อัพเดท JR Pass ในปี 2023 : ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการซื้อ JR Pass ล่าสุด พร้อมราคาใหม่

JR Pass เป็นบัตรรถไฟสุดคุ้มของบริษัท JR สำหรับเดินทางทั่วภูมิภาคของญี่ปุ่น แบบไม่ จำกัดจำนวนรอบ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (7 วัน 14 วัน หรือ 21 วัน )โดยสามารถโดยสาร ได้ทั้งรถไฟ เรือ และรถบัสของ JR รวมถึงชินคันเซ็นด้วย เป็นบัตรสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่าง ชาติเท่านั้น ผู้ที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในญี่ปุ่นจึงไม่สามารถใช้ได้ บัตร JR Pass มี 2 ประเภท คือ แบบธรรมดา (Ordinary) และ แบบเฟิร์สคลาส (Green) มาดูกันว่าล่าสุดจะมีการเปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับการซื้อ และราคาจะต่างไปจากเดิมมากน้อยเพียงใด

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

คูปอง ดองกี้

JR Pass (Japan Rail Pass) คืออะไร?

ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อ JR Pass (Japan Rail Pass) สามารถซื้อตั๋วแลกบัตรจากบริษัทตัวแทนที่ประเทศของตนหรือสามารถซื้อ JR pass ออนไลน์ได้ก่อนที่จะเดินทางมาญี่ปุ่น ตั๋วแลกบัตรนี้มีอายุการใช้งาน 90 วัน และเมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วสามารถรับพาสได้ที่เคาน์เตอร์ให้บริการแต่ละแห่ง (Midori no Madoguchi) ในญี่ปุ่น แต่ในขณะเดียวกันสำหรับท่านที่ไม่ได้จองมาก็สามารถซื้อได้ที่สถานีรถไฟหลักๆ บางสถานีที่ญี่ปุ่นเช่นกัน (หากจองมาก่อนจะสะดวกและรวดเร็วกว่ามาก)

คุณสามารถเลือกอายุการใช้งานของบัตรได้ โดยจะมีทั้งแบบ 7 วัน 14 วัน หรือ 21 วัน ในตลอดช่วงเวลาที่เลือก ผู้ถือบัตรจะสามารถใช้บริการรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็น รถไฟ JR และรถไฟอื่นๆ อีกหลายสายได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งชินคันเซ็นนั้นเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางในญี่ปุ่น แต่มันก็มีราคาที่สูงตามไปด้วย ดังนั้นหากคุณวางแผนที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้ว JR Pass จะช่วยตอบโจทย์ของคุณได้อย่างแน่นอน

JR Pass เป็นบริการที่มีให้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น ผู้ที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในญี่ปุ่นจึงไม่สามารถใช้พาสนี้ได้ หากคุณอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ขอแนะนำให้ลองอ่านบทความของเราเกี่ยวกับตั๋ว Flex Rail ตั๋วลดราคารถไฟชินคันเซ็นที่แม้แต่ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นก็สามารถใช้บริการได้! 

JR Pass จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างในปี 2023?

ปัจจุบัน JR Pass มีขนาดเท่ากับตั๋วรถไฟ ซึ่งสะดวกขึ้นมาก สามารถสอด JR Pass เข้าไปในประตูตรวจตั๋ว อัตโนมัติได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องแสดงบัตรให้เจ้าหน้าที่ดูทุกครั้งที่จะเข้าไปในสถานีเหมือนแต่ก่อน

อย่างไรก็ตามตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปี 2023 เป็นต้นไป ราคาของบัตร JR Rail Pass จะแพง ขึ้นอีกประมาณ 70% จากที่ไม่เคยขึ้นราคามานาน สำหรับคนที่จะใช้บัตรพาสภายในปี 2023

แนะนำให้ซื้อบัตรภายในเดือนกันยายน ปี 2023 จะยังซื้อได้ในราคาเดิมอยู่

ส่วนราคาบัตรใหม่ที่แพงขึ้นนั้น จะมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น ผู้ถือบัตร JR Rail Pass ราคาใหม่ สามารถขึ้นชินคันเซ็น NOZOMI และ MIZUHO ได้แล้ว จากที่เคย "ยกเว้น" ไม่รวมในพาส แต่ต้องซื้อตั๋วพิเศษสำหรับขึ้นรถสองประเภทนี้ก่อน (ราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มยังไม่ได้ประกาศ) และจะมีส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย

Klook.com

ราคาบัตรพาสเดิม เทียบกับราคาใหม่หลังเดือนตุลาคม ปี 2023

* ราคาเด็ก (6 ขวบ แต่ไม่ถึง 12 ขวบ) จ่ายครึ่งหนึ่งของราคาผู้ใหญ่, อายุ 12 ขวบจ่ายเท่าราคาผู้ใหญ่

ที่มา: https://japanrailpass.net/pdf/JRP_pressrelease_230414.pdf

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

Pass อื่นๆ แยกตามภูมิภาค (เหมาะสำหรับท่านที่ไปเที่ยวเพียงภูมิภาคเดียว)

พาสเหล่านี้จะช่วยให้คุณประหยัดได้เพิ่มขึ้นและคุ้มค่ากว่าเดิม เช่น หากคุณต้องการเที่ยวเฉพาะในแถบคันไซ ก็สามารถเลือกซื้อ Pass เฉพาะคันไซได้ ซึ่งราคาเริ่มต้นเพียง 10,000 เยนเท่านั้น และนอกจากนี้ยังมีพาสตามภูมิภาคอื่นๆ ให้ได้เลือกซื้อตามความต้องการในการใช้งานอีกด้วย ในส่วนของรายละเอียดและราคาก็สามารถดูได้ตามลิ้งก์ด้านล่างนี้ได้เลย

บัตร JR Pass สำหรับภูมิภาคคันไซ

บัตร JR Pass ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือ/ฝั่งใต้/ทั้งหมดในคิวชู

บัตร JR East Pass สำหรับโทโฮคุ

บัตร JR West Pass สำหรับภูมิภาคคันไซ

บัตร JR Pass สำหรับโฮคุริคุ

Klook.com

ไม่จำเป็นต้องพกตั๋วไปแลกพาสที่ญี่ปุ่นอีกต่อไป

ระบบตั๋วที่ต้องนำมาแลกพาสที่สร้างขั้นตอนที่ยุ่งยากให้กับผู้ที่ต้องการซื้อบัตร แต่ในขณะนี้ผู้ใช้ JR Pass จะสามารถซื้อบัตรได้จากเว็บไซต์ตัวแทนหรือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้โดยตรง โดยไม่ต้องแวะไปที่ตัวแทนการท่องเที่ยวหรือรอให้ตั๋วแลกมาส่งที่บ้าน หลังจากซื้อทางออนไลน์เสร็จแล้ว คุณสามารถไปรับบัตรได้ที่เคาน์เตอร์ให้บริการตั๋วของ JR เมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่น

Klook.com

การจองที่นั่งที่ง่ายขึ้น

รถไฟชินคันเซ็นของญี่ปุ่นนั้นมีที่นั่งอยู่ 2 ประเภท คือ แบบจองที่นั่งและแบบไม่จองที่นั่ง หากคุณมี JR Pass คุณสามารถขึ้นตู้ขบวนที่เป็นที่นั่งแบบไม่จองได้เลย ซึ่งสิ่งนี้ดูจะไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากการที่สามารถขึ้นรถไฟได้ทุกขบวนนั้นสร้างความยืดหยุ่นให้กับการเดินทางของคุณเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามหากคุณเดินทางในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน อาจจะไม่มีที่นั่ง การเสียเงินเพิ่มเพื่อทำการจองที่นั่งล่วงหน้าก็ดูเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเช่นกัน

ในปัจจุบันผู้ใช้บริการ JR Pass จะสามารถจองที่นั่งเหล่านี้ได้ผ่านทางออนไลน์ หรือจองจากเครื่องขายตั๋วที่อยู่ในสถานีของรถไฟชินคันเซ็นได้แล้ว หากขึ้นตู้ที่ไม่ต้องจองที่นั่งและที่นั่งเต็ม คุณอาจจะต้องยืนไปตลอดการเดินทาง หรือแม้กระทั่งอาจได้ยืนเข้าคิวรออยู่บนสถานีจนกว่าจะมีที่ว่าง การจองที่นั่งที่ง่ายขึ้นนี้จะเข้ามาช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถจองที่นั่งล่วงหน้าโดยไม่มีปัญหาต่างๆ และยังทำให้คุณเดินทางได้โดยปราศจากความกังวลอีกด้วย

เดินทางได้เร็วกว่าด้วยประตูตั๋วตรวจอัตโนมัติ

อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงในปีนี้ก็คือ JR Pass จะสามารถใช้ได้กับประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติทั่วไป ในปัจจุบัน ผู้ใช้บริการ JR Pass จำเป็นต้องแสดงบัตรให้กับพนักงานที่ประตูตรวจตั๋วแบบมีคนประจำทุกครั้งที่เดินทาง และเนื่องจาก JR Pass สามารถใช้ได้กับรถไฟ JR ทั่วไปเช่นกัน โอกาสที่คุณจะติดอยู่ในแถวของประตูตรวจตั๋วแบบมีคนประจำหลายๆ ครั้งในหนึ่งวันนั้นก็ดูน่าปวดหัวใช่ย่อย การพัฒนาใหม่นี้จะช่วยให้คุณสามารถเดินผ่านประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติได้ทันที 

Klook.com

ทำให้การเดินทางทางรถไฟในญี่ปุ่นเป็นเรื่องง่ายขึ้นไปอีก!

เราจึงไม่อยากให้คุณพลาดการเดินทางด้วยรถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่นอย่างไม่จำกัดในราคาที่แสนถูก! อย่างไรก็ตาม ระบบ JR Pass อาจจะมีรายละเอียดเยอะสักหน่อยสำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน เว็บไซต์ใหม่ของ Japan Rail และการพัฒนาในระบบด้านอื่นๆ จะทำให้กระบวนการนี้คล่องตัวขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งยังทันกับ Tokyo Olympics ที่จะจัดขึ้นในปี 2020 อีกด้วย

ปัจจุบัน JR Pass อาจจะเป็นพาสที่แสนถูก แต่ขึ้นอยู่กับแพลนเที่ยวของคุณ มันอาจจะไม่ถูกกว่าเสมอไป! หากคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบรถไฟหัวกระสุน และลองค้นหาว่าอะไรเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณที่สุด ขอแนะนำให้ลองอ่านบทความนี้ สุดยอดคำแนะนำการขึ้นชินคันเซ็น!

เครดิตภาพหัวเรื่อง: antb / Shutterstock.com

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Rebecca
Rebecca
นักเขียนและนักแปลชาวออสเตรเลียที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเกียวโต มีงานอดิเรกเป็นการเดินทางโดยรถไฟ ร้องคาราโอเกะ และดูหนังสยองขวัญ
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร