นาริตะ vs ฮาเนดะ : คู่มือที่จะทำให้คุณรู้จักสนามบินทั้งสองของโตเกียวดีขึ้น
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะได้วางแผนไปเที่ยวโตเกียวสักที! และแน่นอนว่าสิ่งแรกที่คุณต้องหาก็คือเที่ยวบินใช่หรือไม่? หลังจากคุณค้นหาเที่ยวบิน เราเชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามเดียวกันคือ คุณจะบินไปลงที่สนามบินไหนดี? เนื่องจากโตเกียวมีสนามบินนานาชาติถึง 2 แห่ง และการเลือกว่าจะไปลงที่ไหนก็ต้องให้สอดคล้องกับสายการบินที่จะนั่งด้วย วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันถึงความแตกต่างระหว่าง 2 สนามบินนานาชาติแห่งนี้กัน!
การเข้าถึงของเที่ยวบินต่างประเทศและเที่ยวบินในประเทศ
เวลาคุณจองเที่ยวบินมาญี่ปุ่น คุณมักจะเจอเที่ยวบินมาลงที่สนามบินนาริตะมากกว่าสนามบินฮาเนดะเสมอใช่หรือไม่?
แม้ว่าเที่ยวบินจากต่างประเทศโดยส่วนใหญ่จะมาลงที่สนามบินนาริตะ แต่สนามบินฮาเนดะก็ยังคงเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในประเทศ เนื่องจาก 90% ของเที่ยวบินในประเทศนั้นจะมาลงที่สนามบินฮาเนะดะนั่นเอง ซึ่งเป็นการแบ่งแยกอย่างชัดเจนว่าสนามบินฮาเนดะจะใช้กับเที่ยวบินในประเทศมากกว่า ในขณะที่สนามบินนาริตะมีเที่ยวบินไปต่างประเทศเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสนามบินฮาเนดะได้ขยายจุดหมายปลายทางไปยังต่างประเทศและทำข้อตกลงบริการพิเศษกับสายการบินต่างๆ เช่น เดลตาแอร์ไลน์ (Delta Air Lines) เอาไว้
ในขณะที่สนามบินฮาเนดะเป็นเหมือนฐานหลักของสองสายการบินหลักของประเทศญี่ปุ่น คือ สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines: JAL) และออลนิปปอนแอร์เวย์ (All Nippon Airways: ANA) ซึ่งจะเห็นได้ว่าไฟล์ทไปต่างประเทศส่วนใหญ่ของทั้งสองสายการบินนั้นจะเป็นเที่ยวบินที่ออกจากสนามบินนาริตะ โดยทั้งหมดแล้ว เที่ยวบินไปต่างประเทศจากสนามบินฮาเนดะนั้นมีทั้งหมด 35 เมือง ในขณะที่สนามบินนาริตะมีถึง 117 เมือง สนามบินทั้งสองนี้ ทำให้พื้นที่เขตเมืองโตเกียวมีระบบท่าอากาศยานที่ยุ่งที่สุดเป็นที่สามของโลก รองจากนิวยอร์กและลอนดอนเท่านั้น
สถานที่ตั้ง
คุณอาจตกใจที่หนึ่งในสนามบินของโตเกียวนั้นไม่ได้ตั้งอยู่ในโตเกียว เมื่อคุณบินมาลงที่สนามบินนาริตะ แทนที่จะได้รับการต้อนรับด้วยตึกสูงตระหง่านของมหานคร คุณกลับจะได้เห็นเนินเขาสีเขียวขนาดเล็กและทุ่งนาที่กระจายอยู่ทั่วผืนดินด้านล่างแทน เพราะสนามบินนาริตะนั้นไม่ได้ตั้งอยู่ในโตเกียว แต่ตั้งอยู่ในจังหวัดจิบะซึ่งเป็นจังหวัดติดกัน โดยห่างจากโตเกียวประมาณ 70 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวกับที่ตั้งของโตเกียว ดิสนีย์แลนด์
ส่วนสนามบินฮาเนดะนั้น ตั้งอยู่ในโตเกียว ในเขตโอตะซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้สุดของเมืองและอยู่ห่างจากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น
การเดินทางเข้าเมืองโตเกียวจากนาริตะกับฮาเนดะ
แม้ระยะทางในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองจากสนามบินทั้งสองแห่งจะแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แต่เวลาที่ใช้ในการเดินทางนั้นกลับไม่ต่างกันสักเท่าไร วิธีการเดินทางที่เร็วที่สุดจากสนามบินนาริตะไปยังใจกลางโตเกียวนั้นใช้เวลาเพียง 36 นาทีเท่านั้น ในขณะที่วิธีการเดินทางแบบอื่นๆ เช่น รถไฟหรือรถบัสต่างๆ จะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดในการเดินทางจากสนามบินนาริตะเพื่อเข้าเมืองและวิธีการจองที่นั่งล่วงหน้า ราคาและเวลาการเดินทางโปรดดูที่บทความนี้
หากเดินทางจากสนามบินฮาเนดะโดยรถไฟสายเคคิว (Keikyu Line) จะใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพื่อไปเปลี่ยนเป็นสายยามาโนเตะ (Yamanote Line) ที่สถานีชินากาวะ (Shinagawa Station) ซึ่งถือเป็นรถไฟสายใจกลางเมือง หลังจากนั้นจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการไปยังสถานีปลายทาง เช่น สถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) หรือสถานีอุเอโนะ (Ueno Station) และใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไปถึงสถานีโตเกียว (Tokyo Station) โดยค่าเดินทางทั้งหมดอยู่ที่ 600 เยน
ส่วนการเดินทางแบบอื่นจากสนามบินฮาเนดะหรือไปสนามบินฮาเนดะนั้น ยังมีโตเกียวโมโนเรล (Tokyo Monorail) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากสนามบินถึงสถานีฮามามัตสึโจ (Hamamatsucho Station) และจากสถานีฮามามัตสึโจต่อไปยังสถานีอุเอโนะ หรือสถานีชินจูกุ จะใช้เวลาอีกประมาณ 15 ถึง 20 นาที ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 700 เยน
นอกจากนี้ ที่ฮาเนดะยังสามารถเลือกขึ้นรถบัสของ Keikyu Limousine จากฮาเนดะไปยังสถานที่ต่างๆ รอบโตเกียวได้อีกด้วย แม้ว่าสถานที่ที่ไปจะมีจำกัดและจำเป็นต้องทำการจองที่นั่งล่วงหน้าเพื่อไปยังชิบุย่า (เวลาเดินทาง 60 นาที ราคา 1,030 เยน) และ Tokyo Sky Tree Town ในโอชิอาเกะ (เดินทาง 50 นาที ราคา 920 เยน) นอกจากนี้ยังมีบริการไปยังเมืองโยโกฮาม่า (เวลาเดินทาง 40 นาที ราคา 580 เยน) อีกด้วย ซึ่งคุณควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เนื่องจากระยะเวลาในการเดินทางและราคาระหว่างสองสนามบินนั้นไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไร
สิ่งที่น่าสนใจในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศของสนามบินนาริตะและฮาเนดะ
สิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือ สิ่งที่น่าทำในสนามบินนาริตะและฮาเนดะ เนื่องจากสถานที่ทั้ง 2 แห่งมีอะไรมากมายให้คุณได้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายในญี่ปุ่นอย่างคุ้มค่าและสนุกสนาน เพราะที่สนามบินทั้งสองแห่งนี้มีร้านค้ามากมายที่ขายขนมของฝากที่เห็นแล้วต้องอยากซื้อกลับบ้าน ไปจนถึงร้านอาหารญี่ปุ่นเลิศรสอีกด้วย
สำหรับข้อมูลรายละเอียดร้านค้าและร้านอาหารที่สนามบินนาริตะโปรดดูที่บทความนี้ และ บทความนี้
นอกจากนี้ สำหรับรายละเอียดที่ครอบคลุมไปถึงการซื้อของที่ระลึกอันแสนคุ้มค่าในสนามบินฮาเนดะ โปรดดูที่บทความนี้
สำหรับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (International Terminal) ของสนามบินฮาเนดะนั้น เป็นอาคารที่ใหม่กว่าและสะดุดตามากกว่าด้วยการตกแต่งภายในที่ยกเสน่ห์ของยุคเอโดะมาไว้ในตัวอาคาร ด้านบนชั้น 4 ของอาคารจะมีส่วนที่เรียกว่าตลาดเอโดะ หรือ Edo Koji Market ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าของฝาก ร้านอาหารต่างๆ ทั้งอาหารนานาชาติและอาหารญี่ปุ่น และยังมีจุดนั่งพักให้คุณสามารถพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมกับชมสถาปัตยกรรมภายในอาคารได้อย่างเพลิดเพลิน ทั้งนี้ยังมีแบบจำลองสะพานนิฮงบาชิ (Nihonbashi) ที่มีขนาดเล็กกว่าของจริงครึ่งหนึ่งไว้ภายในด้วย ซึ่งสะพานนิฮงบาชินั้น ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นศูนย์กลางของเอโดะ (เมืองเก่าของโตเกียว) และยังแสดงถึงการเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดของการเดินทางในญี่ปุ่นอีกด้วย
ฮาเนดะยังมีดาดฟ้าชมวิวขนาดใหญ่ให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการดูเครื่องบิน มีร้านอาหารมากมายหรือแม้แต่คาเฟ่ท้องฟ้าจำลอง (PLANETARIUM Starry Cafe) ที่คุณสามารถรับประทานอาหารไปพร้อมๆ กับดูท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ส่องประกายไปด้วยดวงดาวกว่า 40 ล้านดวง
สุดท้ายก่อนจาก
แต่ไม่ว่าคุณจะมาจากส่วนใดของโลกก็ตาม ไม่ว่าจะลงที่สนามบินนาริตะหรือฮาเนดะ การเดินทางของคุณในญี่ปุ่นจะราบรื่น สนุกสนาน และเต็มไปด้วยความประทับใจอย่างแน่นอน หากคุณมีความสนใจสิ่งต่างๆ ในสนามบินที่เราได้เสนอไป ก็คงเป็นความคิดที่เข้าท่าหากคุณจะมาถึงสนามบินเร็วเป็นพิเศษ เพื่อจะได้มาสัมผัสถึงสิ่งที่น่าสนใจภายในสนามบิน และหากคุณบินเข้า - ออกจากสนามบินฮาเนดะแล้วล่ะก็ ยิ่งถือเป็นโอกาสอันดีเลยทีเดียว ลองใช้เวลาวันแรกที่มาถึงหรือวันสุดท้ายก่อนกลับในการเที่ยวรอบๆ สนามบินดูสิ เพราะรอบๆ นั้น มีกิจกรรมน่าสนใจมากมายที่แม้คุณจะไม่ได้เดินทางไปไหนไกลก็สามารถพบเจอได้ ดังนั้น สุดท้ายก่อนจากกัน หากคุณสนใจลองเข้าไปดูที่บทความนี้ เพื่อดูว่ามีอะไรบ้างที่เป็นสิ่งน่าทำรอบๆ ฮาเนดะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่