พาเที่ยวกลางคืนในเกียวโต!? เดินเล่นชมแสงสี ลุยบาร์โลคอล เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน!
เกียวโต เมืองที่เต็มไปด้วยบาร์และอิซากายะ (ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น) ที่เสิร์ฟทั้งอาหารและเครื่องดื่มเลิศรส แต่อาหารญี่ปุ่นอย่างไหนมันเข้ากับเครื่องดื่มชนิดใดกันล่ะ? หรือถ้าอยากสั่งเบียร์ในร้านอิซากายะจะมีขายไหม? หากคุณมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้สักนิดก็จะทำให้เพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารได้มากยิ่งขึ้น คืนนี้ไปเที่ยวที่ไหนดี? มาหาคำตอบด้วยกันในบทความแนะนำบาร์และร้านอิซากายะที่ดีที่สุดในเกียวโตกัน! เราแถมข้อมูลเรื่องจุดที่ดีที่สุดในการเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนของเกียวโตให้คุณได้ไปเดินเล่นย่อยอาหารกันด้วยนะ!
"โอโตชิ" อาหารเรียกน้ำย่อยที่ยกมาเสิร์ฟโดยไม่ได้สั่ง
หากคุณมีโอกาสได้ไปรับประทานอาหารในร้านอิซากายะ คุณจะพบว่าทุกร้านมีการยกอาหารเรียกน้ำย่อยมาเสิร์ฟให้ในทันที เราเรียกสิ่งนี้เรียกว่า "โอโตชิ" (Otoshi) ซึ่งแต่ละร้านก็จะเสิร์ฟเป็นเมนูที่แตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปโอโตชิจะมีราคาอยู่ที่ 300 หรือ 500 เยนต่อคน และจะถูกนำมาเสิร์ฟทันทีที่คุณนั่งโต๊ะโดยไม่ต้องสั่ง
การเสิร์ฟ "โอโตชิ" เป็นการแสดงการต้อนรับและสื่อถึงการที่ร้านไม่อยากให้ลูกค้ารอนานกว่าอาหารที่สั่งจะถูกยกมาเสิร์ฟ หากคุณไม่ต้องการอาหารในจานเล็กๆ จานนี้ คุณสามารถถามพนักงานดูได้ว่าจะขอเปลี่ยนเป็นอาหารอย่างอื่นแทนได้หรือไม่ หรือคุณอาจปฏิเสธไม่รับอาหารทานเล่นจานนี้ไปเลยก็ได้ (แต่ขอให้รู้ไว้ว่าร้านอาหารบางแห่งอาจคิดค่าบริการสำหรับส่วนนี้ด้วย แม้ว่าคุณจะไม่รับมันก็ตาม) ทั้งนี้ คุณสามารถสอบถามทางร้านเพื่อให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับโอโตชิที่แน่นอนก่อนไปร้านอาหารได้
โดยทั่วไปจะเริ่มดื่มเบียร์ก่อน แต่ที่เกียวโตเราเริ่มด้วยสาเกล่ะ!
เมื่อคนญี่ปุ่นมารวมตัวกันเพื่อกินดื่มสังสรรค์ ก็มักจะสั่งเครื่องดื่มแก้วแรกเป็นแบบเดียวกันเพื่อให้คนอื่นไม่ต้องรอ เครื่องดื่มแก้วแรกที่คนญี่ปุ่นนิยมสั่งกัน คือ เบียร์ เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ใช้เวลาในการเตรียมน้อยที่สุดนั่นเอง
เกียวโตมีธรรมเนียมที่ต่างออกไป คนในท้องถิ่นมักจะเริ่มต้นด้วยการดื่มสาเก คุณเองก็ลองเริ่มด้วยสาเกสักแก้วเพื่อให้กลมกลืนไปกับการดื่มแบบคนเกียวโตดูนะ!
อาหารญี่ปุ่นที่นิยมทานคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อย่าลืมว่าที่คุณไปร้านเหล้าหรืออิซากายะก็เพื่อไปสนุกกัน! ลองเริ่มด้วยการสั่งอาหารเรียกน้ำย่อยรสอ่อนๆ ทานแล้วสดชื่นอย่างสลัดหรือซาชิมิ แล้วหลังจากได้เครื่องดื่มมาก็ค่อยสั่งอาหารที่รสจัดขึ้นมาอีกหน่อย เช่น สตูว์ ของทอดหรืออาหารปิ้งย่างดู แน่นอนว่าเครื่องดื่มและอาหารที่อร่อยที่สุดของแต่ละร้านจะไม่เหมือนกันและหากคุณอยากลองทานหลายๆ ร้านก็สามารถไปต่อกันที่อีกร้านหนึ่งได้ คนญี่ปุ่นเรียกมันว่า "Niji-Kai" หรือ "ไปต่อรอบสอง"
“ชิเมะ” ที่นิยมรับประทานกันหลังดื่มคืออะไร?
ที่ประเทศญี่ปุ่นการเข้าร้านอิซากายะไม่ได้ไปเพื่อกินดื่มให้อิ่มท้องเท่านั้น แต่คนญี่ปุ่นมักจะใช้สถานที่เหล่านี้ในการพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงไปพร้อมกันด้วย ดังนั้นเมื่อดื่มไปสักพักคุณก็อาจจะอยากหาอะไรสักอย่างมาทานให้รู้สึกสบายท้อง คนญี่ปุ่นเรียกอาหารเหล่านี้ว่า "ชิเมะ" (Shime) หรือ "จานปิดท้าย" โดยส่วนมากมักจะเป็นอาหารประเภทแป้ง จำพวกข้าวหรือเส้น
”ชิเมะ" ในร้านอิซากายะมักเป็นพวกข้าวต้ม โอชะสึเคะ (ข้าวราดน้ำซุปหรือน้ำชาร้อนๆ) หรือข้าวปั้นย่าง และมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะไปจบการเที่ยวกลางคืนด้วยการแวะทานราเมงกันตอนกลางคืน มื้ออาหารนอกบ้านของคนญี่ปุ่นอาจจะแตกต่างไปจากประเทศไทย แต่ไหนๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว มาลองใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่นดูกันเถอะ!
นักท่องเที่ยวบางคนอาจรู้สึกว่าการเข้าไปใช้บริการร้านอิซากายะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่คุณไม่ต้องกังวลไปเพราะร้านอิซากายะก็เป็นแค่ร้านเหล้าประเภทหนึ่งที่มีอาหารหลายๆ แบบให้คุณได้ลองชิมเท่านั้นเอง แต่มีข้อควรระวังคือ ร้านอิซากายะส่วนใหญ่จะอนุญาตให้สูบบุหรี่ภายในร้านได้ ดังนั้น นี่จึงอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักสำหรับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่หรือคนที่พาเด็กมาด้วย อีกอย่างที่คุณควรจำไว้ให้ขึ้นใจ คือ ในประเทศญี่ปุ่นอายุของผู้ที่สามารถบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ คือ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
ร้านอิซากายะแนะนำรอบๆ สถานี Gion - Shijo และสถานี Kawaramachi
ร้าน Gion Rumble
หากคุณเดินไปตามเส้นทางที่ปูด้วยหินของถนนฮานามิโคจิ (Hanamikoji) คุณจะเจอทางเข้าร้านน้ำชาหลายๆ ร้านและหนึ่งในนั้นก็คือ ร้าน Gion Rumble ที่ตั้งอยู่ในมุมเล็กๆ ของถนนสายนี้ คุณสามารถมารับประทานอาหารและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศในสวนสวยๆ ของทางร้านได้
ร้าน Gion Rumble เต็มไปด้วยกลิ่นอายและมนต์เสน่ห์ของเกียวโต และยังมีอาหารรสชาติอร่อยล้ำที่ทำจากผักและวัตถุดิบตามฤดูกาลของเกียวโตที่พ่อครัวนำมาปรุงอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนด้วย
ร้าน Yuki สาขากิอง
Yuki เป็นร้านที่บริหารโดย Okamura Honke Brewery โรงกลั่นที่เป็นเจ้าของสาเก "Konki (金亀 เต่าทองคำ)" สาเกขึ้นชื่อของเมืองจังหวัดชิกะ คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับสาเกแสนอร่อยที่ส่งตรงมาจากโรงกลั่นและอาหารญี่ปุ่นสูตรต้นตำรับของทางร้าน
ร้าน Yuki ได้รับความนิยมทั้งในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว บรรยากาศในร้านให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่นในยุคเก่าดูเป็นกันเอง ลูกค้าจะนั่งได้นั่งตรงเคาน์เตอร์ที่สามารถมองเห็นครัวหลังร้านได้ด้วย
ผับเบียร์ ICHI - YA
ICHI-YA เป็นผับสำหรับดื่มเบียร์โดยเฉพาะ เปิดทำการโดยบริษัท Ichijoji Brewery จังหวัดเกียวโต ร้านนี้มีขายทั้งคราฟต์เบียร์ส่งตรงมาจากโรงกลั่นของ Ichijoji Brewery และคราฟต์เบียร์อีกหลากหลายชนิดจากโรงกลั่นต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นร้านที่คอเบียร์ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการดื่มคราฟต์เบียร์ เพราะที่นี่มีหลายรสชาติให้คุณได้ไปลิ้มลองกันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่เบียร์รสหวานเหมือนชาดำไปจนถึงเบียร์ที่มีกลิ่นหอมด้วยส่วนผสมของเครื่องเทศ
ร้าน TEPPAN TAVERN TENAMONYA
ร้านอิซากายะแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) เจ้าของร้านเป็นคู่รักที่พูดภาษาอังกฤษและบริการลูกค้าด้วยความเอาใจใส่อย่างสุดๆ ราคาอาหารก็จัดว่าสมเหตุสมผลเช่นกัน โดยเฉพาะเมนูยอดนิยมอย่างสเต็กเนื้อวากิวเกรด A5 (เนื้อเกรดดีที่สุด!) และโอโคโนมิยากิเนื้อนุ่มฟูที่คุณจะเพลิดเพลินไปกับรสชาติได้อย่างไม่รู้เบื่อ
ร้าน Kyoto Gatten Tempura Pub
อิ่มอร่อยไปกับเนื้อสัตว์, อาหารทะเล, เทมปุระผัก, ซาชิมิและอาหารปิ้งย่างต่างๆ ที่เสิร์ฟมาในปริมาณน้อยๆ แต่มากมายจนดูละลานตาไปหมด ร้าน Gatten ยังมีเครื่องดื่มมากมายให้คุณได้เลือกสรร ทั้งเบียร์ สาเกญี่ปุ่นและมัทฉะเบียร์ซึ่งเป็นเมนูต้นตำรับของทางร้านเอง การออกแบบภายในร้านจะเน้นโชว์ความกว้างขวางของพื้นที่เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายเมื่อมาใช้บริการ
ร้านอิซากายะแนะนำบริเวณสถานี Karasuma Oike
ร้าน Haru - Ichi
บาร์เทมปุระเก๋ๆ ที่ตั้งอยู่บนถนนคาราซูมะ (Karasuma Street) ร้านนี้เสิร์ฟเทมปุระร้อนๆ ทอดมาใหม่ๆ เนื้อแป้งสีเหลืองนวล กรอบอร่อย การตกแต่งภายในดูทันสมัยและเหมาะแม้แต่กับสุภาพสตรีที่มารับประทานอาหารคนเดียว
ร้านอิซากายะแนะนำรอบๆ สถานี Shijo และ Karasuma
ร้าน Higashinotoin Sou
ร้าน Higashinotoin Sou ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานี Shijo กลางเมืองเกียวโต ในร้านตกแต่งอย่างมีสไตล์ด้วยโทนสีดำทอง มีที่กั้นเกือบทุกโต๊ะจึงเหมาะสำหรับคู่รักหรือผู้ที่อยากจัดงานปาร์ตี้กันแบบส่วนตัว อาหารของที่นี่ทำจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผ่านการคัดเลือกและปรุงรสมาอย่างพิถีพิถัน
ร้าน Tuzuri
เพลิดเพลินไปกับอาหารจานน้อยในสไตล์โอบันไซ (Obanzai กับข้าวแบบพื้นบ้านของชาวเกียวโต) ที่ทำจากวัตถุดิบพิเศษตามแต่ละฤดูกาล เช่น ผักชนิดต่างๆ เนื้อสัตว์ รวมถึงปลาสดๆ ที่ส่งตรงมาจากตลาด
จุดชมวิวยามค่ำคืนที่ดีที่สุดในเกียวโต!
ร้านค้าในญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะปิดทำการค่อนข้างเร็ว แต่วัดและศาลเจ้าหลายๆ แห่งในเกียวโตมักมีการจัดแสดงแสงไฟหรือที่เรียกกันว่า "Light Up" แบบพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ให้เข้าไปชมแสงไฟยามค่ำคืนกันในบริเวณวัดได้! นอกจากนี้ ยังมีงานประดับไฟแบบอื่นๆ อีกมากมายที่จัดอยู่ตามจุดต่างๆ ในเกียวโต ให้คุณชมแสงไฟที่สวยงามในยามค่ำคืนของเกียวโตได้เกือบตลอดทั้งปี
- มกราคม: ฮัตสึโมเดะ (Hatsu-mode วันที่คนญี่ปุ่นจะเข้าวัดหรือศาลเจ้ากันเป็นครั้งแรกของปี)
- กุมภาพันธ์: เทศกาลเซ็ตสึบุน (Setsubun Festival)
- มีนาคม: เทศกาลประดับไฟฮิกาชิยามะ (Higashiyama Hanatouro)
- มีนาคม - เมษายน: ประดับไฟต้นซากุระ
- พฤษภาคม: รับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Noryo Yuka (ร้านอาหารริมแม่น้ำคาโมกาวะ)
- มิถุนายน: พิธีปัดรังควานประจำฤดูร้อน
- กรกฎาคม: เทศกาลกิอง (Gion Festival)
- สิงหาคม: เทศกาลทานาบาตะ (Tanabata Star Festival), เทศกาลลุยไฟ (Fire-Walking Festival), เทศกาลจุดไฟบนภูเขา 5 ลูก (Gozan-no-Okuribi), เทศกาลประดับเทียน (Manto-e Lantern Festival), การแสดงโรคุไซเน็นบุทสึ (Rokusai Nenbutsu) ฯลฯ
- กันยายน: เทศกาลชมจันทร์
- ตุลาคม - ธันวาคม: ประดับไฟฤดูใบไม้ร่วง, เทศกาลแห่งไฟคุรามะ (Kurama Fire Festival)
- ธันวาคม: เทศกาลประดับไฟอาราชิยามะ (Arashiyama Hanatouro)
ตามไปอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับงานเทศกาลต่างๆ ในเกียวโตและกิจกรรมที่น่าทำในแต่ละฤดูกาลได้ที่นี่เลย!
หรือจะเดินเล่นไปตามตรอกซอกซอยในโตเกียว ซึมซับบรรยากาศและสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ยามค่ำคืนของเมืองเก่าก็บอกเลยว่าเด็ดสุดๆ
วัดน้ำใส (Kiyomizudera) และบริเวณรอบๆ เจดีย์ยาซากะ วัดโฮคังจิ (Hokanji)
ถนนสายนี้มักจะมีนักท่องเที่ยวคับคั่งในช่วงกลางวัน แต่เมื่อตกกลางคืน นักท่องเที่ยวก็จะลดน้อยลง เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเดินเล่นชมความงามอันลึกลับของถนนหินสายนี้ จากตรงนี้คุณสามารถมองเห็นเจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda) ที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัดโฮคังจิได้จากระยะไกล และเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของบรรดาตากล้องทั้งหลาย ตอนกลางคืนก็เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่คุณสามารถไปเดินถ่ายรูปได้อย่างจุใจเพราะไม่มีผู้คนคับคั่งจอแจเหมือนในตอนกลางวัน
คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับจุดท่องเที่ยวรอบเขตวัดน้ำใสที่เปิดเป็นช่วงเวลาพิเศษในตอนกลางคืนของฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงได้อีกด้วย
ถนนฮานามิโคจิ (Hanamikoji Street)
ฮานามิโคจิเป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยร้านน้ำชาที่เหล่าเกอิโกะ (Geiko เกอิชาฝึกหัด) และไมโกะ (Maiko นางรำฝึกหัด) ใช้พักอาศัยและทำงาน จึงถือเป็นจุดศูนย์รวมของมนต์เสน่ห์แห่งเกียวโตเลยทีเดียว ในตอนกลางคืนก้อนหินบนถนนฮานามิโคจิจะดูส่องสว่างด้วยแสงจากตะเกียง เกิดเป็นบรรยากาศที่ต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง และนับเป็นสถานที่แสนพิเศษที่จะทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบดั้งเดิมสไตล์เกียวโต เพราะเป็นที่ที่มีเหล่าเกอิชาและนางรำฝึกหัดใช้เดินผ่านไปมานั่นเอง
* เนื่องจากถนนฮานามิโคจิและกิองชิราคาวะ (Gion Shirakawa) ถือเป็นเขตที่อยู่อาศัยไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว เราจึงอยากขอความร่วมมือให้คุณปฏิบัติตามกฎและมารยาทของคนในท้องที่และงดการถ่ายภาพของผู้คนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ด้วย
- ห้ามเข้าไปจับหรือสัมผัสตัวเกอิโกะและไมโกะ
- ห้ามพิงรั้ว
- ห้ามสูบบุหรี่ระหว่างเดิน
- ห้ามเดินไปรับประทานอาหารไป
- ห้ามทิ้งขยะ
- ห้ามใช้ไม้ถ่ายเซลฟี่
ตลาดอาหารนิชิกิ (Nishiki Food Market)
ตลาดนิชิกิ หรือที่รู้จักกันในนาม "ครัวแห่งเกียวโต" ได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติและมักจะคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งสายช็อปและสายกิน ในช่วงกลางคืนหลังจากที่ร้านรวงต่างๆ ปิดทำการแล้ว คุณจะได้ชมภาพวาดของ "อิโตะ จาคุชู" (Ito Jakuchu) ศิลปินชาวญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 18 ที่ประดับอยู่บนประตูเหล็กม้วนหน้าร้านค้าต่างๆ ทำให้ตลาดแห่งนี้แทบจะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะของอิโต จาคุชูเลยทีเดียว
และเนื่องจากอิโต จาคุชู เกิดที่ตลาดนิชิกิแห่งนี้ จึงมีการจัดงานฉลองวันเกิดครบรอบ 300 ปี ของเขาในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน
ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)
ปราสาทนิโจเป็นหนึ่งในมรดกโลกขององค์กร UNESCO และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกียวโตด้วย โดยปกติปราสาทจะปิดทำการในช่วง 17:00 น. ของทุกวัน แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีการประดับไฟ Light Up และเปิดให้เข้าชมตอนกลางคืนด้วย ต้นซากุระกว่า 200 ต้นในบริเวณปราสาทจะถูกประดับด้วยแสงไฟดูสวยงามตระการตา เป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง
ในช่วงปีหลังๆ มานี้ได้มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่สามารถฉายภาพไปพร้อมๆ กับการจัดแสดงแสงไฟได้ หากคุณไปถูกจังหวะก็จะได้ชมการแสดงที่มีการผสมผสานปราสาทนิโจอันเก่าแก่เข้ากับเทคโนโลยีการฉายภาพสุดทันสมัย
อาคารสถานีรถไฟเกียวโต และเกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower)
อาคารสถานีรถไฟเกียวโตถือเป็นประตูสู่เมืองเกียวโตเลยก็ว่าได้ และในตอนกลางคืนขั้นบันไดอันใหญ่โตของตึกนี้ก็จะส่องสว่างไปด้วยแสงไฟตั้งแต่เวลา 16:00 น. ไปจนถึง 22:00 น. หากคุณเดินขึ้นไปจนถึงด้านบนสุดของขั้นบันได จะเจอพื้นที่ที่ดูเหมือนฟลอร์เต้นรำ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวอันสวยงามของเกียวโตทาวเวอร์รวมถึงทิวทัศน์ยามค่ำคืนของตัวเมืองได้อีกด้วย! มีนักท่องเที่ยวแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จักจุดชมวิวเด็ดๆ แบบนี้ เป็นโอกาสดีของคุณที่จะได้แชะภาพของเกียวโตทาวเวอร์สวยๆ กลับไปอวดคนที่ไทย!
หากคุณอยากสัมผัสกับวัฒนธรรมร้านอิซากายะในเกียวโตดูล่ะก็ ลองเลือกจากร้านต่างๆ ที่เราแนะนำไว้ในช่วงต้นบทความดูนะคะ และหากคุณสนใจศึกษาวัฒนธรรมร้านอิซากายะหรือสาเกเกียวโตอย่างลึกซึ้ง เราก็ขอแนะนำให้ลองเข้าร่วมทัวร์ท่องเที่ยวในลิงก์ด้านล่างนี้ดูสักครั้ง รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน (ให้บริการเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
* เวลาทำการ ราคาและเมนูอาหารอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากรายละเอียดข้างต้น ราคาที่ระบุไว้เป็นราคาโดยเฉลี่ย (แบบไม่รวมภาษี) ที่ใช้สำหรับประมาณและอ้างอิงเท่านั้น
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่