cho-Rittai Mask
ผู้ที่ไม่คุ้นชินกับการสวมใส่หน้ากากอนามัยส่วนมากมักจะรู้สึกไม่สบายตอนสวมใส่ เนื่องจากหน้ากากปิดทับปากและจมูกจนชิดทำให้บางคนรู้สึกลำบากต่อการพูดและหายใจ ต้องขอบคุณ Unicharm ที่คิดค้นหน้ากาก 3D นี้ขึ้นมา โดยรูปทรงของหน้ากากนี้จะสร้างพื้นที่รอบจมูกและปากให้แยกออกจากตัวหน้ากาก ตอบโจทย์ต่อผู้ที่ต้องการใส่หน้ากากอนามัยพร้อมทั้งต้องการความสบายในการสวมใส่ตลอดวันได้เป็นอย่างดี
ราคา : ประมาณ 405 เยน ต่อ 1 ซอง (5ชิ้น)
Comfort Guard Pro
สำหรับใครที่ใส่แว่นตา อาจจะลำบากใจสักหน่อยเมื่อต้องใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในหน้าหนาว เลี่ยงไม่ได้ที่ลมหายใจอุ่นๆ ของคุณเมื่อปะทะกับอากาศหนาวเย็นภายนอกมักทำให้เกิดฝ้าที่เลนส์แว่นตาเสมอ ดังนั้น หน้ากากอนามัย Comfort Guard Pro ตัวนี้คิดค้นมาเพื่อแก้ปัญหาสำหรับผู้สวมใส่แว่นตาโดยเฉพาะ โดยมีการเพิ่มแผ่นโฟมเล็กๆ ที่ด้านบนของหน้ากากเพื่อป้องกันอากาศผ่านขึ้นข้างบน แก้ปัญหาการเกิดฝ้าที่เลนส์นั่นเอง
ราคา : 320 เยน ต่อ 1 ซอง (5 ชิ้น)
Pitta Mask
หากคุณกังวลเกี่ยวกับภูมิแพ้เป็นหลัก ตัวเลือกที่ดีที่สุดคงไม่พ้น Pitta masks เพราะ Pitta เป็นหน้ากากโฟมที่สามารถซักได้ ทั้งยังนิ่มสบาย ง่ายต่อการสวมใส่ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันละอองในอากาศได้ถึง 99% และบางรุ่นยังสามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 98% อีกด้วย แม้ตัวหน้ากากจะมีราคาแพงกว่าหน้ากากอนามัยธรรมดาอยู่สักหน่อย แต่ด้วยระดับการกรองละอองขั้นสูงพร้อมทั้งยังสามารถใช้ซ้ำเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนั้น ถือว่าคุ้มค่าในการซื้อมากทีเดียว
ราคา : 500 เยน ต่อ 1 ซอง (3 ชิ้น)
Nodonu-Ru
หากคุณต้องเผชิญกับอากาศหนาวแห้งในหน้าหนาวของญี่ปุ่น Nodonu-Ru "หน้ากากให้ความชุ่มชื้น" ถือเป็นตัวเลือกที่เราขอแนะนำ ในแพ็กจะมีแผ่นให้ความชื้นสอดไว้ที่ด้านหน้าของหน้ากาก เมื่อแผ่นฟิลเตอร์นี้สัมผัสกับความร้อนจากลมหายใจของคุณ มันจะสร้างไอร้อนขึ้นมาเพื่อช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้จมูกและคอของคุณได้นานถึง 10 ชั่วโมง หน้ากากตัวนี้ยังเหมาะกับเที่ยวบินที่ยาวนานอีกด้วย
ราคา : 350 เยน ต่อ 1 ซอง (3 ชิ้น)
Hi-Luck Neo
หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งของ Hi-Luck Neo ผู้ผลิตให้คำนิยามไว้ว่าเป็น "หน้ากากขั้นสูง" โดยหน้ากากจะสามารถปรับความยาวของสายรัดได้ มาพร้อมกับวาล์วสำหรับระบายอากาศเพื่อให้สามารถหายใจได้ง่ายขึ้น นอกเหนือจากความสะดวกสบายส่วนนี้แล้ว ผู้ผลิตยังเพิ่มความสามารถในการป้องกันได้ถึงระดับเดียวกับ N95 ซึ่งถือว่าเป็นระดับการป้องกันสูงที่สุดในบรรดาหน้ากากอนามัยเลยทีเดียว และแน่นอนว่าด้วยระดับการป้องกันและรูปแบบพิเศษนี้ ทำให้หน้ากากมีราคาที่ค่อนข้างสูงสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าคุณภาพแน่นอน
ราคา : 500 เยนต่อชิ้น
Gonoturn
บริษัท Gonoturn แบรนด์หน้ากากอนามัยทันสมัย เปิดตัวหน้ากากอนามัยแบบซักได้พร้อมกับดีไซน์น่ารักๆ มีทั้งหน้าสัตว์ ซูเปอร์ฮีโร่ไปจนถึงคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ ผสมผสานแฟชั่นและหน้ากากอนามัยไว้อย่างลงตัว เหมาะทั้งเป็นของฝากและซื้อใช้เอง
ราคา : 2,200 เยน ต่อชิ้น
สุดท้ายก่อนจาก
ใครที่อยากซื้อหน้ากากอนามัยที่ญี่ปุ่น ขอแนะนำให้ลองไปเดินสำรวจได้เลย เพราะที่นี่มีทุกอย่างตั้งแต่หน้ากากอนามัยเพื่อสุภาพทั่วไป ไปจนถึงแฟชั่นเครื่องประดับที่จะตอบสนองความต้องการและสไตล์การใช้งานของทุกๆ คนได้อย่างแน่นอน และช่วงนี้เป็นช่วงไวรัส โควิด19 ระบาด ก็ขอให้ดูแลสุขภาพกันด้วย
Header credit: Rodrigo Reyes Marin / Shutterstock.com
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่