ตะลุยกินใน Yokohama Chinatown! 9 อาหารต้องไปลอง ณ ตรีทฟู้ดจีนในญี่ปุ่น!
พาทุกคนไปลองของอร่อยๆ ใน Yokohama Chinatown ดินแดนแห่งอาหารจีนสุดเด็ดในเมืองโยโกฮาม่า แนะนำร้านดังห้ามพลาดทั้งขนมจีบ ซาลาเปา เสี่ยวหลงเปา เป็ดปักกิ่ง ฯลฯ ไชน่าทาวน์ใหญ่ร้านเยอะขนาดนี้ไม่รู้จะกินอะไรดี บทความนี้มีคำตอบ!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ยินดีต้อนรับสู่ไชน่าทาวน์!
ไทยมีเยาวราช ญี่ปุ่นเองก็มีไชน่าทาวน์ แดนสวรรค์แห่งอาหารจีนอยู่เหมือนกัน! ไชน่าทาวน์ใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นมี 3 ที่ คือที่โยโกฮาม่า โกเบ และนางาซากิ ซึ่ง Yokohama Chinatown หรือ Yokohama Chukagai (横浜中華街) ที่เราจะพาไปรีวิวในวันนี้ก็คือไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดนั่นเองค่ะ
โยโกฮาม่าไชน่าทาวน์เป็นที่เที่ยวหลักในเมืองโยโกฮาม่า เดินทางมาง่ายๆ จากโตเกียวแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Motomachi-chukagai ออกทางออกมาก็จะเจอทันที!
ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์แห่งสตรีทฟู้ดอาหารจีน มาดูกันดีกว่าค่ะว่า 9 ร้านที่เราคัดเลือกมาจากกว่าร้อยร้านในย่านนี้จะมีร้านไหนบ้าง~
1. เสี่ยวหลงเปาย่าง ร้าน Hotenkaku (鵬天閣)
ขอเริ่มจากร้านเสี่ยวหลงเปาที่มีคนต่อคิวรอยาวแทบจะตลอดเวลาอย่าง Hotenkaku ร้านนี้ส่งตรงมาจากเซี่ยงไฮ้ แน่นอนว่าเมนูเด็ดคือเสี่ยวหลงเปาที่มีทั้งแบบนึ่งและแบบย่างกระทะ มีกิมมิคอยู่ตรงที่สามารถชมเชฟย่างเสี่ยวหลงเปาแบบจะจะระหว่างรอคิวได้
มารีวิวทั้งทีก็ขอสั่งเมนูอันดับ 1 ของร้านนั่นก็คือเสี่ยวหลงเปาย่างเซต 4 ชิ้น (680 เยน) โดยจะมีไส้หมู 2 ชิ้น (ชิ้นสีขาว) และไส้ทะเล 2 ชิ้น (ชิ้นสีเขียว) ค่ะ
วิธีทานเสี่ยวหลงเปาคือให้กัดรูเล็กๆ ที่ขอบแล้วดื่มน้ำซุปก่อน แล้วค่อยกินส่วนที่เหลือ ส่วนรสชาติก็ไม่ต้องอธิบายเยอะ เพราะอร่อยมากๆ ซุปร้อนๆ (ระวังลวกปากนะคะ) ไส้เน้นๆ ส่วนตัวชอบไส้ทะเลเป็นพิเศษพราะใส่กุ้งมาเต็มๆ เลย
ใครติดใจอยากซื้อกลับบ้านก็ดี หรือจะไปลองเมนูอาหารจีนอื่นๆ ที่ร้านอาหารบนชั้น 2 ก็ได้เหมือนกัน (มีสาขาอื่นๆ อีกด้วยนะ!)
2. ไก่ทอดไต้หวันยักษ์ ร้าน Yokohama Za-ji-pai (横濱炸鶏排)
ต่อไปเป็นอีกร้านยอดฮิต Yokohama Za-ji-pai ร้านไก่ทอดอิมพอร์ทจากไต้หวัน มีเมนูดังเป็น Taiwan Karaage (540 เยน) ไก่ทอดไซส์บิ๊กสไตล์ไต้หวันที่มีขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือเลยทีเดียว! ใครไม่ถนัดทานไก่ชิ้นใหญ่ๆ จะสั่งเป็นคาราอาเกะไซส์พอดีคำก็มีเหมือนกันค่ะ
ตอนสั่งสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะโรยพริกหรือเปล่า (แนะนำให้โรยค่ะ แซ่บมาก) ลองแล้วก็บอกได้เลยว่าใหญ่จริงๆ! แต่ไซส์ไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ กรอบอร่อยทานง่าย หอมเครื่องมาก แป๊ปเดียวหมดเลย
(แต่ขอเตือนคนที่สั่งแบบโรยพริกว่าระวังสำลักผงพริกนะคะ ไอไม่หยุดกันเลยทีเดียว)
3. เป็ดปักกิ่งพอดีคำ ร้าน Chukagaidaihanten (中華街大飯店)
หนึ่งในอาหารจีนเมนูโปรดของหลายๆ คนก็คงไม่พ้นเป็ดปักกิ่ง เราขอแนะนำร้านนี้ Chukagaidaihanten ร้านอาหารจีนชื่อดังประจำย่าน มีคอร์สเป็ดปักกิ่งเป็นตัวชูโรง แต่ครั้งนี้มาลองสตรีทฟู้ดเดินกิน เลยขอพาไปที่มุมซื้อกลับบ้านที่หน้าร้านกันค่ะ (สังเกตได้จากป้ายสีเหลืองๆ)
ใครจะไปคิดว่าเป็ดปักกิ่งก็สามารถซื้อเป็นชิ้นๆ มาเดินกินได้! แถมยังราคาย่อมเยาสุดๆ แค่ชิ้นละ 250 เยน เท่านั้น เสิร์ฟมาในห่อแบบทานง่ายพอดีคำ หนังเป็ดติดเนื้อ ซอสเน้นๆ อร่อยจนอยากไปซื้ออีกชิ้นเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างซาลาเปา ซุป รวมไปถึงเครื่องดื่มอีกด้วย อร่อยยกเซ็ตกันได้เลย~
4. ซาลาเปาหมูไซส์บิ๊ก ร้าน Manchinro (萬珍樓)
มาถึงไชน่าทาวน์แล้วจะไม่กินซาลาเปาได้อย่างไร!? เราเลยได้คัดสรรร้านซาลาเปาที่เด็ดที่สุดมาให้ทุกคนแล้วค่ะ ร้านนี้ชื่อ Manchinro เป็นร้านอาหารจีนขนาดใหญ่ตกแต่งสุดอลังการ ข้างๆ มีร้านขายของฝากเป็นขนมและติ่มซำมากมาย หนึ่งในเมนูดังก็คือซาลาเปานั่นเองค่ะ
โดยจะมีมุมขายซาลาเปาแบบซื้อทานได้เลยบริเวณหน้าร้านขายของฝากค่ะ
จากบรรดาซาลาเปาหลากหลายไส้ เราขอเลือกเมนูคลาสสิกอย่าง ซาลาเปาไส้หมูสับ (450 เยน) มารีวิวค่ะ แถมยังเป็นเมนูขายทีดี่สุดด้วย
ซาลาเปาเสิร์ฟแบบนึ่งมาร้อนๆ เลย ชิ้นใหญ่มากก และไส้หมูสับเยอะมาก! รู้สึกว่าบาลานซ์กับปริมาณแป้งได้พอดีเลย รสชาติก็อร่อยสมกับเป็นร้านดังของโยโกฮาม่า แป้งนุ่ม หมูเด้งๆ ชิ้นเดียวก็ทำเอาอิ่มจุกๆ เลยค่ะ
นอกจากซาลาเปาหมูสับแล้วก็ยังมีไส้อื่นๆ เช่นถั่วแดง รวมไปถึงขนมจีบรสต่างๆ จะซื้อกลับไปทานที่บ้านก็ได้ หรือสั่งออนไลน์ก็มีเหมือนกันค่ะ
5. ขนมจีบหลากรส ร้าน Kaikaro (開華楼)
กินซาลาเปาแล้วก็ต้องต่อด้วยขนมจีบ (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ชูไม) ก็ต้องร้านนี้เลยค่ะ Kaikaro ร้านติ่มซำหลากเมนู หน้าร้านจะมีเมนูแปะไว้มากมาย แต่เราขอเลือกรีวิวหนึ่งในเมนูดังของที่นี่ ก็คือ Tabekurabekushi (食べくらべ串) ราคา 500 เยน แปลประมาณว่า ไม้เสียบหลากรส โดยจะรวมขนมจีบ 4 ชิ้น 4 รส ให้ได้ลองทานเปรียบเทียบกันนั่นเองค่ะ
ขนมจีบ 4 รสไล่จากบนลงล่างจะเป็นรส
・"ขนมจีบร้อยปี" รสต้นตำรับแห่งไชน่าทาวน์ที่มีมายาวนานกว่า 100 ปี! จะมีรสหวานๆ ของหัวหอมแทรกอยู่
・"ขนมจีบมะเขือเทศ" รสที่คิดค้นโดยร้าน Kaikaro มีมะเขือเทศชิ้นโตอยู่ข้างใน
・"ขนมจีบกุ้ง" มีรสกุ้งกลมกล่อม เป็นรสที่น่าจะถูกปากคนไทยอย่างเราๆ ที่สุดค่ะ
・"ขนมจีบเรือรบ" ใช้หมูดำคุโรบูตะจากคิวชู ผสมด้วยพริกไทยดำ และห่อด้วยแผ่นแป้งที่ผสมผงถ่าน Binchotan เป็นรสปิดท้ายที่ประทับใจสุดๆ
ได้ลองขนมจีบอร่อยๆ ถึง 4 รสในไม้เดียวแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าต้องไปโดน!
6. เกี๊ยวซ่าใหญ่ไส้ทะลัก ร้าน Chukagai Gyozakan (中華街餃子館)
อีกอาหารจีนถูกใจคนไทยก็คือเกี๊ยวซ่า ซึ่งเราไม่พลาดแน่นอน
ร้านต่อไปคือ Chukagai Gyozakan ซึ่งมีเมนูเยอะมากๆ ทั้งติ่มซำ ของทอด ของหวาน เครื่องดื่ม แต่แน่นอนว่าชื่อร้านบอกมาขนาดนี้ เมนูเด็ดก็ต้องเป็นเกี๊ยวซ่าค่ะ! อีกทั้งเกี๊ยวซ่าของร้านนี้ยังไม่เหมือนร้านอื่นตรงที่เป็นเกี๊ยวซ่าไซส์จัมโบ้!
ใหญ่ขนาดไหนเราจะไปลองกันค่ะ
เมนูนี้คือ เกี๊ยวซ่าย่างไซส์จัมโบ้ 3 ชิ้น 550 เยน ซึ่งใหญ่สมชื่อจริงๆ 1 ชิ้นหนักประมาณ 60 กรัม เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ แป้งไม่หนาและใส่ไส้ให้แบบแน่นมากไม่หลอกตา เคี้ยวไปเคี้ยวมากัดเจอกุ้งชิ้นใหญ่ด้วย! ใครเบื่อเกี๊ยวซ่าที่มีแต่แป้ง ต้องมาลองร้านนี้แล้วล่ะ
ถ้ายังไม่สะใจ จะสั่งเมนูอื่นมาลองด้วยก็ได้เหมือนกัน (เห็นรูปชานมไข่มุกแล้วอยากลองมากเลยค่ะ ฮ่าๆ)
7. ซาลาเปาแพนด้าน่ารัก ร้าน Roishin (老維新)
จัดเต็มของคาวกันไปเยอะแล้ว มาเปลี่ยนโหมดเป็นของหวานกันบ้างค่ะ ร้านต่อไป Roishin เป็นร้านที่เดินผ่านแล้วสะดุดตามากๆ เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่แพนด้า! แถมยังมีวัยรุ่นญี่ปุ่นต่อคิวยาวเลยไปร้านข้างๆ เลยทีเดียว เพราะโดนความน่ารักของเมนูซาลาเปาแพนด้าสะกดเข้าให้
ใช่แล้วค่ะ เมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือซาลาเปาแพนด้านั่นเอง โดยมีหลากหลายรสทั้งคาวหวาน แต่ละรสก็จะมีสีแตกต่างกันไป
ครั้งนี้เราก็ได้ลองรสเบสิกที่สุด (และน่ารักที่สุด) ซาลาเปาแพนด้ารสช็อกโกแลต (350 เยน) น้องแพนด้าสีขาวเสิร์ฟแบบนึ่งร้อนๆ ชิ้นไม่ใหญ่ไม่เล็ก ขนาดกำลังดี ให้ใส้เยอะพอสมควรเลยค่ะ โดยไส้จะออกเป็นแนวถั่วบดใส่รสช็อกโกแลต รสชาติอาจจะไม่อร่อยโดดเด่นมากแต่ถูกใจเราเพราะไม่หวานมากค่ะ
ใครกำลังมองหาของหวานปิดท้ายก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว หรือจะลองรสอื่นๆ ก็น่าสนใจเหมือนกันเนอะ
8. ทาร์ตไข่ ร้าน Komen (紅棉)
ร้านของหวานร้านต่อไปชื่อว่า Komen เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1952 เน้นขายขนมสไตล์จีนๆ รวมถึงของคาวบางอย่าง และสามารถเทคเอาท์ได้เท่านั้น มีขนมให้เลือกเยอะแยะจนเลือกไม่ถูก แถมยังไซส์ขนาดกำลังดีเหมาะไปเป็นของฝากมากๆ ค่ะ
เมนูอันดับ 1 ของร้านที่พลาดไม่ได้ก็คือ ทาร์ตไข่ (180 เยน) ไซส์เล็กน่ารัก โด่งดังถึงกับเคยออกทีวีเลยทีเดียว ความพิเศษอยู่ที่รสสัมผัสที่ไม่เหมือนทาร์ตไข่ยี่ห้ออื่นๆ ตัวแป้งทาร์ตกรอบอร่อย ส่วนเนื้อด้านในรสนุ่มละมุนมาก (ถ้าให้บรรยายคิดว่าใกล้เคียงพุดดิ้ง) เข้ากันแบบสุดๆ เป็นรสชาติที่อยากให้ไปลองด้วยตัวเองค่ะ
แถมร้านนี้การันตีไม่ใส่สารกันเสีย ทานได้ไร้กังวลเลยค่ะ!
9. ดังโงะงา ร้าน Shigoroku Saikan (四五六菜館)
ปิดท้ายด้วยขนมยอดนิยมประจำไชน่าทาวน์อย่างดังโงะงา ที่มีขายมากมายหลายสิบร้านในไชน่าทาวน์ และร้านที่เราคัดเลือกมาก็คือร้านนี้ค่ะ Shigoroku Saikan ร้านหลักจะอยู่ในตัวซอยหลัก ส่วนร้านในภาพนี้เป็นสาขาแยก (Bekkan) ที่อยู่ตรงสุดซอยค่ะ
และเราก็ได้สั่ง ดังโงะงา (ชิ้นละ 100 เยน / 6 ชิ้น 500 เยน) มาลองค่ะ ดังโงะชิ้นเล็กทานง่าย ทอดมาร้อนๆ แต่ไม่อมน้ำมัน โปะด้วยงาแบบจัดเต็ม กัดไปได้รสสัมผัสเคี้ยวหนึบๆ ด้านในมีไส้ถั่วแดงตัดรสได้ดี เป็นการปิดทริปตะลุยกินได้อย่างเพอร์เฟกต์สุดๆ
แต่ถ้าใครยังอิ่มไม่สุด ขอแอบบอกว่าซาลาเปาหมูร้านนี้ก็เด็ดเหมือนกันนะ
อิ่มอร่อยกับสตรีทฟู้ดสไตล์จีนๆ ในญี่ปุ่น
ครบแล้วนะคะกับ 9 ร้าน 9 เมนูเด็ดใน Yokohama Chinatown อร่อยต้องลองทุกเมนู ถ้าไปคนเดียวอาจจะหนักสักหน่อย ขอแนะนำให้ชวนเพื่อนๆ ไปลองด้วยกันนะคะ
ใครอยากรู้ว่าบรรยากาศแบบจีนๆ ในญี่ปุ่นเป็นอย่างไร รอสถานการณ์โควิด19 ดีขึ้นเมื่อไหร่ก็อย่าลืมเอาไชน่าทาวน์แห่งนี้เข้าในลิสต์ที่เที่ยวด้วยนะคะ~
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่