ร้านค้าในญี่ปุ่นปิดเร็วจริงหรือ? เวลาทำการโดยทั่วไปของญี่ปุ่นเป็นอย่างไร?

คุณเคยเจอปัญหาไปไม่ทันเวลาร้านปิดหรือไปเจอวันหยุดของร้านไหม? ทุกประเทศต่างก็มีกฎระเบียบของตัวเองที่แตกต่างกันไป ความต่างในเรื่องของ "เวลาทำการ" ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด ร้านค้าในประเทศหนึ่งอาจเปิดจนดึกดื่น แต่ในอีกประเทศกลับเปิดถึงช่วงเย็นเท่านั้น บทความนี้จะมาพูดถึงเวลาทำการของสถานที่ต่างๆ ในญี่ปุ่น เพื่อที่คุณจะได้วางแผนการเที่ยวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องผิดหวังที่ไปไม่ทันร้านปิดหรือไปเจอวันที่ร้านหยุดทำการอีกต่อไป

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

สารบัญ

เวลาทำการของบริษัทในญี่ปุ่นโดยทั่วไป

เวลาทำการของสถานที่ราชการ

เวลาทำการของศูนย์การค้าขนาดใหญ่

ร้านอาหาร (11:00 - 14:00 น. / 17:00 - 23:00 น.)

ร้านขายเสื้อผ้า (10:00 - 20:00 น.)

สวนสนุก (8:30 - 22:00 น.)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์ (9:00 - 17:00 น.)

พิพิธภัณฑ์ (10:00 - 18:00 น.)

เกมเซ็นเตอร์ (10:00 - 23:00 / 0:00 น.)

คาราโอเกะ (11:00 - 5:00 / 6:00 น.)

ไลฟ์เฮ้าส์ (17:00 - 22:00 น.)

ร้านเสริมสวย (10:00 - 20:00 น.)

โรงพยาบาล (8:00 - 11:00 น. / 13:00 - 17:00 น.)

ส่งท้าย

เวลาทำการของบริษัทในญี่ปุ่นโดยทั่วไป

แม้เวลาทำการจะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ แต่บริษัทในญี่ปุ่นโดยส่วนมากเวลาทำการจะอยู่ที่ราวๆ 9:00 น. หรือ 10:00 น. จนถึง 17:00 น. หรือ 18:00 น.

ดังนั้นช่วงเวลา 7:00 - 9:00 น. และ 17:00 น. เป็นต้นไปในวันธรรมดา รถไฟจะอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย บางพื้นที่ในใจกลางเมืองโตเกียวอาจมีอัตราการใช้รถไฟพุ่งสูงถึง 200% เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนหรือที่เรียกกันว่า Rush Hour นั่นเอง ความแออัดนี้เป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเพียงที่โตเกียวเท่านั้น แต่ในเมืองอื่นๆ ที่เครือข่ายขนส่งสาธารณะพัฒนาเป็นอย่างดีแล้ว เช่น โอซาก้า นาโกย่า ซัปโปโร และฟุกุโอกะ ก็ด้วยเช่นกัน

ในอีกด้านหนึ่ง ตามต่างจังหวัดหรือพื้นที่ทำการเกษตรจะใช้รถยนต์ในการขนส่งเป็นหลัก แม้จะมีช่วงเวลาในเข้างานและเลิกงานเหมือนกัน แต่สถานที่พลุกพล่านกลับเป็นการจราจรบนท้องถนนแทนที่จะเป็นสถานีรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นถนนทางหลวง หรือถนนเส้นใหญ่ๆ ก็จะแออัดไปด้วยรถยนต์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเข้างานและหลังเลิกงานเช่นเดียวกับในตัวเมือง

นอกจากนี้ พื้นที่แถบชานเมืองและชนบทจะมีเวลารถไฟรอบแรกและรอบสุดท้ายที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น ในวันธรรมดาของโตเกียว รถไฟขบวนแรกจะเริ่มวิ่งตอนประมาณ 4:30 น. และขบวนสุดท้ายประมาณ 1:00 น. ในทางกลับกัน เวลาทำการของรถไฟในเมืองโมริโอกะ จังหวัดอิวาเตะในภูมิภาคโทโฮคุ รถไฟขบวนแรกจะเริ่มวิ่งตอน 5:00 น. และขบวนสุดท้ายตอน 23:00 น. จำนวนเที่ยวรถไฟที่วิ่งต่อชั่วโมงก็จะมีน้อยกว่าในเขตเมืองอยู่มากพอสมควร
 

เปรียบเทียบความแตกต่างของเวลาทำการในวันธรรมดา, วันเสาร์ - อาทิตย์, วันหยุดนักขัตฤกษ์

หากไม่รวมสถานที่ราชการต่างๆ เวลาทำการในวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ของร้านค้าและสถานที่ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเหมือนกัน ร้านอาหารต่างๆ มักจะเปิดเร็วขึ้นหรือปิดช้าลงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โดยทั่วไปก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก

ร้านค้า 24 ชั่วโมง

ในพื้นที่ใจกลางเมืองของประเทศญี่ปุ่นจะมีร้านค้าที่เปิดให้บริการ 24 ชม. ตลอดทั้งปีอยู่มากมาย ตัวอย่างเช่น ร้านสะดวกซื้อ Family Mart, Seven Eleven, และ Lawson นอกจากนี้ยังมีร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่, ร้านอาหารสำหรับครอบครัว, ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดและซูเปอร์มาร์เก็ตที่มักเปิดให้บริการตลอด 24 ชม. หรือหากไม่เปิด 24 ชม. ก็มักเปิดตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงดึกดื่นเสียส่วนใหญ่  

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ร้านสะดวกซื้อที่ปิดบริการในช่วงที่รถไฟรอบดึกไม่วิ่งก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

เวลาทำการของหน่วยงานราชการ

สถานทูต (9:00 - 15:00 น.)

โดยทั่วไป สถานทูตจะเปิดทำการในวันธรรมดาตั้งแต่เวลา 9:00 - 15:00 น. แต่สำหรับการดำเนินการในส่วนต่างๆ นั้น ก็อาจแตกต่างกันได้โดยขึ้นอยู่กับระบบของประเทศนั้นๆ ตัวอย่างเช่น "สถานเอกอัครราชทูตและคณะกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำประเทศญี่ปุ่น (US Embassy and Consulates in Japan)" ที่ตั้งอยู่ในย่านอาคาซากะของโตเกียว ช่วงเวลาเปิดทำการในวันธรรมดา คือ 8:30 - 12:00 น. จากนั้นก็จะหยุดพักเที่ยงและกลับมาเปิดทำการอีกรอบในช่วง 14:00 - 15:30 น. แต่ในส่วนของ "แผนกวีซ่า" นั้น ในวันธรรมดาจะเปิดทำการตั้งแต่ 10:00 - 18:00 น. หากคุณไปก็จะต้องทำการยื่นคำร้องขอทำวีซ่าและจองคิวผ่านเว็บไซต์ล่วงหน้าด้วย

ธนาคาร (9:00 - 15:00 น.)

เวลาทำการของธนาคารตามปกติ คือ 9:00 - 15:00 น. สำหรับผู้ต้องเข้ามาติดต่อดำเนินการในธนาคาร ในขณะที่ตู้ ATM ส่วนใหญ่จะสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ไปจนดึก แต่ก็มีหลายที่ที่ไม่สามารถใช้งานตู้กดได้ในวันหยุดและช่วงดึกเนื่องจากเหตุผลด้านการบำรุงรักษา ในพื้นที่ต่างจังหวัดนั้นมีตู้ ATM จำนวนมากที่ปิดให้บริการตั้งแต่หัวค่ำ เช่น 19:00 น. 

สำหรับบัตรกดเงินสด (Cash Card) ที่ออกในต่างประเทศนั้น สามารถใช้กดเงินที่ตู้ ATM ในร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ทั้ง 3 แห่ง คือ Seven Eleven, Lawson และ Family Mart ได้ตลอด 24 ชม. ยกเว้นตู้ที่ไม่รองรับบัตรต่างประเทศ ซึ่งถือว่าสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากเครื่องสามารถแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเยนและถอนออกมาได้ทันที นอกจากนี้ ตู้ ATM ของ Japan Post Bank ที่ดำเนินการโดยไปรษณีย์ญี่ปุ่นนั้น ก็สามารถถอนเงินสกุลเยนด้วยบัตรที่ออกในต่างประเทศได้เช่นเดียวกับ Seven Bank 

ที่ทำการไปรษณีย์ (9:00 - 17:00 น.)

เวลาเปิดทำการโดยพื้นฐานของที่ทำการไปรษณีย์ คือ วันธรรมดา 9:00 - 17:00 น. แต่การกำหนดเวลาทำการรวมถึงวันหยุดต่างๆ จะแตกต่างกันไปตามแต่พื้นที่และขึ้นอยู่กับขนาดของที่ทำการด้วย หากเป็นสำนักงานใหญ่และสาขาหลักในแต่ละภูมิภาค ส่วนใหญ่จะมีเวลาทำการที่ยาวนานและเปิดทำการในวันเสาร์ - อาทิตย์รวมถึงวันหยุดราชการด้วย แต่หากเป็นสาขาที่อยู่รอบนอกก็จะมีเวลาทำการจะสั้นกว่าและมักปิดทำการในวันเสาร์ - อาทิตย์และวันหยุดราชการ

ที่ทำการไปรษณีย์นั้นนอกจากจะสามารถส่งจดหมาย โปสการ์ด รวมไปถึงพัสดุทั้งในและนอกประเทศได้แล้ว ยังมีบริการแลกเปลี่ยนเงินเยนและเงินต่างประเทศได้อีกด้วย แต่จะสามารถแลกได้แค่ธนบัตรเท่านั้น ไม่สามารถแลกเหรียญได้

คุณสามารถค้นหาที่ทำการไปรษณีย์สาขาที่ใกล้ที่สุดได้ที่นี่

เวลาทำการของศูนย์การค้าขนาดใหญ่

เวลาทำการของศูนย์การค้าขนาดใหญ่โดยทั่วไปในวันธรรมดา วันเสาร์ - อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ คือ 10:00 - 21:00 น. เราจะยกตัวอย่างเวลาทำการของศูนย์การค้า "LUMINE Shinjuku" 

<เวลาทำการของ LUMINE Shinjuku>
・วันธรรมดา: 11:00 - 21:30 น.
・วันเสาร์ - อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์: 10:30 - 21:30 น.
・โซนร้านอาหาร (วันธรรมดา): 11:00 - 22:30 น.
・โซนร้านอาหาร (วันเสาร์ - อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์): 11:00 - 22:30 น.
(ช่วงที่มีผู้มาใช้บริการมาก: วันธรรมดา 17:00 - 19:00 / วันเสาร์ - อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 15:00 - 17:00 น.)

ศูนย์การค้าขนาดใหญ่โดยปกติจะเปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันที่ 1 มกราคม และอาจจะมีวันหยุดที่ไม่แน่นอนซึ่งมีน้อยมาก นอกจากนี้ ในวันที่ 2 และ 3 มกราคมนั้นเป็นวัน "New Year Sale (初売りセール)" ซึ่งเป็นการลดราคาในวันปีใหม่ของศูนย์การค้าและร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ทำให้ร้านค้าจำนวนมากจะเปิดร้านเร็วขึ้นในช่วงนี้

หากลองสังเกตดู คุณจะเห็นได้ว่าเวลาทำการของศูนย์การค้าในต่างจังหวัดนั้นจะยาวนานกว่าศูนย์การค้าในเมือง ยกตัวอย่างเวลาทำการของ AEON Group ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมซึ่งกระจายอยู่ตามชานเมืองทั่วประเทศ ที่เปิดให้บริการโซนช็อปปิ้งตั้งแต่ 9:00 - 23:00 น. และโซนร้านอาหารตั้งแต่ 9:00 - 21:00 น. นอกจากนี้ แผนกผลิตภัณฑ์อาหารส่วนมากยังเปิดให้บริการตั้งแต่ 7:00 น. อีกด้วย ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับความแตกต่างของกลุ่มเป้าหมาย เช่น คนในเมืองหลวงมักเดินทางด้วยรถไฟเป็นหลัก ต่างกับคนในชานเมืองที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวเสียมากกว่า

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องเวลาทำการนี้ก็อาจแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ด้วย

เวลาทำการของร้านค้าอื่นๆ

ร้านอาหาร (11:00 - 14:00 น. / 17:00 - 23:00 น.)

เวลาทำการของร้านอาหารที่บริหารงานแบบส่วนบุคคลส่วนมากจะแบ่งเปิดเป็น 2 รอบ คือ 11:00 - 14:00 น. จากนั้นร้านจะปิดพักกลางวัน และเปิดใหม่อีกทีตอน 17:00 - 23:00 น. ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็มีร้านลักษณะนี้อยู่เป็นจำนวนมาก 

แต่สำหรับร้านอาหารแฟรนไชส์ที่มีหลายสาขา ส่วนมากจะเปิดให้บริการยาวตลอดทั้งวันโดยไม่มีการแบ่งรอบ ร้านทั้ง 2 ประเภทนี้อาจมีการขยายเวลาเปิดทำการให้นานขึ้นหรือเลื่อนมาปิดเร็วขึ้นในช่วงวันสุดสัปดาห์อย่างวันศุกร์ ตรงนี้จะแตกต่างไปตามร้าน แต่สิ่งสำคัญที่คุณต้องจำไว้ คือ ร้านอาหารเหล่านี้จะรับออเดอร์สุดท้ายตอน 30 นาทีก่อนถึงเวลาปิดร้าน

คาเฟ่ (7:30 - 21:00 น. / 8:00 - 20:00 น.)

คาเฟ่ที่มีสาขา (ร้านค้าแฟรนไชส์)  (7:30 - 21:00 น.)
เวลาทำการในวันธรรมดากับวันหยุดสุดสัปดาห์จะต่างกัน ในวันหยุดสุดสัปดาห์อาจมีการเปิดเร็วขึ้นหรือช้าลงขึ้นอยู่กับร้าน นอกจากนี้ ในกรณีของร้านกาแฟที่ตั้งอยู่รอบๆ สถานีหรือใกล้ตัวเมืองซึ่งมีทางรถไฟหลายสายพาดผ่าน ก็มีหลายร้านที่เปิดให้บริการจนถึงช่วงดึกอีกด้วย

อื่นๆ (8:00 - 20:00 น.)
เวลาทำการในวันธรรมดากับวันหยุดสุดสัปดาห์จะแตกต่างกัน โดยเฉพาะคาเฟ่ที่อยู่ในย่านออฟฟิศมักไม่เปิดให้บริการในวันหยุด

ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด (11:00 - 22:00 / 23:00 น.)

ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองและรอบๆ สถานีของเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียวและโอซาก้า มักเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

Klook.com

ร้านอิซากายะ (17:00 - 0:00 / 5:00 น.)

ร้านค้าแฟรนไชส์ (วันจันทร์ - พฤหัสบดี: 17:00 - 1:00 / 2:00 น., ศุกร์ เสาร์ และก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์: 17:00 - 4:00 / 5:00 น.)

หากไม่ใช่ร้านที่อยู่ใจกลางเมืองอย่างโตเกียว โอซาก้าหรือเมืองใหญ่ๆ มักปิดทำการตอน 00:00 น. เสียเป็นส่วนใหญ่
ร้านอื่นๆ (17:00 - 0:00 / 1:00 น.)

ร้านซูชิจานหมุน (11:00 - 23:00 น.)

ร้านค้าตามชานเมืองส่วนมากมักปิดบริการประมาณ 21:00 น. นอกจากนี้ ร้านซูชิที่ไม่ใช่ซูชิสายพานจะปิดให้บริการประมาณ 21:00 น. และส่วนมากก็จะมีช่วงปิดพักกลางวันด้วย

ร้านอาหารสำหรับครอบครัว (10:00 - 22:00 / 23:00 น.)

ร้านหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองและรอบๆ สถานีของเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียวและโอซาก้า มักเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ร้านขายเสื้อผ้า (10:00 - 20:00 น.)

เวลาทำการทั่วไป คือ 10:00 - 20:00 น. แต่จะมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย เช่น ร้านค้าแบบแฟรนไชส์จะเปิดตั้งแต่ 9:00 - 21:00 น. และร้านที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าจะเปิดตอน 10:00 - 21:00 น. เป็นต้น ส่วนร้านค้าเล็กๆ มีหลายร้านที่เปิดตอน 13:00 น. อันนี้จะรวมถึงร้านค้ามีแบรนด์ขนาดเล็กและร้านเสื้อผ้ามือสองด้วย หากคุณมีร้านที่สนใจอยู่แล้ว เราขอแนะนำให้เช็คเวลาเปิด-ปิดไว้ล่วงหน้าด้วย จะได้ไปไม่เสียเที่ยว

สวนสนุก (8:30 - 22:00 น.)

เวลาเปิดทำการของสวนสนุกในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น "Tokyo Disneyland", "Sanrio Puroland", "Universal Studios Japan", หรือ "Fuji-Q Highland" นั้นจะมีเวลาเปิดทำการแตกต่างกันไปในแต่ละวัน โดยทั่วไปเวลาเปิด คือ 8:30 น. และจะปิดตอน 22:00 น. แต่ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาเปิดบ้างโดยขึ้นอยู่กับฤดูกาลและวันหยุดต่างๆ นอกจากนี้ ในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี สวนสนุกเหล่านี้จะเปิดให้บริการจนถึงช่วงเช้าของวันใหม่ ซึ่งจะมีการระบุเวลาไว้อย่างชัดเจนในปฏิทินของสวนสนุกนั้นๆ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบเวลาเปิดที่หน้าเว็บไซต์ก่อนไปให้ดีด้วย

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์ (9:00 – 17:00 น.)

โดยทั่วไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์จะเปิดตั้งแต่ 9:00 - 17:00 น. ในวันธรรมดา และเวลาเข้าชมรอบสุดท้าย คือ 30 นาทีก่อนถึงเวลาปิด บางที่อาจเปิดให้เข้าชมช่วงกลางคืนเป็นพิเศษในช่วงหน้าร้อน ซึ่งจะเป็นการเปิดนอกเวลาทำการปกติ เช่น 18:00 - 22:00 น. เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลินในยามค่ำคืนด้วย

พิพิธภัณฑ์ (10:00 - 18:00 น.)

เวลาทำการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเนื้อหาของนิทรรศการหรือพิพิธภัณฑ์นั้นๆ โดยส่วนมากเวลาปิดทำการในวันหยุดจะช้ากว่าวันธรรมดา 

เกมเซ็นเตอร์ (10:00 - 23:00 / 00:00 น.)

เนื่องจากมีกฎหมายห้ามทำธุรกิจ 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่สามารถประกอบธุรกิจในช่วง 00:00 - 6:00 น. ได้

คาราโอเกะ (11:00 - 5:00 / 6:00 น.)

ร้านคาราโอเกะส่วนใหญ่มักเปิดให้บริการจนถึงเช้า เวลาทำการอาจแตกต่างกันไปตามพื้นที่และร้านนั้นๆ มีร้านตามชานเมืองจำนวนมากที่ปิดบริการในช่วงกลางดึก เช่น 2:00 น. หรือ 3:00 น.

ไลฟ์เฮ้าส์ (17:00 - 22:00 น.)

ไลฟ์เฮ้าส์ส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นมีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยจัดอยู่ในประเภทของร้านอาหาร เนื่องจากมี "กฎหมายว่าด้วยการบริหารสถานบันเทิง" ที่คอยควบคุมแหล่งเริงรมย์ต่างๆ อย่างเข้มงวด การเปิดกิจการเป็นร้านอาหารจะทำให้บริหารจัดการได้สะดวกกว่ามาก เพียงจัดเตรียมเครื่องเสียงและสร้างพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับการแสดงสดเพื่อให้ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินได้ในขณะที่คงสภาพแวดล้อมและบรรยากาศของร้านอาหารเอาไว้ได้อยู่

เนื่องจากไลฟ์เฮ้าส์เป็น "ร้านอาหาร" จึงทำให้ไลฟ์เฮ้าส์กว่า 90% ในญี่ปุ่นมีกฎสำหรับลูกค้าที่เข้าใช้บริการว่าต้องสั่งเครื่องดื่มอย่างน้อยคนละ 1 อย่าง นอกจากนี้ เนื่องจากไม่ได้ดำเนินกิจการในประเภทสถานบันเทิงทำให้ไลฟ์เฮ้าส์เหล่านี้ต้องยึดตามกฎหมายการบริหารร้านอาหาร ดนตรีจะต้องหยุดเล่นตอน 22:00 น. และร้านต้องปิดตอน 23:00 น. ตามข้อกำหนดกฎหมายสถานประกอบการ

 

ร้านเสริมความงาม (10:00 – 20:00 น.)

ร้านเสริมความงามในญี่ปุ่นโดยทั่วไปจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 10:00 - 20:00 น. แต่สิ่งที่เราอยากให้คุณรู้ คือ ข้อมูลวันหยุดประจำของร้านเหล่านี้ ร้านเสริมความงามส่วนมากในโตเกียวและโซนตะวันออกของญี่ปุ่นมักจะปิดร้านทุกๆ วันอังคาร แต่หากเป็นโอซาก้าหรือโซนตะวันตกมักจะปิดร้านทุกๆ วันจันทร์

ความเป็นมาของวันหยุดนี้เริ่มขึ้นในปี 1940 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในภูมิภาคแปซิฟิก ในยุคนั้นญี่ปุ่นมี "วันงดใช้ไฟฟ้า" โดยจะหยุดจ่ายไฟในแต่ละภูมิภาคในวันที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดแคลนไฟฟ้าในระดับประเทศอันเป็นผลกระทบจากสงคราม ทางการได้กำหนดให้ทุกวันอังคารของภูมิภาคตะวันออก และทุกวันจันทร์ของภูมิภาคตะวันตกเป็นวันงดจ่ายไฟ คุณอาจสงสัยว่าแล้วเรื่องราวเหล่านี้เกี่ยวข้องอะไรกับการที่ร้านเสริมสวยต้องปิดล่ะ? นั่นเป็นเพราะในยุคนั้นทรงผมดัดกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก และเครื่องดัดผมเหล่านั้นก็ต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน เมื่อไม่มีไฟฟ้าก็ใช้เครื่องไม่ได้ ทำให้ร้านเสริมสวยเลือกที่จะหยุดทำงานในวันนั้นๆ

สรุปคือเรื่องวันหยุดของร้านเสริมสวยนี้เกิดจากความเคยชินที่สืบเนื่องมาจากอดีตกาล แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ก็ร้านเสริมสวยที่เปิดให้บริการจนถึงดึกดื่นและร้านที่เปิดให้บริการทุกวันโดยไม่มีวันหยุดตายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

โรงพยาบาล (8:00 - 11:00 น. / 13:00 - 17:00 น.)

ช่วงเวลาในการรักษาและวันงดตรวจของโรงพยาบาลจะแตกต่างกันไปตามแต่สถาบันการแพทย์ ซึ่งส่วนมากวันธรรมดาจะแบ่งเป็นช่วงเช้า-ช่วงบ่าย ส่วนวันเสาร์จะมีแค่ช่วงเช้าเท่านั้น และวันอาทิตย์ก็จะเป็นวันงดตรวจ โดยส่วนใหญ่การเข้ารับการตรวจถึงแม้จะไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้า แต่ผู้ป่วยก็มักจะได้รับการตรวจกันแทบทั้งหมด มีสถาบันการแพทย์จำนวนมากที่กำหนดเวลาเข้ารับการตรวจและขอคำแนะนำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไว้เป็นเวลา  8:00 - 11:00 น. ในช่วงเช้า และ 13:00 - 17:00 น. ในช่วงบ่าย

แน่นอนว่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจะใช้เวลาดำเนินการนานกว่าที่อื่น ดังนั้นหากคุณต้องการพบแพทย์จริงๆ ในขณะที่อยู่ในญี่ปุ่น เราแนะนำให้มองหาคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดซึ่งเปิดให้บริการจนถึงช่วงดึกจะดีกว่า

นอกจากนี้ เราแนะนำให้คุณเซฟเว็บไซต์เหล่านี้ไว้เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วย นี่เป็นเว็บไซต์ที่จัดทำโดย JNTO (องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันทางการแพทย์ของญี่ปุ่น

ภาษาอังกฤษ: https://www.jnto.go.jp/emergency/eng/mi_guide.html
ภาษาเกาหลี: https://www.jnto.go.jp/emergency/eng/mi_guide.html
ภาษาจีน (ตัวเต็ม):https://www.jnto.go.jp/emergency/chc/mi_guide.html
ภาษาจีน (ตัวย่อ): https://www.jnto.go.jp/emergency/chs/mi_guide.html

ในเว็บไซต์จะมีคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีการขอคำปรึกษาและสถานพยาบาลที่ควรปรึกษาแยกตามอาการ นอกจากนี้ คุณยังสามารถตรวจสอบสถานที่ เวลาที่สามารถเข้ารับคำปรึกษา และวันงดตรวจแยกตามสถาบันการแพทย์ได้อีกด้วย

ส่งท้าย

"ความเคยชินจากการใช้ชีวิตในประเทศตัวเอง" นั้นไม่สามารถใช้ได้เลยเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ อย่างเวลาทำการของร้านค้าหรือสถานที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นก็มีกฎและข้อกำหนดเฉพาะของประเทศตัวเองอยู่ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวที่ใดก็ตาม อย่างแรกคุณควรศึกษาก่อนเดินทาง คือ ข้อมูลพื้นฐานต่างๆ  ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เสียเวลาหรือเจอสถานการณ์อย่างไปแล้วร้านปิดหรือเป็นวันหยุดของร้าน การเตรียมพร้อมที่ดีจะทำให้ทริปของคุณสนุกและคุ้มค่ามากที่สุด

* เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายแห่งมีการลดเวลาทำการและปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดร้าน เราขอแนะนำให้คุณหาข้อมูลโดยสังเขปตามเว็บไซต์อีกครั้งก่อนไป

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Keisuke
Keisuke Tsunekawa
เป็นคนญี่ปุ่นที่ชอบหลีกหนีจากชีวิตในเมืองโตเกียวเป็นครั้งคราว เพื่อค้นพบเส้นทางใหม่ๆ รวมถึงท่องเที่ยวในประเทศอื่นๆ ซึ่งทำให้รู้สึกว่าได้สนุกกับการเชื่อมโยงกับสิ่งที่แตกต่างไปจากที่เคยทำเคยเห็นในชีวิตประจำวัน
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร