สถานที่น่าเที่ยวในชิซูโอกะ! ไปเที่ยวฮามะมัตสึ 2 วัน 1 คืนกันเถอะ~ เนินทรายนาคาทาจิมะ เทศกาลฮามะมัตสึและฮิสึมาบุชิ

※บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก เมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซูโอกะ

เที่ยวฮามะมัตสึช่วงไหนดี?

ช่วงที่น่ามาเยือนเมืองฮามะมัตสึ จังหวัดชิซูโอกะมากที่สุด ก็คงจะเป็นช่วงวันที่ 3 - 5 พฤษภาคม เพราะว่าเมืองฮามะมัตสึจะมีงานเทศกาล “ฮามะมัตสึ (浜松まつり)” ที่ยิ่งใหญ่ และจัดขึ้นเพียงปีละครั้ง ในเวลาไม่กี่วันเท่านั้น! เดือนพฤษภาคมเหมาะสำหรับการชมทะเลในบริเวณเนินทรายฮามะมัตสึมากกว่าฤดูฝนในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม หรือฤดูร้อนในเดือนสิงหาคม นอกจากนั้น เดือนพฤษภาคมยังเป็นฤดูกาลของงานเทศกาลดอกไม้ทะเลสาบฮามะนะ (Lake Hamana Spring Flower Expo) ดังนั้นจึงเป็นเวลาที่น่าเที่ยวกว่าเดือนอื่นๆ ดังนั้น หากคุณจะมาเที่ยวจังหวัดชิซูโอกะ ไอจิ ยามานาชิในช่วงนี้ ก็อย่าพลาดที่จะมาเยือนเมืองฮามะมัตสึด้วย!

เที่ยวฮามะมัตสึยังไงดี? ไปไหนดี?

เนินทรายนาคาทาจิมะ หนึ่งในสามเนินทรายใหญ่แห่งญี่ปุ่น

คนจำนวนมากไม่ทราบว่าญี่ปุ่นมีเนินทรายมากถึง 14 แห่ง! หนึ่งในนั้นก็คือเนินทรายนากาทาจิมะ (中田島砂丘) ที่เมืองฮามะมัตสึ จังหวัดชิซูโอกะแห่งนี้นี่เอง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักที่นี่ ทำให้ที่นี่เงียบสงบกว่าเนินทรายทตโตริที่มีชื่อเสียงมาก

เนินทรายนากาทาจิมะเป็นหนึ่งในเนินทรายที่ใหญ่ที่สุดสามแห่งในญี่ปุ่น มีลักษณะเด่นเป็น "ระลอกคลื่นลม" ที่เกิดจากลมแรง คุณสามารถเห็นรั้วไม้ไผ่แบบพิเศษที่ป้องกันไม่ให้ทรายไหลออกมาบนเนินทรายได้เลย แม้ว่าดูแล้วจะเป็นเนินทรายที่ไม่สูงเท่าไร แต่บางครั้งก็ปีนขึ้นไปยากกว่าที่คุณคิด! หากข้ามเนินทรายไปได้แล้ว คุณสามารถไปที่ชายหาดได้เลย ดังนั้นขอแนะนำให้สวมรองเท้าแตะชายหาดเบาๆ มา เวลาที่เดินบนเนินทราย หากใส่รองเท้าทั่วไปก็อาจจะมีทรายเข้าไปในรองเท้าได้ แต่ถ้าเป็นรองเท้าแตะชายหาดก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แถมยังเล่นบนชายหาดได้อีกด้วย!

เนินทรายนี้อาจดูไม่สูงมากจากระยะไกล แต่ถ้ามองใกล้ๆ ก็จะเห็นเลยว่าชันประมาณ 60 องศา ดังนั้นใครไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ก็อาจจะใช้เวลาปีนขึ้นนิดหน่อย เมื่อพยายามขึ้นไปจนสุดได้แล้ว คุณก็จะเห็นทะเลสีฟ้าที่กว้างไพศาลตรงหน้า เรียกว่าทิวทัศน์แสนประทับใจนี้จะช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าของคุณได้อย่างแน่นอน!

หลังจากปีนขึ้นบนเนินทรายจนสุดแล้ว คุณยังสามารถเดินเล่นชมวิวทะเลข้างๆ ได้อีกด้วย เมื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์แล้วก็ลงไปที่ชายหาด ไปฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งใกล้ๆ และเล่นน้ำทะเลให้หายร้อนได้

ถ้าไปฮามะมัตสึ ก็ต้องรับประทานปลาไหลฮามะมัตสึ!

แม้แต่คนญี่ปุ่นก็ยังยกให้ปลาไหลน้ำจืด (อุนากิ) ของฮามะมัตสึ จังหวัดชิซูโอกะ เป็นสิ่งที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น! ฮามะมัตสึเป็นแหล่งผลิตอุนากิที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่จะมาจากทะเลสาบฮามะนะ ซึ่งเป็นจุดที่น้ำทะเลและน้ำจืดมาบรรจบกันนั่นเอง ในบรรดาร้านอาหาร ร้านที่คนท้องถิ่นแนะนำมากที่สุดก็คือ “Unagi Yaotoku Honten (うなぎ八百徳本店)” เมนูขึ้นชื่อของร้านก็คือ “Ohitsu Unagi Chazuke (ข้าวต้มสไตล์ญี่ปุ่น)” ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอุนากิคุณภาพสูงได้ถึง 3 วิธี อย่างแรกก็คือทานข้าวหน้าปลาไหลแบบธรรมดา ต่อมาก็ใส่เครื่องหอม (รสสมุนไพร) แล้วทาน ส่วนแบบสุดท้ายก็คือรินน้ำชาลงไป ทานแบบสไตล์โอชะสึเคะหรือข้าวต้มสไตล์ญี่ปุ่นได้เลย ไม่ว่าจะวิธีรับประทานแบบไหน คุณก็จะได้ลิ้มรสเลิศของอุนากิฮามะมัตสึและดื่มดำไปกับเสน่ห์ของอาหารได้แน่นอน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนู “โจอูนะจู (上うな重)” หรือข้าวหน้าปลาไหลในกล่องข้าว ที่อร่อยไม่แพ้เมนูซิกเนเจอร์อย่าง Ohitsu Unagi Chazuke เลย ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เลือกเมนูประมาณนี้ แต่หากงบประมาณของคุณเพียงพอ ลองชิมทั้งสองอย่างก็น่าจะดีนะ! บอกเลยว่าปลาไหลแบบนี้จะหากินได้ยากในญี่ปุ่น!

เทศกาลฮามะมัตสึกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน เทศกาลกลางคืนก็มีด้วย!

ทุกวันที่ 3 ถึง 5 พฤษภาคมของทุกปี ที่จังหวัดชิซูโอกะ เมืองฮามะมัตสึจะจัดงานประเพณีที่โด่งดังนามว่า “เทศกาลฮามะมัตสึ (浜松まつり)” โดยกลางวันและกลางคืนจะมีงานแยกกัน ตอนกลางวันจะเป็นงานเล่นว่าว (凧揚げ) ส่วนกลางคืนจะเป็นงานเทศกาลรถแห่ (屋台引き回し) 

ประวัติศาสตร์ของงานเล่นว่าวของเทศกาลฮามะมัตสึย้อนกลับไปถึง 450 ปี ตั้งแต่สมัยช่วงปีเอโรคุ (永禄 1558-1569)ยุคมุโระมาจิ (室町時代) ในตอนนั้น ปราสาทปล่อยว่าวบินสูงเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันเกิดของลูกชายคนโตของผู้ปกครองปราสาทฮิกิมะ ว่ากันว่าภูมิภาคเอนชู (遠州) ของฮามะมัตสึมีลมแรงเหมาะกับการเล่นว่าว จึงถือกำเนิดเป็นประเพณี “ว่าวชิ้นแรก (初凧)” เพื่อเฉลิมฉลองการกำเนิดของว่าว ซึ่งสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน มีมากกว่า 50 เมืองย่อยที่มาเข้าร่วมเทศกาลเล่นว่าวที่สวนริมทะเล Nakatajima Enshunada (中田島遠州灘海浜) เมืองฮามะมัตสึ แต่ละเมืองจะนำว่าวที่สวยงามมาเล่น และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชม ทำให้งานนี้มีชีวิตชีวามาก

หลัง 18.30 น. เป็นต้นไป ก็มีอีกไฮท์ไลท์เป็น “งานรถแห่ (屋台引き回し)” ที่มีรถแห่มากกว่า 80 คันวนกัน ไม่ว่าจะเป็นคันไหนก็สวยงามเหมือนกันหมด เพราะว่าทุกเมืองตั้งใจทำรถแห่ให้สวยที่สุด เพื่อจะมาประชันกัน! เมืองไหนมีเงินมากหน่อย รถก็จะดูสวยงามราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ น่ามาดูชมรถแห่สวยๆ สุดๆ 

“เทศกาลรถแห่” จัดขึ้นที่ใจกลางเมืองฮามามัตสึ จึงสามารถมองเห็นได้จากทุกมุมเมือง นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นจำนวนมากก็นิยมเดินตามหลังรถแห่ไป เรียกว่าคุณสามารถชื่นชมรถแห่ที่สวยงามสดใสได้ในระยะใกล้ น่าสนุกสุดๆ !

นอกจากรถแห่ที่ตกแต่งอย่างสวยงามแล้ว บนรถแห่ยังมีเด็กน้อยที่แต่งกายแบบดั้งเดิมแสดงดนตรีพื้นบ้านแบบตั้งใจสุดๆ ทำให้เทศกาลมีสีสันยิ่งขึ้น สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้มีให้ดูแค่ 3 วันต่อปีที่เทศกาลฮามะมัตสึเท่านั้น!

ชื่นชมดอกไม้ที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ สวนสาธารณะฮามะนะโกะ การ์เดน

สวนสาธารณะฮามะนะโกะ การ์เดน (浜名湖ガーデンパーク) จัดงานเทศกาลดอกไม้ประจำปีทุกปี ในปี 2019 ที่ผ่านมาก็จัดไปในช่วงวันที่ 21 มีนาคมถึง 30 มิถุนายน ช่วงเวลาจัดงานอาจจะแตกต่างกันไปตามปี ว่าแต่ว่าสวนสาธารณะฮามะนะโกะ การ์เดน มันเป็นยังไงกัน?

สวนสาธารณะฮามะนะโกะ การ์เดนล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าริมทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ในวันที่อากาศแจ่มใส ครอบครัวชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจะมาปิกนิกพักผ่อนสบายๆ เพลิดเพลินกับอากาศบริสุทธิ์และสวยงาม และรับประทานอาหารกลางวันกับครอบครัวอย่างมีความสุขบนทุ่งหญ้าที่สวยงามแห่งนี้

คุณจะประหลาดใจกับพื้นที่ที่กว้างใหญ่ตรงนี้ เมื่อเข้าไปพบกับดอกไม้นานาพันธุ์ในสวนสาธารณะฮามะนะโกะ การ์เดน โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถเข้าชมสวนได้ฟรี แต่ส่วนที่เป็นจุดชมวิว รถไฟชมสวน ชิงช้าสวรรค์ หรือเวิร์คชอปต่างๆ จะมีค่าใช้จ่าย ภายในสวนมีทุ่งดอกไม้มากมาย คุณสามารถใช้เวลามากกว่าครึ่งวันในการเดินชมสวนอย่างจริงจังได้ ดังนั้นหากคุณมีเวลาไม่มาก ลองจำกัดจุดที่จะดูจะได้ใช้เวลาน้อยลง!

พิพิธภัณฑ์ดอกไม้

หากเดินประมาณ 20 นาทีจากจุดชมวิว คุณจะพบกับ “พิพิธภัณฑ์ดอกไม้” ที่สวยงาม พิพิธภัณฑ์สไตล์ยุโรปแห่งนี้ตั้งมาตั้งแต่งาน Hamanako Flower Expo ในปี 2004 สวนที่นี่สร้างอย่างสวยงาม โดยได้รับอิทธิพลมาจากภาพวาดสไตล์ Impressionism ชื่อดังของ “Claude Monet” ภายในสวนมีดอกไม้มากมาย และแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนสวนดอกไม้ และโซนสวนน้ำ ที่นี่มีดอกไม้จำนวนมากที่คุณอาจไม่เคยเห็นจากที่ไหนมากก่อน ทั้งดอกไม้สีฟ้า สีม่วง สีดำ! บอกเลยว่า สวนตามแบบของ Monet นี่สวยสุดๆ !

บัวใน “สวนน้ำ” มีที่มาจากสวน “สวน Monet” ที่หมู่บ้านคิตะกาวะ จังหวัดโคจิ  ในยามเช้าดอกบัวก็จะบาน ใครอยากดูดอกบัวบานเต็มๆ ตาก็ต้องมาตั้งแต่เช้าเลย นอกจากนี้ ยังมีสะพานที่สวยงามทอดผ่านกลางสระบัว ใครๆ ก็คงอยากจะถ่ายรูปตรงนี้ แต่ระวังผึ้งที่มารวมตัวกันที่สะพานดอกไม้ในช่วงฤดูดอกไม้นะ!

พิพิธภัณฑ์ศิลปะดอกไม้ในสวนยังมีอาคารสไตล์ตะวันตกสีชมพูและสีเขียวชวนฝัน ซึ่งคุณสามารถถ่ายภาพที่สวยงามเหมือนในภาพยนตร์ยุโรปเลย! บอกเลยว่าคำพูดเฉยๆ ไม่พอจะบรรยายความสวยงามของพิพิธภัณฑ์ดอกไม้นี้เลย ต้องถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยนะ!

ชิมอาหารทะเลสดๆ ที่ท่าเรือประมงไมซากะ

หลังจากดูดอกไม้สวยๆ ที่สวนสาธารณะฮามะนะโกะ การ์เดนแล้ว ก็มารับประทานอาหารทะเลสดอร่อยที่ท่าเรือไมซากะกันดีกว่า! ที่ทะเลสาบฮามะนะที่มีน้ำทะเลและน้ำจืดมาบรรจบกัน ไม่ได้ดังแค่ปลาไหลเท่านั้น แต่ยังมีชื่อเสียงในด้านอาหารทะเลคุณภาพสูงอีกด้วย ท่าเรือไมซากะที่เป็นจุดบรรจบกันของทะเลสาบฮามะนะและทะเล Enshunada มีกุ้งเทมปุระและซาชิมิ (ปลาสด) ที่อร่อยสุดๆ หากคุณเคยทานอุนากิและอาหารทะเลของฮามะมัตสึแล้ว คุณจะต้องตกหลุมรักเมืองที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลแห่งนี้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเทมปุระกับซาชิมิจะมีทุกที่ในญี่ปุ่น แต่บอกเลยว่ารสชาติกับความสดใหม่นี่ต่างกันสุดๆ 

ร้านปลา Uoara

ร้านปลา Uoara อยู่บนท่าเรือไมซากะ ก่อตั้งมาเป็นร้อยปี ขายอาหารจำพวกปลา เป็นร้านอาหารทะเลดังร้านหนึ่งของเมืองไมซากะเลย ร้าน Uoara มีลูกค้าแน่นตลอดเวลาอาหาร เมนูหลักๆ ก็มาจากกุ้งและปลาจากท่าเรือนี่แหละ! เมนูเด่นของที่นี่ก็คือ Katsutendon หรือเทนด้ง (ข้าวหน้าเทมปุระ) ซึ่งใช้กุ้งคัตสึ (活海老) ที่กรอบและอวบอ้วนอร่อยเกินต้าน! พลาดไม่ได้เลยเมนูนี้ นอกจากจะพลาดกุ้งเทมปุระไม่ได้แล้ว ซาชิมิสดอร่อยและอุนากิก็อร่อยไม่แพ้กัน

แช่ออนเซ็นวันเดียวกลับ ที่เบนเทนจิมะออนเซ็น

ถึงรอบๆ เบนเทนจิมะ จะมีโรงแรมพร้อมออนเซ็นสำหรับเที่ยววันเดียวกลับเต็มไปหมด แต่ต้นตำรับก็คือเบนเทนจิมะออนเซ็นที่เปิดมาตั้งแต่ปีโชวะที่ 35 อยู่ที่ทางตอนใต้ของทะเลสาบฮามะนะนั่นเอง คุณสมบัติของน้ำร้อนที่นี่คือเป็นเกลือ เหมาะกับการบรรเทาโรคมือเท้าเย็น ผิวแห้ง ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ และโรคประสาท คุณสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนขณะชมประตูโทริอิริมน้ำทะเลสาบฮามะนะ รอบๆ โรงแรมได้

บ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดสำหรับการเที่ยววันเดียวของเบนเทนจิมะ ชื่อว่า “THE OCEAN” นอกจากการพักค้างคืนที่นี่แล้ว คุณยังสามารถเลือกแบบแช่แค่วันเดียวได้ด้วย THE OCEAN เป็นบ่ออาบน้ำขนาดใหญ่ ที่คุณสามารถดูวิวโทริอิที่ทะเลสาบฮาะมะนะไปพร้อมๆ กับแช่น้ำร้อน ดูพระอาทิตย์ตกได้ด้วย!

ดูพระอาทิตย์ยามเย็นที่สวนริมทะเลเบนเทนจิมะ

ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถมองเห็นโทริอิในทะเลสาบฮามะนะได้ไกลๆ จากท่าเรือไมซากะและเมืองออนเซ็นเบนเทนจิมะ แต่ถ้าคุณไปถึงสวนริมทะเลเบนเทนจิมะ (弁天島海浜公園) แล้วก็จะได้เห็นเสาโทริอิแบบเต็มๆ ตา! เสาโทริอินี้มีชื่อเสียงมากในพื้นที่ทะเลสาบฮามะนะของเมืองฮามะมัตสึ แถม "อาทิตย์อัสดงที่เบนเทน" ยังถูกพูดถึงในสื่อต่างๆ บ่อยๆ ด้วย

เสาโทริอิที่สีแดงสดตอนกลางวันจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงโทนพระอาทิตย์ตามพระอาทิตย์ตก ไม่นานนัก ท้องฟ้าก็จะกลายเป็นสีส้ม รับกับทะเลสาบฮามะนะที่สวยงาม จริงๆ แล้วช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพทะเลสาบฮามะนะก็คือช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมไปจนถึงมกราคม ช่วงนี้พระอาทิตย์จะตกกลางโทริอิ แปลตามากๆ หากคุณรักการถ่ายภาพทิวทัศน์ที่งดงาม ฤดูหนาวคือที่สำหรับคุณ! แน่นอนว่าพระอาทิตย์ตกที่นี่ยังสวยงามแม้ในฤดูกาลอื่นที่ไม่ใช่ฤดูหนาว

"อุนากิพาย" ของฝากขึ้นชื่อห้ามพลาดจากฮามะมัตสึ

เมืองฮามะมัตสึ จังหวัดชิซูโอกะมีของฝากมากมายก็จริง แต่ที่นิยมเป็นพิเศษก็หนีไม่พ้น “อุนากิพาย (พายปลาไหลน้ำจืด)” คุณต้องเคยเห็นขายอยู่ตามร้านของฝากแทบทุกร้านที่สถานีฮามะมัตสึใช่ไหม! อุนากิพายผลิตที่ร้านขนมในท้องถิ่น ชื่อว่า “ชุนคะโด (春華堂)”

อุนากิพายเริ่มวางจำหน่ายในปี 1961 เป็นขนมสไตล์ตะวันตกที่กรุบกรอบอร่อย และเป็นของฝากขึ้นชื่อสำหรับนักเดินทางชาวญี่ปุ่นที่มาเยือนฮามะมัตสึ จะทานเป็นของว่างก็ดี ต้องซื้อหลายๆ แพคไปฝากคนรอบตัวแล้วแหละ! นอกจากนี้ โรงงานผลิตอุนากิพาย (うなぎパイファクトリー) ในฮามะมัตสึก็ยังเข้าชมฟรีด้วย ใครอยากรู้ว่าอุนากิพายผลิตยังไง ก็ไปลองดูได้!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !