พาเที่ยว "ฟุกุโอกะ" แลนด์มาร์คชื่อดัง วิวดี สำหรับการถ่ายรูปสุดเพอร์เฟกต์!
จังหวัดฟุกุโอกะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู เป็นสถานที่ที่เปรียบเสมือนซูเปอร์สตาร์ในโลกโซเชียลที่เหล่าช่างภาพต้องไปเยือน เพื่อถ่ายรูปทิวทัศน์ใหม่ๆ อันน่าตื่นเต้นให้คนทั่วโลกได้ชมกัน จังหวัดนี้มีตั้งแต่ป่าที่แฟนๆ Studio Ghibli ไม่ควรพลาด, รูปปั้นขนาดยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือวัด ไปจนถึงเส้นทางเที่ยวตามรอยของเหล่าโอตาคุ นับว่าเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยสถานที่น่าประทับใจเลยทีเดียว และในครั้งนี้ เราก็จะมาแนะนำ 5 จุดถ่ายภาพสุดเจ๋งในฟุกุโอกะกัน!
*บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมการท่องเที่ยวประจำจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka Prefecture Tourism Association)
ชิงช้าต้นปาล์ม (ヤシの木ブランコ)
"ยาชิ โนะ คิ บุรันโกะ" (ヤシの木ブランコ) เป็นชิงช้าต้นปาล์มที่อยู่บนชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรอิโตะชิม่า ชื่อนี้มีที่มามาจากชิงช้าที่ผูกอยู่ระหว่างต้นปาล์มแฝดที่เรียงรายกันอยู่เต็มหาด ชิงช้าเหล่านี้มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ ตั้งแต่แบบนั่งคนเดียว, แบบ 2 ที่นั่งสำหรับคู่รัก ไปจนถึงแบบ 5 ที่นั่ง ทุกแบบต่างก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูร้อน บรรยากาศแบบประเทศเขตร้อนและน้ำทะเลแสนสวยของที่นี่ก็มักจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเล่นน้ำกันได้มากมายไม่แพ้ช่างภาพเลย ดังนั้น หากคุณอยากถ่ายภาพสวยๆ แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ไปกันแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชน
ชิงช้านี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของร้านอาหารที่ชื่อ "ซาอุโอะ" สาขาหลัก (ざうお本店) ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ อย่างซูชิ ซาชิมิ ไคเซนด้ง (ข้าวหน้าอาหารทะเล) และเทมปุระ คุณจึงสามารถทานมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นที่นี่ได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีจุดท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์อีกมากมาย เช่น รูปปั้นปลาฉลามหน้าตาดุร้ายที่จะทำให้คุณนึกถึงภาพยนต์เรื่อง Jaws, สนามเด็กเล่นริมชายหาด และ Miracle Driftwood ท่อนไม้มหัศจรรย์ที่ถูกพัดมายังเกาะนี้ในช่วงที่ฝนตกหนักในเดือนกรกฎาคมปี ค.ศ. 2018
ป่าโตโตโร่ (トトロの森)
หากใครเป็นแฟนอนิเมชั่นของ Studio Ghibli ก็ไม่ควรพลาดจุดท่องเที่ยวอย่าง "โดโกะออนเซ็น" (道後温泉) "เกาะยาคุชิม่า" (屋久島) และ "อาคารเซกิเซ็นคัง" (積善館) รวมถึงสถานที่อื่นๆ ที่เปรียบเสมือนเวทีผลงานของพวกเขา แต่นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก็ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นๆ อย่าง "เคยะ โนะ ไดมง" (芥屋の大門) ที่ตั้งอยู่ในมุมลึกลับของจังหวัดฟุกุโอกะทางตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรอิโตะชิม่าด้วย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนที่อยากเที่ยวตามรอยอนิเมชั่นจิบลิเลยทีเดียว
เดิมที "เคยะ โนะ ไดมง" แห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะถ้ำหินบะซอลต์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่ระยะหลังมานี้ ถนนป่าทึบที่เป็นเส้นทางไปสู่หอชมวิวในสวนของเคยะ โนะ ไดมงก็ได้รับความนิยมขึ้นมาด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีบรรยากาศคล้ายกับอุโมงค์ป่าในอนิเมชั่นเรื่อง "โตโตโร่เพื่อนรัก" (My Neighbor Totoro) นั่นเอง เส้นทางคดเคี้ยวสายนี้เต็มไปด้วยต้นไม้เตี้ยๆ ที่เรียงรายไปตามทาง และเอนตัวเข้ามาด้านในเพื่อบดบังแสงอาทิตย์ให้กับผู้คนที่เดินผ่าน เป็นบรรยากาศอันน่าพิศวงที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสงบลึกลับเหนือธรรมชาติ
ถึงแม้จะน่าเสียดายที่เส้นทางนี้ไม่มีตัวละครขนปุกปุยอยู่เลย แต่ที่นี่ก็มีหอชมวิวในสวนซึ่งคุณสามารถไปชมทิวทิศน์หน้าผาที่อยู่หลังเคยะ โนะ ไดมงได้อย่างเพลิดเพลินด้วย (รวมถึงทะเลเก็นไคที่แผ่กว้างอยู่ด้านหลัง) ส่วนถ้ำหินบะซอลต์นั้นจะสามารถชมได้จากกลางทะเลเท่านั้น หากคุณสนใจก็สามารถเข้าร่วมทัวร์เรือเฟอร์รี่ที่ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีได้ โดยจะมีราคาอยู่ที่ 800 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 400 เยนสำหรับเด็กอายุ 2 ขวบ - นักเรียนชั้นประถม ลองไปชมกันให้ได้นะ!
โต๊ะยักษ์ (大きな机)
อนุสาวรีย์ “โต๊ะยักษ์” หรือ “โอคินะ สึคุเอะ” นี้ ถูกสร้างขึ้นในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2021 บนพื้นที่ของ “Momiji Gakusha” (もみじ学舎) สตูดิโอและแกลลอรี่ที่สร้างขึ้นจากการบูรณะโรงเรียนประถม และเปิดตัวขึ้นในปี ค.ศ. 2014 ในเมืองบุเซ็น จังหวัดฟุกุโอกะ เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับเหล่าศิลปิน โต๊ะยักษ์ตัวนี้สร้างขึ้นภายใต้การดูแลของเหล่าคณะกรรมการของ NPO (องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องกิจกรรมสนับสนุนการจ้างงาน) ที่เรียกว่า “โมริ โนะ กักโก” (森の学校) มีการใช้ประโยชน์จากตึกเรียนที่หยุดใช้งานไปใน ค.ศ. 1997 ตึกนี้สูง 4 เมตร และกว้าง 6 เมตร มีโครงไม้หนาสีเข้ม และลิ้นชักสีฟ้าอ่อน ดูเข้ากันได้ดีกับความสวยงามของอาคารเรียนที่อยู่ติดกัน และนับเป็นหนึ่งในนิทรรศการชั้นยอดที่มีการใช้ประโยชน์จากพื้นที่สนามเด็กเล่นเก่า
Momiji Gakusha จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความเงียบสงบและความบริสุทธิ์ของชีวิตในโรงเรียนแถบชนบท แต่ในขณะเดียวกันก็มีนิทรรศการศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งต่างจากสถาปัตยกรรมในโรงเรียนสมัยใหม่ที่เรียบง่ายและจืดชืด สตูดิโอและแกลลอรี่แห่งนี้ออกแบบมาในสไตล์ตะวันตกโบราณ ทาด้วยสีฟ้าซีด เผยให้เห็นลายไม้ตามแบบชนบทซึ่งดูเหมาะกับการถ่ายรูปมากๆ ทั้งโต๊ะ, กระดานดำ, หนังสือเรียน และสิ่งของอื่นๆ อีกมากมายก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้ เพื่อถ่ายทอดประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้ผู้มาเยือนได้รับรู้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีภาพงานจบการศึกษาที่ย้อนกลับไปไกลถึงปี ค.ศ. 1911 ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นว่าแฟชั่น เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไร และเด็กๆ ได้เติบโตขึ้นมาอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ ที่นี่ก็ยังมีร้าน “Momiji Cafe” ที่สร้างขึ้นในห้องที่เคยเป็นห้องพนักงานและห้องรับรองเก่าด้วย เป็นจุดแวะชั้นเยี่ยมสำหรับทานอาหารกลางวัน และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศในวันเก่าๆ ของญี่ปุ่น
รูปปั้น Life-size V Gundum (New) ใน Mitsui Shopping Park LaLaport Fukuoka
ศูนย์การค้า Mitsui Shopping Park LaLaport Fukuoka (三井ショッピングパーク ららぽーと福岡) จังหวัดฟุกุโอกะนี้ เป็นที่ตั้งของรูปปั้นกันดั้ม Life-size V Gundum (New) ขนาดเท่าตัวจริง ที่นี่จึงกลายเป็นจุดยอดนิยมสำหรับแฟนๆ อนิเมชั่นไซไฟชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง Gundum ที่เริ่มฉายตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 และจากนั้นก็ได้มีการสร้างหุ่นกันดั้มขนาดเท่าตัวจริงขึ้นในเมืองต่างๆ อย่างโตเกียวและโยโกฮาม่า เป็นหุ่นขนาดยักษ์ที่ทั้งดูเด่นเป็นสง่าและภาคภูมิ และใน ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการสร้างหุ่นขึ้นอีกในเมืองฟุกุโอกะ โดยเป็นตัวที่มาจากภาค Mobile Suit Gundam: Char's Counterattack ที่ออกฉายเมื่อ ค.ศ. 1988 และได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น
Life-size V Gundum (New) เป็นหุ่นที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองการเปิดตัวอันยิ่งใหญ่ของศูนย์การค้า LaLaport Fukuoka และนับเป็นอนุสาวรีย์จักรกลที่ใหญ่อลังการที่สุดเท่าที่เคยมีมา หุ่นนี้มีความสูงถึง 25 เมตร น้ำหนัก 85 ตัน ใช้สีขาวเงาเป็นหลัก และตกแต่งด้วยสีฟ้า แดง เหลืองเข้าไป อีกทั้งยังสะพายอาวุธขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "Long-range Fin Funnel" (ロングレンジ・フィン・ファンネル) ไว้ที่หลังด้วย หากคุณต้องการสัมผัสกับพลังของมันอย่างเต็มที่แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ไปในช่วงที่มีการแสดงประจำวันที่หุ่นกัมดั้มจะเคลื่อนไหวไปตามเพลงธีมของอนิเมชั่น นอกจากนี้ก็ยังมีการแสดงรอบกลางคืนที่เป็นอนิเมชั่นสั้นๆ ฉายบนจอที่อยู่ข้างหุ่นกันดั้มทุกๆ ครึ่งชั่วโมงด้วย คุณสามารถเช็คเวลาการแสดงได้ใน เว็บไซต์ทางการ (ภาษาญี่ปุ่น) เลย
นอกจากนี้ LaLaport Fukuoka ก็ยังมี Gundam Park Fukuoka อยู่ด้านในด้วย เป็นทั้งร้านขายสินค้ากันดั้มและศูนย์เกม VR ที่เหล่าแฟนๆ ทั่วโลกสามารถมาดำดิ่งไปกับเสน่ห์ของโลกวัฒนธรรมย่อยของญี่ปุ่นได้
วัดนาริตะซัง คุรุเมะ (成田山久留米分院)
หากคุณอยากเที่ยวฟุกุโอกะอย่างเต็มที่แล้วล่ะก็ การเที่ยวชมวัดและศาลเจ้าก็ถือเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้! เพราะสถานที่เหล่านี้ก็ถือเป็นจุดถ่ายรูปชั้นดีไม่แพ้ที่อื่นๆ เลย มีทั้งสีแดงชาดสวยเด่นสะดุดตา รูปปั้นที่ดูขลังและสง่างาม รวมถึงสวนสวยๆ ทำให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เหมาะกับการถ่ายรูปมากๆ และนักท่องเที่ยวทุกคนก็สามารถมาแชะภาพกันได้อย่างอิสระเสรี เพียงแต่ต้องไม่ลืมเคารพสถานที่ด้วยเช่นกัน
หนึ่งในวัดศาสนาพุทธที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดนั้น คือ "นาริตะซัง คุรุเมะ" (成田山久留米分院) ที่ตั้งอยู่ในเมืองคุรุเมะทางตอนใต้ของจังหวัดฟุกุโอกะ ที่นี่มีชื่อเสียงมาจากรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่มีความสูงถึง 62 เมตร และสามารถมองเห็นได้จากหลายๆ มุมของเมืองเลยทีเดียว คุณสามารถปีนเข้าไปในรูปปั้นและมองออกมาทางหน้าต่างได้ จากบนนี้ คุณจะสามารถเห็นวิวพาโนราม่าที่ทอดตัวยาวไปไกลถึงภูมิภาคอุนเซ็นของจังหวัดนางาซากิ ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 100 กิโลเมตรได้เลยทีเดียว
วัดนาริตะซัง คุรุเมะนี้ เป็นสาขาที่ตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1958 แยกจาก "วัดนาริตะซัง ชินโชจิ" (成田山新勝寺) จังหวัดชิบะ ที่เป็นสาขาหลักและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี วัดแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลในตำนานมากมาย เช่น "พระโคโบ ไดชิ คูไค" (弘法大師空海) ในศาสนาพุทธ
เมื่อเปรียบเทียบกับสาขาหลักแล้ว วัดนาริตะซัง คุรุเมะที่ใหม่กว่านี้จะมีไฮไลท์ให้ชมอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่จำลองมาจากพุทธคยา (ประเทศอินเดีย), รูปปั้น "ฟุโดเมียว" (不動明王像) เทพเจ้าหน้าตาถมึงทึงซึ่งเป็นที่สักการะหลักของที่นี่, บันไดหินอ่อน 88 ขั้น และ "โถงจิโกคุคัง" (地獄館) โถงนรกที่มีตุ๊กตาหน้าตาน่ากลัวเป็นตัวแทนของนรกขุมต่างๆ อยู่ ดูเข้ากับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่เป็นสัญลักษณ์ของวัดมากทีเดียว
"ฟุกุโอกะ" สวรรค์ของช่างภาพ!
ฟุกุโอกะมีภูมิประเทศที่มีทัวทัศน์และบรรยากาศน่าตื่นเต้นอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์ หรือธรรมชาติ ดังนั้น ถึงคุณจะเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพ หรือคนที่ต้องการค้นพบเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในญี่ปุ่นก็สามารถสนุกกันได้ ดังนั้น อย่าลืมใส่ฟุกุโอกะเข้าไปในแพลนทริปครั้งหน้าของคุณด้วยนะ!
ค้นหาแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพฟุกุโอกะได้ที่ "VISIT FUKUOKA"
"VISIT FUKUOKA" เป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของจังหวัดฟุกุโอกะ ภายในมีการนำเสนอเคล็ดลับและไอเดียต่างๆ เกี่ยวกับการเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในจังหวัดฟุกุโอกะ พร้อมแนะนำไฮไลท์เด็ดที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ก็ยังมีช่องทางโซเชียลอย่าง Facebook และ Instagram ที่เต็มไปด้วยภาพสวยๆ ที่จะทำให้คุณได้เห็นถึงสุดยอดเสน่ห์ของจังหวัดฟุกุโอกะด้วย หากคุณกำลังเริ่มต้นวางแผนเที่ยวอยู่ล่ะก็ ลองตามไปดูในเว็บไซต์นี้กันได้เลย!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่