17 ร้านชาไข่มุก & เมนูของหวานจากไข่มุกในโตเกียวที่คุณต้องไปลองให้ได้!

ชาไข่มุก ชานมทาปิโอกะ นมมุก หรือโบบา ไม่ว่าคุณจะเรียกมันว่าอะไร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเครื่องดื่มไต้หวันนี้ได้แพร่หลายไปแล้วทั่วโลก แน่นอนว่าญี่ปุ่นเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น! เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ญี่ปุ่นได้เกิดบูมชาไข่มุกขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีร้านชาไข่มุกผุดขึ้นให้เห็นมากมาย แม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อเองก็ยังมีชาไข่มุกวางขายอยู่ ทำให้คุณสามารถหาซื้อมันได้ง่ายเมื่อไรก็ตามที่เกิดอยากดื่มชาไข่มุกขึ้นมา!

ร้านชื่อดังจำนวนมากจากทั่วโลกได้พากันเข้ามาลงทุนในตลาดชาไข่มุกของญี่ปุ่น แบรนด์ใหม่ๆ ของญี่ปุ่นเองก็มีให้เห็นเช่นกัน ลองมาเช็คร้านชาไข่มุกในญี่ปุ่นเหล่านี้ รวมไปถึงเมนูของหวานจากไข่มุกที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในบูมชาไข่มุกของญี่ปุ่นกันเถอะ!

Chun Shui Tang สาขา LUMINE EST ชินจูกุ

Chun Shui Tang เป็นที่รู้จักกันในฐานะต้นกำเนิดของชาไข่มุกสไตล์ไต้หวันที่ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก แค่ในไต้หวันที่เดียวก็มีสาขาอยู่ถึง 45 สาขาแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นร้านที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นได้อย่างไร! นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูเฉพาะฤดูกาล ตัวอย่างเช่น ชานมสตรอว์เบอร์รีและชานมซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในส่วนของชานมซากุระนั้นมีขายเฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น จึงคุ้มค่าที่จะลองเช็คดูว่าที่ร้านสาขาญี่ปุ่นมีอะไรให้คุณเลือกบ้าง!

ตั้งแต่ชานมไข่มุกสูตรต้นตำรับไปจนถึงชามะลิใส่ไข่มุก เครื่องดื่มชาไข่มุกของที่นี่ทำขึ้นโดยใช้ใบชาจากธรรมชาติและไม่มีการใส่สารปรุงแต่งรส คุณจึงดื่มด่ำไปกับรสชาติดั้งเดิมของชาได้อย่างเต็มที่ ทางร้านยังมีเมนูอาหารที่หลากหลาย คุณจึงสามารถลองทานอาหารไต้หวันได้อีกด้วย! หรือจะสั่งทั้งอาหาร ชานม และของหวาน (ซึ่งแน่นอนว่ามีไข่มุก) มาทานให้อิ่มท้องไปเลยก็ทำได้เช่นกัน!

THE ALLEY LUJIAOXIANG สาขาชิบูย่า

THE ALLEY ร้านชาไต้หวันระดับสากลที่มีจุดสังเกตเป็นโลโก้รูปกวาง ร้านนี้เรียกไข่มุกของร้านตัวเองว่า "Deerioca" ซึ่งทุกเม็ดทำขึ้นสดๆ ด้วยมืออย่างพิถีพิถัน คุณจึงสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นและเนื้อไข่มุกอันเหนียวนุ่มที่มีเอกลักษณ์ระดับพรีเมี่ยม นอกจากนี้ ทางร้านยังได้ใช้น้ำตาลคุณภาพสูงมาทำเป็นไซรัปอ้อยสูตรเฉพาะตัว ซึ่งให้รสชาติที่ละเอียดอ่อนและเป็นธรรมชาติ

หนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมที่สุดของร้านนี้คือ "BONSAI" Garden Milk Tea (M 550 เยน / L 650 เยน) - ชานมอัสสัมที่ท็อปปิ้งด้วยบิสกิตช็อกโกแลตป่นและใบมินท์ ทำให้มีหน้าตาที่ดูเหมือนสวนบอนไซ! สามารถจ่ายเพิ่ม 50 เยนเพื่อเพิ่มไข่มุกลงไปได้

เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ขอแนะนำก็คือ THE ALLEY Trio Milk Tea, Royal No. 9 Tapioca Milk Tea, Brown Sugar Tapioca และซีรีย์ Aurora Drink (Northern Lights และ Morning Sunshine)

KOI Thé สาขาโอโมเตะซันโด (Omotesando)

KOI Thé ร้านชาไข่มุกที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มจากใบชาสดใหม่ส่งตรงมาจากไต้หวัน เป็นที่รู้จักจากไข่มุกสีทองที่ปราศจากสารปรุงแต่งและยังสดใหม่ถึงขนาดที่สามารถอยู่ได้เพียง 2 ชั่วโมง

นอกจากชาไข่มุกทั่วๆ ไปแล้ว ร้านนี้ยังมีตัวเลือกอื่นๆ อยู่อีกมากมาย เช่น ชานมพุดดิ้ง ชานมไอศครีม น้ำมะม่วงโยเกิร์ต และมัทฉะมัคคิอาโต้  เนื่องจากที่นี่เป็น KOI Thé เพียงสาขาเดียวที่อยู่ในละแวกโตเกียว เราจึงขอแนะนำให้ลองแวะไปลิ้มรสไข่มุกสีทองของร้านนี้ดูสักครั้ง!

Sin an ju สาขาฮาราจูกุ

สังเกตเห็นได้ง่ายจากโลโก้รูปม้าน้ำ ร้านชาไต้หวันแห่งนี้มีเมนูให้เลือกอย่างหลากหลาย ตั้งแต่เมนูชานมอย่าง Brown Sugar Bubble Milk (540 เยน), Tapioca Strawberry Milk (630 เยน), และ Tapioca Black Sesame Milk (630 เยน) ไปจนถึงเมนูชาล้วนๆ อย่าง Assam Tea (350 เยน) และ Roasted Green Tea (350 เยน)

ทางร้านยังมีเมนูพิเศษอย่าง Blue Lagoon (600 เยน) ที่เห็นอยู่ในรูปด้านบน ซึ่งจะเปลี่ยนสีไปตามที่เขย่า ทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติและรูปลักษณ์ได้ในเวลาเดียวกัน! นอกจากนี้ก็มี COW COW Jelly (580 เยน) นมพรีเมี่ยมเข้มข้นที่ราดลงไปบนเยลลี่จากน้ำตาลทรายแดงที่หวานนุ่ม และ First Love (450 yen) ชาแอปเปิลผสมพีช ท็อปปิ้งด้วยซอสสตรอว์เบอร์รีและสตรอว์เบอร์รีหั่นเป็นรูปหัวใจ เสิร์ฟพร้อมกับทาร์ต เมนูเครื่องดื่มทั้งหมดสามารถดัดแปลงได้ตามความต้องการของคุณ

comma tea สาขาอาโอยามะโอโมเตะซันโด (Aoyama Omotesando)

ตั้งอยู่ห่างจากสถานีโอโมเตะซันโดโดยการเดินประมาณ 4 นาที ร้านชาไข่มุกสัญชาติญี่ปุ่นแห่งนี้เชี่ยวชาญในด้านชาดำ คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติของชาดำที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในเครื่องดื่มของร้านนี้ คอนเซปต์ของร้านคือต้องการใส่ "คอมม่า (,)" ลงไปในชีวิตประจำวันที่แสนเร่งรีบของคุณเพื่อให้มีเวลาได้ผ่อนคลายไปกับชา

ชาไข่มุกพื้นฐานมีให้เลือก 3 รส ได้แก่ Blend Milk Tea (600 เยน), Assam Milk Tea (550 เยน) และ Oolong Milk Tea (550 เยน) นอกจากนี้ อุจิมัทฉะลาเต้ก็มีอยู่เช่นกัน โดยคุณสามารถเลือกได้ว่าจะใส่ไข่มุกธรรมดาหรือไข่มุกจากน้ำตาลทรายแดง

หนึ่งในเมนูที่ทางร้านขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งคือ Bruleed Brown Sugar Latte (650 เยน) ซึ่งมีชั้นฟองนมที่ถูกเผาเล็กน้อยอยู่ด้านบน นอกจากนี้ก็ยังมีชาชีส โซดาสมุนไพร และชาปกติอยู่อีกด้วย หลายๆ เมนูของร้านนี้คุณสามารถเลือกระดับความหวาน ขนาด และปริมาณน้ำแข็งได้เอง

Gong cha สาขาฮาราจูกุโอโมเตะซันโด

Gong cha เป็นแฟรนไชส์เครื่องดื่มไต้หวันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและยังเป็นหนึ่งในร้านชาไข่มุกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ประสบความสำเร็จในการขยายแฟรนไชส์ระดับสากลเข้าไปสู่หลากหลายประเทศจนปัจจุบันมีสาขาอยู่กว่า 1,300 แห่ง!

หนึ่งในจุดเด่นของ Gong cha คือคุณสามารถดัดแปลงเครื่องดื่มที่สั่งได้ตามต้องการ ขั้นตอนแรกคือเลือกชา (ชาดำ, ชานม ฯลฯ) ที่ต้มจากใบชาคุณภาพสูง จากนั้นเลือกท็อปปิ้ง (ไม่จำเป็นต้องเป็นไข่มุกก็ได้) และสุดท้ายก็เลือกระดับความหวานและปริมาณน้ำแข็ง

นอกจากเมนูปกติแล้ว ทางร้านยังมีเมนูเฉพาะฤดูกาล อย่างเช่นเมนูพิเศษประจำฤดูใบไม้ผลิของปีก่อนก็จะมาในธีมสตรอว์เบอร์รี ประกอบไปด้วย Strawberry Black Tea Made with Basil Seeds, Strawberry Milk Tea with Pearls และ Chocolate Milk Tea with Strawberry Milk Foam แน่นอนว่าเมนูเหล่านี้ก็สามารถดัดแปลงได้เช่นกัน! ไม่ควรพลาดที่จะลองสั่งดูสักครั้งก่อนที่จะหมดช่วงเวลาของมัน!

TP TEA สาขา NEWoMan ชินจูกุ

ร้านชา TP TEA (Taiwan Professional Tea) บริหารโดยบริษัทลูกของ Chun Shui Tang ที่กล่าวถึงไปข้างต้น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2005 นำเสนอเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์มากมาย ตัวอย่างเช่น ซีรีย์ชาลาเต้ชุดแรกของไต้หวัน นับตั้งแต่นั้นมาแบรนด์นี้ได้ขยายสาขาไปกว่า 250 แห่งทั่วไต้หวัน และเริ่มขยายตลาดไปทั่วโลกในปีค.ศ. 2016 โดยมี 3 สาขาที่อยู่ในญี่ปุ่น

หนึ่งในเมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของร้านนี้คือ Tie Guan Yin Tea Latte จากซีรีย์ชาลาเต้ และยังมีเมนูชาอื่นๆ ให้เลือกอยู่อีกกว่า 50 ชนิด

ชาเขียว Tapioca Matcha Latte (550 เยน) เป็นเมนูเครื่องดื่มที่มีขายเฉพาะในสาขาที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ทั้งยังมีเมนูพิเศษเฉพาะฤดูกาลอย่าง Tapioca Strawberry Latte (650 เยน) และ Tapioca Strawberry Soft Serve (ถ้วย 550 เยน / โคน 570 เยน) ให้ได้ลิ้มลอง นอกเหนือจากเครื่องดื่มแล้ว ร้านนี้ยังขายอาหารรวมไปถึงไอศครีมชอฟท์ครีมด้วย

Piyanee

ครองตำแหน่งร้านชาไทยรายแรกในญี่ปุ่น Piyanee เปิดให้บริการขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2018 ณ ย่านแสนคึกคักอย่างชิบูย่า

เครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ซึ่งสามารถเลือกระดับความหวานได้ทั้งหมด ระดับความหวานมีให้เลือก 3 ระดับ ได้แก่ หวาน ปกติ และหวานน้อย เนื่องจากเป็นร้านที่เชี่ยวชาญด้านชาไทย แน่นอนว่าเมนูยอดนิยมของร้านนี้ก็ต้องเป็น Thai Tea (M 430 เยน, L 530 เยน) ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะใส่ไข่มุกหรือเฉาก๊วยโดยเพิ่มเงินอีก 70 เยน เมนูอื่นๆ ที่ใส่ชาไทยก็ได้แก่ Lemon Pure Thai Tea (M 430 เยน / L 530 เยน) และ Tapioca Thai Tea Frappe (M 600 เยน)

นอกจากชาไทยแล้ว ทางร้านยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ อยู่อีก ยกตัวอย่างเช่น Tapioca Matcha Frappe (630 เยน), Strawberry Milk Frappe (M 630 เยน), และ Tapioca Matcha (M 550 เยน / L 650 เยน) ท็อปปิ้งลิ้นจี่ชิ้นโตใน Rose Lychee Soda และ Oolong Lychee (M 550 เยน / L 650 เยน) ก็อาจดึงความสนใจของคุณได้เช่นกัน!

Chatime สาขากินซ่า

Chatime ก่อตั้งขึ้นในไต้หวันเมื่อปีค.ศ. 2005 เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสาขากว่า 1,000 สาขาใน 80 เมืองทั่วโลก ผู้ผลิตเขาภาคภูมิใจเรื่องคุณภาพที่สูงของเมนูชาอย่างยิ่ง ซึ่งการันตีด้วยรางวัล "Brand of the Year" ที่ได้รับมาเมื่อปีค.ศ. 2015 ในงาน World Branding Awards ที่จัดขึ้นที่ลอนดอน โดยเป็นแบรนด์ที่ถูกคัดเลือกจากกว่า 2,500 แบรนด์จาก 35 ประเทศ และยังเป็นแบรนด์สัญชาติไต้หวันแบรนด์แรกที่ได้รับรางวัลนี้! 

คุณสามารถเลือกท็อปปิ้งได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไข่มุก ถั่วแดงหวาน วุ้นมะพร้าว เฉาก๊วย หรือ QQ (ไข่มุกและวุ้นมะพร้าว) ลองสั่งเครื่องดื่ม QQ ที่มีให้เลือกอยู่มากมายของร้านนี้ เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติและรสสัมผัสที่แตกต่างกันดูสิ! 

CoCo Fresh Tea & Juice สาขาฮาราจูกุ

แฟรนไชส์ชาไข่มุกระดับโลกจากไต้หวัน เปิดกิจการมาแล้วกว่า 20 ปี เป็นหนึ่งในแบรนด์ชาไข่มุกชั้นนำของโลก และมีสาขาอยู่กว่า 2,000 แห่งทั่วโลก ไข่มุกของร้านนี้ทำขึ้นโดยใช้สูตรเดียวกันทุกสาขา และใช้วัตถุดิบที่ส่งตรงมาจากร้านสาขาหลักในไต้หวัน รับรองได้ว่ามีรสชาติและคุณภาพดีเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

เมนูของร้านนี้มีอยู่มากมายจนทำให้คุณอยากกลับมาลองให้หมด! ทั้งยังมีเครื่องดื่มแปลกๆ ที่ไม่สามารถหาได้ที่อื่น ตัวอย่างเช่น 2 Ladies (ชานมไข่มุกใส่พุดดิ้ง) และครีมเค็ม

FORTUNER tea-box

FORTUNE tea-box เป็นร้านชาไข่มุกที่ภาคภูมิใจในเครื่องดื่มฟองชีส ทางร้านแนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ "จากแก้วโดยตรง" โดยไม่ใช้หลอด เพราะจะทำให้คุณสัมผัสกับรสชาติของฟองชีสได้อย่างเต็มที่ และยังได้หนวดฟองชีสติดมาเป็นของแถมด้วย ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังดื่มเบียร์อยู่เลย แนะนำให้ลองเขย่าเล็กน้อยเพื่อผสมรสชาติของฟองชีสกับตัวชาเข้าด้วยกัน

ทุกเมนูของร้านสามารถใส่ชีสเป็นท็อปปิ้งได้ ไม่ว่าจะเป็น Oolong Cheese Tea, Apple Roasted Milk Cheese Tea, และ Mango Cheese Tea นอกจากนี้คุณยังสามารถเปลี่ยนจากฟองชีสเป็นนมถั่วเหลืองได้ด้วย! 

Pearl Lady Cha Bar สาขาชินจูกุ

Pearl Lady Cha Bar ร้านชาไข่มุกสัญชาติญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2009 ไข่มุกของทางร้านทำขึ้นสดใหม่ทุกๆ วัน และไม่มีการใส่สารกันบูด คุณสามารถเลือกขนาดเล็ก ใหญ่ หรือแบบใส่ไข่มุกน้ำตาลทรายแดงได้

เมนูของร้านประกอบไปด้วยชาใส่ครีมเค็มเข้มข้น ชามัทฉะ ชานมอุจิมัทฉะ ชานมโฮจิฉะ ชาฟองผลไม้ และชาปั่น ทั้งยังมีเมนูเฉพาะฤดูกาลมากมายตลอดทั้งปี ในขณะนี้มีเมนู Limited เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากชานิลคีรี (ชาอินเดีย) ประกอบไปด้วย Berry Black Tea Latte และ Berry Black Tea (420 เยนต่อแก้วพร้อมด้วยแยมราสเบอร์รี่) Rose Black Tea Latte และ Rose Black Tea (400 เยนต่อแก้วพร้อมด้วยแยมกุหลาบ)

ZJins Tea

ZJINs Tea จำหน่ายชานมคลาสสิก น้ำผลไม้ รวมไปถึงชาชีส! น้ำผลไม้ประจำฤดูกาลนี้ที่ขอแนะนำคือ น้ำแตงโมปั่นท็อปปิ้งด้วยฟองชีส เมนูประจำฤดูกาลของร้านนี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หากเมนูไหนได้รับความนิยมก็จะถูกนำมาขายใหม่อีกครั้ง!

ร้านแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะจุดอินสตาแกรมยอดนิยม ถึงขนาดที่มีมุมให้คุณถ่ายรูปเครื่องดื่มคู่กับของประดับรูปนกฟลามิงโก้

เครื่องดื่มของร้านนี้มีลักษณะเด่นตรงฝาและจุกกันเลอะรูปร่างหน้าตาน่ารักที่มาในสีแดงหรือสีชมพู สิ่งนี้จะช่วยให้สะดวกต่อการถือเดินดื่มไปมาในตัวเมือง เครื่องดื่มร้อนจะมาพร้อมกับแก้วดีไซน์น่ารักในสีชมพูพาสเทลสุดหวาน ทางร้านมีถุงกระดาษให้สำหรับหิ้วเครื่องดื่มไปยังที่พักหรือที่ทำงานของคุณ และคุณยังสามารถเลือกซื้อถุงพลาสติกที่แข็งแรงขึ้นได้ในราคา 500 เยนอีกด้วย

FLIPPER'S สาขาโอโมเตะซันโด

FLIPPER'S ร้านยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักจากแพนเค้กที่นุ่มฟู นอกจากจะเชี่ยวชาญในด้านแพนเค้กแล้ว ชาไข่มุกของที่นี่ยังมีชื่อเสียงค่อนข้างมาก โดยคุณสามารถสั่งชาดังกล่าวนี้กลับบ้านได้ในรูปของถุงซิปล็อก

เมนูมี 3 อย่างให้เลือก ได้แก่ ชานม ชานมมะลิ และชาลูกพีช (ราคาเริ่มต้นที่ 420 เยนรวมภาษี) เหมาะสำหรับการดื่มพลางเดินสำรวจเมือง ทั้งยังมีดีไซน์ที่เก๋ไก๋เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง

Bull Pulu สาขา Shibuya Hikarie

ร้านชาไข่มุกแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของศูนย์การค้า Shibuya Hikarie ซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับสถานีชิบูย่า เมนูของร้านค่อนข้างเรียบง่าย โดยมีให้เลือกด้วยกัน 3 อย่าง ได้แก่ Brown Sugar Tiger Milk Tea, Brown Sugar Tiger Milk และ Straight Tea

โลโก้ของร้านโดดเด่นไปด้วยสีเขียวสด อักษรตัวใหญ่ และมีลูกหมาบูลด็อกพันธุ์ฝรั่งเศสหน้าตาน่ารักอยู่ตรงกลาง!

Cafe de KAVE

คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางโคเรียนทาวน์ของโตเกียว ก่อตั้งและบริหารโดยนักร้อง K-pop ชื่อดัง นอกจากจะมีของหวานหน้าตาน่ารักมากมายแล้ว ยังมีสินค้าตามเทรนด์วางจำหน่ายอีกด้วย! ส่วนชาไข่มุกของร้านนี้ก็มาในรูปของกระป๋องเล็กๆ ดีไซน์น่ารัก ดูแล้วน่าเก็บไว้สะสมแทนดื่มเสียจริงๆ 

เนื่องจากมีความข้องเกี่ยวกับวงการ K-pop จึงทำให้มันเป็นที่นิยมของเหล่าแฟน K-pop เครื่องดื่มมีหลากหลายรสชาติให้เลือก ตัวอย่างเช่น สตรอว์เบอร์รีฟองชีส เฮเซลนัทช็อกโก มัทฉะ และชานม เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาที่น่ารักเป็นอย่างยิ่ง แค่แวะมาถ่ายรูปเฉยๆ ก็คุ้มค่าแล้ว!

OCHABA

เรียกได้ว่าเพิ่งเปิดร้านขึ้นใหม่ๆ เมื่อเดือนมีนาคม 2019 สำหรับ OCHABA ซึ่งเป็นร้านชาไข่มุกแห่งแรกของญี่ปุ่นที่เน้นใช้ชาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ใบชาของทางร้านส่งตรงมาจากชิซูโอกะ จังหวัดแห่งชาของญี่ปุ่น ใบชาดังกล่าวถูกนำมาเปลี่ยนเป็นเมนูชานมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว ชาโฮจิฉะ ชาเกนไมฉะ หรือชานมเอสเพรสโซ่

เมื่อมองผ่านๆ อาจจะดูเหมือนไข่มุก แต่ที่จริงแล้วท็อปปิ้งของที่นี่นั้นเป็นขนมญี่ปุ่นอย่างคุโรมิสึวาราบิโมจิและชิราทามะ! ชานมของ OCHABA จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาญี่ปุ่นแท้ๆ พร้อมๆ กับสัมผัสถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง!

ของหวานจากไข่มุก

เมื่อเครื่องดื่มชาไข่มุกได้รับความนิยมไปทั่วเมือง ร้านอาหารและคาเฟ่ก็นำไข่มุกมาใส่ลงไปในเมนูของหวานบ้าง ออกมาเป็นเมนูสุดครีเอทีฟสมกับที่เป็นญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วเมนูดังกล่าวจะวางขายเป็นช่วงๆ เท่านั้น ไปดูตัวอย่างกันเลยว่ามีอะไรบ้าง! 

แพนเค้กไข่มุก

ขนมปังไข่มุก

พุดดิ้งนมไข่มุก

ไอศครีมไข่มุก

ขอแนะนำให้จับตามองเมนูของหวานและเครื่องดื่มจากไข่มุกเหล่านี้! คุณสามารถพบเห็นมันได้ทั่วเมืองโตเกียว หากพบแล้วล่ะก็ควรลองให้ได้สักครั้ง! 

 

หากต้องการส่งฟีดแบคเกี่ยวกับบทความของเรา มีไอเดียอะไรที่อยากให้เราทำ หรือเพียงแค่อยากถามคำถามเกี่ยวกับญี่ปุ่น สามารถติดต่อเราได้ทาง Facebook และ Twitter!