พาไปดูการสั่งอาหาร Takeout ที่ไม่เหมือนใครของญี่ปุ่น ต่างจากที่อื่นอย่างไร?
แน่นอนว่าญี่ปุ่นมีสิ่งสวยงามมากมายให้ชม แต่เรื่องอาหารก็มีหลากหลายไม่แพ้กัน บอกได้เลยว่านักท่องเที่ยวเกือบทุกคนมีลิสต์อาหารญี่ปุ่นที่อยากลองยาวเป็นหางว่าว แม้แพลนเที่ยวของคุณจะเต็มไปด้วยการเที่ยวชมสิ่งต่างๆ จนไม่มีเวลาแวะร้านอาหาร แต่ญี่ปุ่นก็มีเมนูเทคเอาท์มากมายให้เลือกซื้อได้ ตั้งแต่ข้าวแกงกะหรี่ไปจนถึงราเมง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจวัฒนธรรมเทคเอาท์ของญี่ปุ่น พร้อมบอกเคล็ดลับที่จะช่วยให้ทริปของคุณวิเศษยิ่งขึ้น!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ที่ญี่ปุ่นสั่งเทคเอาท์ได้ไหม?
ในการตอบคำถามนี้ เราต้องมาทำความเข้าใจกับนิยามของคำว่า "เทคเอาท์ (Takeout)" กันก่อน
หากคุณหมายถึงการขอห่ออาหารที่กินเหลือในร้านกลับบ้านแล้วล่ะก็ คำตอบคือไม่ เพราะปกติในญี่ปุ่นจะไม่มีบริการเช่นนี้ เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะการเสิร์ฟอาหารของร้านอาหารในญี่ปุ่นนั้นจะพอดีสำหรับการรับประทานให้อิ่มได้คนเดียว ไม่เหมือนกับประเทศอื่นๆ อย่างสหรัฐหรือออสเตรเลีย ด้วยความที่ไม่คาดคิดว่าจะลูกค้าจะขออาหารที่กินเหลือกลับบ้าน ร้านอาหารจำนวนมากจึงไม่ได้เตรียมการเพื่อตอบรับความต้องการในลักษณะนี้ นอกจากนี้ กฎหมายญี่ปุ่นสามารถเอาผิดร้านอาหารได้หากพบว่าเกิดกรณีอาหารเป็นพิษขึ้นมาไม่ว่าจะในกรณีใดและถึงแม้จะเกิดขึ้นที่บ้านของลูกค้าเองก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ร้านอาหารจำนวนมากไม่อนุญาตให้ลูกค้านำอาหารที่รับประทานเหลือกลับบ้านได้
แต่หากเป็นการเทคเอาท์ที่หมายถึงการสั่งเดลิเวอรี่หรือเดินทางไปที่ร้านและซื้อแบบเทคเอาท์กลับบ้านแล้วล่ะก็ คำตอบคือได้! ร้านลักษณะนี้มีอยู่มากมายในประเทศญี่ปุ่น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มตัวมากขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นภาษีผู้บริโภคในเดือนตุลาคม 2019 สำหรับการนั่งรับประทานอาหารในร้าน (8% → 10%) รวมถึงผลกระทบจากเหตุการณ์โรคระบาดที่เพิ่งเกิดขึ้น ด้านล่างนี้คือเมนูเทคเอาท์หลากหลายประเภทที่คุณสามารถหาซื้อได้ในญี่ปุ่น!
ประเภทของอาหารในญี่ปุ่นที่สามารถสั่งเทคเอาท์ได้
นอกจากเมนูเทคเอาท์อย่างพิซซ่าที่พบได้ทั่วไปในประเทศตะวันตกแล้ว ญี่ปุ่นก็มีเมนูเทคเอาท์แปลกๆ ที่หาไม่ได้ที่อื่นเช่นกัน ด้านล่างนี้คือตัวอย่างที่เรายกมาให้คุณได้ชมกัน
แกงกะหรี่ญี่ปุ่น
แม้จะไม่ใช่เมนูที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นก็ได้นำเมนูอินเดียนี้มาดัดแปลงจนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แกงกะหรี่ญี่ปุ่นข้นกว่าของอินเดียมาก และมักเสิร์ฟมาบนข้าว ในบางกรณีก็เสิร์ฟบนวัตถุดิบท้องถิ่นอื่นๆ อย่างเส้นอุด้งหนาๆ ด้วยเช่นกัน
ในกรณีที่สั่งเป็นเทคเอาท์ แกงกะหรี่จะเสิร์ฟมาแยกกับข้าว ดังที่เห็นอยู่ในภาพด้านบน วิธีนี้นอกจากจะช่วยการันตีว่าข้าวจะนุ่มฟูอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังให้อิสระคุณในการรับประทานข้าว แกงกะหรี่ และท็อปปิ้งในแบบที่คุณชอบอีกด้วย ส่วนผักดองที่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นิยมรับประทานคู่กับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นก็มักเสิร์ฟแยกต่างหากเช่นกัน และในบางกรณีก็อาจมีเมนูเครื่องเคียงอื่นๆ เช่น กุ้งเทมปุระอย่างในรูปด้านบนที่แพ็กแยกมาเพื่อให้คงรสชาติของมันไว้ด้วย
ร้านที่มักให้บริการแกงกะหรี่เดลิเวอรี่หรือเทคเอาท์ก็ได้แก่ ร้านแฟรนไชส์ใหญ่ๆ อย่าง Go! Go! Curry! หรือ CoCo Ichibanya แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถสั่งเทคเอาท์จากร้านเล็กๆ หรือร้านแบบบ้านๆ ได้ หากคุณอยากทานแกงกะหรี่ญี่ปุ่น แต่อยากรับประทานอย่างเป็นส่วนตัวที่ห้อง เราก็ขอแนะนำให้ลองสั่งแบบเทคเอาท์ดูสักครั้ง!
ราเมงญี่ปุ่น
ถึงจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ราเมงก็สามารถสั่งเทคเอาท์ได้เช่นกัน หลักๆ แล้วมีวิธีสั่งราเมงเทคเอาท์ในญี่ปุ่นอยู่ 2 วิธี คือ สั่งผ่านบริการเดลิเวอรี่อย่าง Uber Eats หรือเช็กโดยตรงกับทางร้านว่ามีบริการเทคเอาท์หรือไม่
หากสั่งเดลิเวอรี่จากทางร้านโดยตรง ส่วนใหญ่จะจำกัดเฉพาะลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่เท่านั้น ในกรณีนี้ ราเมงมักจะถูกเสิร์ฟมาในชามเซรามิก ซึ่งพนักงานจะมาเก็บคืนในภายหลัง หากรับประทานเสร็จแล้วก็ขอให้วางชามไว้หน้าประตูด้วย
ในกรณีอื่นๆ ปกติราเมงจะถูกส่งเดลิเวอรี่มาในภาชนะพลาสติกหรือไม่ก็โฟม โดยตัวน้ำซุปจะถูกแยกออกจากวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้อืด ในบางกรณีราเมงอาจเดลิเวอรี่มาในถุงพลาสติกอย่างในภาพด้านบน* เป็นวิธีที่ร้านอาหารใช้เพื่อการันตีความสดของวัตถุดิบ แค่เททุกอย่างรวมกันคุณก็จะได้ราเมงร้อนๆ พร้อมรับประทานแล้ว
* รูปด้านบนเป็นภาพของสึเคเมงไม่ใช่ราเมง จึงต้องมีการอุ่นซุปจิ้มก่อน แต่จริงๆ แล้วหลักการก็ไม่ได้ต่างจากราเมงเทคเอาท์เท่าไร
เมนูข้าวดงบุริ
ดงบุริ คือ เมนูอาหารญี่ปุ่นสุดคลาสสิกที่ประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์ ผัก รวมถึงอาจมีการเพิ่มอาหารทะเลลงไปด้วย โดยจะราดหน้าลงบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ ที่ญี่ปุ่นมีดงบุริอยู่กว่าร้อยแบบ และยังมีร้านอาหารอีกหลายพันแห่งที่มีเมนูดงบุริอยู่ด้วย เนื่องจากดงบุริเป็นเมนูที่ทำได้ไว จึงถูกจัดเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดประเภทหนึ่งของญี่ปุ่น ร้านอาหารจำนวนมากจึงมีบริการเสิร์ฟดงบุริแบบเทคเอาท์ด้วย
ร้านอาหารในญี่ปุ่นนิยมแยกข้าวออกจากวัตถุดิบอื่นๆ เช่นเดียวกับแกงกะหรี่เพื่อให้ข้าวอร่อยและนุ่มฟูอยู่เหมือนเดิม คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเทรวมกันหรือรับประทานแยกเป็นกับข้าว
หนึ่งในเมนูดงบุริที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ คือ กิวด้ง (กิวเมชิ) หรือข้าวหน้าเนื้อนั่นเอง ญี่ปุ่นมีร้านกิวด้ง 3 เจ้าใหญ่ ได้แก่ Yoshinoya, Matsuya, และ Sukiya นอกจากจะโด่งดังเพราะมีราคาถูกและรสชาติอร่อยแล้ว ร้านเหล่านี้ยังมีบริการเทคเอาท์เกือบทุกเมนูอีกด้วย หากคุณไม่รู้ว่าจะลองดงบุริแบบเทคเอาท์ของร้านไหนดี ขอแนะนำให้เช็กที่ร้านเหล่านี้เป็นอันดับแรก!
ข้าวกล่องเบนโตะ
เมื่อพูดถึงอาหารเทคเอาท์ในญี่ปุ่น ข้าวกล่องเบนโตะก็นับว่าเป็นราชาแห่งวงการเลยทีเดียว สำหรับหลายๆ คน การนั่งชินคันเซ็นไม่อาจสมบูรณ์ได้หากขาดเบนโตะ เมนูข้าวกล่องที่สามารถใส่แทบทุกสิ่งอย่างที่คุณจะจินตนาการได้ ไม่ว่าจะเป็นผัก สเต็ก ไก่ ปลา ฯลฯ
นอกจากเบนโตะตามสถานีรถไฟแล้ว ร้านอาหารหลายแห่งยังมีเมนูเทคเอาท์เป็นเบนโตะสำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นในราคาที่สมเหคุสมผลอีกด้วย นอกจากนี้ คุณยังสามารถหาซื้อเบนโตะได้ตามร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านแฟรนไชส์ที่จำหน่ายเบนโตะโดยเฉพาะก็มีอยู่เช่นกัน อย่างร้าน Hotto Motto และ Origin Bento
หากจะกล่าวว่าเบนโตะเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นก็ไม่ได้เกินจริงไปเลย หากคุณมีโอกาสไปญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดเลยล่ะ!
ซูชิและซาชิมิ
ซูชิและซาชิมิเป็นอีก 2 เมนูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฐานะเมนูเทคเอาท์ญี่ปุ่น ปกติแล้วจะมีราคาถูกกว่าที่คุณคิดไว้มาก และรสชาติก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ไปกว่าร้านอาหารจริงๆ เท่าไรนัก เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากเมื่อคุณไม่มีเวลาหรือขี้เกียจเดินทางไปรับประทานที่ร้าน
ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถหาซื้อซูชิเทคเอาท์ได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ แต่เราขอแนะนำให้เน้นความสดใหม่โดยสั่งจากร้านซูชิโดยตรง ทั้งยังเป็นวิธีที่มีเมนูให้เลือกมากกว่าอีกด้วย ไม่ใช่ทุกร้านที่มีบริการเทคเอาท์ แต่ร้านแฟรนไชส์รายใหญ่ก็ล้วนมีเทคเอาท์กันทั้งนั้น อย่างเช่น ร้านซูชิหมุนชื่อดังอย่าง Sushiro
วิธีสั่งเทคเอาท์จากร้านอาหารในญี่ปุ่น
ก่อนอื่นเลยควรรู้ไว้ว่ามีวิธีพูด "เทคเอาท์" ในภาษาญี่ปุ่นอยู่สองแบบ คือ (O)mochikaeri (お持ち帰り) และ Teikuauto (テイクアウト) โดยแบบหลังเป็นคำที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษโดยตรง แม้ว่าทั้ง 2 แบบจะรู้เรื่องเหมือนกันหมด แต่หากเป็นป้ายตามร้านก็จะใช้แบบหลังเป็นส่วนใหญ่ โดยจะติดอยู่ตามเคาน์เตอร์ที่มีไว้สำหรับสั่งเทคเอาท์โดยเฉพาะ นอกจากนี้ คุณก็อาจพบคำว่า Takuhai (宅配) ซึ่งหมายถึงมีบริการเดลิเวอรี่อีกด้วย
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่พบคำเหล่านี้อยู่หน้าร้าน แต่คุณก็สามารถเดินเข้าไปสอบถามในร้านได้เช่นกัน โดยพูดว่า "O-mochikaeri dekimasu ka?" ที่มีความหมายว่า "เทคเอาท์ได้ไหม?" ในภาษาญี่ปุ่น หากเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดก็จะง่ายกว่า เนื่องจากทางร้านจะเป็นฝ่ายถามเองว่าจะรับประทานในร้านไหม (Tennai de meshiagarimasu ka?)
สั่งเทคเอาท์ในญี่ปุ่นได้ที่ไหนบ้าง
ร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียง
นอกจากเดินเช็กตามร้านต่างๆ ว่ามีป้ายเทคเอาท์หรือไม่แล้ว Google Maps ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ยอดเยี่ยมในการหาร้านอาหารที่มีบริการเทคเอาท์ใกล้ๆ คุณ เพียงแค่ค้นหาด้วยคำว่า "Takeout" ก็สามารถเช็กได้อย่างรวดเร็วว่าร้านไหนมีบริการเทคเอาท์บ้าง แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่ทุกร้านที่จะระบุไว้ในข้อมูลออนไลน์ ดังนั้น หากคุณสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ เราขอแนะนำให้โทรไปสอบถามโดยตรงเลยจะดีกว่า ในกรณีที่คุณพูดญี่ปุ่นไม่ได้ ก็สามารถเดินทางไปที่ร้านและสอบถามด้วยประโยคที่เราพูดถึงในย่อหน้าที่แล้วก็ได้เช่นกัน
บริการเดลิเวอรี่
หากคุณไม่มีเวลาหรือขี้เกียจเดินทางไปสั่งที่ร้านอาหาร คุณก็สามารถใช้บริการบริษัทส่งอาหารได้เช่นกัน แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะมีอยู่มากมายในญี่ปุ่น แต่ส่วนใหญ่จะรองรับแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น บริษัทดังๆ ที่รองรับภาษาอังกฤษได้ก็เห็นจะมี Uber Eats และ Maishoku โดย Maishoku นั้นมีร้านในโตเกียวให้คุณเลือกถึง 300 ร้านเลยทีเดียว กล่าวได้ว่าบริการเดลิเวอรี่เหล่านี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสั่งอาหารเทคเอาท์ เพราะสามารถค้นหาได้ตามประเภทอาหารและราคาที่ต้องการ เราขอแนะนำให้ใช้บริการดูสักครั้งหากคุณอยากลองอาหารเทคเอาท์ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม บริการเหล่านี้มักครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ภายในเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น
ร้านสะดวกซื้อ
ร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นวางจำหน่ายอาหารเทคเอาท์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะร้อนหรือเย็น ของทอดหรือของสด แพ็กมาแล้วหรือทำสดที่ร้านก็มี คุณสามารถซื้อโอนิกิริ (ข้าวปั้น) สลัด และเนื้อปรุงสำเร็จ เพื่อทำเป็นมื้ออาหารแบบง่ายๆ หรือจะสั่งจากโซนอาหารร้อนใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์คิดเงิน ที่มักจะเป็นเมนูจำพวกเฟรนช์ฟราย ไก่ทอด โคร็อกเกะ ฯลฯ หากคุณอยากอาหารที่อิ่มท้องกว่านี้ก็สามารถซื้อข้าวกล่องเบนโตะ และใช้ไมโครเวฟหรือเครื่องทำน้ำร้อนภายในร้านเพื่ออุ่นได้ทันที
คลิกที่นี่สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น
ร้านอาหารสำหรับครอบครัว
ร้านอาหารสำหรับครอบครัวในญี่ปุ่นมีชื่อเสียงมาจากความถูกและความเร็วในการทำ น้อยคนที่จะรู้ว่าร้านเหล่านี้ก็มีเมนูเทคเอาท์ให้เลือกเช่นกัน! แม้เมนูเทคเอาท์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะราคาสูงกว่าการนั่งรับประทานภายในร้านเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่ามากหากคุณไม่ชอบสถานที่ที่มีคนเยอะๆ นอกจากนี้ ร้านอาหารสำหรับครอบครัวยังมีเมนูต่างชาติที่ผ่านการดัดแปลงให้เข้ากับลิ้นของคนญี่ปุ่นด้วย เช่น อาหารอิตาเลี่ยนของร้าน Saizeriya อาหารจีนและตะวันตกของ Jonathan's และ Gusto
คุณสามารถอ่านเรื่องราวของร้านอาหารสำหรับครอบครัวในญี่ปุ่นเพิ่มเติมได้ที่นี่
ห้างสรรพสินค้า
อีกหนึ่งตัวเลือกในการหาซื้อเมนูเทคเอาท์ก็คือ ห้างสรรพสินค้านั่นเอง ห้างใหญ่ๆ อย่าง Takashimaya และ Seibu จะมีหนึ่งชั้นเต็มๆ ไว้สำหรับขายอาหารโดยเฉพาะ ตั้งแต่ขนมญี่ปุ่นไปจนถึงผักดอง เนื้อสัตว์ ข้าวกล่อง และอื่นๆ อีกมากมาย โดยปกติแล้วโซนนี้จะคึกคักมากเมื่อผู้คนกลับจากการทำงาน (1 - 3 ทุ่ม) จึงควรไปให้ถึงก่อนเวลานี้ อีกด้านหนึ่ง หากคุณเดินทางมาถึงก่อนห้างปิดประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็จะสามารถซื้ออาหารอร่อยๆ ที่ลดราคากว่า 20 - 50% ได้
ถึงแม้จะมาเที่ยว แต่อาหารเทคเอาท์ญี่ปุ่นก็น่าลองเช่นกัน!
หลายคนมีความคิดว่าการรับประทานสตรีทฟู้ดหรืออาหารตามร้าน เป็นวิธีเดียวในการสัมผัสกับอาหารของประเทศนั้นๆ ถึงขนาดยอมยกเลิกจุดหมายอื่นๆ เพื่อที่จะไปรับประทานให้ได้ แต่จริงๆ แล้วการเทคเอาท์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวสักเท่าไร ญี่ปุ่นมีเมนูเทคเอาท์อยู่มากมาย ถึงขนาดที่เรียกได้ว่าพลาดมากๆ หากไม่ได้ลองดูสักครั้ง นอกจากนี้ การรับประทานอาหารเทคเอาท์ยังช่วยให้คุณจัดสรรเวลาเดินทางได้ง่ายขึ้นอีกด้วย มีข้อดีมากมายขนาดนี้แล้วจะพลาดได้อย่างไร จริงไหม?
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่
เกี่ยวกับนักเขียน
