ฤดูร้อนนี้ เที่ยวทุ่งทานตะวันยักษ์ที่ Soleil Hill กันดีกว่า
ประเทศญี่ปุ่นมีทุ่งทานตะวันที่สวยงามระดับโลกอยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ Soleil Hill ในจังหวัดคานากาว่า ซึ่งจัดได้ว่าเป็นทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนั้นจะมีดอกทานตะวันบานเต็มที่ราว 100,000 ดอกเลยทีเดียว แม้จะเป็นคนที่ไม่สามารถเดินทางไปไกลจากโตเกียวได้มากนัก ก็สามารถมาสัมผัสกับความสดใสเจิดจ้าสวยงามที่เนินเขาแห่งนี้ได้ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับช่วงเวลาที่ดอกทานตะวันเหล่านี้จะบานในปี 2019 ข้อมูลของอุทยานริมทะเลซึ่งเป็นที่ตั้งของเนินแห่งนี้ และอื่นๆ อีกมากมาย
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ฤดูร้อนนี้ สดใสร่าเริงไปกับทุ่งทานตะวันที่ Soleil Hill
ในฤดูร้อนของทุกปี ที่อุทยานริมทะเลนากาอิ (Nagai Seaside Park) ในเมืองโยโกซูกะของจังหวัดคานากาว่า จะมีนักท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศกว่าพันชีวิตไปเยี่ยมเยือนและหวังว่าจะได้เห็นภาพทุ่งทานตะวันสุดตระการตา ซี่งมีดอกทานตะวันหกสายพันธุ์ปลูกอยู่ราว 100,000 ดอกบนเนื้อที่ 5,000 ตารางเมตร
เนื่องจากทั้งหกสายพันธุ์นั้นมีช่วงเวลาบานที่ต่างกันออกไป จึงมีหลายคนที่ไม่แน่ใจว่าควรแวะไปในช่วงไหนดี ในส่วนของปีนี้ ทางองค์กรที่ดูแลอุทยานได้คาดการณ์ไว้ว่าดอกทานตะวันจะบานในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม
ฤดูร้อนใกล้จะมาถึงในเร็ววันนี้แล้ว ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าจะไปชมวิวของฤดูร้อนที่ไหนดี งั้นลองไปชมทุ่งทานตะวันแสนสวยนี้ดูดีไหมคะ รับรองว่าได้มีรูปสวยๆ ไปลงอินสตาแกรมอย่างแน่นอน
อิ่มอร่อยไปกับเมนูธีมทานตะวัน
ไหนๆ ก็ไปถึงที่แล้ว ลองชิมอาหารธีมทานตะวันของทางอุทยานด้วยก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกันนะ มีขายแค่ช่วงวันที่ 13 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม 2019 เท่านั้น แถมยังเป็นเมนูที่คิดมาเพื่อดับร้อนหลังจากออกไปอยู่ท่ามกลางแสงแดดมาอีกด้วย
ตัวอย่างเมนูอาหาร มีตามนี้ค่ะ
ถ้าคุณอยากหาอะไรใส่ท้องแต่ไม่อยากกินอะไรร้อนๆ ในวันที่อากาศร้อน ลองกิน Hiyashi Chuka (900 เยน) ที่เป็นเมนูลิมิเต็ดเฉพาะในช่วงเวลานี้ดูสิ เมนูแสนสดชื่นที่ให้กลิ่นและรสเลมอนจางๆ แถมยังเป็นตัวช่วยเติมพลังชั้นดีหลังจากไปสำรวจอุทยานมาทั้งวันแล้วด้วย
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ชื่นชอบไข่มุกในเครื่องดื่มมาก เพราะฉะนั้นอย่าได้แปลกใจไปถ้าทางอุทยานจะเลือกให้เครื่องดื่มของปีนี้เป็น Himawari Tapioca Juice (450 เยน) เครื่องดื่มเย็นๆ ที่มีส่วนผสมของกีวี่และท็อปปิ้งด้วยสับปะรด เต็มไปด้วยวิตามินและจะทำให้คุณสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้อย่างแน่นอน
อุทยานริมทะเลนากาอิ มีอะไรมากกว่านั้น
อุทยานแห่งนี้มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งมีดอกเนโมฟีลาให้รับชม ในฤดูร้อนเองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะมาเที่ยวทั้งปีไม่ได้ ที่นี่มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมายที่ไม่ว่าใครก็สามารถมีส่วนร่วมด้วยได้ อย่างเช่นการเก็บผัก ให้อาหารจิงโจ้และกระต่ายในโซนสวนสัตว์เลี้ยง (บางจุดต้องเสียค่าเข้า) ฯลฯ
ในฤดูร้อน นักท่องเที่ยวสามารถสาดน้ำเล่นได้ที่หนึ่งในสระน้ำทั้งหกแห่งของอุทยาน ทุกสระไม่เสียค่าเข้า และหลายสระนั้นตื้นพอที่เด็กๆ จะลงไปว่ายน้ำได้
ถ้าคุณวางแผนว่าจะอยู่ที่คานากาว่านานขึ้นอีกสักหน่อยและกำลังหากิจกรรมกลางแจ้งทำ การไปตั้งแคมป์ที่จุดตั้งแคมป์ของอุทยานก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยทีเดียว แถมยังมีจุดปิ้งบาร์บีคิว สถานที่สำหรับอาบน้ำ รวมไปถึงร้านอาหารที่ขายบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลคุณภาพเยี่ยมอีกด้วย
รู้สึกอยากแวะไปยังอุทยานริมทะเลแห่งนี้แล้วหรือยังคะ นี่เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่คุณต้องการเลย
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่