[รีวิว] Midori Sushi Ginza ซูชิ "มิโดริ" คุ้มค่าราคาที่สุดในโตเกียว@กินซ่า

Midori Sushi Ginza ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าตั้งอยู่ที่ "กินซ่า" ย่านช็อปปิ้งหรู ของแบรนด์เนมชั้นนำ แต่ในเรื่องของกินนั้น ที่กินซ่ามีของกินราคาถูกและดีอยู่มากมาย เช่นร้านซูชิมิโดริที่ tsunagu Japan จะพาไปชิมกันในวันนี้

Midori Sushi Ginza (Sushi no Midori - 梅丘寿司の美登利総本店) ร้านซูชิชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งเรื่องของวัตถุดิบชั้นดี และราคาไม่แพง แต่การที่จะได้มาลิ้มลองร้านนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว เนื่องจากคุณต้องต่อสู้กับผู้คนมากมายที่หลั่งไหลมากินที่ร้านมิโดริ ซูชิ แห่งนี้ ร้านตั้งอยู่เรียบกับแนวทางรถไฟ ระหว่างสถานี JR Shinbashi กับ JR Yurakucho แค่เดินมาตามถนนเรียบรางรถไฟแล้วเห็นร้านไหนที่มีคนนั่งรอกันจนเต็มหน้าร้าน นั่นแสดงว่าคุณเดินทางมาถึง Midori Sushi Ginza แล้ว มาถึงแล้วก็รีบกดคิวกันได้เลย จะได้ไม่เสียเวลา ซึ่งหากมาช่วงเวลาเย็น หรือเสาร์อาทิตย์ อาจจะต้องรอคิวนานถึง 2-3 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว

ในที่สุดก็ถึงคิว! เมื่อเข้ามาในร้านก็จะรับรู้ได้เลยว่าร้านนี้ลูกค้าเยอะจริงๆ มีเชฟประจำอยู่ที่ซูชิบาร์มากถึง 5 คน (ยังปั้นกันไม่ทันเลย) ในร้านจะมีที่นั่งทั้งแบบเคาท์เตอร์ และโต๊ะ ซึ่งสามารถเลือกได้ตอนกดบัตรคิว ใครอยากสัมผัสบรรยากาศการปั้นซูชิแบบใกล้ๆ ก็แนะนำให้เลือกนั่งที่เคาท์เตอร์ได้เลย พอมาถึงโต๊ะก็ได้เวลาเปิดเมนูซึ่งถ้าเป็นในช่วงกลางวัน จะมีเซ็ทซูชิกลางวันราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1800 เยน จนไปถึงเซ็ทละ 3000 กว่าเยนก็มี อันนี้เลือกได้ตามใจชอบ หรือใครไม่ถูกใจก็สามารถสั่งแยกซูชิเป็นคำๆ ได้เช่นกัน อย่ารอช้ามาสั่งอาหารกันเลย ลืมบอกไปว่าที่ร้านจะมีเมนูเด็ดประจำวันอยู่ด้วย แต่จะเขียนอยู่ในแผ่นกระดาษแต่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด (หากใครต้องการลิ้มลองเมนูแนะนำประจำวันก็สามารถสอบถามกับพนักงานได้เลย)

หลังจากสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย รอไม่นานเมนูแรกก็มาเสิร์ฟ นั่นก็คือ มันปู! ทีเด็ดของร้านนี้นี่เอง เห็นตอนแรกอาจจะตกใจว่าให้มันปูมามากขนาดนี้เลยหรือ? แต่ไม่ใช่มันน่าตกใจยิ่งกว่านั้นเนื่องจากด้านล่างของมันปูนั้นคือ "เนื้อปู" เน้นๆ เรียกได้ว่าสามารถตักกินแบบเต็มๆ คำได้เลย (แนะนำให้ห่อผักแล้วกินด้วยกันเพื่อตัดเลี่ยน) เนื้อปูแน่นๆ มันปูเยิ้มๆ ราคาเพียง 600 เยนเท่านั้น

ต่อมาเป็นเมนูเด็ดที่ต้องลองให้ได้ นั่นก็คือ "หัวปลาไทต้มซีอิ้ว" เมนูนี้ร้านส่วนมากในญี่ปุ่นจะทำรสชาติค่อนข้างอ่อน แต่ที่มิโดริซูชินั่นรสชาติเข้มข้นมาก ถ้าใครไม่กินเค็มอาจจะต้องทานแค่ส่วนด้านใน แต่หากใครติดเค็มหน่อยๆ ล่ะก็เมนูนี้ถึงสวรรค์อย่างแน่นอน แถมราคายังโครตถูกเพียง 600 เยนเท่านั้น

มาเสิร์ฟรัวๆ เมนูนี้แอดแนะนำเอง "หอยสับย่างกระเทียม" ที่นำหอยมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำเพื่อไม่ให้ชิ้นใหญ่จนเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อหอยเหนียวได้ และนำไปย่างกระเทียมบนกระทะร้อนได้ลองแล้วจะฟินอย่าบอกใคร ราคาเพียง 800 เยน

และในที่สุดจานพระเอกของเราในวันนี้ก็มาเสิร์ฟ เซ็ทซูชิพิเศษ ราคา 2,000 เยน มาดูกันว่าเราได้อะไรมาบ้างในจานนี้ ไล่มาจากแถวด้านบน อูนิ, ชูโทโร่, ปลาไท, มากุโร่, โฮตาเตะ, ปูซุไว, ไข่หวาน 2 ชิ้น, กุ้งหวาน, อิคุระ, อานาโกะ(ปลาไหลน้ำจืด), โรลมากุโร่ รวมทั้งสิ้น 12 คำ ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ เซ็ทเดียวก็อิ่มได้ มาซูมดูอุนิใกล้ๆ กันสักหน่อย แค่ดูสีก็รู้แล้วว่าของดีแน่นอน น้ำลายสอกันไป

หากใครจัดไปทั้งเซ็ทแล้วยังไม่อิ่มท้องแบบแอด ก็สามารถสั่งเพิ่มเป็นคำๆ ไปได้ ไม่รอช้าจัด "โอโทโร่" เพิ่ม 2 คำ (คำละ 500 เยน) เนื้อปลายาวมาก เทียบกับราคาแล้วต้องบอกเลยว่าถูกมากๆ ไปกินร้านอื่นนี่ไม่ได้เนื้อปลาเท่านี้แน่นอน ส่วนอีกสองคำที่เหลือก็คือ "หอยโฮตาเตะ" 

มาดูโอโทโร่กันแบบใกล้ๆ จิ้มโชยุเพียงเล็กน้อยแล้วนำเข้าปากได้เลย ฟินไปอีกกกกก แค่นี้ก็คงอิ่มท้องกันแล้ว วันนี้แอด และ tsunagu Japan ก็ต้องขอตัวลากันไปก่อน แต่แนะนำมากๆ ร้านนี้ อร่อยคุ้มค่าราคา ไม่ได้อวย แต่ของดีต้องบอกต่อ แต่ถ้าหากมีแพลนจะมาก็ต้องเผื่อเวลากันไว้บ้าง

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !