แนะนำจุดชมซากุระและสถานที่น่าเที่ยวใน "เมืองโมริโอกะ" จังหวัดอิวาเตะ
"โมริโอกะ" เป็นเมืองหลักของจังหวัดอิวาเตะในภูมิภาคโทโฮคุ สามารถเดินทางจากโตเกียวได้ด้วยรถไฟชินคันเซ็น โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงนิดๆ และเนื่องจากโมริโอกะอยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ดอกซากุระที่นี่จึงบานช้ากว่าในโตเกียว คือราว ๆ ช่วง Golden Week (ปลายเดือนเมษายน - ต้นพฤษภาคม) ของทุกปี วันนี้เราเลยจะมาแนะนำจุดชมซากุระน่าสนใจและสถานที่น่าไปที่อยู่ใกล้เคียงเมืองโมริโอกะกันค่ะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
สวนชิโรยามะ
สวนสาธารณะแห่งนี้กินพื้นที่ของภูเขาลูกเล็กทั้งลูกในเมืองชิวะ หากคุณเดินทางจากเมืองโมริโอกะโดยรถยนต์ก็จะใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น (แต่หากเป็นรถสาธารณะจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที)
คำว่า "ชิโระ" (城) ในชื่อหมายถึง "ปราสาท" เนื่องจากภูเขาแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทมาก่อน และในปัจจุบัน พื้นที่นี้ก็ได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่มีอุโมงค์ซากุระกว่า 2,000 ต้นอยู่ด้วย เหมาะสำหรับการชมวิวและพักผ่อนหย่อนใจในวันที่อากาศดี หรือจะนำอาหารมาปิกนิกชมวิวกันบนยอดเขาก็ได้!
Michinoku Morioka Kokoro no Furusato
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะเลียบแม่น้ำคิตะคามิ เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิช่วงที่ซากุระออกดอกก็จะมีทิวลิปขึ้นเรียงรายอยู่คู่กันด้วย นอกจากนี้ หากคุณมองไปทางทิศเหนือก็จะเห็น "ภูเขาอิวาเตะ" (Mount Iwate) ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางแม่น้ำด้วย เหมาะสำหรับการเดินเล่นหรือจ็อกกิ้งยามเช้ามากๆ เลยค่ะ
Ishiwari Sakura
ต้นซากุระขนาดใหญ่อายุราว 350 - 400 ปีที่ขึ้นอยู่บริเวณหน้าหอประชุมจังหวัดอิวาเตะนี้ ถือเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่โด่งดังที่สุดของเมืองโมริโอกะ มีเรื่องเล่าว่าเดิมทีหินก้อนนี้ถูกฟ้าผ่าจนเกิดรอยแยก จากนั้นก็มีเมล็ดของต้นซากุระพันธุ์ "เอโดะฮิกังซากุระ" (Edohigan Sakura) ตกลงไปในร่องแยกระหว่างหิน และเติบโตขึ้นมาเป็นซากุระต้นใหญ่ในปัจจุบัน
ลักษณะการเติบโตขึ้นระหว่างรอยแยกของหินนี้ ทำให้มันได้ชื่อว่า Ishiwari Sakura ที่แปลว่าซากุระแยกหิน และที่สำคัญ ต้นซากุระต้นนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานธรรมชาติ (天然記念物) ของญี่ปุ่นด้วย!
สวนปราสาทโมริโอกะ
สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นบริเวณที่เคยเป็น "ปราสาทโมริโอกะ" (Morioka Castle) มาก่อน แต่ในภาพหลังก็มีการรื้อถอนอาคารต่างๆ และพัฒนาพื้นที่ให้กลายเป็นสวนสาธารณะอย่างในทุกวันนี้ โดยในบริเวณสวนจะมีต้นซากุระอยู่หลายสายพันธุ์ จำนวนรวมกว่า 250 ต้น
นอกจากนี้ ในสวนแห่งนี้ยังมีต้นเมเปิ้ลอยู่อีกกว่า 400 ต้นด้วย จึงเป็นสวนที่สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติได้ทั้งในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโมริโอกะ
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโมริโอกะตั้งอยู่ข้างๆ สวนปราสาทโมริโอกะ จึงสามารถเข้าชมหลังเดินเล่นในสวนได้อย่างสะดวกสบาย ด้านในแบ่งเป็นโซนนิทรรศการท่องเที่ยวที่เข้าชมได้ฟรี (ชั้น 1) ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับงานเทศกาลประจำเมือง พร้อมหุ่นจำลองม้าที่ถูกแต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนในเทศกาล และรถลากขนาดใหญ่ที่ใช้ในงานเทศกาลด้วย
ส่วนชั้น 2 นั้นจะเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่เสียค่าเข้าชม โดยจะมีข้าวของโบราณ การจำลองเมืองทั้งขนาดย่อมและขนาดจริงบางส่วนให้ได้สัมผัสและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองกันค่ะ
อาคารอิฐแดง ธนาคารอิวาเตะ
อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในค.ศ. 1911 ภายใต้การออกแบบของทัตสึโนะ คินโกะ (辰野 金吾) สถาปนิกผู้ออกแบบอาคารมารุโนะอุจิของสถานีโตเกียวและตึกของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น
โดยในภูมิภาคโทโฮคุนั้นเหลือผลงานของเขาอยู่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น คือ "อาคารธนาคารอิวาเตะ" (Bank of Iwate Red Brick Building) ภายในมีการแบ่งเป็นโซนที่เข้าชมได้ฟรี คือ โถงกลางและห้องอเนกประสงค์ต่างๆ และโซนที่เสียค่าเข้าชมซึ่งจัดแสดงประวัติของอาคารรวมทั้งเปิดบริเวณตู้นิรภัยให้ชมกันด้วย
แนะนำเมนูดังประจำเมือง
เมืองโมริโอกะมีอาหารดังประจำเมืองที่เรียกว่า "เรเมง" (Reimen) ซึ่งเป็นบะหมี่เย็นใส่ซุปใส มีรสออกเปรี้ยวและเผ็ดเล็กน้อยจากกิมจิ นอกจากนี้ เส้นเรเมงก็ไม่เหมือนกับบะหมี่จีน เพราะจะออกใสและเหนียวหนึบกว่า อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์ตรงที่มีการใส่แตงโมลงไปกินกับบะหมี่ที่เป็นอาหารคาวด้วย บอกเลยว่าต้องลอง!
ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของการกินบะหมี่เย็นที่เมืองโมริโอกะก็คือ ชาวโมริโอกะจะนิยมกินกับเนื้อย่าง ดังนั้น หน้าสถานีจึงเรียงรายไปด้วยร้านอาหารที่ขายทั้งบะหมี่เย็นและเนื้อย่าง แต่หากคุณกลัวว่าจะกินไม่หมดล่ะก็ ทางร้านก็มีเซตเนื้อย่างชุดเล็กๆ ที่ให้คุณได้ลิ้มลองอาหารทั้งสองอย่างโดยไม่อิ่มจนอึดอัดด้วยค่ะ
ส่งท้าย
จบกันไปแล้วนะคะ กับบทความแนะนำจุดชมซากุระ สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารแสนอร่อยของโมริโอกะ เราหวังว่าคุณจะได้เจอสถานที่ที่ถูกใจ และได้ความสนุกกลับไปพร้อมกับความทรงจำดีๆ นะคะ
หากคุณอยากรู้ว่าโทโฮคุและจังหวัดอิวาเตะยังมีอะไรให้เที่ยวอีกบ้าง ก็สามารถตามไปอ่านในบทความด้านล่างนี้ได้เลย!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่