เดินไม่ถึง 5 นาที! 6 ร้านอาหารกลางวันย่านชินจูกุที่เหมาะกับเด็ก

1. KICHIRI MOLLIS Shinjuku-dori [ชินจูกุ]

ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องพาเด็กเดินไปมาในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย เนื่องจาก 'KICHIRI MOLLIS Shinjuku-dori' อยู่ใกล้กับสถานีชินจูกุเพียงเดินประมาณ 1 นาที จึงเป็นร้านที่เข้าถึงได้ง่ายมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นร้านที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากแม่ๆ ชาวญี่ปุ่น จึงขอแนะนำให้ทำการจองไว้ก่อนล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

แม้ว่าภายในจะเป็นร้านแบบญี่ปุ่นที่ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้า แต่ก็มีที่นั่งเป็นแบบโต๊ะทั้งหมด ผู้ที่ไม่ชินกับการนั่งพื้นก็สามารถใช้บริการได้อย่างสบายใจ พื้นของร้านถูกปูไว้ด้วยพรม ไม่ว่าจะเป็นเด็กทารกหรือเด็กที่เพิ่งหัดเดินก็ไม่ต้องห่วง

เมนูอาหารกลางวันของที่นี่มีให้เลือกมากมาย ตัวอย่างเช่น 'ชุดอาหารกลางวันไก่ฮากาตะทอดเกลือ (はかた地鶏の塩唐揚ランチ) (1,600 เยน (รวมภาษีแล้ว))' และเมนูที่มีจำนวนจำกัดอย่าง 'ชุดสตูแฮมเกอร์สูตรพิเศษ (きちり特製煮込みハンバーグ膳) (1,800 เยน (รวมภาษีแล้ว))' อีกทั้งชุดอาหารกลางวันยังมาพร้อมกับบุฟเฟ่ต์ Bagna Càuda เมนูผักจิ้มซอสอิตาเลี่ยนที่ใช้ผักสดใหม่อย่างไม่หวง ในส่วนของเมนูสำหรับเด็ก ก็มีอาหารให้เลือกหลากหลายประเภท ตัวอย่างเช่น 'KIDS☆Udon Lunch (KIDS☆うどんランチ) (700 เยน (รวมภาษีแล้ว))' ที่ปรุงรสอ่อนๆ เหมาะสำหรับเด็ก และ 'KIDS☆Pancake (KIDS☆パンケーキ) (700 เยน (รวมภาษีแล้ว))' ที่มาในรูปตัวละครน่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กก็สามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารพร้อมๆ กันได้

2. latte chano-mama สาขา Isetan Shinjuku [ชินจูกุ]

อีกหนึ่งร้านยอดนิยมของแม่ๆ ในชินจูกุ สูตรลับของความนิยมคือการให้บริการที่เอาใจใส่ ต่อทั้งคุณลูกและคุณแม่  มีที่นั่งแบบฟูกที่ยกตัวสูงขึ้นจากพื้น เนื่องจากมีความลึกจึงสามารถให้เด็กทารกที่ยังนั่งไม่เป็นนอนได้ นอกจากนี้ เนื่องจากภายในร้านสร้างขึ้นโดยให้มีพื้นที่เหลือ จึงสามารถนำรถเข็นเด็กเข้ามาได้ การที่ไม่ต้องปลูกเด็กให้ตื่นจากรถเข็นนั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก นักเดินทางที่มีสัมภาระมากก็สามารถเข้าได้อย่างสบายใจเช่นกัน

อาหารของร้านนี้ให้ความสำคัญกับความสดใหม่ของวัตถุดิบและความสมดุลทางด้านโภชนาการ มีหลายเมนูที่คิดค้นเพื่อให้ทั้งผู้ใหญ่และเด็กสามารถรับประทานด้วยกันได้ เมนูที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษคือ 'Garden Curry Rice (ガーデンカレーライス) (2,180 เยน (รวมภาษีแล้ว))' เมนูข้าวแกงกะหรี่สีสันสดใสที่ทำขึ้นโดยใช้ผักเท่านั้น ผู้ที่ไม่ชอบเนื้อหรือเป็นมังสวิรัติก็สามารถรับประทานได้ เนื่องจากมีปริมาณที่มาก และยังมาพร้อมกับซุป แม้แต่ผู้ชายก็สามารถรับประทานให้อิ่มท้องได้

แม้ว่าจะสามารถนำอาหารสำหรับเด็กทารกเข้ามาได้ แต่ทางร้านก็เมนูสำหรับเด็กทารก (1,100 เยน (รวมภาษีแล้ว)) ให้ลองสั่งอยู่ด้วยเช่นกัน เป็นเมนูสุดหรูแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยังอยากรับประทาน ทำขึ้นโดยคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนา วัตถุดิบ และรูปร่างหน้าตาของอาหาร ตามที่นักโภชนาการแนะนำให้กับเด็กในแต่ละช่วงวัย ปราศจากสารปรุงแต่ง ผลิตภัณฑ์จากนม และไข่ อัดแน่นไปด้วยผักออร์แกนิคที่ปลูกขึ้นในญี่ปุ่น ผู้ที่กังวลเนื่องจากไม่รู้ว่าอาหารในต่างแดนใส่อะไรลงไปบ้าง ก็สามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ

3. Kakureya Koshitsu Kakurebo Oniwa Shinjuku [ชินจูกุ]

ภายในร้านมีการตกแต่งในธีมญี่ปุ่น มีบรรยากาศเงียบสงบน่าผ่อนคลาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักเหนื่อยในระหว่างเที่ยวหรือช็อปที่ชินจูกุ

สำหรับอาหารกลางวัน เราขอแนะนำ 'Lunch Buffet' ที่มีอาหารญี่ปุ่นให้คุณได้รับประทานอย่างไม่อั้น เพียบพร้อมไปด้วยอาหารญี่ปุ่นแบบบ้านๆ กว่า 40 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น เต้าหู้ ปลาย่าง หรือของต้ม ทั้งยังมีความคุ้มค่าเนื่องจากเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ขวบสามารถรับประทานได้ฟรี

นอกจากโคทัตสึแบบหลุมที่อยู่ในโถงใหญ่แล้ว 'Hanare Koshitsu' ห้องส่วนตัวที่หันหน้าเข้าหาบ่อน้ำภายในร้าน ก็ยังเป็นที่นิยมของเหล่าแม่ๆ อีกด้วย แม้ว่าจะต้องเสียค่าห้องต่างหากอีก 1,000 - 2,000 เยน แต่ก็ทำให้คุณสามารถรับประทานอย่างได้อย่างสบายใจแม้ว่าเด็กจะงอแง อย่างไรก็ตาม ห้องส่วนตัวนี้จำกัดการใช้บริการไว้ที่ 8 คนต่อห้องเท่านั้น

4. Kisoji สาขา Shinjuku-sanchome [ชินจูกุ]　

ที่ร้านแห่งนี้คุณจะได้รับประทาน 'ชาบูชาบู' และ 'สุกี้ยากี้' เมนูหม้อยอดนิยมของญี่ปุ่น ภายในร้านมีบรรยากาศที่หรูหรา มีพนักงานสวมสุดกิโมโนคอยให้บริการอยู่ เป็นร้านที่คุณจะได้รับประทานอาหารไปพร้อมๆ กับสัมผัสวัฒนธรรมการให้บริการแบบญี่ปุ่น ที่นั่งมีให้เลือกระหว่างนั่งโต๊ะกับนั่งพื้นที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ ในส่วนของที่นั่งเสื่อทาทามิ สามารถให้เด็กนอนได้ แม้ว่าจะหลับอยู่ในรถเข็นเด็กก็ไม่เป็นไร

เมนูเด่นของร้านนี้คือ 'Hiru no Shabushabu (昼のしゃぶしゃぶ) (เริ่มต้นที่ 3,456 เยน (รวมภาษีแล้ว))' ซึ่งเป็นเซตที่ประกอบไปด้วยเนื้อ ผัก เส้นคิชิเมน (เส้นแบน) และข้าว  'Hiru no Sukiyaki (昼のすきやき)' ก็เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ทั้งสองเมนูที่กล่าวมานี้ ราคาจะเปลี่ยนไปตามระดับของเนื้อที่ใช้ หากไม่เข้าใจขอแนะนำให้ลองถามพนักงานดู เมนูอาหารกลางวันอื่นๆ ก็ยกตัวอย่างเช่น 'Unagi Hitsumabushi (鰻ひつまぶし) (2,160 เยน (รวมภาษีแล้ว))' และ 'Ohiru Gozen (お昼御膳)' เช็ตเมนูที่มาพร้อมกับซาชิมิ ชาวังมุชิ (ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น) และของหวาน นอกจากนี้ยังมีเมนูที่รองรับภาษาอังกฤษและภาษาจีนอยู่อีกด้วย

เมนูสำหรับเด็กก็มีอยู่เช่นกัน มีจุดเด่นเป็นการจัดจานที่ประณีตและการปรุงรสที่พิถีพิถันจนไม่น่าเป็นเชื่อว่าเป็นเมนูสำหรับเด็ก ตัวอย่างของเมนูดังกล่าวนี้ก็ได้แก่ 'Bonbori (ぼんぼり) (1,080 เยน (รวมภาษีแล้ว))' ที่มาพร้อมกับกุ้งชุบแป้งทอด แฮมเบอร์เกอร์ และซูชิ  และ 'Okosama Gozen (お子様御膳) (2,160 เยน (รวมภาษีแล้ว))' ซึ่งเป็นเซตของไข่ตุ๋นกับสลัด เป็นต้น

5. Mimiu (美々卯) สาขาชินจูกุ [ชินจูกุ]

ร้านที่เสิร์ฟ 'อุด้งสุกี้' เมนูที่มีต้นกำเนิดในโอซาก้า เป็นอีกหนึ่งร้านที่คนนิยมพาเด็กมารับประทานด้วย มีห้องส่วนตัวที่มีโคทัตสึแบบหลุม ถึงแม้ว่าจะมีเด็กที่ซุกซนก็สามารถนั่งรับประทานได้อย่างสบายใจ

เมื่อพูดถึงแล้ว Mimiu ก็ต้องนึกถึงอุด้งสุกี้ ทำขึ้นโดยใช้ผักในพื้นที่ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ และซุปที่เคี่ยวนานกว่า 2 ชั่วโมง มีวิธีการรับประทานโดยใส่อุด้ง ผัก และเครื่องต่างๆ ลงในหม้อที่มีน้ำซุปรสอ่อนๆ ขอแนะนำเซตสุดคุ้มอย่าง 'Ohiru no Udonsuki (お昼のうどんすき) (2,500 เยน (รวมภาษี))' ที่นอกจากจะมีอุด้งสุกี้แล้ว ยังมาพร้อมกับเครื่องเคียงและเครื่องดื่มอีกด้วย เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วใช้วัตถุดิบที่สามารถแบ่งกันรับประทานกับเด็กได้ง่าย จึงเหมาะที่จะพาเด็กๆ มารับประทานด้วยกันมากๆ

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือกุ้ง กุ้งของร้านนี้มีวิธีการรับประทานโดยการใส่กุ้งเป็นๆ ลงไปในหม้อร้อนๆ อาจจะดูน่าสงสาร แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่มีโอกาสพบได้ไม่บ่อยนัก ทั้งยังได้รับประทานกุ้งสดสุดๆ อีกด้วย หากมีโอกาสแล้วล่ะก็ขอให้ลองดูสักครั้ง รับรองได้ว่าเด็กที่เห็นเป็นครั้งแรกจะต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน

·ที่นี่ได้ปิดทำการแล้วเมื่อเดือน 5 ปี 2563

6. Tokori (土古里) สาขา Shinjuku NOWA [ชินจูกุ]

'Tokori สาขา Shinjuku NOWA' ร้านยอดนิยมที่ได้รับความสนใจจากสื่อหลายแขนง เนื้อที่เสิร์ฟในร้านนี้เป็นเนื้อวากิวคุณภาพสูง นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังสามารถรับประทานดิบๆ ได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย บ่อยครั้งที่ไม่รู้ว่าอาหารใช้วัตถุดิบแบบไหน การได้มาพบกับร้านที่เอาใจใส่ในวัตถุดิบแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ

'บุฟเฟ่ต์มังสวิรัติสไตล์เกาหลี' เป็นหนึ่งในบริการที่น่าชื่นใจของร้านนี้ เมื่อสั่งอาหารจานหลักมา คุณจะสามารถรับประทานบุฟเฟ่ต์ได้ด้วย (จำกัดเวลา 2 ชั่วโมง) รายการอาหารก็มีอยู่มากมาย ตั้งแต่สลัดบาร์ เมนูเครื่องเคียงหลักๆ ของเกาหลีอย่าง จิจิม (แพนเค้กเกาหลี) กับนามูล (เมนูผักเกาหลีปรุงรส) ไปจนถึงของหวานและเครื่องดื่ม รวมทั้งสิ้นกว่า 30 อย่างให้เลือกรับประทาน นอกจากนี้ เด็กเล็กที่ยังไม่เข้าโรงเรียนก็ยังสามารถรับประทานบุฟเฟ่ต์ได้ฟรีอีกด้วย

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่นิยมของเหล่าพ่อแม่ก็คือเรื่องที่นั่ง ภายในร้านที่กว้างขวางกินพื้นที่ตึกทั้งชั้นนี้ มีพื้นที่ที่เรียกว่า 'Oyako Room' ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับพ่อแม่และเด็กโดยเฉพาะ ภายในนอกจากจะมีเก้าอี้สำหรับเด็กแล้ว ยังมีสิ่งต่างๆ อีกเพื่อทำให้เด็กไม่เบื่อ ตัวอย่างเช่น หนังสือภาพ โอริกามิ (กระดาษพับญี่ปุ่น) สมุดวาดรูป และลูกโป่ง อีกทั้งรอบๆ ก็ยังเป็นแขกที่พาลูกมาด้วยเช่นเดียวกัน จึงไม่ต้องห่วงว่าจะสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่น

 

ปัจจุบันร้านที่รองรับเด็กนั้นมีอยู่น้อย แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ยังลำบากในการหาร้านดังกล่าว ไม่ต้องพูดถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งเข้าถึงข้อมูลได้ยากกว่ามาก จึงเป็นไปได้สูงที่อาจเข้าร้านแล้วถูกปฏิเสธ หรืออาจเข้าได้แต่ก็พบกับประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดี  6 ร้านที่เราได้แนะนำไปข้างต้นนั้น รับรองได้ว่ามีบรรยากาศที่ทั้งผู้ใหญ่และเด็กสามารถใช้บริการได้อย่างสบายใจ ลองวางแผนการเดินทางโดยอ้างอิงจากบทความนี้ เพื่อช่วยให้การเดินทางของคุณเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำดูสิ