เพลิดเพลินไปกับผืนน้ำและภูเขา! วิธีสนุกกับอุทยานแห่งชาติของฮอกไกโด
ฮอกไกโดเป็นภูมิภาคที่กว้างใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นดินแดนแห่งธรรมชาติที่พื้นที่กว่า 7 ส่วนเป็นป่าไม้ ฮอกไกโดมีอุทยานแห่งชาติอยู่ 6 แห่งให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น หรือวิวสวยๆ ของเทือกเขาที่เกิดจากปฏิกิริยาภูเขาไฟ นับว่าเป็นสุดยอดวิวที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ในบทความนี้เราจะมาแนะนำจุดเด่นและวิธีสนุกกับการเที่ยวอุทยานแห่งชาติทุกแห่งในฮอกไกโดกัน
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
เกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติของญี่ปุ่น
อุทยานแห่งชาติของญี่ปุ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รัฐบาลทุ่มโปรโมทอย่างสุดตัว การจะถูกยอมรับให้เป็นอุทยานก็ต้องต้องผ่านเกณฑ์ที่เข้มงวดมากมายไม่ว่าจะเป็นในแง่ความสวยงามตามธรรมชาติหรือเรื่องความสะดวกในการเข้าชม แม้จะเป็นพื้นที่ที่บริหารดูแลโดยรัฐแต่การกำหนดขอบเขตไม่ได้ครอบคลุมถึงสิทธิถือครองพื้นที่ จึงมีจุดเด่นเป็นการที่ภายในยังมีประชากรจำนวนมากอาศัยอยู่ ต่างกับประเทศอย่างสหรัฐงอเมริกาที่รัฐบาลจะเป็นผู้บริหารทรัพยากรและถือสิทธิครอบครองพื้นที่เกือบทั้งหมด
อุทยานแห่งชาติญี่ปุ่นเป็นจุดท่องเที่ยวที่คุณสามารถดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ตามธรรมชาติและเพลิดเพลินไปกับการแช่ออนเซ็น ปีนเขา เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับไฮไลท์และวิธีเที่ยวอุทยานแห่งชาติ 6 แห่งในฮอกไกโด มารู้จุดเด่นของแต่ละพื้นที่ และวางแผนเที่ยวฮอกไกโดกันเถอะ
อุทยานแห่งชาติริชิริเรบุงซาโรเบ็ตสึ: มวลดอกไม้เฉพาะถิ่นที่เบ่งบานอย่างภาคภูมิ!
พื้นที่: 24,166 เฮกตาร์ / ผู้ใช้บริการรายปี: ประมาณ 570,000 คน
อุทยานแห่งชาติริชิริเรบุงซาโรเบ็ตสึ (利尻礼文サロベツ国立公園) ประกอบขึ้นจาก 3 พื้นที่ ได้แก่ เกาะริชิริ (利尻島), เกาะเรบุง (礼文島), และทุ่งซาโรเบ็ตสึ (サロベツ原野) เป็นอุทยานที่โดดเด่นด้วยมีทิวทัศน์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทุ่งดอกไม้ ผาริมทะเล พื้นที่ชุ่มน้ำ หรือเนินทรายริมทะเล อุทยานนี้มีสัญลักษณ์เป็นภูเขาริชิริ (利尻山) สูง 1,721 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเส้นรอบวงราว 60 กิโลเมตร มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าริชิริฟูจิ (利尻富士) เนื่องจากรูปร่างคล้ายภูเขาไฟฟูจิ ภาพของภูเขาที่ตั้งตระหง่านบนชายฝั่งและพื้นหินที่ขรุขระดูยิ่งใหญ่สมกับที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานอย่างที่สุด
ทุ่งซาโรเบ็ตสึเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งใช้เวลากว่า 6,000 ปีในการก่อตัวขึ้น ทอดตัวอยู่บนฝั่งฮอกไกโดตรงข้ามกับเกาะริชิริและเกาะเรบุง ตัวทุ่งเป็นดินเลนที่มีซากพืชทับถม มีทิวทัศน์ธรรมชาติหลากหลายรูปแบบกระจายตัวอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบึงน้อยใหญ่กว่า 170 แห่งหรือทุ่งดอกไม้ธรรมชาติซาโรเบ็ตสึ (サロベツ原生花園) ที่มีดอกไม้กว่า 100 สายพันธุ์แข่งกันเบ่งบาน
นอกจากนี้ ไล่จากเกาะริชิริไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 8 กิโลเมตรก็จะพบกับเกาะเรบุงซึ่งเป็นเขตของพืชเฉพาะถิ่นและพืชภูเขาสูง ที่นี่คุณจะได้เห็นบุงอาสึโมริโซ (レブンアツモリソウ), เรบุงโคซากุระ (レブンコザクラ), และเรบุงอุซุยุกิโซ (レブンウスユキソウ) เจริญเติบโตอยู่เป็นจำนวนมาก รู้จักกันดีในชื่อ "เกาะลอยแห่งดอกไม้ (花の浮島)" ขอแนะนำให้มองบริเวณปลายเท้าไว้ และคอยสังเกตดอกไม้ที่หาดูที่ไหนไม่ได้เหล่านี้ให้ดี
อุทยานแห่งชาติริชิริเรบุงซาโรเบ็ตสึเป็นแหล่งธรรมชาติอันกว้างใหญ่ คนจึงไม่ค่อยแออัดนัก แม้แต่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ
อุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ: บ้านแสนสุขของเหล่าสัตว์ป่า!
พื้นที่: ภาคพื้นดิน 38,954 เฮกตาร์, ภาคทะเล 22,353 เฮกตาร์ / ผู้ใช้บริการรายปี: ประมาณ 1,650,000 คน
อุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ (知床国立公園) ตั้งอยู่หน้าเทือกเขาชิเรโทโกะอันยิ่งใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นจากธารน้ำและปฏิกิริยาภูเขาไฟ เป็นอุทยานทรงคุณค่าที่มีทั้งทะเล ป่า แม่น้ำ และสิงสาราสัตว์อยู่ร่วมกัน ความหลากหลายของธรรมชาติและระบบนิเวศเหล่านี้เองที่ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2005
ชิเรโทโกะมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนบก 36 สายพันธุ์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในน้ำ 22 สายพันธุ์ หนึ่งในนั้นก็คือหมีสีน้ำตาล (ヒグマ) ที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของชิเรโทโกะ หมีสีน้ำตาลเป็นสัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น คาดว่าในคาบสมุทรชิเรโทโกะมีไม่ต่ำกว่า 200 ตัว ซึ่งนับว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับที่อื่นในโลก นอกจากนี้ก็ยังมีนกล่าเหยื่อที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างชิมะฟุคุโร (シマフクロウ) และโอจิโระวาชิ (オジロワシ) อาศัยอยู่เช่นกัน หากมีโอกาสได้มาชิเรโทโกะก็ขอแนะนำให้ลองสังเกตวิถีชีวิตสบายๆ ของสัตว์ตามธรรมชาติกันดู ทางเดินก็กว้างพอก็ต่อการเว้นระยะห่างทางสังคม จึงไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด-19 อีกด้วย
อุทยานแห่งชาติอะคังมะชู: แอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น!
พื้นที่: 91,413 เฮกตาร์ / ผู้ใช้บริการรายปี: ประมาณ 3,400,000 คน
อุทยานแห่งชาติอะคังมะชู (阿寒摩周国立公園) ตั้งอยู่บนแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ตรงกลางเป็นที่ตั้งของทะเลสาบ 3 แห่งที่เกิดจากปฏิกิริยาของกลุ่มภูเขาไฟจิชิมะ (千島火山帯) ได้แก่ ทะเลสาบอะคัง (阿寒湖), ทะเลสาบคุชชาโระ (屈斜路湖), และ ทะเลสาบมะชู (摩周湖) โดดเด่นในเรื่องทิวทัศน์ธรรมชาติที่หลากหลายอันประกอบไปด้วยภูเขาไฟ ป่า และทะเลสาบ
อุทยานนี้แบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ คือ โซนอะคังและโซนมะชูหรือคาวายุ (川湯) โซนอะคังเต็มไปด้วยวิวสวยๆ เช่น ภูเขาโออะคัง (雄阿寒岳), ภูเขาเมอะคัง (雌阿寒岳), และทะเลสาบอะคังที่ทอดตัวอยู่ใกล้ๆ ส่วนโซนมะชูจะมีทะเลสาบมะชูที่ใสเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และทะเลสาบคุชชาโระขนาดใหญ่ที่สามารถชมวิวภูเขาและแหลมโดยรอบได้อย่างทั่วถึง ความสวยงามอันยิ่งใหญ่ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นนี้ หากไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเองให้ได้สักครั้งคงน่าเสียดายแย่
อุทยานแห่งชาติคุชิโระชิสึเก็น: พื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น!
พื้นที่: 28,788 เฮกตาร์ / ผู้ใช้บริการรายปี: ประมาณ 430,000 คน
อุทยานแห่งชาติคุชิโระชิสึเก็น (釧路湿原国立公園) ประกอบขึ้นจากแม่น้ำคุชิโระ (釧路川) ที่ไหลผ่านฮอกไกโดตะวันออก พื้นที่ชุ่มน้ำคุชิโระ (釧路湿原) พื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นที่รองรับสายย่อยของแม่น้ำดังกล่าว และเนินที่ล้อมรอบพื้นที่ชุ่มน้ำ มีจุดเด่นเป็นสุดยอดทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ที่ขนานไปกับเส้นขอบฟ้า
ท่ามกลางธรรมชาติที่แทบจะไม่ถูกรุกรานจากมนุษย์นี้ มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 39 สายพันธุ์, นก 200 สายพันธุ์, สัตว์เลื้อยคลาน 5 สายพันธุ์, สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 4 สายพันธุ์, ปลา 38 สายพันธุ์, และแมลงประมาณ 1,100 สายพันธุ์อาศัยอยู่ โดยเฉพาะนกกระเรียนทันโจ (タンチョウ) ที่เป็นมรดกธรรมชาติรูปแบบพิเศษของญี่ปุ่นนั้น เป็นสายพันธุ์ที่เคยคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ก็รอดพ้นมาได้ด้วยกระบวนการคุ้มครอง ปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ตามภาคตะวันออกของฮอกไกโด แถวๆ พื้นที่ชุ่มน้ำคุชิโระเป็นหลัก
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง: ภูเขาอาซาฮิตั้งตระหง่านตา จุดสูงสุดของฮอกไกโด!
พื้นที่: 226,764 เฮกตาร์/ ผู้ใช้บริการรายปี: ประมาณ 4,900,000 คน
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง (大雪山国立公園) ตั้งอยู่ในภาคกลางของฮอกไกโด ประกอบขึ้นจากภูเขาจำนวนมาก ทั้งเทือกเขาอิชิคาริดาเตะ (石狩岳連峰), เทือกเขาโทคาจิดาเตะ (十勝岳連峰) ที่มีจุดยอดเป็นภูเขาโทคาจิ (十勝岳), และกลุ่มภูเขาไฟไดเซ็ตสึ (大雪火山群) ที่มีจุดยอดเป็นภูเขาอาซาฮิ (旭岳) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของฮอกไกโด (2,291 เมตร) นอกจากนี้ พื้นที่ของอุทยานยังครอบคลุมไปถึงเขตต้นน้ำของแม่น้ำอิชิคาริ (石狩川) และแม่น้ำโทคาจิ (十勝川) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักๆ ของฮอกไกโด เป็นอุทยานที่ยิ่งใหญ่ถึงขนาดได้ชื่อว่าเป็น "หลังคาของฮอกไกโด" เลยทีเดียว
ภูเขาส่วนใหญ่รอบอุทยานจะมีความสูงราว 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่เนื่องจากอยู่ในเขตละติจูดสูง สภาพแวดล้อมจึงโหดร้ายไม่แพ้ภูเขาสูง 3,000 เมตรบนเกาะหลักญี่ปุ่นเลย และด้วยเหตุนี้ บริเวณนั้นจึงมีพืชภูเขาสูงให้เห็นมากมาย โดยจำพวกต้นไม้ใบเรียวและต้นไม้ใบกว้างอย่างเอโซะมัตสึ (エゾマツ) และโทโดะมัตสึ (トドマツ) จะพบในบริเวณตีนเขา ส่วนป่าต้นไม้ใบเรียวและป่าต้นดาเคะคันบะ (ダケカンバ) จะอยู่ในบริเวณที่สูงขึ้นไป อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซังมีการสร้างแผนที่ระบุจุดที่มักมีผู้ใช้บริการหนาแน่นและเผยแพร่ไว้บนเว็บไซต์ หากตรวจสอบล่วงหน้าไว้สักหน่อยก็จะสามารถเดินเที่ยวอุทยานได้อย่างสบายใจขึ้น
อุทยานแห่งชาติชิโคทสึโทยะ: ชมปฏิกิริยาภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่น!
พื้นที่: 99,473 เฮกตาร์ / ผู้ใช้บริการรายปี: ประมาณ 10,700,000 คน
อุทยานแห่งชาติชิโคทสึโทยะ (支笏洞爺国立公園) มีศูนย์กลางอยู่ที่ทะเลสาบชิโคทสึ (支笏湖) และทะเลสาบโทยะ (洞爺湖) ซึ่งเป็นทะเลสาบปากภูเขาไฟขนาดใหญ่ อุทยานนี้ประกอบขึ้นด้วยภูเขาไฟหลายลูก เช่น ภูเขาโยเด (羊蹄山), ภูเขาอุซุ (有珠山), และภูเขาทารุมาเอะ (樽前山) มีปฏิกิริยาภูเขาไฟอย่างปรากฏการณ์พ่นไอกำมะถันและออนเซ็นหลากหลายรูปแบบให้รับชม จนทำให้ถูกเรียกว่า "พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟที่มีชีวิต" กลุ่มภูเขาไฟที่ทรงคุณค่าเหล่านี้ถูกยกให้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อโทยาโกะอุซุซังจีโอปาร์ค (洞爺湖有珠山ジオパーク)
ทะเลสาบชิโคสึเกิดขึ้นจากปฏิกิริยาภูเขาไฟเมื่อราว 32,000 ปีก่อน ความลึกสูงสุดอยู่ที่ 360 เมตร นับเป็นเป็นทะเลสาบที่ลึกเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น และเนื่องจากอยู่ในเขตอากาศหนาว ประกอบกับไม่ค่อยมีดินทรายไหลเข้ามา จึงเป็นทะเลสาบที่ใสเป็นอันดับต้นๆ ด้วย หากมีโอกาสได้แวะมา ก็ขอแนะนำให้ลองชมความสวยงามนี้ในระยะใกล้ดูสักครั้ง
มีอุทยานของฮอกไกโดแห่งไหนที่เตะตาคุณบ้างหรือเปล่า? ขอแนะนำให้ลองไปสัมผัสธรรมชาติที่เก่าแก่และทรงคุณค่าเหล่านี้ดูสักครั้ง รับรองว่าทิวทัศน์ที่สวยงามใหญ่โตนี้จะช่วยเยียวยาทั้งกายและใจของคุณอย่างแน่นอน
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่