Outlet ใหม่ล่าสุดโตเกียว ใหญ่ที่สุด และครบที่สุด! ที่ “Minami-machida Grand berry park”

“Minami-machida Grand berry park” (南町田グランベリーパーク) อยู่ในจังหวัดโตเกียว เคยเป็นที่ตั้งของเอาท์เล็ทขนาดใหญ่แต่ได้ถูกปิดปรับปรุงขนานใหญ่ตั้งแต่ปี 2017 และได้เพิ่งเปิดตัวโฉมใหม่เมื่อเดือนพฤษจิกายน 2019 ที่ผ่านมา ที่ไม่ได้เป็นแค่เอาท์เล็ทธรรมดาอีกต่อไป แต่ยังมีกิจกรรมและโซนต่างๆ ใหม่ๆ เต็มไปหมด เป็นเหมือนกับเมืองใหม่ที่สามารถใช้เวลาได้ทั้งวันเลยทีเดียว

การเดินทางไปเอาท์เล็ท “Minami-machida Grand berry park” แสนง่าย

การเดินทางไปยังเอาท์เล็ท Minami-machida Grand berry park นั้นง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงนั่งรถไฟสาย Tokyu Den-en-toshi Line ตรงจากชิบูย่า โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟก็มาถึงที่ "สถานี Minami-machida Grandberry Park" ได้ภายในไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง! ทั้งนี้ เราขอแนะนำให้ขึ้นรถไฟที่เป็นรถไฟด่วนพิเศษ (Express train หรือ Semi-express) ที่จะจอดเพียงบางสถานีเท่านั้น ซึ่งจะเร็วกว่ารถไฟแบบจอดทุกสถานี (local train) มากๆ เลยล่ะ

แนะนำโซนต่างๆ ในเอาท์เล็ท Minami-machida Grand berry park

ก่อนที่จะเริ่มไปท่องเที่ยวกันในเอาท์เล็ท “Minami-machida Grand berry park” เมื่อเราออกมาจากสถานีแล้ว ก็จะพบกับ Information center ที่เราสามารถแวะเข้าไปรับแผนที่ รวมถึงอาจจะมีข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่างๆ ในช่วงเวลานั้นอยู่ก็ได้

ที่นี่มีการแบ่งบริเวณใหญ่ๆ อยู่ทั้งหมดสามส่วน ได้แก่ SHOPPING ZONE, PARK-LIFE SITE และ PARK ZONE ซึ่งแต่ละบริเวณก็มีสถานที่น่าสนใจอยู่มากมาย โดยในบทความนี้ ขอยกตัวอย่างโซนที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ลองดูกัน!

Shopping zone: มาญี่ปุ่นช็อปครบจบในที่เดียว

โซนแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือโซนช็อปปิ้ง หรือเรียกง่ายๆ ได้ว่าเป็นเหมือนเอาท์เล็ทขนาดใหญ่มหึมา มีร้านค้าแบรนด์ต่างๆ มากมายเรียงรายกันในอาคารแบบกึ่งกลางแจ้ง ทั้งร้านเสื้อผ้า ของใช้ รองเท้า เครื่องประดับมากมาย ร้านอาหารและเครื่องสำอาง ไปจนถึงร้านร้อยเยนเลยล่ะ

เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวก็สามารถเก็บร้านเอาท์เล็ทห้ามพลาดเมื่อมาญี่ปุ่นได้ในที่เดียว ABC mart, Adidas, Nike, New balance, GAP รวมถึงแบรนด์เนมอื่นๆ เช่น Coach, Calvin Klein และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากที่นี่จะรวมร้านต่างๆ ไว้มากมายแล้ว ราคาของแต่ละร้านยังลดกระหน่ำจนอดที่จะซื้อไม่ได้เลยทีเดียว อีกทั้งที่นี่มักจะมีแคมเปญเป็นระยะ จึงเหมาะที่จะมาช็อปสินค้าและของฝากกลับไปมากๆ

Snoopy Museum Tokyo: พบกับสนูปปี้และผองเพื่อน

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดในเอาท์เล็ท Minami-machida grand berry park ก็คือ “พิพิธภัณฑ์ Snoopy Museum Tokyo” ที่แต่เดิมเคยตั้งอยู่ที่รปปงงิ (Roppongi) แต่ได้ปิดตัวลง และมาเปิดใหม่รวมเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่แทนนั่นเอง

สำหรับ พิพิธภัณฑ์ Snoopy Museum Tokyo แห่งนี้นั้น เป็นส่วนหนึ่งของบริเวณ PARK-LIFE SITE สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความน่ารักและเรื่องราวของสนูปปี้และเหล่าผองเพื่อน ห้ามพลาดมาแวะชมและถ่ายรูปกับสนูปปี้แสนน่ารักในบริเวณนี้ เสร็จแล้วก็สามารถไปนั่งชิวได้ที่ “PEANUTS Cafe” นั่งกินขนมและเครื่องดื่มในร้านคาเฟ่ของทางพิพิธภัณฑ์ได้อีกด้วย 

Green Living zone: บ้านสวนและของใช้

สำหรับอีกหนึ่งโซนที่สร้างความประทับใจให้เหล่าคนรักธรรมชาติ สวน และของตกแต่งน่ารักๆ ในชีวิตประจำวัน ต้องไปที่ “Green Living zone” ที่มีทั้งต้นไม้ประดับขนาดเล็กและขนาดกลาง ได้ทั้งถ่ายรูปชิคๆ ลงโซเชียลเน็ตเวิร์ค ได้ทั้งของตกแต่งสวนน่ารักๆ หรืออาจจะได้ไอเดียไปปรับใช้กับสวนและบ้านก็ได้นะ ต้องบอกเลยว่านอกจากต้นไม้และของประดับต่างๆ แล้ว ยังมีของเก๋ๆ ชิคๆ ที่ดูไปก็เพลิดเพลิน เหมือนได้ชื่นชมความคิดสร้างสรรค์แบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นสนุกไปอีกแบบ

อย่าเพิ่งคิดว่าถ้าไม่ชอบตกแต่งสวนแล้วจะไม่ไปที่นี่กันล่ะ เพราะว่านอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีร้านอาหารแบบเฮลท์ตี้ให้ลิ้มลอง รับประทานเสร็จก็ยังสามารถไปเดินดูเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในบ้านเก๋ เล่นเพลินๆ ได้อีกด้วย

Kid Discovery zone: โซนสำหรับลูกๆ และครอบครัว

ขอบอกเลยว่าที่ “Minami-machida Grand berry park” ต้องถูกใจเหล่าคุณหนูๆ ที่ชื่นชอบของเล่นและลานกิจกรรม ในส่วนของโซน “Kid Discovery zone“ แห่งนี้มีกิจกรรมทั้งร้านเกมเซนเตอร์ ร้านของเล่นและสนามเด็กเล่นอยู่ด้วย หรือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่หิวข้าวก็สามารถนั่งรอพักรับประทานอาหารให้อิ่มท้องได้ที่ศูนย์อาหารของโซนนี้

สิ่งขึ้นชื่อของที่โซนนี้ หรือเรียกได้ว่าเป็นสิ่งยอดนิยมที่ต้องลองเมื่อมาที่ “Minami-machida Grand berry park” นั่นก็คือ “บุฟเฟ่ต์ KFC” ใครจะเชื่อล่ะว่ามีบุฟเฟ่ต์ไก่ที่ทุกคนคุ้นเคยแบบนี้อยู่ด้วย โดยที่สาขาแห่งนี้ นับเป็นสาขาแรกในภูมิภาคคันโตเลย คนญี่ปุ่นก็ต่างให้ความสนใจกับร้านนี้สุดๆ! ถ้าหากสนใจที่จะมาลิ้มลองล่ะก็ ขอแนะนำให้มาช่วงเช้าแล้วตรงไปที่ร้านเพื่อเข้ารับตั๋วคิวก่อนเลย

Mont-bell village: เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกไปผจญภัย!

จากชื่อก็คงจะรู้ว่าเป็นโซนของแบรนด์ Mont-bell ที่ขายอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายมากมายเกี่ยวกับกีฬาผจญภัย เดินป่า หรือตั้งแคมป์ ที่น่าจะลองคว้าไปลองใช้ให้ใกล้ชิดธรรมชาติกว่าเดิม ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าที่นี่จะมีแต่ของของแบรนด์ Mont-bell เพียงอย่างเดียว เพราะในละแวกใกล้เคียงก็มีร้านของแบรนด์อื่นๆ อย่างเช่น Columbia และ Salomon ที่ขายของสำหรับเหล่านักผจญภัยอยู่เช่นกัน

นอกจากร้านขายเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างครบครันแล้ว ที่นี่ยังล้ำไปอีกขั้นด้วยกิจกรรม Adventure ทั้งกิจกรรมปีนผา Bouldering หรือจะทดลองสัมผัสประสบการณ์พายเรือแคนูในบ่อน้ำก็ได้อีกด้วย

Gathering Market zone: หิวเมื่อไหร่ก็ต้องที่นี่แล้วล่ะ

พอเดินเล่นท้องหิวกันแล้ว ก็ต้องแวะไปที่โซน “Gathering Market“ ที่รวบรวมร้านอาหารและขนมของฝากต่างๆ มากมายไว้ ที่มีร้านอาหารอยู่อย่างหลากหลาย ทั้งราเมง ข้าว ไก่ปิ้ง เบเกอรี่ ยันผักผลไม้และเนื้อสด ที่ขายกันเหมือนเป็นซุปเปอร์มาเก็ตขนาดย่อมๆ เลย

ซึ่งนอกจากร้านอาหารในโซน Gathering Market กลางเมืองแห่งนี้แล้ว ยังมีร้านอาหารกระจายตัวอยู่ทุกมุมของ “Minami-machida Grand berry park” เลยล่ะ อีกหนึ่งจุดที่มีร้านอาหารน่าสนใจกระจุกตัวกันเยอะมากก็คือโซน Hillside Villa ที่จะแนะนำต่อจากนี้เลย

Hillside Villa: นั่งปิกนิก ชมวิวทิวทัศน์กับลานหญ้าเขียวขจี

โซน “Hillside Villa“ แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว เพราะมีแลนด์มาร์ค “กระรอกบนหญ้าเขียว” ตัวใหญ่ให้ลองหามุมถ่ายรูปกัน ที่โซนนี้นั้น ล้อมรอบไปด้วยอาคารที่มีร้านอาหารเรียงรายอยู่หลายร้านให้เลือกรับประทาน อย่างร้าน ร้านอาหารจีน Panda Express ร้านราเมง Afuri ร้านทงคัตสึ Saboten บุฟเฟ่ต์อาหารไต้หวัน Tenshin-tenshin เป็นต้น หรือจะลองซื้อแบบเทคเอาท์แล้วเอามานั่งรับประทานกันเป็นปิกนิกชิวๆ กับครอบครัวและคนรักก็ได้ด้วยเช่นกัน

Park Zone: โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและบรรยากาศแสนผ่อนคลาย

เดินถัดออกมาจากตัวอาคารผ่านทางโซน Hillside Villa เราก็จะพบกับสวนอันกว้างใหญ่ ให้เดินเล่นชมวิว หรือจะให้ลูกๆ เด็กน้อยได้วิ่งเล่นและเล่นเครื่องเล่นก็ได้ ที่นี่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างมากๆ ขนาดที่มีส่วนที่ต่อไปเป็นสนามฟุตซอลและลู่วิ่งเล็กๆ เลยทีเดียว ในภาพเป็นช่วงฤดูหนาว แต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็สามารถมาเดินเล่นชมเหล่าใบไม้ที่จะเปลี่ยนสีสันสวยงามได้ 

Wonder Theater: คอหนังและเกมห้ามพลาด

หากใครรู้สึกหมดแรงไม่อยากเดินหรือทำอะไรอีกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งตัวเลือกให้นั่งเฉยๆ ได้หลายชั่วโมงเลย นั่นก็คือการดูหนังที่โซน “Wonder Theater“ นั่นเอง ใครที่ไม่รู้จะทำอะไรแล้วจริงๆ ขอแนะนำให้เดินเข้ามาที่โซนนี้ กดซื้อตั๋ว ซื้อป็อปคอร์นแล้วเดินชิลล์ในแอร์เย็นๆ กันได้เลย!

นอกจากตัวโรงภาพยนตร์ที่อยู่ที่ชั้นสองแล้ว ยังมีโซนเกมเซนเตอร์ที่มีเครื่องเล่นน่าสนใจมากมาย หรือจะไปลองเล่น VR ก็มีอยู่ที่นี่เช่นกัน

ที่เที่ยวใหม่ๆ แบบนี้ ต้องมาสัมผัสประสบการณ์ความใหม่ก่อนแมสกันแล้วล่ะ!

ก่อนกลับกัน อย่าลืมไปเติมพลังด้วยเครื่องดื่มสุดชื่นใจให้หายเมื่อยกัน ไม่ว่าจะลองชานมไข่มุกยอดฮิต Gong cha, น้ำผึ้งมะนาว Lemonade by Lemonica หรือจะจิบกาแฟแก้ง่วงที่สตาร์บัคส์ก็ได้
 

แล้วก็จบไปแล้วกับรีวิวที่เที่ยว Unseen แห่งใหม่ ที่ต้องบอกเลยว่าครบครันทุกอย่างมากๆ และต้องเป็นที่เที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่แน่นอน ใครที่กำลังมองหาแพลนดีๆ ใกล้ๆ โตเกียวล่ะก็ ต้องห้ามพลาดที่จะใส่เอาท์เล็ท “Minami-machida Grand berry park” ไว้ในลิสต์เลยล่ะ

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !