ทัวร์สำหรับสายกิน!! ไม่ต้องรอคิวนานเป็นปีๆ ก็ไปกินซูชิที่ร้านดัง Sukiyabashi Jiro ได้!!
「Sukiyabashi Jiro」เป็นร้านที่มีชื่อเสียงก้องโลกของ "พระเจ้าแห่งซูชิ" อย่าง Jiro Ono ร้านนี้ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 3 ดาว ติดต่อกันทุกปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง "โตเกียวมิชเชลลินไกด์" เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นร้านที่คนดังในสาขาต่างๆ และเหล่านักชิมต่างก็ยกย่องในฝีมือ แต่การจองที่นั่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่หากจองกับทัวร์ Voyagin ล่ะก็ รับรองว่าจะได้ชิมซูชิรสเด็ดที่ร้านนี้ไวกว่าคนอื่นแน่นอน!! แล้วต้องทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย !
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
Voyagin คืออะไรกันนะ?
Voyagin ให้บริการขายตั๋ว และทัวร์สุดพิเศษต่างๆ ทั้งทัวร์ที่มีแพลนแนะนำไว้อยู่แล้ว และทัวร์ที่สามารถปรับได้ตามความชอบ ให้ทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่หลากหลาย โดยปัจจุบันมีผู้ใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคน เลือกสรรสถานที่ที่ดีที่สุดในการสัมผัสกับวัฒนธรรมและประเพณีญี่ปุ่นให้กับคุณ !
ทัวร์ของ Voyagin นั้นมีไกด์แปลภาษาติดตามไปด้วย ดังนั้นถึงจะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น ก็สามารถสนุกได้อย่างเต็มที่ เลิกการเดินวนหาแบบเดิมๆ แล้วมาใช้บริการของ Voyagin กันเถอะ รับรองว่าทริปนี้จะเป็นทริปที่ยอดเยี่ยมและกลายเป็นความทรงจำดีๆ ของทุกท่านอย่างแน่นอน !
เว็บไซต์ทางการของ Voyagin :https://www.govoyagin.com/
จุดเด่นของทัวร์ Voyagin
Sukibayashi Jiro Honten ร้านซูชิชื่อดังก้องโลก ณ ย่านกินซ่า เพราะเป็นร้านที่มีที่นั่งเพียงแค่ 10 ที่ เท่านั้น การจะลิ้มลองซูชิในร้านดังระดับโลกนี้จึงเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย วันที่ทางร้านได้รับโทรศัพท์เข้ามาจองที่นั่งมากกว่า 2000 สาย ก็มีมาแล้ว ในปัจจุบันทางร้านจึงรับจองจากโรงแรม Concierges เท่านั้น
แต่สำหรับท่านที่อย่างไรก็อยากจะลองทานให้ได้นั้น นอกจากจะจองด้วยวิธีที่กล่าวไปเมื่อครู่แล้ว การจองกับบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านทัวร์ต่างๆ อย่าง Voyagin ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่แนะนำ ซึ่งนอกจากจะได้ที่นั่งอย่างแน่นอนแล้ว ยังมีไกด์ภาษาอังกฤษคอยแนะนำมารยาทในการรับประทานให้ท่านไม่ต้องนั่งกังวลว่าจะผิดวิธีหรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถไปจิบน้ำชาชั้นเลิศที่ร้านขายชาโดยเฉพาะ พร้อมกับการชื่นชมบรรยากาศของร้านสไตล์โบราณได้อีกด้วย
และทัวร์นี้ยังให้บริการท่องเที่ยวด้วยรถลิมูซีนหรู รับรองว่าคุณจะได้ดื่มด่ำกับเวลาแสนพิเศษอย่างจุใจและติดใจกับความรู้สึกราวกับเป็นมหาเศรษฐีอย่างแน่นอน!!
รายละเอียดของทัวร์
▪สัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ร้านขายชา "Ippodo"
Ippodo ก่อตั้งขึ้นในเมืองเกียวโต เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนร้านน้ำชาของญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์กว่า 300 ปี มีประสบการณ์ยาวนานในการคัดสรรชาอย่างดีมารวมกันเป็นชาชั้นเลิศหนึ่งแก้ว ใบชาที่ใช้นั้นถูกปลูกในสวนชาธรรมชาติด้วยดินอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำที่ดี
ชา Gyokuro (ชาเขียวชั้นเลิศ), ชา Sencha (ชาเขียว) และชา Hojicha (ชาเขียวคั่ว) ของที่นี่จะมีวิธีในการปลูกสองแบบ คือ "Oishitaen"หรือการปลูกในร่ม และ "Rotenen"หรือการปลูกกลางแดด ให้ทุกท่านดื่มด่ำไปกับสเน่ห์ของชาแต่ละแบบได้ที่นี่ !
นักท่องเที่ยวหลายท่านเมื่อมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นก็จะต้องมาลองชิมชาเขียวแท้ๆ ร้านชา Ippodo ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน มีชาที่รสนุ่มละมุนลิ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มาชิมชาเขียวมัทฉะครั้งแรกเป็นอย่างยิ่ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำชากล่าวว่า "Oishita" คือการปูเสื่อที่ทอจากฟางหรือกกลงไปบนพื้นดินที่ต้นชากำลังแตกหน่อ แล้วปูทับด้วยฟางอีกหนึ่งชั้นเพื่อไม่ให้ใบชาได้รับแสงแดดและสังเคราะห์แสงมากเกินไป เป็นที่มาของใบชารสกลมกล่อมหวานละมุนนั่นเอง
ช่วงเวลาในการเริ่มเก็บใบชาคือวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ (ประมาณวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี) จนเลยคืนที่ 88 เพื่อไม่ใช้เสียความสดและคุณค่าใบชาสดที่เก็บได้จะถูกนำมาอบไอน้ำภายในครึ่งวันถึง 20 ชั่วโมง หลังจากเก็บ เป็นกระบวนการที่ทำในการผลิตชาเขียวเท่านั้น (ชาดำและชาอู่หลงจะไม่นำไปอบไอน้ำ) หลังจากนั้นก้านชาจะถูกแยกออกจากใบชาด้วยเครื่องมือเฉพาะแล้วนำไปบดด้วยโม่ เมื่อผ่านกระบวนการทั้งหมดแล้วก็จะได้ผงชามัทฉะที่เนียนละเอียดออกมานั่นเอง
การจะชงชาให้อร่อยได้นั้น เพียงแค่ให้ความสำคัญกับการปลูกและการเก็บนั้นไม่เพียงพอ แต่จะต้องพิถีพิถันกับการชงด้วย
เริ่มแรกนำใบชาประมาณ 2 กรัม มาร่อนด้วยตะแกรงใส่ถ้วยชาแล้วเติมน้ำที่มีความร้อน 80 องศาเซลเซียสลงไปประมาณ 60 มิลลิลิตร จากนั้นใช้ Chasen หรือที่คนชาเขียวทำจากไม้ไผ่คนเร็วๆ เป็นรูปตัวเอ็ม (m) ประมาณ 15 วินาที ก็จะได้ชาเขียวที่มีสีสันสดใสและเข้มข้นเหมือนกาแฟเอสเพรสโซ
ชามัทฉะของร้าน Ippodo นั้น เพียงดื่มแค่คำเดียวก็สามารถรับรู้ได้ถึงความหวานที่ไร้รสเปรี้ยวและกลิ่นที่สดชื่นของชามัทฉะ เพราะฉะนั้นแม้จะเป็นท่านที่ไม่ได้ชื่นชอบชาเขียวมากนักก็ดื่มง่าย สามารถดื่มด่ำกับรสชาตินุ่มนวลของชาเขียวได้จนหยดสุดท้ายเลยทีเดียว
ที่ร้านยังมีห้องสำหรับจิบน้ำชาเอาไว้ให้ท่านได้ดื่มด่ำกับรสชาสุดละมุน นอกจากนี้หน้าร้านยังมีอุปกรณ์ชงชา ถุงชา และอื่นๆ วางขายอีกด้วย จะเลือกซื้อไปเป็นของฝากก็ได้หรือจะซื้อไปดื่มเองก็ดี
ในระหว่างจิบชาที่ร้าน Ippodo ไกด์ก็จะอธิบายถึงมารยาทในการรับประทานซูชิที่ร้าน Sukiyabashi Jiro ให้ฟัง เช่น ผู้ชายต้องใส่เสื้อเชิร์ตหรือเสื้อสูท ผู้หญิงห้ามใส่กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น ห้ามฉีดน้ำหอม ห้ามถ่ายรูป ต้องวางสัมภาระในจุดที่จัดไว้ให้ ห้ามวางศอกบนโต๊ะ หรือแม้แต่รายละเอียดอย่างการใช้มือหรือตะเกียบในการกินก็มีวิธีกินที่ถูกกำหนดไว้
เพียงแค่รักษากฏเหล่านี้ ท่านก็จะได้ลิ้มลองซูชิที่ปั้นโดย "พระเจ้าแห่งซูชิ" ตัวจริงเสียงจริง
เอาล่ะ ตอนนี้มาเริ่มออกเดินทางไปร้าน เพื่อไปรับประทานสุดยอดอาหารญี่ปุ่นกันเลยดีกว่า !
▪พบกับงานศิลปะในรูปแบบอาหารเย็นที่ Sukiyabashi Jiro
หลังจากนั่งรถมาถึงสถานีกินซ่าแล้ว ที่ชั้นใต้ดินตึกใกล้สถานีจะเป็นที่ตั้งของร้าน Sukiyabashi Jiro หลังประตูบานเลื่อนกระดาษเล็กๆ มีวัฒนธรรมที่ล้ำลึกของประเทศญุี่ปุ่นรอคุณอยู่
หลังจากนั่งหลังเคาน์เตอร์ที่มีชื่อของตนเองเขียนไว้ คุณก็จะได้พบกับ "เทพเจ้าแห่งซูชิ" Jiro Ono และลูกชาย Yoshikazu Ono ที่เตรียมแสดงฝีมือให้ทุกท่านได้ชม แทนที่จะเรียกว่ามารับประทานซูชิ เรียกว่ามาดูการแสดงอาจจะเหมาะสมกว่า
คอร์สโอมาคาเสะมีซูชิ 19 ชิ้น ซึ่งเข้ากันได้ดีราวกับบทเพลงซิมโฟนี เริ่มเปิดการแสดงด้วยปลา Hirame รสหวาน เคี้ยวอร่อย ต่อด้วย Sumi-ika (ปลาหมึกกล้วย) เนื้อใสเคียวหนุบหนับ และปลายอดนิยมอย่าง Maguro (ปลาทูน่า) สามส่วนคือ Akami (เนื้อแดง), จูโทโร่ (ส่วนที่มีไขมันปานกลาง) และโอโทโร่ (ส่วนที่มีไขมันสูง) เพียงแค่มองก็แทบจะน้ำลายไหล เมื่อทานเข้าไปแล้วก็จะได้รับรสสัมผัสที่เนียนละเอียดจนละลายในปากได้เลยทีเดียว
นอกจากนี้ในเมนูยังมี Tako (ปลาหมึกยักษ์) ที่หารับประทานได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น หากรับประทานในร้านทั่วไปจะเป็นปลาหมึกเย็น แต่ที่นี่ปลาหมึกจะมีความอุ่นเล็กน้อย ถือเป็นความอร่อยระลอกถัดไปของบทเพลงที่งดงามนี้ ข้าวปั้นและเนื้อปลาที่เข้ากันได้อย่างลงตัวได้นำพวกเราเข้าสู่บทโหมโรงเป็นที่เรียบร้อย
ต่อด้วยกุ้ง Kuruma ต้มเนื้อนุ่มแน่น เป็นสีสันให้กับบทเพลงนี้ เนื้อกุ้งมีรสหวานและชุ่มฉ่ำไม่ยอมแพ้ให้กับน้ำซอสที่นำมาทา หอย Hamaguri ก็ถูกทาด้วยซอสรสหวานเช่นเดียวกุ้ง Kuruma รสหวานของซอสที่รสแผ่กระจายไปทั่วปากและกลิ่นอ่อนๆ ของหอย Hamaguri ให้รสชาติที่ทรงพลัง
ต่อให้เป็นอูนิ (ไข่หอยเม่น) ที่แยกคนชอบและคนไม่ชอบอย่างชัดเจน ที่นี่ก็ทำออกมาได้ดีไม่มีกลิ่น เป็นเนื้อครีมที่กินแล้วสดชื่นมัดใจคนรับประทานได้อยู่หมัด ต่อมาเป็น Ikura (ไข่ปลาแซลม่อน) สดๆ ที่ถูกคลุกเคล้าด้วยโชยุเล็กน้อย แล้วตามด้วยวัตถุดิบชั้นสูงอย่าง Anako (ปลาไหลทะเล) ที่ถูกเคี่ยวจนได้รสสัมผัสที่ดีที่สุด และเป็นสีโชยุจางๆ ได้ทั้งรสชาติและคุณค่าทางสารอาหาร
ปิดท้ายท่วงทำนองของอาหารคอร์สนี้ด้วยอาหารธรรมดาๆ อย่างไข่หวานย่าง ผู้เขียนเคยได้ยินคนญี่ปุ่นกล่าวว่า "เพียงแค่ทานไข่หวานย่างก็จะรู้ระดับของร้านนั้นๆ" เพราะว่าเป็นอาหารที่ไม่ซับซ้อนจึงทำให้ได้รู้ฝีมือของเชฟนั่นเอง ไข่หวานของที่นี่ใช้ไฟที่พอเหมาะ ทำให้ได้ไข่หวานย่างที่มีเนื้อนุ่มฟูราวกับขนมคาสเทล่าหรือแพนเค้ก และมีรสที่ละเอียดอ่อนและล้ำลึกจนแทบจะเรียกว่าเป็นของหวานได้เลยทีเดียว
เพราะเป็นคอร์สซูชิที่มีจังหวะและท่วงทำนอง ขนาดของเนื้อปลาและข้าวปั้น รวมถึงบาลานซ์ของอุณหภูมิที่พอเหมาะ ทำให้ร้าน Sukiyabashi Jiro กลายเป็นร้านที่อร่อยที่สุดและจองได้ยากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
(ภาพถ่ายเมนูในคอร์ส ถ่ายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562)
แม้ญี่ปุ่นจะมีอาหารหลากหลายประเภทและร้านอาหารอยู่มากมายก็ตาม หากมาท่องเที่ยวแล้วล่ะก็ยังไงอันดับหนึ่งก็ต้องเป็นซูชิ !
Sukiyabashi Jiro ร้านนี้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Barack Obama, Hugh Jackman, Leonardo DiCaprio, และ David Beckham เคยมาเยี่ยมเยียน การได้นั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับเหล่าคนดัง ชมฝีมือการปั้นซูชิของเชฟผู้เชี่ยวชาญ สัมผัสประสบการณ์ในการทานอาหารดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศญี่ปุ่น จะกลายเป็นประสบการณ์ที่ดีๆ ที่ลืมไม่ลงอย่างแน่นอน
สำหรับท่านที่กลัวว่าจะจองโรงแรมหรูไม่ได้นั้น แค่เพียงสมัครเข้าร่วมทัวร์ในลิงค์ข้างล่างก็จะไม่ต้องกังวลอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีไกด์ภาษาอังกฤษติดตามไปด้วย ทำให้คุณได้เข้าใจถึงความพิเศษของอาหารต่างๆ ขากลับก็อาจจะได้จับมือ ถ่ายรูป ขอลายเซ็นจากพระเจ้าแห่งซูชิก็ได้นะ !
ถึงตอนนี้คุณ Jiro Ono จะมีอายุมากกว่า 90 ปี ก็ยังปั้นซูชิให้ลูกค้าได้รับชม !
เป็นอย่างไรบ้างคะ อยากจะเข้าร่วมทัวร์ที่ได้ลิ้มลองรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ Jiro Ono แล้วหรือยัง !?
※ลิงค์ข้างบนได้รวมแพลนท่องเที่ยวโตเกียวด้วย หากต้องการไปรับประทาน Sukiyabashi Jiro เพียงอย่างเดียวกรุณาคลิกที่ลิงค์ด้านล่าง
※มีบริการรถรับส่งไปที่ร้าน Sukiyabashi Jiro
คำเตือน:ทัวร์จริงอาจมีเนื้อหาบางส่วนที่แตกต่างจากในบทความ กรุณาตรวจสอบรายละเอียดที่เว็บไซต์
เงื่อนไขในการเข้าร่วม
※เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น
※อายุมากกว่า 20 ปี
※ไม่สามารถออกจากทัวร์กลางคันได้
※ผู้ชายต้องใส่เสื้อเชิร์ตหรือเสื้อสูท
※ห้ามฉีดน้ำหอมเข้าไปในร้าน
※ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเมนูได้
※ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือซอฟท์ดริ้งค์จัดเตรียมไว้ให้
คำเตือน:หากจองสำเร็จแล้ว จะไม่สามารถคืนเงินและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเวลาได้
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่