พาเที่ยวเมืองโอฮาระ ย่านอันเงียบสงบ ณ ทางเหนือของเกียวโต

โอฮาระ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเกียวโต มีจุดพักผ่อนหย่อนใจที่เต็มไปด้วยธรรมชาติเขียวขจี ตั้งแต่แดนสวรรค์ของต้นมอสแห่งวัดซันเซนอิน ไปจนถึงต้นไม้เกลียวคลื่นของวัดจัคโคอิน แม้จะดูเงียบสงบและเป็นชนบท แต่ก็มากไปด้วยประวัติศาสตร์ ครั้งหนึ่งเคยเป็นทางผ่านของบุคคลสำคัญในเรื่อง "ตำนานเฮเคะ" อันโด่งดัง ไปดูกันเลยว่าเมืองแห่งธรรมชาตินี้มีอะไรน่าค้นหาบ้าง!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

ในช่วงฤดูร้อนของเกียวโต บริเวณเขตชิโจและซันโจจะระยิบระยับไปด้วยแสงจากคาวายูกะ (Kawayuka) หรือก็คือชั้นลอยสำหรับนั่งเพลิดเพลินกับมื้อค่ำเหนือแม่น้ำคาโมกาว่า 

ภาพทิวทัศน์ริมน้ำนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตในเกียวโตเลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งนักปั่นจักรยาน นักดนตรี คนนั่งปิกนิก และอื่นๆ ให้เห็นอยู่ประปราย ยาวไปจนถึงเดมาจิยานางิ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำแยกตัวออก จุดนี้เองที่แม่น้ำคาโมกาว่าเข้าไปรวมตัวกับแม่น้ำทาคาโนะและมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อตามแม่น้ำทาคาโนะขึ้นเหนือไปเราก็จะมาถึงโอฮาระ ดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขา แม่น้ำ และทิวทัศน์ชนบทอันแสนวิเศษ

ค่อยๆ เดินทางพลางชมบรรยากาศแสนสงบ

โอฮาระ (Ohara) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "ทุ่งกว้าง" แต่จริงๆ แล้วย่านนี้ของเกียวโตตั้งอยู่ในหุบเขาท่ามกลางต้นไม้สีเขียวขจี โดยสามารถเดินทางจากใจกลางเกียวโตใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง วิธีการเดินทางก็สะดวกสบาย เพียงนั่งรถบัสจากสถานีรถไฟใต้ดิน Kokusaikaikan หรือจะนั่งมาจากสถานีเกียวโตโดยตรงเลยก็ได้ (นั่งสาย 17 ซึ่งวิ่งผ่านเขตชิโจและซันโจ) เป็นการเดินทางที่เรียบง่ายและยังมีทิวทัศน์นอกหน้าต่างให้รับชมระหว่างทางอีกด้วย

เราเริ่มการเดินทางกันที่ถนนชิโจโดริใจกลางเกียวโต รถบัสเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ออกจากตัวเมืองที่วุ่นวายสู่ส่วนเหนือของเกียวโตที่ดูเงียบสงบกว่า ทิวทัศน์ริมหน้าต่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและมีวิวสีเขียวให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ถนนเองก็เริ่มคดเคี้ยวมากขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่เขตที่อยู่อาศัยบนภูเขา

จุดหมายแรกของเราในโอฮาระคือ วัดซันเซนอิน (Sanzen-in) สถานที่น่าสนใจหลักๆ ของโอฮาระนั้นจะมีการระบุตำแหน่งไว้ที่ป้ายรถบัส จึงไม่ต้องกังวลไปว่าจะหลง เมื่อดูป้ายจะพบว่าวัดนี้ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนเหนือเนินขึ้นไป หากเดินตามถนนสายนี้ไปก็จะพบกับสองข้างทางที่เรียงรายไปด้วยร้านค้านานาชนิด ตั้งแต่ของใช้จุกจิกไปจนถึงผักสดที่ปลูกในละแวกนี้ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทิวทัศน์ทุ่งนาน่ารักๆ บริเวณสถานีรถบัส นอกจากนี้ที่บริเวณยอดเนินใกล้ๆ กับประตูวัดก็ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้แวะบรรเทาความหิวอยู่อีกด้วย

เดินชมบริเวณวัดแสนสงบร่มรื่น

ชีวิตในโอฮาระมีความเร่งรีบน้อยกว่าใจกลางเกียวโตอย่างเห็นได้ชัด และก็แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเช่นกัน วัดซันเซนอินในโอฮาระก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 804 โดยพระสงฆ์ชื่อไซโจ ผู้ที่นำพุทธศาสนานิกายเทนไดเข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่น วัดซันเซนอินยังเป็นวัดแบบมอนเซกิ หมายถึงวัดที่มีสมาชิกในราชวงศ์เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพระ ซึ่งนับว่ามีให้เห็นน้อยมากๆ วัดแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพุทธรูปพระอมิตาภพุทธะ 3 รูปจากยุคเฮอัน (794-1185) ซึ่งเป็นสมบัติแห่งชาติอีกด้วย

วัดซันเซนอินโด่งดังจากวิวแสนสวยของใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงสดในฤดูใบไม้ร่วง และถ้าหากแวะมาในช่วงฤดูร้อนเช่นเดียวกับเราก็จะมีป่าสีเขียวมรกตที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

บริเวณวัดที่ปกคลุมไปด้วยต้นมอสก็น่าหลงใหลไม่แพ้กัน หากมองดูดีๆ คุณจะพบกับพระพุทธรูปจิโซขนาดจิ๋วแฝงอยู่อีกด้วย พื้นที่ของวัดนั้นกว้างขวาง มีทั้งบ่อน้ำ สวนต้นไฮเดรนเจีย และทิวทัศน์ต้นมอสอื่นๆ ที่สามารถแวะมาเดินชมได้ในทุกฤดูกาล

(ภาพพระพุทรูปจิโซโดย Takashi Sugimura)

ดินแดนแห่งชนบท อุดมไปด้วยธรรมชาติงดงาม

จุดหมายถัดไปของเราคือ วัดจัคโคอิน (Jakko-in) ที่ตั้งอยู่บนเนินอีกฝากหนึ่งของหุบเขา ในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับวัดซันเซนอิน เส้นทางสู่วัดจัคโคอินนั้นค่อนข้างมีความชนบทกว่า และจะพาคุณเดินตัดผ่านย่านที่อยู่อาศัยของโอฮาระซึ่งมีบรรยากาศที่สวยงามราวกับอยู่ในหนังเลยทีเดียว ในระหว่างที่กำลังเดินขึ้นเนิน หากมองจากเนินเขาลงมาคุณจะเห็นภาพของแสงอาทิตย์สาดส่องผ่านกลุ่มเมฆลงมาสู่ทุ่งนาเบื้องล่างอีกด้วย

ระหว่างทางมีจุดเลี้ยวอยู่บ้าง แม้จะมีป้ายบอกทางไว้อย่างชัดเจนแต่ก็มีไม่กี่ป้ายที่เป็นภาษาอังกฤษ จึงควรตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทางให้ดี หรือจะสอบถามจากชาวบ้านในบริเวณนั้นก็ได้เช่นกัน หลังจากผ่านออนเซ็นไม่กี่แห่ง คุณก็จะพบกับทางเดินสู่วัดจัคโคอินที่ขนาบสองข้างทางด้วยต้นไม้ที่บิดตัวเหมือนเกลียวคลื่น

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ความข้องเกี่ยวกับวรรณกรรมญี่ปุ่น

วัดจัคโคอินเป็นวัดในนิกายเทนไดเช่นเดียวกันกับวัดซันเซนอิน ก่อตั้งขึ้นในปี 594 โดยเจ้าชายโชโตกุ บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่วงศตวรรษที่ 5-6 อาคารหลักของวัดถูกเผาทำลายไปในปี 2000 แต่ก็ได้รับการสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง

เหตุการณ์ไฟไหม้เดียวกันนี้ยังได้สร้างความเสียหายให้กับต้นไม้ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี ต้นไม้นี้รวมไปถึงตัววัดจัคโคอินเองได้ไปปรากฏอยู่ในวรรณกรรมคลาสสิกญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า "ตำนานเฮเคะ (Tale of the Heike)" อีกด้วย

นอกจากนี้ วัดจัคโคอินยังเป็นสถานที่ลี้ภัยของเคนเรมอน บุตรสาวของขุนพลชื่อดังไทระโนะคิโยโมริ หลังจากที่พ่อของเธอพ่ายแพ้ให้กับตระกูลเกนจิ ลึกเข้าไปในพื้นที่ของวัดคุณจะพบกับอนุสาวรีย์ระลึกถึงเธอตั้งอยู่ท่ามกลางต้นมอสสีเขียวสด

แม้วัดนี้จะมีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็การันตีได้ว่าจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายในระหว่างที่เดิมชมแน่นอน


ขอรับรองว่าหากได้ไปสัมผัสสถานที่เหล่านี้แล้ว คุณจะได้รับประสบการณ์อันน่าประทับใจไม่ลืมเลือน โอฮาระจึงเป็นอีกมุมลับๆ หนึ่งของเกียวโตทั้งสงบ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับมาพักเบรกผ่อนคลายจากความวุ่นวายของตัวเมือง

Klook.com

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ในบทความนี้

วัดซันเซนอิน (ภาษาอังกฤษ)
วัดจัคโคอิน (ภาษาญี่ปุ่น)
ทัวร์ท่องเที่ยวชมความสงบแห่งย่านโอฮาระ

ภาพประกอบและเนื้อหาในบทความนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของ เกียวโตคู่มือท่องเที่ยว <อย่างเป็นทางการ>

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์คันไซ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu Japan 編輯部
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร