รวบรวมราเม็งยอดนิยมจากทั่วญี่ปุ่น ณ พิพิธภัณฑ์ราเมงที่ชินโยโกฮาม่า !
ว่ากันว่าญี่ปุ่นมีร้านราเมงกว่า 32,000 ร้าน อีกทั้งการปรุงรสและเส้นราเมงเองก็ยังแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องที่อีกด้วย "ราเมง" ของญี่ปุ่นโด่งดังถึงขนาดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาที่นี่เพื่อแค่ทานราเมง ทว่าการแวะร้านราเมงหลายๆ ร้านจำเป็นต้องใช้ทั้งเงินและเวลาอย่างมาก ดังนั้น สำหรับท่านที่อยากทานและเปรียบเทียบราเมงหลายๆ แบบ เราขอแนะนำ "Shin-Yokohama Raumen Museum" ค่ะ ที่นี่ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับ "ราเมง" เจ้าดังที่คัดสรรมาจากทั่วญี่ปุ่น แล้วที่นี่มีอะไรบ้าง ? ไปดูกันเลย !
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
Shin-Yokohama Raumen Museum คืออะไร
"พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า" หรือ "Shin-Yokohama Raumen Museum" (ชื่อทางการของพิพิธภัณฑ์สะกดคำว่า 'ราเมง' ไว้อย่างเป็นเอกลักษณ์ว่า Raumen ค่ะ) เปิดทำการเมื่อมีนาคม ค.ศ.1994 เป็นสวนสนุกที่มีธีมเป็น "ราเมงของญี่ปุ่น" นั่นเองค่ะ ปัจจุบัน ภายในอาคารมีราเมงร้านดัง 6 ร้านจาก 6 ภูมิภาคของญี่ปุ่นและร้านต่างชาติที่เปิดกิจการโดยชาวญี่ปุ่นอยู่ 2 ร้านค่ะ ผู้เข้าชมสามารถเลือกร้านที่ชอบและจ่ายเงินที่แต่ละร้านได้เลย นอกจากนี้ยังมีร้านที่เปิดเฉพาะบางเวลาด้วยนะคะ
การตกแต่งภายในร้านได้แรงบันดาลใจจากบ้านเมืองญี่ปุ่นสมัยศตวรรษที่ 20 ค่ะ นอกจากร้านราเมงแล้ว ภายในอาคารยังมีมุมจัดแสดงประวัติศาสตร์ "ราเมงญี่ปุ่น" หรือเครื่องเล่นต่างๆ อีกด้วย และต่อไปนี้ เราจะแนะนำร้านราเมงประจำ 8 ร้านและสถานที่อื่นๆ กันนะคะ เริ่มกันเลย !
Ryushanhai-honten (ยามากาตะ)
ร้านริวชังไฮ "Ryushanhai" (龍上海本店) เปิดครั้งแรกที่จังหวัดยามากาตะเมื่อปี ค.ศ.1958 นอกจากร้านสาขาหลักในเมืองนันโย จังหวัดยามากาตะแล้ว ปัจจุบันยังมีร้านสาขา 7 แห่งภายในจังหวัดยามากาตะและ 1 แห่งในจังหวัดคานากาวะอีกด้วย
เมนูขึ้นชื่อคือ "อากะยุคารามิโสะราเมง" (赤湯からみそラーメン) ท่านสามารถปรับระดับความเผ็ดได้ด้วยการค่อยๆ ละลาย "คารามิโสะ" ที่มาจากการผสมผสานของพริกที่ลอยอยู่กลางชามและมิโสะค่ะ
Rishiri Ramen Miraku (ฮอกไกโด)
ร้าน "Rishiri Ramen Miraku" (利尻らーめん味楽) เป็นร้านราเมงจากเกาะเล็กๆ ทางเหนือของฮอกไกโดที่มีชื่อว่า "เกาะ Rishiri" (利尻島) ในแต่ละวันร้านจะเปิดเพียง 2 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้นจึงถูกกล่าวขานกันว่าเป็น "ร้านที่มายากที่สุดในญี่ปุ่น" เลยทีเดียวค่ะ
ราเม็งของร้าน "Rishiri Ramen Miraku" ใช้ “สาหร่ายทะเลริชิริ” หนึ่งในสามสาหร่ายดังของญี่ปุ่นแบบเน้น ๆ เลยค่ะ “ราเมงราดซอสโชยุเผา” ซึ่งมีน้ำซุปเข้มข้นจากการเคี่ยว “สาหร่ายทะเลริชิริ” กับโชยุเผานั้นมีกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอให้ท่านเพลิดเพลินได้อีกด้วยค่ะ
YUJI RAMEN (อเมริกา)
ร้าน "YUJI RAMEN" มีสาขาหลักอยู่ในรัฐนิวยอร์ค ที่มาจากเจ้าของร้านที่ขณะนั้นทำงานอยู่ในบริษัทค้าปลาเมือง Boston รัฐ Massachusetts สหรัฐอเมริกาได้เห็นปลาคุณภาพดีที่ถูกทิ้งราวกับขยะในตลาดขายส่ง เขาจึงนำจุดนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์และเปิดร้านในปีค.ศ.2012 ราเมงเพียงแค่ชามเดียวของร้านนี้ยังเข้มข้นไปด้วยรสชาติถึงใจด้วยความเด็ดอร่อยของปลา
เมนูแนะนำคือ "ราเม็งกระดูกปลาทูน่า" (ツナコツラーメン) เป็นราเมง "รวมมิตรปลาทูน่า" ซึ่งมีปลาทูน่าย่างวางอยู่ข้างบนแทนชาชูและซุปรสชาติเข้มข้นนั่นเองค่ะ
Muku Zweite (เยอรมัน)
ร้าน "Muku Zweite" (無垢-muku-ツヴァイテ) มีสาขาหลักในเมือง Frankfurt ประเทศเยอรมัน เปิดทำการเมื่อปีค.ศ. 2010 โดยเจ้าของร้านผู้เป็นอดีตพนักงานบริษัทการค้า กล่าวกันว่านี่เป็นร้านดังที่นักชิมทั่วยุโรปไม่ว่าจะเป็นชาวฝรั่งเศสหรือชาวอิตาลีอุตส่าห์เดินทางมาถึงในประเทศเยอรมันเพื่อร้านนี้โดยเฉพาะเลยล่ะค่ะ
จุดเด่นของร้านนี้คือการใช้วัตถุดิบที่หาในได้ในท้องถิ่นแบบเน้นๆ แม้กระทั่งเส้นราเมงก็ยังทำมาจากแป้งสาลีสำหรับทำพิซซ่าหรือพาสต้าเลยค่ะ ส่วน "มุคุราเม็ง" (無垢ラーメン) จะทำให้ท่านได้เพลิดเพลินกับหมูชาชูอังไฟและใช้ไฟอ่อนในการปรุงถึง 2 ชนิดอีกด้วยค่ะ
Komurasaki (คุมาโมโตะ)
ร้าน "Komurasaki" (こむらさき ) อันเป็นร้านต้นตำรับของ "ราเมงคุมาโมโตะ" หนึ่งในราเมงประจำท้องถิ่นภูมิภาค คิวชู เปิดตัวเมื่อปีค.ศ.1954 และมีร้านสาขาหลักอยู่ที่เมืองคุมาโมโต้ จังหวัดคุมาโมโต้ "ราเม็งคุมาโมโตะ" ที่ใช้กระดูกหมูและกระดูกไก่มาทำซุป ทำให้มีรสชาติกลมกล่อมให้ท่านได้ลิ้มลอง
จุดเด่นของร้าน "Komurasaki" คือ "กระเทียมสับ" บนราเม็ง โดยกระเทียมสับนี้มาจากการสับกระเทียมเป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำมาย่าง ทำให้เกิดกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ ส่วน "ราชาราเม็ง" (王様ラーメン) มีชาชู 4 แผ่นรสชาติอร่อยนุ่มปาก เข้ากันสุดๆ กับเส้นและน้ำซุป
Sumire (ฮอกไกโด)
ร้าน "Sumire" (すみれ) เปิดตัวในปีค.ศ.1964 เป็นร้านขึ้นชื่อของมิโสะราเม็งอันเป็นของดังแห่งฮอกไกโด มีสาขาหลักในเมืองซัปโปโร บริเวณหน่วยงานราชการของฮอกไกโด และสาขาย่อยอีก 3 แห่งในฮอกไกโด
ราเมงร้านนี้มึจุดเด่นเป็นเส้นหนากรุบกรอบและน้ำซุปเข้มข้นจากกระเทียม ส่วน "มิโสะราเมง" ใช้ซุปที่มาจากการเคี่ยวกระดูกหมู อาหารทะเล และผัก เมื่อทานคู่กับมิโสะทำให้มีรสชาติเข้มข้นอย่างมาก
Shinasoba-ya (คานากาวะ)
ร้าน "Shinasoba-ya" (支那そばや)เป็นร้านที่มีชื่อเสียงจาก "ราเม็งจีน" แสนเรียบง่าย และมีสาขาหลักตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานากาวะ
โชยุใน "โชยุราเมง" มาจากการเดินทางทั่วญี่ปุ่นด้วยตนเองของเจ้าของร้าน เพื่อค้นหาโชยุที่ดีที่สุดสำหรับน้ำซุปหรือเส้นราเมงของทุกเมนู ร้านนี้ยังมีเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งคือ ท่านสามารถทานชาชูเมงหลากหลายรูปแบบซึ่งมีจำนวนจำกัดอย่าง "คิงกะทงชาชูเมงพิเศษ" (金華豚特上チャーシュー麺) ที่ใช้ "คิงกะทง (หมูจีน)" เนื้อหมูเด็กซึ่งถูกเลี้ยงอยู่ในฟาร์มเพียง 2 แห่งทั่วญี่ปุ่นเท่านั้น
Nidaime-genkotsu-ya (โตเกียว)
ร้าน "Genkotsu-ya" (二代目げんこつ屋) เปิดทำการเมื่อปีค.ศ.1980 ในวัดชินโคเอนจิ (新高円寺) กรุงโตเกียว ร้านแห่งนี้เคยปิดตัวครั้งหนึ่งเมื่อปีค.ศ.2007 เนื่องจากเจ้าของร้านรุ่นแรกถึงแก่กรรม ทว่าลูกชายได้มารับช่วงต่อเมื่อปีค.ศ.2011 และเปิดร้านอีกครั้งเฉพาะใน "Shin-Yokohama Ramen Museum" เท่านั้น
ราเมงที่นี่มีจุดเด่นที่ซุปรสชาติอ่อนๆ ที่ทำมาจากปลาทูน่า กระดูกหมู และกระดูกและเส้นราเมง ส่วน "เก็งโคะสึราเมง (โชยุ)" (げんこつら~めん) โด่งดังจากความกลมกล่อมของซุปรสชาติเรียบ ๆ กับส่วนผสมอย่างชาชู สาหร่าย ไข่ต้ม หน่อไม้ญี่ปุ่น และต้นหอม
Ryukyushimmen Tondou (โอกินาว่า)
ร้าน "Ryukyushimmen Tondou" (球新麺 通堂) มาจากจังหวัดโอกินาว่า ซึ่งอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่นด้วย "โครงการสร้างราเมงท้องถิ่นใหม่" ของ "Shin-Yokohama Ramen Museum" ที่เสนอให้มีราเมงชนิดใหม่ในท้องถิ่นที่ยังไม่เคยมีราเมงท้องถิ่นเป็นของตนเองในปีค.ศ.2001 นั่นเอง
เมนูขึ้นชื่อคือ "ทอนโดราเม็ง รสชายหนุ่ม" (通堂ラーメン おとこ味) ซึ่งมีต้นแบบจาก "ฮากาตะราเม็ง" ราเม็งกระดูกหมูในภูมิภาคคิวชู และ "ทอนโดราเม็งเกลือ รสหญิงสาว ใส่ไข่" (通堂うま塩ラーメンおんな味 玉子入り) โดยร้าน "Tondou" ได้ตั้งชื่อราเมงกระดูกหมูว่า "รสชายหนุ่ม" และราเมงเกลือว่า "รสหญิงสาว" ส่วนการปรุงรสเองก็แน่นอนว่ามีเส้นราเมงหลากหลายรูปแบบให้ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่แตกต่างกันได้
ร้านแนะนำอื่นๆ : ร้านชา&ขนม kateko
หากท่านใดคิดอยากพักสักหน่อย เราขอแนะนำร้านชาภายในอาคารอย่าง "ร้านชา&ขนม kateko" เมื่อเข้าไปในร้านที่มีต้นแบบจากร้านชาในญี่ปุ่นช่วงปีค.ศ.1980 หรือร้านนั่งดื่มพร้อมเคาน์เตอร์อย่าง "แสน็คบาร์" จะมีผู้หญิงสวมชุดกิโมโนออกมาต้อนรับ ทางร้านมีบริการชาและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนของขึ้นชื่ออย่าง "ซอฟต์ครีมนม" เองก็เหมาะกับการทานหลังราเมงร้อนสุดๆ ไปเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีอีเวนต์คาราโอเกะอีกด้วย หากได้คะแนนเกินกว่าที่กำหนดไว้ยังสามารถรับของแถมอย่างซอฟต์ครีมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ด้วยนะคะ
ร้านแนะนำอื่น ๆ : ร้านขนมพื้นบ้าน "Yuyake-syoten"
ร้าน "Yuyake-syoten" (駄菓子屋)ได้จำลอง "ร้านขายขนมพื้นบ้าน" อันเป็นร้านขายของชำเล็กๆ ซึ่งขายของเล่นหรือ "ขนมพื้นบ้าน" ขนมราคาถูกสำหรับเด็กๆ ที่เป็นที่นิยมทั่วญี่ปุ่ในปีค.ศ.1950 ภายนอกร้านเองก็ยังสร้างเหมือน "ร้านขายขนมพื้นบ้าน" ของจริงอีกด้วย
ภายในร้านจำหน่ายขนมญี่ปุ่นหลากหลายชนิด ตั้งแต่ขนมขึ้นชื่อของ "ร้านขนมพื้นบ้าน" ไปจนถึงของที่เป็นที่นิยมทั่วญี่ปุ่นในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นยังขาย "อาเกะปัง" (あげぱん) ขนมปังประจำโรงเรียนในญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ
ร้านแนะนำอื่น ๆ:Izakaya Ryouji
"Izakaya Ryouji" (居酒屋 りょう次) มีสาขาหลักอยู่ในเมือง Naha บริเวณที่ทำการจังหวัดโอกินาว่า ที่นี่ให้บริการเครื่องดื่มแอกอฮอล์จากจังหวัดโอกินาว่า และอาหารพื้นเมืองให้ท่านได้ลิ้มลอง ยิ่งไปกว่านั้น เชฟเองก็ยังมาจากจังหวัดโอกินาว่าอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องไปถึงโอกินาว่าก็สามารถสัมผัสบรรยากาศของโอกินาว่าได้ที่นี่เช่นกันค่ะ
พร้อมด้วยอีเวนต์อื่นๆ เช่น การแสดงริมถนน ละครหุ่นกระดาษ
ภายในลานกิจกรรมที่ชั้นใต้ดิน 2 ยังจัดการแสดงหลากหลายรูปแบบในเวลาที่กำหนด เช่น การแสดงละคร การเล่นมายากล เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการแสดงดนตรี รวมไปถึง "ละครหุ่นกระดาษ" การแสดงญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราวโดยแสดงภาพไปพร้อมๆ กับทำมือประกอบ
ลานแข่งขันสล็อตคาร์ Iris
ท่านสามารถสนุกสนานไปกับการแข่งขันสล็อตคาร์อันเป็นที่นิยมในปีค.ศ.1960 - 1970 ที่ "ลานแข่งขันสล็อตคาร์ Iris" ลานมีความยาวทั้งหมดประมาณ 30 เมตร ระดับความสูงต่ำต่างกันอยู่ประมาณ 70 เซนติเมตร และ 6 เลน แน่นอนว่าท่านสามารถเช่าสล็อตคาร์ได้ หากท่านเจอสล็อตคาร์ที่ท่านชอบ ท่านยังสามารถซื้อภายใน "ลานแข่งขันรถบังคับ Iris" และประกอบเองเพื่อนำมาใช้เล่นได้อีกด้วย
สินค้าออริจินอลแและสินค้าเฉพาะภายใน Museum shop
ท่านสามารถซื้อของฝากได้ใน "Museum shop" โดยภายในร้านจำหน่ายสินค้าที่ซื้อได้แค่ที่นี่อยู่มากมาย เช่น "ราเมงของฝาก" ที่ท่านสามารถลิ้มรสราเมงเช่นเดียวกับร้านอาหารหรือที่เคยออกร้านภายในพิพิธภัณฑ์
วันนี้เราได้แนะนำ "Shin-Yokohama Raumen Museum" ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ ที่นี่มีราเมงญี่ปุ่นที่อยากทานกันบ้างไหมคะ "Shin-Yokohama Raumen Museum" มีร้านราเมงที่เปิดเฉพาะช่วงอยู่บ่อยๆ ทำให้สามารถเพลิดเพลินได้ไม่รู้เบื่อเลยล่ะค่ะ
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่