เที่ยวญี่ปุ่นอย่างประหยัดด้วย d POINT คลับ App!
เมื่อมีโอกาสได้มาญี่ปุ่นแล้ว ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องอยากช็อปปิ้งให้เต็มอิ่มอย่างแน่นอน ในครั้งนี้ tsunagu Japan จะพาคุณไปรู้จักกับเคล็ดลับง่ายๆ ในการประหยัดเงินขณะเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งประกอบไปด้วยวิธีการช็อปให้คุ้มค่าและของฝากที่ไม่ควรพลาดซื้อเมื่อมาญี่ปุ่น หากเพิ่ม "พอยท์" เข้าไปแล้ว การช็อปปิ้งธรรมดาๆ ก็จะสนุกขึ้น ประหยัดขึ้น และแน่นอนว่าไม่ใช่การขี้เหนียวแต่อย่างใด เป็นวิธีการประหยัดเงินอย่างง่ายๆ ที่เราอยากแชร์ให้ทุกๆ คนรู้จักกัน ลองให้บทความนี้เป็นผู้ช่วยทำให้การช็อปปิ้งในญี่ปุ่นของคุณคุ้มค่าและประหยัดขึ้นดูสิ
* บทความนี้เขียนขึ้นในความร่วมมือกับ NTT DOCOMO
คนญี่ปุ่นชื่นชอบพอยท์จนเรียกได้ว่าเป็น "ธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันทั่วประเทศ"
สำหรับผู้ที่ช่ำชองในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว หลายคนคงรู้ว่าที่ญี่ปุ่นนั้นมี "ระบบเก็บพอยท์" อยู่เป็นจำนวนมาก มันเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการซื้อของในชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่น
การบริการระบบพอยท์คือ "เมื่อชำระเงินจะได้รับพอยท์สะสมตามยอดเงิน" หรือพูดง่ายๆ คือ ทุกครั้งที่ซื้อของจะได้รับเงินกลับคืนมาเป็นพอยท์ตามเรทที่กำหนดไว้ สิ่งนี้เป็นเรื่องแสนธรรมดาสำหรับคนญี่ปุ่นถึงขนาดที่เรียกได้ว่าเป็น "ธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันทั่วประเทศ" วิธีการก็เพียงแค่ซื้อของตามปกติและแสดงพอยท์การ์ดหรือ App ในการสะสมแต้ม พอยท์ก็จะถูกเพิ่มลงในบัตรหรือ App นั้นๆ ตามเรทที่กำหนดไว้ (ส่วนใหญ่เป็น 1 พอยท์ต่อ 100 เยน) ร้านค้าจำนวนมากมีบริการระบบพอยท์นี้ ที่เด่นๆ เลยก็คือร้านสะดวกซื้อ ตามมาด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านทำผม โรงหนัง ร้านหนังสือ หรือแม้แต่ร้านดอกไม้ สิ่งนี้ได้ฝังรากลึกอยู่ในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นในฐานะ "วิธีซื้อของอย่างชาญฉลาดที่ช่วยประหยัดเงินทางอ้อม"
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะรู้ถึงความสะดวกของระบบเก็บพอยท์ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พูดญี่ปุ่นไม่ได้และไม่เข้าใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งแล้ว ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะใช้มันได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว อีกทั้งระบบเก็บพอยท์ยังมีอยู่อย่างหลากหลาย จึงทำให้น่าปวดหัวยิ่งขึ้นไปอีกว่าบริการไหนดีที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง ในบทความนี้เราจึงอยากขออธิบายวิธีใช้บริการระบบเก็บพอย์ทอย่างชาญฉลาด พร้อมนำเสนอ "d POINT" การบริการระบบพอยท์ที่เหมาะเป็นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากมีสิ่งนี้แล้วการช็อปที่ญี่ปุ่นของคุณจะประหยัดขึ้นอย่างน่าตกใจเลยทีเดียว
d POINT และ d POINT คลับ App คืออะไร?
ความสะดวกสบาย คือสาเหตุหลักที่เรายกให้ "d POINT" เป็นบริการระบบพอยท์ที่น่าแนะนำเป็นพิเศษ สามารถใช้ได้กับร้านค้าหลากหลายชนิดกว่า 200,000 ร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านขายยาอย่าง Matsumoto Kiyoshi และ Satsudora ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง LIFE ร้านสินค้าอนิเมะอย่าง animate ร้าน FamilyMart ร้านทำผม ร้านทำเล็บ หรือแม้แต่ที่พักต่างๆ ทั้งยังมีเสน่ห์เป็นความคุ้มค่าที่จะได้รับสะสมพอยท์ในเรท 100 เยนต่อ 1 พอยท์ (บางที่อาจเป็น 200 เยนต่อ 1 พอยท์) และสามารถใช้พอยท์ดังกล่าวชำระแทนเงินสดได้ในเรท 1 พอยท์ต่อ 1 เยน
ไม่ว่าจะชำระด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต หากแสดง App ในสมาร์ทโฟนแล้วก็จะได้รับพอยท์สะสมกลับมา แม้ว่าจะมีอยู่เพียงพอยท์เดียวคุณก็สามารถใช้มันเป็นส่วนลดสินค้าหรือบริการต่างๆ ได้ตลอดเวลา
***ประเทศที่สามารถสมัคร d POINT คลับ App ได้:
เกาหลี, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า, ออสเตรเลีย, ไทย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, สิงคโปร์
ขั้นตอนการสมัครสมาชิก d POINT คลับ และดาวน์โหลด App
การใช้งานก็แสนง่าย สามารถดาวน์โหลดและสมัครสมาชิกได้ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้เดินทางมาญี่ปุ่น (ดูประเทศที่สามารถดาวน์โหลดได้ด้านล่าง) หรือเมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่นแล้วก็สามารถดาวน์โหลด, สมัครสมาชิก และล็อคอินใช้งานได้ทันที
ขั้นตอนการสมัครสมาชิกจากรูปด้านบน ขั้นแรกลงทะเบียนที่อยู่อีเมลของคุณ คุณสามารถสมัครได้โดยกำหนดรหัสผ่าน ชื่อ-นามสกุล เพศ วันเกิด สัญชาติ และหมายเลขโทรศัพท์
เมื่อคุณเป็นสมาชิก คุณจะสามารถใช้ Wi-Fi ของ บริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง DOCOMO ซึ่งให้บริการ d POINT ได้ฟรีๆในพื้นที่ที่กำหนด เช่น สนามบิน สถานีรถไฟ ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อต่างๆ รวมถึงสถานที่ที่กำหนดไว้ให้ใช้ และคุณยังสามารถรับสิทธิประโยชน์สำหรับการเดินทางได้อีกด้วย
นอกจากจะสามารถรับของสมนาคุณอย่างสายรัดลาย Poinco ตัวละครมาสคอตของ d POINT ได้ที่เคาน์เตอร์บริการในสถานที่ที่กำหนดแล้ว ยังเป็นบริการที่คืนกำไรให้กับคุณเพราะคุณจะได้รับคะแนนสะสมทุกครั้งที่ซื้อสินค้า แถมไม่ต้องมีขั้นตอนที่ซับซ้อนหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น มาทำให้การเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นของคุณมีความหมายมากขึ้นด้วยแอพ d POINT คลับกันเถอะ!
***ประเทศที่สามารถสมัคร d POINT คลับ App ได้:
เกาหลี, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า, ออสเตรเลีย, ไทย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, สิงคโปร์
พิสูจน์ให้เห็นจะๆ ! ไปดูกันว่า d POINT จะช่วยประหยัดได้แค่ไหน
แม้ว่าจะรู้ถึงความคุ้มค่าของ d POINT แล้ว แต่หากไม่ได้ลองใช้ดูด้วยตัวเองแล้วก็อาจจินตนาการได้ยากว่ามันคุ้มค่าแค่ไหน ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงขอยกตัวอย่างการใช้งานจริงๆ มาอธิบายให้คุณได้ทราบกัน โดยเราจะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาลองช้อปกันจริงๆ จากนั้นจึงค่อยมาวิเคราะห์กันว่า d POINT จะช่วยประหยัดไปได้เท่าไร ด้านล่างนี้เป็น "รายการของฝากญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด" ที่ tsunagu Japan คัดสรรมาอย่างดี ประกอบไปด้วยเครื่องสำอาง ของใช้ในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์ยา ของใช้ระหว่างการเดินทาง ขนม และของฝากอื่นๆ ไปดูกันเลยว่า d POINT จะช่วยคุณประหยัดได้ขนาดไหน
"PLAZA" ร้านสินค้าในชีวิตประจำวันสุดแสนคาวาอี้!
"PLAZA" ร้านสินค้าในชีวิตประจำวันที่ดูมีสไตล์และได้ครองใจของหญิงสาวชาวญี่ปุ่น วางจำหน่ายสินค้าหลากหลายชนิด ตั้งแต่เครื่องสำอาง ของใช้ในชีวิตประจำวัน ขนม เครื่องเขียน เครื่องประดับเสื้อผ้า ไปจนถึงของเล่น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าชิ้นไหนก็ล้วนแต่มีประสิทธภาพสูงและเป็นสินค้าที่กำลังอยู่ในกระแสทั้งนั้น ร้านนี้เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติจำนวนมาก และยังเป็นที่รู้จักในฐานะสวนสวรรค์ของสินค้าเครื่องสำอางจากทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติอีกด้วย เมื่อก้าวเข้าไปในร้านแล้ว รับรองได้ว่าคุณจะต้องตาลายไปกับเหล่าสินค้าจากแบรนด์ดังๆ ของญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
อันดับแรกที่เราขอแนะนำก็คือ "Saborino Morning Mask" ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็น "อาวุธลับที่ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นได้ในเวลาอันสั้น" เพียงแค่แปะไว้ 60 วินาทีหลังจากตื่นนอน ก็สามารถบอกลาความยุ่งยากจากการล้างหน้า สกินแคร์ และโลชั่นให้ความชุ่มชื้นไปได้อย่างหมดจน เป็นแผ่นมาส์กหน้าที่เหมาะอย่างยิ่งกับช่วงเช้าๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลา ซีรีย์เดียวกันนี้ก็ยังมี "Night Mask" ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันอยู่ด้วย เป็นสินค้าชั้นเลิศที่รวมเอาสกินแคร์ 5 อย่าง ได้แก่ โลชั่นหน้า โลชั่นนม เซรั่ม ครีม และมาส์กหน้าไว้ด้วยกัน ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการดูแลผิวช่วงกลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีสินค้ายอดนิยมอีก 3 รายการที่เราอยากแนะนำเป็นพิเศษ ได้แก่ อายแชโดว์ที่ติดคงทนของ "EXECL" แบรนด์เครื่องสำอางราคาประหยัดยอดนิยม ลิปกลอสใสของ "OPERA" ที่โดดเด่นด้วยแพคเกจสีทองดูหรูหรา และลิปสติกเพื่อวอลลุ่มของ "UZU 38℃ / 99℉" สินค้าให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากที่ขายดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้แล้วเรายังได้ซื้อสมุดโน๊ตน่ารักๆ ที่น่าใช้งานมาด้วย เรียกได้ว่าเป็นการช็อปที่แต่งแต้มสีสันให้กับชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เครื่องสำอางไปจนถึงสมุดโน๊ตที่ใช้ในเวลาปกติ
ยอดเงินที่ใช้จ่ายและพอยท์ที่ได้รับที่ PLAZA: 11,300 เยน, d POINT 113 พอยท์
"Tokyu Hands" ร้านในคอนเซ็ปต์ "การตลาดแบบให้นัยยะ" ที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น!
"Tokyu Hands" ร้าน 100 เยนยอดนิยมที่ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่างชื่นชอบ นอกจากจะมีบริการยกเว้นภาษีแล้ว ยังสามารถสะสมและใช้ d POINT ได้อีกด้วย เป็นร้านที่ช่วยมอบคำใบ้ที่จะทำให้ชีวิตของลูกค้าแต่ละคนเติมเต็มยิ่งขึ้น วางจำหน่ายสินค้าเชิงสร้างสรรค์ตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องสำอาง เครื่องเขียน ของใช้ในครัว สินค้า DIY ไปจนถึงของใช้ในระหว่างการเดินทาง
สินค้าอย่างแรกของ Tokyu Hands ที่เราขอแนะนำก็คือ กระเป๋าเดินทางจาก LOJEL แบรนด์กระเป๋าเดินทางชั้นแนวหน้าของญี่ปุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของนักเดินทาง หลังจากที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้ตามตลาดต่างประเทศแล้วค่อยถูกส่งกลับมาจำหน่ายที่ญี่ปุ่น จึงเป็นสินค้าที่มีเรื่องราวแตกต่างออกไปจากสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นปกติ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้คือเป็นกระเป๋าเดินทางแบบเปิดด้านหน้า สามารถเปิดหยิบใส่ของได้โดยไม่กินพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดของที่บ้านหรือหยิบของที่สนามบินก็ทำได้ง่ายทั้งนั้น ได้รับความนิยมจากไอเดียที่ "น่าจะมีแต่ยังไม่มีคนทำ" และปริมาณความจุที่สูงจนหาคู่แข่งยาก เป็นสินค้าชั้นเลิศที่อัดแน่นไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ทุกคนสามารถใช้ได้อย่างถนัดมือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชอบใส่ของเล็กๆ น้อยๆ หรือจะเป็นผู้ที่จัดกระเป๋าไม่เก่งก็ตาม
หมอนนวดที่ดีไซน์ขึ้นโดยแบรนด์เครื่องนวดญี่ปุ่น "ATEX Lourdes" นี้ มีขนาดเพียงกระดาษ A4 (กว้าง 30 ซม. ลึก 21 ซม. สูง 16 ซม.) จึงกะทัดรัดพกพาสะดวก เป็นสินค้าที่สามารถนวดบริเวณที่ปวดเมื่อยได้ทุกจุด มียอดขายที่น่าตกใจถึงกว่า 9 แสนชิ้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยมอบความผ่อนคลายให้กับคนยุคปัจจุบันที่มักจะปวดเมื่อยจากการนั่งอยู่ในท่าเดิมๆ เป็นระยะเวลานาน
"estaa" แบรนด์จาก "MOONBAT" ผู้ผลิตร่มของญี่ปุ่นที่เปิดกิจการมากว่า 100 ปี เป็นแบรนด์ร่มที่มีทั้ง "ความดั้งเดิม" อันเก่าแก่และ "นวัตกรรม" แบบสมัยใหม่ ร่มพับของแบรนด์นี้เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นพิเศษ ออกแบบโดยเน้นเรื่องความทนทาน สามารถกันได้ทั้งแดดและฝน ทั้งยังมีดีไซน์ให้เลือกอยู่มากมาย การที่ทั้งมีประสิทธิภาพสูงและดูเก๋ไก๋นี้ ส่งผลมันเป็นที่นิยมของผู้คนในทุกช่วงวัย
กระบอกแสตนเลสเป็นสินค้าที่กำลังเกิดบูมขึ้นในญี่ปุ่นปัจจุบัน ที่เห็นว่าจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษก็คือกระบอกไซส์มินิของ "nao sudou" จุได้ 190 มล. มีขนาดเล็กที่สามารถใส่ลงในกระเป๋าได้อย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์สีโมโนโทนพื้นๆ หรือดีไซน์น่ารักๆ ที่ผสมผสานระหว่างสีโทนอ่อนกับรูปสัตว์น่ารักๆ ก็ล้วนแต่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากเหล่าสาวๆ สุดยอดสินค้าที่เป็นการตกผลึกของวัฒนธรรมและเทคโนโลยีล่าสุดของญี่ปุ่นกับดีไซน์น่ารักๆ ที่ถือไปไหนมาไหนได้สะดวกนี้ ไม่ว่าจะซื้อไปเป็นของฝากหรือจะนำไปใช้เองก็เหมาะทั้งนั้น
ยอดเงินที่ใช้จ่ายและพอยท์ที่ได้รับที่ Tokyu Hands: 38,660 เยน, d POINT 386 พอยท์
"Matsumoto Kiyoshi" ร้านขายยาที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย
"Matsumoto Kiyoshi" เป็นร้านขายยาแบบขยายสาขาที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น มีจุดเด่นความหลากหลายของสินค้าและราคาที่แสนถูก ภายในร้านมีพนักงานที่พูดภาษาจีนได้ประจำอยู่ตลอดเวลา มีบริการหักภาษี ณ ที่จ่าย พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นร้านที่สามารถสะสม d POINT ได้
Matsumoto Kiyoshi ไม่เพียงแต่วางจำหน่ายสินค้าจำพวกยาและเครื่องสำอางที่หาได้ตามร้านขายยาทั่วไปเท่านั้น ยังมีสินค้าของแบรนด์ตัวเองวางจำหน่ายอยู่อีกด้วย สินค้าเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพที่สูง และเป็นที่จับตามองอย่างยิ่งจากทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ
ตัวอย่างเช่น "Dpasio EX (ディパシオEX)" ยาที่ช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน เจ็บคอ ปวดหัว ปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อต่อ ปวดไหล่ และปวดหลัง เป็นสินค้ายอดนิยมประสิทธิภาพสูงที่มีแฟนๆ อยู่เป็นจำนวนมาก มีขนาดเล็กรับประทานง่าย เหมาะที่จะซื้อเผื่อไว้ในกรณีที่เกิดป่วยขึ้นมาในระหว่างเดินทาง หรือจะซื้อเก็บไว้เป็นยาสามัญประจำบ้านเมื่อเดินทางกลับแล้วก็ได้
"Wacoalis FX Cool 40 (ワコーリス FX クール 40)" ยาหยอดตาที่นำเทคโนโลยีการเพิ่มวิตามิน B6 มาช่วยในการบรรเทาความเหนื่อยล้าของดวงตา ช่วยคลายเส้นเลือดและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการล้าของดวงตา ตาแดง คันตา โรคเกี่ยวกับดวงตา ตาหรือหนังตาพุพองจากรังสีต่างๆ รวมไปถึงอาการไม่สบายตาจากการใส่คอนแทคเลนส์
สำหรับยาแก้ไข้ เราขอแนะนำ "Pelack Multi-Symptom Cold Relief (ぺラック総合かぜ薬細粒)" มีประสิทธิภาพช่วยบรรเทาอาการต่างๆ จากไข้หวัด ไม่ว่าจะเป็นเจ็บคอ ไอ มีเสมหะ มีน้ำมูก คัดจมูก จาม ตัวร้อน หนาวสั่น ปวดหัว ปวดตามข้อ หรือปวดกล้ามเนื้อ ทั้งยังแพคแบบแยกเป็นเม็ด จึงสะดวกต่อการพกพาอีกด้วย
ยอดเงินที่ใช้จ่ายและพอยท์ที่ได้รับที่ Matsumoto Kiyoshi: 2,524 เยน, d POINT 25 พอยท์
สรุปยอด ณ ตอนนี้:
PLAZA: 113 พอยท์
Tokyu Hands: 386 พอยท์
Matsumoto Kiyoshi: d POINT 25 พอยท์
= ยอดรวม 3 ร้าน 524 พอยท์
นำพอยท์ที่สะสมมาใช้ที่ "LIFE" ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่เหมาะแก่การเลือกซื้อของฝากจำนวนมากๆ !
"LIFE" ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่เน้นขยายสาขาอยู่ตามภูมิภาคคันโตและคันไซ ภายในร้านมีบรรยากาศที่สะอาดสะอ้าน วางจำหน่ายสินค้าสดใหม่วันต่อวัน ตั้งแต่อาหารอย่างข้าวกล่องและกับข้าว ไปจนถึงสินค้าอย่างเครื่องดื่ม ขนม และสินค้ากึ่งสำเร็จรูป ร้านนี้เป็นที่จับตามองของทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุผลที่ว่านอกจากจะคำนึงถึงผู้บริโภคแล้ว ยังมุ่งมั่นที่จะให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ช็อปที่ทั้งสนุกและอร่อยอีกด้วย
ทุกสาขาของร้านนี้รับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต บางสาขาก็ยังมีระบบคิดเงินแบบบริการตัวเองที่รองรับภาษาต่างประเทศอยู่อีกด้วย จึงไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารกับพนักงานไม่รู้เรื่อง สำหรับสาขา Central Square Oshiage ที่อยู่ใกล้กับโตเกียวสกายทรี สาขา Asakusa ที่อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง และสาขา Central Square Nanba ที่อยู่ในย่านการค้าของโอซาก้านั้น เป็นร้านที่มีบริการยกเว้นภาษี จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับแวะซื้อของฝากในระหว่างท่องเที่ยว
อร่อย ราคาถูก อีกทั้งยังซื้อได้มากๆ ในคราวเดียว เหตุผลเหล่านี้ทำให้ขนมเป็นสินค้าที่เหมาะกับการนำไปเป็นของฝากอย่างยิ่ง ขนมของฝากที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษก็ได้แก่ "Meiji Almond Chocolate" ที่ห่อหุ้มอัลมอนด์ไว้ด้วยช็อกโกและหวานนุ่ม และ "KitKat" ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "Otona no Amasa Matcha (オトナの甘さ抹茶)" ที่ทำจากอูจิมัทฉะ และ "Koi Matcha (濃い抹茶)" ที่เพิ่มปริมาณอูจิมัทฉะเป็นสองเท่า ของซีรีย์ KitKat นั้น เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากพบเห็นตามซูเปอร์มาร์เก็ตในญี่ปุ่นแล้ว ไม่ควรพลาดที่จะลองซื้อเก็บไว้สักชิ้น
"Seitakushibori Momo Chuhai (贅沢搾り桃チューハイ)" มีส่วนผสมของน้ำลูกพีชอยู่ถึง 31% รสหวานที่กำลังดีจะกระจายไปทั่วปาก ได้รสชาติราวกับกำลังดื่มน้ำผลไม้อยู่จริงๆ เป็นสินค้าดื่มง่ายที่เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ก็ยังมี "Lemondo (檸檬堂)" ที่จำหน่ายโดยบริษัท Coca-Cola ญี่ปุ่น เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผสมผสานกับระหว่างโชจู เลมอน และน้ำโซดา วางขายใน 4 รสชาติ ได้แก่ "Lemon" "Salt Lemon" "Honey Lemon" และ "Oni Lemon (เลมอนซาวร์เข้มข้น)" มีระดับแอลกอฮอล์ให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 3% ถึง 9% เป็นสุดยอดสินค้าที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลิ้มลองรสชาติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบญี่ปุ่นๆ
นอกจากนี้แล้ว เรายังได้ซื้อผงมัทฉะ ผงโฮจิฉะ ชีสแท่งที่เหมาะสำหรับเป็นกับแกล้ม และ "Ryukakusan (龍角散)" ลูกอมที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในประเทศแถบเอเชียมาอีกด้วย
ยอดเงินที่ใช้จ่ายที่ LIFE: 3,388 เยน (จ่ายด้วย d POINT 524 เยน, จ่ายด้วยเงินสด 2,864 เยน)
d POINT ที่ได้รับ: 14 พอยท์ (LIFE มีเรท 200 เยนต่อ 1 พอยท์)
* ราคาของสินค้าเป็นราคาเมื่อวันที่เก็บข้อมูล
* สินค้าที่จำหน่ายอาจแตกต่างกันไปตามสาขา
เที่ยวญี่ปุ่นไปกับ d POINT คลับ App ! ข้อดีของมันนั้นมีมากเกินบรรยาย
เห็นแล้วใช่ไหมว่าการใช้ d POINT คลับ App ช็อปปิ้งที่ญี่ปุ่นนั้นทำให้เกิดความแตกต่างได้มากแค่ไหน บริการ d POINT นี้นอกจากช่วยประหยัดเงินตอนซื้อของแล้ว ยังมีข้อดีอื่นๆ ดังต่อไปนี้อีกด้วย
เพียงแค่สมัครสมาชิก d POINT คลับ App ก็ได้รับผลประโยชน์ 4 อย่าง!
1. สมัครสมาชิก d POINT คลับ และดาวน์โหลดให้เรียบร้อย ผ่านทางออนไลน์ (***ประเทศที่สามารถสมัคร d POINT คลับ App ได้:เกาหลี, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า, ออสเตรเลีย, ไทย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, สิงคโปร์)
2. สามารถใช้คูปองที่เป็นสิทธิพิเศษของสมาชิก d POINT ได้
ตัวอย่างเช่น: ร้าน JAL ABC (รับส่วนลด 15%) เว็บไซต์สำรองที่พัก Booking.com (รับเงินคืน 10%) และร้านค้าสมาชิก d POINT มากมาย (ลดสูงสุด 50%) นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมาย
3. คุณจะสามารถใช้ Wi-Fi ได้ฟรีๆในพื้นที่ที่กำหนด เช่น สนามบิน สถานีรถไฟ ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อต่างๆ รวมถึงสถานที่ที่กำหนดไว้ให้ใช้งาน
4. ได้รับของสมนาคุณจาก "พี่น้องพอยท์โกะ" มาสคอตของ DOCOMO ที่มีแฟนๆ อยู่ทั้งในและนอกญี่ปุ่น (สามารถเลือกได้ระหว่างสายรัดโทรศัพท์ ปากกา 3 สี แผ่นปูปิกนิก หรือสมุดโน๊ตขนาด A5)
* รายละเอียดของของสมนาคุณอาจเปลี่ยนแปลงได้
สรุป
หากคุณวางแผนที่จะไปญี่ปุ่น ไม่ควรพลาดที่จะลองใช้บริการ d POINT คลับ App ดูสักครั้ง รับรองได้ว่ามันจะช่วยให้การช็อปปิ้งในญี่ปุ่นของคุณประหยัดและสนุกยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
***ประเทศที่สามารถสมัคร d POINT คลับ App ได้:
เกาหลี, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า, ออสเตรเลีย, ไทย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, สิงคโปร์
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่