เที่ยวชมความมหัศจรรย์ของ "อุทยานแห่งชาติชิโกกุ" ทั้งมหาสมุทรสุดสวยและหมู่เกาะอีกมากมาย!
ทะเลเซโตะในที่อยู่ระหว่างเกาะฮอนชู (เกาะหลักญี่ปุ่น) และเกาะชิโกกุนี้ เปรียบเสมือนผ้าใบผืนใหญ่ที่ร้อยเอาเกาะสำคัญๆ และเกาะที่มีความพิเศษเอาไว้ด้วยกัน พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ 2 แห่งที่มีทิวทัศน์ชายฝั่งทะเลสุดอลังการ และท้องทะเลอันยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ แล้วยังเป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่หลงใหลในกีฬาทางน้ำ เช่น การดำน้ำ สน็อร์กเกิล และว่ายน้ำ พื้นที่รอบทะเลเซโตะในมีสภาพอากาศที่อบอุ่นและแห้งซึ่งเหมาะสำหรับการทำฟาร์ม โดยเฉพาะฟาร์มผลไม้แนวซีตรัสอย่าง "มะกอก" ที่ได้ชื่อว่าคุณภาพสูงระดับโลก คุณสามารถซื้อไปเป็นของฝากสำหรับคนที่บ้านได้เลย!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
สุดยอดความงดงามของธรรมชาติ
สถานที่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติญี่ปุ่นนั้นจะต้องผ่านเกณฑ์การคัดกรองอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความงดงามของธรรมชาติ หรือความง่ายในการเข้าถึง ด้วยเหตุนี้ อุทยานแห่งชาติทุกแห่งจึงมักจะถูกจัดให้เป็นสถานที่แนะนำอันดับต้นๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศญี่ปุ่น แต่ถึงแม้ว่าจะมีอุทยานหลายๆ แห่งที่ได้รับการบำรุงรักษาและบริหารโดยรัฐบาล ก็ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลเป็นเจ้าของพื้นที่นั้น จึงไม่แปลกเลยที่จะมีชาวบ้านอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานเหล่านี้ด้วย นี่นับเป็นจุดที่ต่างจากประเทศอื่นอยู่พอสมควร เพราะอย่างในสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจะเป็นผู้ครอบครองพื้นที่และจะคอยรับผิดชอบเรื่องการบำรุงรักษาทรัพยากรในทุกๆ ด้าน
อุทยานแห่งชาติญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นยอดที่มีส่วนในการปกป้องธรรมชาติและสัตว์ป่า แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพสุดงดงาม, บ่อน้ำพุร้อน, การปีนเขา และกิจกรรมการแจ้งต่างๆ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นของพื้นที่นั้นๆ ด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับลักษณะเด่นของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้คุณสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปสนุกกับทริปชมธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติชิโกกุตามคำแนะนำของเรากันเลย!
อุทยานแห่งชาติเซโตะไนไก : ชมวังน้ำวนสุดโหดในระยะประชิด
พื้นที่ 66,934 ตารางกิโลเมตร (เฉพาะภาคพื้นดิน) / จำนวนนักท่องเที่ยวต่อปี: ประมาณ 42.92 ล้านคน
อุทยานแห่งชาติเซโตะไนไก (Setonaikai National Park) ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในทะเล หมู่เกาะ และพื้นที่บนบกบางส่วนที่มีวิวธรรมชาติสุดตระการตา อันที่จริงแล้ว พื้นที่ของอุทยานแห่งนี้ทาบทับอาณาเขตของจังหวัดต่างๆ ในญี่ปุ่นมากถึง 11 จังหวัดเลยทีเดียว ได้แก่ โอซาก้า, เฮียวโกะ, วากายาม่า, โอคายาม่า, ฮิโรชิม่า, ยามากุจิ, โทคุชิม่า, คากาว่า, เอฮิเมะ, ฟุกุโอกะ และโออิตะ
นอกจากนี้ ทะเลเซโตะใน (Setonaikai) ยังถือเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและเรื่องราวต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยก่อนที่อาศัยอยู่ร่วมกับธรรมชาติ เมื่อคุณท่องเที่ยวไปตามเกาะต่างๆ ก็จะได้เห็นภาพน่ารักๆ ของชาวบ้านที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขร่วมกับธรรมชาติ มีการทำนาขั้นบันได และเมืองท่าที่ต้องรอกระแสลมเปลี่ยนทิศก่อนจะออกเรืออยู่เสมอ เมืองที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากที่สุด ได้แก่ อุชิมาโดะ, ชิโมสึอิ, โทโมะโนะอุระ, โอโนะมิจิ, มิตะไร และมุโระซุมิ ทุกแห่งล้วนมีทิวทัศน์แบบเมืองเก่าที่ดูสวยงามน่าชม
อีกหนึ่งจุดเที่ยวยอดนิยมในบริเวณทะเลเซโตะใน คือ วังน้ำวนนารุโตะ (Naruto Whirlpools) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากสภาพภูมิศาสตร์สุดพิสดารของช่องแคบนารุโตะ (Naturo Strait) ที่มีทั้งร่องลึกก้นสมุทร หาดตื้น และกระแสน้ำขึ้น - น้ำลงที่ไหลมาจากทะเลฮาริมะ (Harima Sea) กับช่องแคบคิอิ (Kii Channel) ซึ่งตรงเข้าปะทะกันอย่างแรงจนก่อให้เกิดวังน้ำวนหลายขนาด อีกทั้งยังมีระดับสูงต่ำไม่เท่ากัน หากเป็นช่วงที่มีปรากฏการณ์น้ำเกิด (Spring Tide) ด้วยล่ะก็ จะสามารถวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ถึง 20 เมตรเลยทีเดียว
พื้นที่ฝั่งฮิโรชิม่าของอุทยานแห่งชาติเซโตะไนไกนั้น ครอบคลุมพื้นที่ของศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) และภูเขามิเซน (Mount Misen) ซึ่งเป็นมรดกโลกชิ้นสำคัญ เสาโทริอิสีแดงชาดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางน้ำ ร่วมกับสิ่งก่อสร้างจากไม้ที่มีการประดับอย่างหรูหรา และทิวทัศน์ของหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่รวมตัวกันอยู่ด้านหลังก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามจับใจ ภูเขามิเซนแห่งนี้เป็นที่เคารพของบรรดาผู้ที่บูชาภูเขา ด้วยเหตุนี้ ป่าสีเขียวชอุ่มและทางเดินเขาจึงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับนักปีนเขามือใหม่มากๆ
*ขณะนี้ เสาโทริอิกำลังอยู่ในช่วงปิดปรับปรุง
อุทยานแห่งชาติอะชิซุริอุวะไก : แดนสวรรค์ใต้น้ำ ความงดงามจากกระแสน้ำคูโรชิโอะ
พื้นที่ 11,345 ตารางกิโลเมตร (เฉพาะภาคพื้นดิน / จำนวนนักท่องเที่ยวต่อปี: ประมาณ 1.43 ล้านคน
ความพิเศษของอุทยานแห่งชาติอะชิซุริอุวะไก (Ashizuri-Uwakai National Park) คือ แนวชายฝั่งทะเลที่สวยเกินคำบรรยาย, ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศใต้ทะเลที่เป็นผลมาจากกระแสน้ำคูโรชิโอะ, ภูเขาสูง 1,000 เมตรที่ตั้งอยู่บนตัวเกาะ รวมถึงทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของจังหวัดเอฮิเมะและจังหวัดโคจิ เป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันของผู้ที่รักการดำน้ำและการสน็อร์กเกิลเป็นชีวิตจิตใจ
พื้นที่บริเวณนี้ประกอบไปด้วยแนวชายฝั่งที่เปลี่ยนรูปทรงไปตามสภาพของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ในส่วนของอะชิซุรินั้น จะประกอบไปด้วยหน้าผาขนาดใหญ่จำนวนมาก มหาสมุทรที่เป็นแหล่งรวมตัวของสัตว์น้ำกึ่งเขตร้อน และแนวปะการังที่เกิดจากกระแสน้ำคูโรชิโอะอันแสนอบอุ่น จุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลย คือ แนวปะการังขนาดใหญ่ในอ่าวมิโนะโคะชิ (Minokoshi Bay) ของเมืองโทซะชิมิซุ จังหวัดโคจิ และในบริเวณใกล้ๆ กันนั้น ยังมีชายฝั่งทัตสึคุชิ (Tatsukushi Coast) ที่เต็มไปด้วยหินหน้าตาแปลกประหลาดอายุหลายศตวรรษที่ค่อยๆ กร่อนไปตามอิทธิพลของคลื่นและลมด้วย
ในทางตรงกันข้าม พื้นที่ของอุวะไกนั้นเป็นชายฝั่งที่เกิดจากการจมของหุบเขาบางส่วน ทำให้มีลักษณะเป็นทางน้ำแคบเล็กที่ดูซับซ้อน แล้วยังมีทิวทัศน์ของเกาะที่ดูสวยงามด้วย บริเวณนี้เต็มไปด้วยปะการังอ่อน มีวิวใต้ทะเลที่สวยงามน่ารักจนได้ชื่อว่าเป็น "ทุ่งดอกไม้ใต้น้ำ" (Underwater Flower Fields) ถึงคุณจะว่ายน้ำไม่เป็น ก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมวิวแสนสวยนี้ได้ด้วยการนั่งเรือก้นกระจก หรือดูจากหอสังเกตการณ์ใต้ทะเล นอกจากนี้ พื้นที่บนเกาะยังมีส่วนที่เรียกว่า "หุบเขานาเมะโทโคะ" (Nametoko Gorge) ที่อยู่เหนือแม่น้ำชิมันโตะขึ้นไป ทิวทัศน์ของที่นี่จะทำให้คุณต้องอ้าปากค้างเลยทีเดียว เพราะมีทั้งหุบเขาที่งดงาม พื้นน้ำปูด้วยหินแกรนิตเนื้อเรียบสวย ป่าเขียวชอุ่มที่ไม่ถูกทำลาย และสายน้ำสีขาวของ "น้ำตกยูคิวะ" (Yukiwa Falls)
ส่งท้าย
นอกจากสถานที่ที่แนะนำไปข้างต้นแล้ว ภูมิภาคชิโกกุและทะเลเซโตะในก็ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวแสนสนุกอีกมากมาย เช่น การขี่จักรยานไปยังเกาะต่างๆ ด้วย "เส้นทางเซโตอุจิ ชิมานามิไคโด" (Setouchi Shimanami Kaido Expressway) และเที่ยวชมงานศิลปะบน "เกาะนาโอชิมา" (Naoshima Island) จังหวัดคากาว่า อุทยานแห่งชาติที่เราได้แนะนำไปนี้ ต่างก็เต็มไปด้วยจุดชมวิว วัด และศาลเจ้า ซึ่งคุณสามารถไปเพลิดเพลินกับงานศิลปะ,การขี่จักรยาน, การปีนเขา และกีฬาทางน้ำได้
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับหนีจากความวุ่นวายในเมืองไปหาธรรมชาติอยู่ล่ะก็ อย่าลืมเก็บ "อุทยานแห่งชาติชิโกกุ" ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับทริปเที่ยวผจญภัยครั้งถัดไปของคุณด้วยนะ!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่