20 อันดับปราสาทน่าไปในญี่ปุ่น สวยอลังระดับโลก!
ท่านคงเคยได้ยินว่าญี่ปุ่นเต็มไปด้วยปราสาทมากมาย แต่ท่านรู้ได้อย่างไรว่าปราสาทไหนควรที่จะต้องไปแบบห้ามพลาดเด็ดขาด หรือปราสาทไหนไม่ควรไปเลยในวันฝนตก ในวันนี้เราได้นำข้อมูลสถิติการรีวิวและข้อมูลจาก TripAdvisor ที่ได้จัดลำดับปราสาทตามคำรีวิว "โชคดีจังที่ได้ไปที่นี่!" ของผู้เยี่ยมชมมาฝากทุกท่านในวันนี้
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ท่านคงทราบว่าญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานซึ่งก็ทำให้ที่นี่มีโบราณสถานต่างๆ มากมาย ท่านอาจจะตั้งเป้าหมายในการเยี่ยมชมโบราณสถานทั้งหมด หรืออาจจะค่อยๆ เยี่ยมชมทีละหมวดหมู่ก็ยังได้ พระราชวังโบราณ? ส่วนมากจะอยู่ในแถบเดียวกัน.. หรือว่าศาลเจ้าและวัดวาอาราม? หมวดนี้อาจใช้เวลาหลายปีเลยล่ะ..
ถ้าจะไปเที่ยวให้ครบทั้งหมดหล่ะก็ หมวดปราสาทอาจจะง่ายและเหมาะมากเลย ไม่ว่าท่านจะไปเยี่ยมชมจังหวัดใดในญี่ปุ่น ที่นั่นจะต้องมีปราสาท แน่นอนว่าทุกปราสาทย่อมไม่เหมือนกัน บางปราสาทยิ่งใหญ่อลังการจนคล้ายกับพิพิธภัณฑ์ ส่วนปราสาทอื่นๆ เป็นเพียงส่วนที่หลงเหลือของปราสาทในอดีต (ทั้งนี้ เมื่อท่านขึ้นไปถึงยอดปราสาทจะพบทิวทัศน์ที่สวยงามมาก)
แล้วท่านรู้ไหมว่าควรไปปราสาทไหนหรือปราสาทไหนไม่ควรไปในวันฝนตก TripAdvisor ได้มาช่วยเหลือท่านแล้ว โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจัดลำดับปราสาทตามคำรีวิว "โชคดีจังที่ได้ไปที่นี่!" ของผู้เยี่ยมชมมาฝากทุกท่านในวันนี้ อย่าลืมตรวจสอบรายชื่อต่อไปนี้ก่อนวางแผนเที่ยว ปราสาทเหมาะกับผู้เยี่ยมชมทุกวัยตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ หากท่านไปปราสาทที่ถูกในฤดูกาลที่ใช่!
1. ปราสาท Kumamoto (คุมาโมโตะ)
ปราสาท Kumamoto ตั้งอยู่ใต้สุดของ Kyushu และเป็นหนึ่งในปราสาทปราสาทสำคัญของญี่ปุ่นรองมาจากปราสาท Himeji และปราสาท Matsumoto ส่วนหนึ่งของปราสาทถูกเผาทำลายเมื่อปี 1877 ส่วนอาคารอีก 13 แห่งที่เหลือได้รับการปรับปรุงและคงเหลือมาถึงปัจจุบัน
สหพันธ์ปราสาทญี่ปุ่นประกาศให้ปราสาท Kumamoto เป็นหนึ่งใน 100 ปราสาทงดงามที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ ที่นี่ยังได้รับการระบุให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันสำคัญอีกด้วย
รีวิวจาก TripAdvisor :
ที่นี่คือปราสาทที่ลงมาจากสรวงสวรรค์ พื้นที่กว้างขวางและเหมือนว่าจะสร้างโดย Kiyomasa Kato ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนในคุมาโมโตะ คุณจะต้องเห็นปราสาทผ่านช่องว่างระหว่างอาคาร เวลาหนึ่งวันแทบจะไม่เพียงพอสำหรับการเดินชมให้ทั่วปราสาทเลยหล่ะ
2. ปราสาท Matsuyama (เอฮิเมะ (Ehime))
ปราสาท Matsuyama สร้างขึ้นเมื่อปี 1603 บนภูเขา Katsuyama อาคารปราสาทดั้งเดิมถูกฟ้าผ่าเมื่อปี 1784 ส่วนปราสาทปัจจุบันได้รับการสร้างใหม่ช่วงกลางๆ ยุค 1800 ต่อมายังได้รับการบูรณะขนานใหญ่ ปัจจุบันเมือง Matsuyama กล่าวขานว่า "นี่เป็นลักษณะของปราสาทในยุคแรกเริ่ม"
รีวิวจาก TripAdvisor :
ที่นี่เป็นปราสาทอันงดงามซึ่งสามารถชมเมือง Matsuyama ได้ พิพิธภัณฑ์ของที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน คุ้มค่าที่จะใช้เวลาสำรวจปราสาท แม้ว่าวันนั้นเราจะต้องรีบออกเพราะฝนก็ตาม (ฝนทำให้เราไม่สามารถเข้าชมสวนได้)
ที่นี่เป็นสถานที่ห้ามพลาดสำหรับการใช้เวลาในวันที่อากาศแจ่มใส
3. ปราสาท Himeji (เฮียวโกะ (Hyogo))
ปราสาท Himeji เป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญอย่างมากอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ยังถือว่าเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมปราสาทญี่ปุ่น เป็นมรดกโลกแห่งแรกของญี่ปุ่นซึ่งได้รับการจดทะเบียนเมื่อปี 1993 ในปราสาทยังมีสมบัติแห่งชาติเก็บรักษาไว้
ปราสาทแห่งนี้มักถูกเปรียบเป็นนกกระยางขาวหรือนกกระสาขาวเพราะว่ากันว่าดูคล้ายกับนกสีขาวขนาดใหญ่ซึ่งกำลังโผบิน ขนาดและความกว้างใหญ่ของที่นี่ยังทำให้ถูกเลือกเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นในภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ (เช่นหนัง James Bond ภาค You Only Live Twice เมื่อปี 1967)
รีวิวจาก TripAdvisor :
ถ้าได้ไปช่วงซากุระบานจะยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะไปตอนไหน ที่นี่ก็ยังเป็นปราสาทที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นอยู่ดี เชื่อฉันสิ... ฉันอยู่ญี่ปุ่นมา 17 ปี แถมเคยไปมาทุกปราสาทแล้ว! :-)
แถมยังเดินทางสะดวกจากสถานีรถไฟใกล้ๆ เกียวโต ดังนั้นคงไม่ยากที่จะใส่ที่นี่ลงทริปเที่ยวของคุณ อย่าลืมมาที่นี่ล่ะ ไม่งั้นคุณจะต้องเสียดายแน่ๆ
4. ปราสาท Hirosaki (อาโอโมริ (Aomori))
ปราสาท Hirosaki หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่าปราสาท Takaoka เป็นปราสาทประจำตำแหน่งของตระกูล Tsugaru สวนรอบๆ ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระบานซึ่งดีที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนในฤดูหนาว บริเวณปราสาทก็ยังมีเทศกาลโคมไฟหิมะอีกด้วย
รีวิวจาก TripAdvisor :
ที่นี่เป็นไฮไลท์ของทริปท่องเที่ยวไป Misawa ประเทศญี่ปุ่นของฉันเลยล่ะ พื้นที่โดยรอบงดงามมาก ดูเหมือนจะมีเทศกาลอะไรสักอย่างด้วย ใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยสุดๆ อาจจะต้องเดินเยอะหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่ได้เห็นทิวทัศน์สวยๆ และรับประทานอาหารอร่อยตามแผงลอย พวกฉันไปตอนวันเสาร์แล้วมีคนเยอะมาก วันนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งเล่นฟลุต คนอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็นั่งพักผ่อนบนพื้นที่ปิกนิก ตัวปราสาทไม่ได้ใหญ่เหมือนในรูปแต่ก็สวยมากๆ ขอแนะนำปราสาทแห่งนี้สำหรับคนที่ชอบเดินดูทิวทัศน์ มีวิวสวยๆ ที่ช่างภาพต้องชอบแน่ๆ
5. ปราสาท Matsumoto (นากาโน่)
ปราสาทแห่งนี้สร้างอยู่บนพื้นราบ เป็นหนึ่งในปราสาทที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่นเพราะเป็นปราสาทประจำตำแหน่งของตระกูล Matsumoto เนื่องจากที่นี่มีสีดำ ทำให้ถูกเรียกว่า "ปราสาทอีกา" (ตรงข้ามกับปราสาท Himeji สีขาวซึ่งรู้จักกันในชื่อนกกระสาขาว) ปราสาทมีรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 และเป็นสมบัติแห่งชาติ
รีวิวจาก TripAdvisor :
คุณสามารถมาที่ปราสาทนี้ได้ด้วยการเดิน เลี้ยวที่โค้ง แล้วก็จะพบกับปราสาทขนาดใหญ่ พื้นหลังเป็นภูเขาที่มีหิมะบนยอด มีคูน้ำรอบๆ สวนพร้อมกับหงส์น่ารักคอยว่ายอยู่แถวนั้น ต่อจากปราสาทก็เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีโบราณวัตถุจากแต่ละยุคสมัย สำหรับฉันแล้วงานฝีมือสุดอลังการน่าสนใจมากที่สุด ผู้หญิงชาติกำเนิดดีๆ จะต้องเล่นบอลที่มีเชือกหลากสี มีของผลิตใหม่ขายอยู่ในร้านขายของฝากด้วย
ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าปราสาท มีหลายชั้น ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่ไม่สามารถขึ้นบันไดได้
ที่นี่สวยจนฉันแทบลืมหายใจไปเลยล่ะ ถ้าคุณมา Matsumoto ก็ห้ามพลาดเด็ดขาด!
6. ปราสาท Inuyama (ไอจิ (Aichi))
ปราสาท Inuyama ตั้งอยู่ปลายถนนซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารจากสถานี เป็นหนึ่งใน 12 ปราสาทซึ่งยังคงเหลือสภาพดั้งเดิมจากก่อนยุคเอโดะ ในบรรดาปราสาททั้งหมด ที่นี่ถือว่าเก่าแก่ที่สุด Inuyama ยังเป็นที่รู้จักจากนินจาซึ่งจะปรากฏอยู่ในเมืองและปราสาทอีกด้วย
รีวิวจาก TripAdvisor :
คุ้มมากที่นั่งรถมาไกลถึงที่นี่ ตอนที่ฉันออกจากสถานี Inuyama ก็เดินแค่ 10 นาทีเอง ที่นั่นมีเมืองโบราณเล็กๆ และร้านแสดงซามุไรและนินจาโบราณซึ่งสุดยอดมากๆ ร้านอาหารท้องถิ่นกับร้านของฝากเองก็ดีมากๆ
ตัวปราสาทก็ยังน่าสนใจ ฉันได้เรียนรู้ว่าบันไดถูกสร้างให้สูงและแคบเพื่อให้ยากต่อการโจมตีและปีน นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีประวัติศาสตร์ยาวนาน แถมยังปรากฏอยู่ในกลอนโบราณของกวีจีนอีกด้วย ที่นี่ทำให้ฉันใช้เวลาหลายชั่วโมงได้อย่างสบายๆ เลยล่ะ ถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาอีก
7. ปราสาท Matsuyama (โอคายาม่า (Okayama))
จริงๆ แล้วมีปราสาท Matsuyama 2 แห่งในญี่ปุ่นคือปราสาทแห่งนี้ซึ่งรู้จักกันในชื่อปราสาท Bitchu Matsuyama หรือปราสาท Takahashi และปราสาท Matsuyama ในจังหวัด Ehime ปราสาท Matsuyama แห่งนี้เป็นหนึ่งใน 12 ปราสาทซึ่งยังคงเหลือสภาพดั้งเดิมของญี่ปุ่นเช่นเดียวกับปราสาท Inuyama ที่นี่ยังอยู่สูงที่สุดจากทะเลอีกด้วย
รีวิวจาก TripAdvisor :
ที่นี่คือปราสาทภูเขาของแท้เลย!! นี่เป็นความรู้สึกของฉันนะ ปราสาทแห่งนี้เดินทางยากสุดๆ เลย บนรถก็ต้องขับไปจนถึงไหล่เขา จากที่จอดรถ บัสก็ต้องนั่งไปจนสุดสาย สำหรับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายอย่างฉัน การปีนเขาครั้งนี้ถือว่าลำบากพอตัวเลย แต่หลังจากปีนเขาไปได้ 20 นาที ฉันจะไม่มีวันลืมความทรงจำตอนที่ฉันเห็นปราสาทเลย วิวเองก็สุดยอดเหมือนกัน
8. ซากปราสาท Takeda (เฮียวโกะ (Hyogo))
ซากปราสาท Takeda ที่นี่ได้รับการกล่าวว่าเป็น Machu Picchu แห่งญี่ปุ่น เดิมทีรู้จักกันในชื่อว่าปราสาท Izushi
รีวิวจาก TripAdvisor :
ฉันเคยไปปราสาทญี่ปุ่นและซากปราสาทมากว่า 100 แห่ง แต่ประทับใจมากๆ กับปราสาท Takeda ในเมือง Asago
ฉันเคยไปก่อนที่ที่นี่จะมีชื่อเสียงและยังไม่เก็บค่าเข้า
ผู้คนเรียกซากปราสาทแห่งนี้ว่า "Machu Picchu แห่งญี่ปุ่น" อาจจะเกินจริงไปหน่อย แต่สำหรับแฟนปราสาทก็ห้ามพลาดเด็ดขาด!
ถ้าคุณมีเวลามากพอก็ควรไปเช้าๆ เพื่อชมปราสาทซึ่งล้อมรอบไปด้วยเมฆหมอกจากจุดชมวิวอื่น
9. สวนซากปราสาท Takato (นากาโน่)
ซากปราสาทแห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมากจากการเป็นหนึ่งใน 3 สถานที่ชมซากุระบานยอดนิยมในญี่ปุ่น (อีก 2 แห่งคือปราสาท Hirayama และ ภูเขาYoshino) ที่นี่ไม่มีปราสาทจริง ๆ หลงเหลืออยู่มากนัก แต่ด้วยชื่อเสียงในฐานะจุดชมซากุระบาน ทำให้สวนแห่งนี้มีผู้คนคับคั่ง
รีวิวจาก TripAdvisor :
ที่นี่ไม่ใช่แค่ชมซากุระบานเท่านั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าซากปราสาท Takato มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมากในฤดูซากระ แต่ตอนที่ฉันไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ใบไม้เปลี่ยนสีของที่นั่นยังงดงามสุดๆ อีกด้วย ถ้าคุณชอบไปดูซากปราสาทล่ะก็ซากปราสาท Takato เป็นสถานที่ที่ดีเลยล่ะ แม้ว่าตัวปราสาทจะไม่หลงเหลืออยู่เลยก็ตาม
10. ปราสาท Nijo (เกียวโต)
ปราสาท Nijo ในเกียวโต ประกอบไปด้วยพระราชวัง Ninomaru และซากพระราชวัง Honmaru ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO
รีวิวจาก TripAdvisor :
ได้เรียนรู้ชีวิตของโชกุน พวกฉันไปที่นี่โดยบังเอิญและประหลาดใจกับสภาพปราสาทที่ยังคงงดงาม อีกทั้งยังเดินชมง่ายและสามารถเรียนรู้ชีวิตของโชกุน "พื้นไนติงเกล" เป็นอะไรที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย ตัวอาคารถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีและมีข้อมูลคอยแนะนำว่าแต่ละห้องใช้ทำอะไร
11. ปราสาท Uwajima (เอฮิเมะ (Ehime))
ปราสาท Uwajima เป็นอีกหนึ่งปราสาทบนพื้นราบ มีอีกชื่อหนึ่งว่าปราสาท Tsurushima เป็นหนึ่งใน 12 ปราสาทซึ่งยังคงเหลือสภาพดั้งเดิมตั้งแต่ก่อนยุคเอโดะของญี่ปุ่น
รีวิวจาก TripAdvisor:
มีไม้ไผ่สำหรับค้ำเดินให้ยืมฟรีด้วย มีทางลาดยาง (เส้นทางที่ง่าย) ยาว 700 เมตรกับบันไดหินขรุขระยาว 400 เมตร นอกจากนี้ก็มีพื้นที่สีเขียวบนยอดเขา ค่าเข้าปราสาทอยู่ที่ 200 เยน ที่นี่ไม่ได้เป็นพิพิธภัณฑ์เลยไม่มีอะไรจัดแสดงมากนัก พูดง่ายๆ ก็เป็นแค่อาคารไม้นั่นแหละ แต่บันไดชันๆ ของที่นี่ก็ปีนสนุกดี ลองจินตนาการถึงพวกที่ใส่ชุดโบราณถืออาวุธดูสิ ตัวปราสาทก็ดีและเย็นแม้ว่าอากาศภายนอกจะร้อน ส่วนวิวจากหน้าต่างชั้นบนก็สุดยอดไปเลยล่ะ
มีที่จอดรถ (เสียค่าบริการ) เล็กๆ บริเวณทางเข้าปราสาทด้วย
12. ปราสาท Nakagusuku (โอกินาว่า)
Nakagusuku เป็นกุซุกุสไตล์โอกินาว่าหรือสถาปัตยกรรมแบบป้อมปราการหรือปราสาทโอกินาว่าพร้อมกับกำแพงหิน กุซุกุแห่งนี้ได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกโดย UNESCO และเป็นหนึ่งใน 100 ปราสาทยอดนิยมของญี่ปุ่น
รีวิวจาก TripAdvisor:
เหมือนกับอยู่ที่ปราสาทสก็อตและซากปรักหักพังของชาวอินคาในเวลาเดียวกันเลยล่ะ ที่นี่มีปราสาทเก่าน่าประทับใจบนทะเลทางใต้ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของอาณาจักร Ryuku สามารถชมวิวพาโนราม่าของอ่าว Nakagusku ในมหาสมุทรแปซิฟิก ได้โดยยืนบนกำแพงหินของที่นี่ ปราสาทแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในปราสาทที่คงสภาพดั้งเดิมได้ดีที่สุดที่คุณเคยเจอแน่ๆ ราวกับย้อนไปในศตวรรษที่ 14 เลยล่ะ ค่าเข้าก็ถูกมากๆ (ประมาณ 130 บาท) ที่นี่มี 6 ส่วนให้เดินชม ตรงตีนปราสาทมีร้านไอศกรีมเล็กๆ ที่ขายแค่ไอศกรีมมะม่วง ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะไอศกรีมที่นี่ดีที่สุดในเกาะเลยทีเดียว!
13. ปราสาท Marugame (คากาวะ (Kagawa))
ปราสาท Marugame เป็นอีกหนึ่งปราสาทบนพื้นราบและยังรู้จักกันในชื่อว่า Kameyama หรือ Horai อาคารส่วนใหญ่ของปราสาทถูกไฟไหม้เมื่อปี 1869 ทำให้ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงไม่กี่หลังเท่านั้น แต่กำแพงหินยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์
รีวิวจาก TripAdvisor:
น่าเกรงขาม ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับ Kagawa ที่บุกรุกทะเล ดังนั้นจึงสร้างไว้สูงและมีทางชัน ล้อมรอบด้วยคูน้ำและสวนพร้อมสนามเบสบอลไว้ให้เด็กๆ เล่น แล้วก็มีหงส์สวยว่ายบนคูน้ำด้วย อย่าลืมมาที่นี่ล่ะ ซื้อตั๋วได้ที่ร้านตรงตีนเขาใกล้ๆ กับประตูทางเข้า
14. ปราสาท Kochi (โคจิ (Kochi))
ปราสาท Kochi เป็นหนึ่งใน 12 ปราสาทซึ่งยังคงเหลือสภาพดั้งเดิมของญี่ปุ่นและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันสำคัญ แม่น้ำ Kagami และ Enokuchi คอยเติมเต็มน้ำในคูน้ำรอบปราสาท ตัวปราสาทยังเคยปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ Ocean Waves หรือ Umi ga Kikoeru ของสตูดิโอ Ghibli ด้วย
รีวิวจาก TripAdvisor:
ใครอยากไปเที่ยวปราสาทญี่ปุ่นสำคัญๆ ก็ห้ามพลาดปราสาท Kochi เด็ดขาด มีปราสาทบางแห่งที่มีคนไปเที่ยวเยอะ แต่กลับเล็กแล้วไม่ค่อยสำคัญทางประวัติศาสตร์มากนัก แต่ปราสาท Kochi ไม่ใช่อย่างนั้น ที่นี่มีการออกแบบอันชาญฉลาดอย่างประตูลวงและทางเข้าที่จะนำไปสู่ "กับดัก" ล่องหนซึ่งพรากชีวิตกองทัพที่เข้ามาบุกรุก ปราสาทแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น โดยเฉพาะประวัติการใช้และเข้ายึดครองที่นี่ก็น่าสนใจมากๆ ปราสาท Kochi ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีและมีขนาดใหญ่โต แต่ฉันอยากได้ข้อมูลวิธีการใช้ห้องแต่ละห้องในแต่ละวันของหลายๆ ยุคตอนที่ปราสาทยังถูกใช้เป็นใจกลางของการพบปะและราชการแทนที่จะเป็นแค่แบบจำลองนิ่งๆ
15. ปราสาท Shuri (โอกินาว่า)
ปราสาท Share เป็นกุซุกุอีกแห่งในโอกินาว่าและเป็นปราสาทของอาณาจักร Ryukyu แม้ว่าปราสาทจะถูกทำลายไปเกือบทั้งหมดในสงครามโอกินาว่าตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ได้รับการบูรณะให้คล้ายกับของเดิมเมื่อปี 1992
รีวิวจาก TripAdvisor:
ถ้ามาโอกินาว่าก็ห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาด เป็นโอกาสที่หายากมากในการเยี่ยมชมปราสาทของศตวรรษที่ 14 คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการค้าขายระหว่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความแตกต่างระหว่างโอกินาว่ากับญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ ซึ่งไม่ใช่แค่สถาปัตยกรรม แต่ยังรวมไปถึงวัฒนธรรมอีกด้วย น่าเสียดายที่ปราสาท Shurijo ถูกทำลายให้เป็นเถ้าถ่าน (พร้อมกับโอกินาว่าส่วนอื่นๆ) ในสงครามโอกินาว่าช่วงปี 1945 แต่ปราสาทก็ได้รับการบูรณะและยังคงเหลือประตูหลักบางแห่งเช่นเดียวกับกำแพงและโบราณวัตถุ (เช่นบ่อมังกร Ryuhi หรือระฆัง Bankoku เป็นต้น) ปราสาทมีสีแดงงดงาม เป็นมรดกโลกซึ่งจะนำพาความปิติยินดีมาให้แก่ทุกคน มีร้านของฝากสุดพิเศษซึ่งมีราคาเพียง 820 เยนเท่านั้น
16. ซากปราสาท Edo และ สวนตะวันออกพระราชวังอิมพีเรียล (โตเกียว)
สวนตะวันออกพระราชวังอิมพีเรียลเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าได้พร้อมกับๆ กำแพงป้องกันทรงกลมโบราณของปราสาท Edo (Honmaru และ Ninomaru) คูน้ำ กำแพง ประตูทางเข้า และป้อมยามบางแห่งซึ่งยังคงเหลืออยู่ สวนงดงามมากและเข้าเยี่ยมชมได้ตลอดปี อีกทั้งยังดูแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลอีกด้วย
รีวิวจาก TripAdvisor:
เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจจากเมืองอันวุ่นวาย หากคุณมีเวลาว่างและต้องการเดินสวนล่ะก็แนะนำที่นี่เลย ฉันจะไม่พูดว่าห้ามพลาดที่นี่ แต่พวกฉันก็สนุกสนานกับสวนนี้อยู่เหมือนกัน ซากปราสาท Edo ตั้งตระหง่านและมีการก่อสร้างที่สุดยอดมาก บ่อปลาคาร์ฟก็สวยงาม แถมพวกฉันยังมีโอกาสชมการฝึกศิลปะป้องกันตัวในโรงยิมแถวนั้นด้วย
17. ซากปราสาท Katsuren (โอกินาว่า)
ปราสาทแห่งนี้เป็นกุซุกุสไตล์โอกินาว่าอีกแห่งหนึ่งและรู้จักกันในภาษาท้องถิ่นว่า kacchin gushiku ที่นี่ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกและเป็นมรดกโลกของ UNESCO
ที่นี่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับซากปราสาทอื่น ๆ แต่มีทิวทัศน์ที่งดงามมากเมื่อคุณไปถึงยอดซากปราสาท ฉันอาศัยอยู่ในเมือง Uruma มา 3 ปีและฉันรักพื้นที่กับปราสาทนี้ ที่นี่มีเนินและขั้นบันไดสูงชัน แต่ก็ไม่ได้ปีนยากขนาดนั้น โดยรวมฉันว่าที่นี่สุดยอดเลยล่ะ เป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดถ้าคุณมีเวลา ถ้าโชคดีคุณจะเจอกับรถขายอาหารหรือคอกสัตว์แถวๆ ซากปราสาทด้วย ฉันขอแนะนำให้คุณลองแวะและลองรับประทานดูนะ!
18. ปราสาท Wakamatsu (ฟุคุชิม่า (Fukushima))
ปราสาท Wakamatsu หรือปราสาท Aizu-Wakamatsu ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อของปราสาท Tsuruga อาคารที่ใหญ่ที่สุดของปราสาทได้รับการสร้างใหม่ในปี 1965 และเสริมความแข็งแรงด้วยคอนกรีต
รีวิวจาก TripAdvisor:
ตัวปราสาทถูกสร้างใหม่และค่อนข้างทันสมัย ดังนั้นจะไม่ได้มีบรรยากาศเหมือนกับปราสาทดั้งเดิมหรือปราสาทที่สร้างใหม่ด้วยไม้ แต่นิทรรศการของที่นี่จัดทำได้ดีและมีคำบรรยายภาษาอังกฤษค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
ตอนที่พวกฉันไป ปราสาทแห่งนี้เต็มไปด้วยโฆษณาและ Yae ผู้หญิงซึ่งต่อสู้เพื่อป้องกันปราสาทก่อนถูกทำลายช่วงปี 1860 เวอร์ชั่นการ์ตูน ฉันไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวโอเคหรือเปล่าที่มีรูปตัวเองใส่ชุดซามูไรสีชมพูติดอยู่ทั่วฝาผนังร้านของฝาก แต่ก็มีสีสันสดใสดีนะ
19. ปราสาท Matsue (ชิมาเนะ (Shimane))
ปราสาท Matsue ยังคงรูปแบบอาคารไม้ดั้งเดิมและมักถูกเรียกว่า "ปราสาทดำ" หรือ "ปราสาทนกต้อยตีวิด" แม้ว่าจะเป็นปราสาทศักดินา แต่ก็ไม่เคยเกี่ยวพันกับสงครามโดยตรง ปราสาทถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1611 โดยไม่มีการสร้างใหม่หรือปรับปรุงใดๆ ทั้งสิ้น
รีวิวจาก TripAdvisor:
ปราสาท Matsue เป็นหนึ่งใน 12 ปราสาทซึ่งยังคงเหลือสภาพดั้งเดิมได้มากที่สุดของญี่ปุ่น ไม่เสียค่าเข้าชมจนถึงประตูหลักของปราสาท (ไม่ใช่แค่ประตูนอกตามปกติ) นั่นหมายความว่าคุณสามารถเพลิดเพลินแม้จะเป็นช่วงเช้ามากๆ ตัวปราสาทก็สามารถเข้าได้เหมือนกัน แต่คุณต้องรอจนถึงเวลาเปิดตามปกติ มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ให้คุณเยี่ยมชมในระยะที่เดินได้รอบๆ ปราสาทเช่นกัน
20. ปราสาท Imabari (เอฮิเมะ (Ehime))
ปราสาท Imabari เป็นที่รู้จักกันในฐานะหนึ่งในสาม "ปราสาทกลางทะเล" ของญี่ปุ่นพร้อมกับปราสาท Takamatsu และปราสาท Nakatsu ตัวปราสาทถูกสร้างใหม่ทั้งหมดเมื่อปี 1980
รีวิวจาก TripAdvisor:
ฉันเคยไปเที่ยว Imabari เป็นทริปครึ่งวันจาก Matsuyama (ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟ 40 นาที) ต่อจากนั้นก็นั่งแท็กซี่ไปสถานี Imabari ซึ่งเสียแค่ 700 เยนแล้วนั่งรถประจำทางกลับ ป้ายรถบัสอยู่บนถนนหลักที่คุณออกจากปราสาทแล้วเดินลงมาทางด้านซ้ายนิดหนึ่ง
ปราสาทได้รับการสร้างใหม่แทนของดั้งเดิมที่ถูกทำลาย แต่ก็สร้างใหม่ได้งดงามและมีพลัง ปราสาทตั้งอยู่คูน้ำทะเลขนาดใหญ่ คุณสามารถเดินวนรอบๆ เพื่อถ่ายรูปสวยๆ ได้ เดิมปราสาทถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุบการขนส่ง (กองทัพและการค้าขาย) ผ่านทะเล Seto ข้างในอาคารหลักจัดแสดงอาวุธและเกราะซามูไร ฉันเชื่อว่านี่เป็นการจัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยล่ะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่
เกี่ยวกับนักเขียน
