เดินทางแสนสะดวก! ขอแนะนำทัวร์พาเที่ยวเกียวโตกับนาราแบบวันเดียวกลับ จากโอซาก้า!

*ทัวร์นี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว โปรดใช้บทความนี้ในการวางแผนเดย์ทริปในเกียวโตและนาราของคุณ !

※ บทความนี้ร่วมเขียนโดยบริษัท Hankyu Travel International

Ｈ (ขวา)：จำทัวร์รถบัสเที่ยววันเดียวกลับที่เราไปกันคราวก่อนได้มั้ย?

Ｋ (ซ้าย)：จำได้สิ ทำไมเหรอ?

Ｈ：ดูเหมือนว่าเร็วๆ นี้มีทัวร์ใหม่เปิดให้บริการด้วยล่ะ！

Ｋ：จริงอะ เที่ยวไหนเหรอ?

Ｈ：ครั้งนี้เป็นทัวร์รถบัสแบบวันเดียวกลับไปเที่ยวเกียวโตกับนาราน่ะ ลำดับที่เที่ยวก็คือ โทไดจิ (東大寺) สวนสาธารณะนารา (奈良公園) ที่นารา แล้วนั่งรถไปเกียวโต เที่ยวต่อที่ศาลเจ้าเฮอันจิงกู (平安神宮) กับย่านกิออน (祇園) ตามลำดับ

Ｋ：แค่วันเดียวไปที่เที่ยวได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ สุดยอดไปเลย! จะเดินทางไปเกียวโตกับนาราเนี่ยแค่หาข้อมูลก็ลำบากแล้วนะ แถมยังต้องแบกสัมภาระติดตัวไปด้วยอีก ทัวร์รถบัสน่าจะช่วยให้เที่ยวได้สะดวกสบายกว่ากันเยอะเลยเนอะ!

Ｈ：จริงๆ ไปกันมั้ย?

Ｋ：อื้ม ไปกันๆ！ เราเองก็อยากไปดูกวางที่สวนสาธารณะนารามานานละ งั้นรีบจองทัวร์กันเลยดีกว่า!

รวมพลที่สถานีหลักเข้าถึงได้ง่ายอย่างสถานี Umeda หรือว่า Namba

สถานที่รวมพลก็คือที่ขึ้นรถบัส West Umeda Bus Station ใกล้ทั้งสถานี JR Osaka และสถานีรถไฟใต้ดิน Umeda หรือว่าคุณสามารถไปขึ้นที่ Namba Parks ใกล้สถานี Namba ทั้งสองที่นี้ถือว่าเป็นที่ที่เดินทางได้สะดวกมาก

นี่ก็คือรถทัวร์ที่จะพาเราเที่ยวในวันนี้

Namba Parks ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานี Namba
 
เวลานัดรวมพลของแต่ะละสถานที่เป็นตามนี้ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวคนอื่นร่วมเดินทางด้วย ฉะนั้นห้ามไปสายเด็ดขาดเลยนะคะ

[สถานที่รวมพลและเวลานัดรวมพล]

โอซาก้า Umeda（West Umeda Bus Station）รวมพลเวลา 8:20 น.  รถบัสออก 8:30 น.

โอซาก้า Namba（Namba Parks 1F Parking Area）รวมพลเวลา 8:50 น.  รถบัสออก 9:00 น.

ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่เป็นไร!!

ทัวร์นี้จะมีไกด์นำทางที่พูดภาษาอังกฤษได้ด้วย ฉะนั้นแม้จะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่เป็นไร! วันเดินทางไกด์นำทางของทัวร์เราจะถือธงตามที่เห็นในรูปนี้ ฉะนั้นให้มารวมผลโดยสังเกตธงนี้เป็นสัญลักษณ์กันนะคะ

ถ้าอย่างนั้น เรา tsunagu japan จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ทัวร์นี้จะพาไปก่อนที่จะไปเที่ยวกันจริงๆ นะคะ！

วัดโทไดจิ【東大寺】& สวนสาธารณะนารา【奈良公園】（150 นาที）

วัดโทไดจิที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะนารานั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1200 ปี เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดวัดหนึ่งในญี่ปุ่น จุดเด่นของวัดนี้ก็คือตัวพระอุโบสถขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งสร้างมาจากไม้ทั้งหมด ภายในตัวพระอุโบสถมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับอยู่ชื่อว่า "ไดบุทสึแห่งนารา" เป็นชื่อที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง ในปี 1998 ที่นี่ได้ถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก้ว่าเป็น "ส่วนหนึ่งของสมบัติทางวัฒนธรรมของเมืองหลวงเก่านารา"

Ｈ：ที่นี่คือพระอุโบสถของวัดโทไดจิ ที่โด่งดังในเรื่องพระพุทธรูป "ไดบุทสึแห่งนารา" สินะ

Ｋ：อื้ม ก่อนที่จะเข้าไปในอุโบสถ จุดธูปกันก่อนละกัน！

Ｈ：หวา ได้เห็นองค์พระพุทธรูปแล้ว มโหฬารจริงๆ

K：อื้ม ความสูง 15 เมตร น้ำหนักกว่า 350 ตันเลยนะ

H：ดูมีอิทธิพลน่าดูเลยนะ แถมยังเคร่งขรึมอีกด้วย
 

Ｋ：จะว่าไปรู้จัก "ช่องรูจมูกของไดบุทสึ" รึเปล่า？

Ｈ：ช่องรูจมูกของไดบุทสึ？

Ｋ：ใช่ ภายในอุโบสถมีเสาอยู่น่ะ ที่ด้านล่างของเสานั้นจะมีรูอยู่มีขนาดเท่ากับรู้จมูกของพระพุทธรูปไดบุทสึ หากใครที่ลอดรู้นี้ไปเชื่อกันว่าจะขจัดโรคร้ายและภัยร้ายให้ออกไปได้
 

Ｈ：จริงเหรอ？ถ้าอย่างนั้น เราก็ทำกันมั่งเถอะ แต่ว่า...รูนี้มันก็เล็กอยู่นี่นา เราจะผ่านได้จริงเหรอ?

Ｈ：จริงด้วย ผู้ใหญ่น่าจะยากอยู่นะ ถ้าเป็นเด็กเล็กล่ะก็น่าจะลอดผ่านได้ง่ายเลยนะ！

Ｋ：ไปดูร้านขายของด้านนอกอุโบสถไดบุทสึกัน

Ｈ：ดูสิๆ กระเป๋าป้ายกวางนี้น่ารักจัง！

Ｋ：ดูสิ！มีโปสการ์ดเตือนว่า "ระวังกวางกระโจนออกมา" อยู่ทั่วทุกที่ในนาราเลยนะ ซื้อกลับไปเป็นของฝากกัน
 
[ค่าเข้าชมพระอุโบสถไดบุทสึ]

เด็กมัธยมต้นขึ้นไป 600 เยน、เด็กประถมลงไป 300 เยน

※※ค่าใช้จ่ายทัวร์ยังไม่ได้รวมค่าเข้าชมพระอุโบสถไดบุทสึ。

 
H：นอกเหนือจากนั้น ภายในสวนก็มีกวางเยอะแยะไปเลยนะเนี่ย
 

Ｈ：:กวางพวกนี้น่ารักมาก ช่วยเยียวยาหัวใจได้ดีเลย

Ｋ：จริงด้วยนะ แต่ก็ต้องระวังด้วยนะ เวลาให้อาหารเนี่ยอย่าไปแกล้งมันเชียวนะ

Ｈ：ทำไมอะ？

Ｋ：กวางอาจจะดูเรียบร้อยก็จริง แต่ว่าถ้าโดนแกล้งล่ะก็จะโกรธแล้วกัดเสื้อขาดได้เลยนะ ก่อนหน้านี้มีเพื่อนเราก็เคยโดนแบบนั้นมาเหมือนกัน

Ｈ：โอเค เรากับกวางก็ต้องเคารพซึ่งกันและกันสินะ

Ｋ：ชมวัดโทไดจิเสร็จแล้ว ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะนาราและทานข้าวเที่ยงที่นั่นกันเถอะ!

H : ดีเลยๆ กำลังรู้สึกหิวพอดีเลยน้า ～

K : งั้นไปเดินชิลล์ดูกวางกันเลย !

Ｋ：ที่นี่ หากเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิเนี่ย จะได้ชมทิวทัศน์ทั้งกวางและซากุระพร้อมๆ กันเลยนะ เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแห่ง Kasuga (ที่นารา) ที่พลาดไม่ได้เลย

H : ใกล้ๆ สวนสาธารณะนาราก็มีคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยล่ะ!

K : ดีจังเลยน้า～

H : ร้าน ”Le Case” ที่ขาย Quiche โดยเฉพาะ หรือจะเป็นพุดดิ้ง “Mahoroba Buddha Pudding” ก็น่าลอง เห็นว่ามีลายพระพุทธรูปสุดน่ารักด้วยนะ ไปลองกันไหม ?  

K : โห! ร้าน Quiche นี่น่าจะหรูน่าดูเลยนะ !

H : นั่นไงดูสิ! ร้านนี้บรรยากาศดีมากเลยนะ จะเลือก Quiche เป็นเซ็ตอาหารกลางวัน หรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้เหมือนกันนะ

K : น่าอร่อยจัง! มี Quiche ให้เลือกทั้งหมดกว่า 15 แบบเลยแน่ะ ซื้อสักสองชิ้นดีมั้ยน้า ～

H : แล้วก็ไปซื้อพุดดิ้งด้วยใช่ไหม?

K : อ่ะแน่นอนอยู่แล้วจ้า ♪

K : กินเยอะเกินไปแล้วนะ ฮ่าๆ

H : ไม่เป็นไรหรอก! มาทั้งทีก็ต้องกินของอร่อยๆ เยอะๆ หน่อยสิ อิอิ

ศาลเจ้าเฮอันจิงกู【平安神宮】（30นาที）

หลังจากที่ได้เดินเล่นสวนสาธารณะนาราอย่างเต็มอิ่มแล้ว พวกเราก็เคลื่อนย้ายไปยังเมืองเกียวโต และสถานที่แรกที่เราได้เยี่ยมชมก็คือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 'ศาลเจ้าเฮอันจิงกู'

ศาลเจ้าเฮอันจิงกูนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1895 เพื่อฉลองครบรอบ 1100 ปีของเมืองหลวงเก่าเฮอันเคียว ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตเมืองของเกียวโต และยังเป็นที่รู้จักจากเทศกาลเกียวโตซันได (京都三大祭) ที่จัดขึ้นที่นี่ในเดือนตุลาคมของทุกปีอีกด้วย

K : มาเที่ยวเกียวโตก็หลายครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มาชมศาลเจ้านี้เลยล่ะ!

H : ครั้งแรกเหมือนกันเลย เสา Torii ต้นนี้นี่สุดยอดไปเลย!!

 

K : รู้ไหมว่าเสา Torii ต้นนี้สูงถึง 24.4 เมตร กว้าง 18 เมตร และตัวเสายังหนาถึง 3.6 เมตรเลยนะ !

H : โหวว ใหญ่มากๆ เลยนะเนี่ย ไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันเถอะ!

 

K : ต่อไปคือประตู Otenmon (応天門)  เป็นประตูทางเข้าศาลเจ้าล่ะ

H : สีแดงตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า สวยมากๆ เลยเนอะ!

K : และที่เห็นด้านหน้านี้ก็คือ Daigokuden (太極殿) ถูกสร้างให้เป็นแบบสถาปัตยกรรมในยุคสมัยเฮอันเมื่อ 1200 ปีที่แล้ว โดยใช้สเกล 5/8 ล่ะ

H : สุดยอดไปเลย ! จะว่าไปหลังคาสีเขียวของศาลเจ้านี้นี่ดูแปลกตาดีเนอะ

K : สวยสุดๆ ไปเลยเนอะ นี่คือหลังคาทรง Irimoyazukuri (入母屋造 หลังคารูปแบบหนึ่งในสถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่น)  ด้านหน้ามีความยาวถึง 30 เมตรเลยล่ะ

H : ว้าวว กว้างสุดๆ ไปเลย !

K : จาก Daigokuden ก็มีระเบียงทางเดินทั้งด้านซ้ายและขวา รวมถึงโถงอีก 2 หลัง ถ้ามองจากด้านหน้าของ Daigokuden แล้วล่ะก็ โถงทางขวามีชื่อว่า Shouryurou (蒼龍楼)  ส่วนทางซ้ายคือ Byakkorou (白虎楼) ล่ะ 

ย่านกิออน【祇園】 （เดินชมตามอัธยาศัย 120 นาที）

※ในช่วงเดือนมีนาคม～เมษายน และเดือนตุลาคม～พฤศจิกายน กำหนดการที่นี้อาจลดเหลือเพียง 100 นาทีอันเนื่องมาจากสภาพการจราจรติดขัด

แล้วพวกเราก็นั่งบัสมุ่งหน้าต่อไปยังย่านกิออน

พอลงจากรถบัสแล้ว ก็จะเห็นประตูเข้าวัด Chion-in Sanmon (知恩院三門) อยู่ด้านหน้า ถัดไปก็จะเป็นสวนสารธารณะ Maruyama (円山公園) ซึ่งสวนนี้นั้น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีต้นซากุระบานสะพรั่งสวยงามเป็นอีกที่ชมซากุระโด่งดังอีกที่หนึ่ง พอผ่านสวนสารณะไปก็จะไปโผล่ที่ศาลเจ้ายาซากะ (八坂神社) แล้วก็ย่านถนนช็อปปิ้งชิโจ (四条通り) ตามลำดับ

ภาพต้นชิดาเระซากุระตอนบานเต็มที่ที่สวน Maruyama  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเกียวโตในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

Ｈ：มาถึงย่านกิออนแล้ว! ตื่นเต้นจังๆ

Ｋ：อยากไปที่ไหนมั้ย？

Ｈ：มีสิ！ อยากไปร้านสึจิริ (都路里) ที่ดังเรื่องชาเขียวมัทฉะ ร้านโยจิยะ(よーじや) ที่ดังเรื่องกระดาษซับมัน แล้วก็ร้านข้าวหน้าเทมปุระ เทนชู(天周) น่ะ

Ｋ：โห หาข้อมูลมาดีเลยนะเนี่ย！

Ｈ：แน่นอนอยู่แล้ว！
 

Ｋ：ที่ย่านชิโจเนี่ยมีร้านเต็มไปหมดเลยเนอะ อยากเข้าทุกร้านเลย

Ｈ：อ๋า ร้านโยจิยะนี่นา！ เข้าไปกันๆ！ จะซื้อกระดาษซับมันไปฝากคนอื่น

Ｈ：เอ๊ะ! นั่นมัน ร้านชาเขียวมัทฉะชื่อดัง สึจิริ นี่นา

Ｋ：จริงด้วย！แม่ฉันน่ะชอบชาเขียวมัทฉะมากๆ เลย ต้องซื้อไปฝากแม่ซะแล้ว

Ｈ：ชั้นสองจะเป็นห้องทานชาสึจิริ (茶寮都路里) นะ！ แต่ว่าพวกเราก็เพิ่งทานมาอิ่มๆ ให้ทานเพิ่มคงไม่ไหวแน่เลย น่าเสียดายจัง

Ｋ：จริงด้วย！ งั้นแค่ซื้อชาเขียวกลับไปเป็นของฝากก็พอแล้วละกัน！

Ｈ：ช่าย

Ｋ：ไปแวะดูแม่น้ำ กิออนชิราคาว่า (祇園白川) กับสะพาน Tatsumi-hashi (巽橋) ด้วยละกัน

Ｈ：เดี๋ยวก่อน！นั่นมันไปรษณีย์นี่！

Ｋ：ว้าย น่ารักจัง！ถ่ายรูปกันๆ

Ｈ：ตรงนี้คือแม่น้ำกิออนชิราคาว่าหรือนี่ วิวตรงนี้สวยน่าดูเลยนะ！

Ｋ：ล้อมรอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างสมัยโบราณประจำเกียวโต เป็นบรรยากาศที่ดีจังเลยนะ

Ｈ：ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ริมแม่น้ำจะมีซากุระบานสะพรั่งเลยนะ แค่คิดจินตนาการดูแล้วก็คงสวยน่าดูเลย

Ｋ：พอข้ามสะพาน Tatsumi-hashi ไปแล้ว ตึกข้างทางเดินจะเป็นบ้านสมัยเกียวโตโบราณทั้งนั้นเลย รู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคเลยนะเนี่ย

Ｈ：จริงด้วยนะ สัมผัสได้ถึง "ความเป็นญี่ปุ่น" ของที่นี่เลย

Ｋ：ดูสิ มีคนที่ใส่ชุดกิโมโนแต่งงาน ถ่ายรูปอยู่ด้วยแหละ

Ｈ：ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับถ่ายรูปงานแต่งงานด้วยนะ จะบอกให้

Ｋ：งั้นหรือนี่！

Ｋ：อีกแป๊บนึงก็จะถึงเวลารวมพลแล้ว ค่อยๆ เดินกลับกันเถอะ

Ｈ：ได้เลย！ งั้นกลับทางเดิมกัน จะได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นไปด้วย แล้วก็แวะเข้าตรอกซอยเส้นทางชมดอกซากุระด้วยละกัน！

Ｈ：นี่ๆ ดูป้ายนี้สิ

Ｋ：ภาพวาดธรรมดาๆ แต่ว่าอธิบายได้เข้าใจง่ายเลยนะเนี่ย

Ｈ：จริงด้วย งั้นระวังอย่าทำผิดกฎกัน！

Ｈ：ชอบทิวทัศน์ตัวเมืองตรงนี้มากเลย！ไม่มีตึกสูงให้ความรู้สึกเหมือนยุคโบราณ วิวก็สวยสุดยอดไปเลย

Ｋ：อยากจะอยู่ที่นี่เลยอะ ไม่อยากกลับแล้ว！

Ｈ：จะอยู่ก็ได้นะ อ๊ะ! ต้องรีบกลับไปที่บัสแล้วนะ!

Ｋ：จริงด้วยๆ！

Ｈ：งั้นก่อนจะออกเดินทาง ถ่ายรูปที่ระลึกกัน！

Ｋ：แลนด์มาร์คบนถนนนี้ สวยจังเลยเนอะ

Ｈ：จริงด้วยๆถ่ายอย่างนี้ละกัน จะได้เอาอัพขึ้นโซเชียลได้

Ｋ：ถ่ายแล้วก็อัพทันทีเลย！จะได้เอาไปอวดเพื่อนที่ไม่ได้มา อิอิ

 

Ｈ：อ๋า สนุกจังเลย！แค่วันเดียวแต่ได้ไปชมหลายที่เลยนะเนี่ย

Ｋ：รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเลยแหละ แค่วันเดียวได้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเยอะขนาดนี้นี่ อิ่มเอิบใจจริงๆ เลย！

H: ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่ขากลับก็นั่งรถบัสกลับโอซาก้า ฉะนั้นมีเวลาให้หลับพักผ่อนด้วยนะ ทัวร์รถบัสเนี่ยสบายจริงๆ เลย
 

 

 

ความประทับใจจากที่ได้ไปร่วมทัวร์

Ｋ：ก่อนหน้านี้ก็เคยไปเที่ยวเกียวโตมาหลายครั้งแล้ว แต่ว่าครั้งนี้รู้สึกว่าได้มาเที่ยวแบบประหยัดเวลาประหยัดเรี่ยวแรง และเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพจรงๆ ค่ะ เท่าที่จำได้ ตอนมาเที่ยวเกียวโตครั้งแรกไม่รู้เลยว่าต้องลงป้ายบัสชื่ออะไร หลงทางกันจนเสียเวลาไปพอสมควรเลย พอมาคิดดูตอนนี้แล้ว ถ้าได้สมัครไปทัวร์รถบัสแบบวันนี้ก็คงจะดีนะ ทัวร์ด้วยรถบัสเนี่ยสะดวกจริงๆ เลย แนะนำเลยสำหรับคนที่พักที่โอซาก้าเป็นหลัก เพราะจะได้มาเที่ยวเกียวโตกับนาราครั้งแรกได้อย่างราบรื่น สะดวกสบาย

Ｈ：ตอนที่มาเที่ยวเกียวโตก่อนหน้านี้ ก็ไปแค่วัดคิโยมิสึเดระเท่านั้น แต่ต้องขอบคุณทัวร์รถบัสนี้ทำให้ดิฉันได้ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ที่ไม่เคยไป นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนาราอีกด้วย ถึงแม้จะกลัวๆ ตอนให้อาหารกวางก็เถอะ กวางนี่น่ารักสุดๆ ไปเลย เป็นครั้งแรกที่ได้มาสัมผัสประสบการณ์เมืองสมัยโบราณที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันของทั้งสองเมือง คุ้มค่าจริงๆ เลยค่ะ

จองได้เลยที่นี่!: ทัวร์เที่ยวรถบัสแบบวันเดียวกลับไป เกียวโต & นารา ≪จากโอซาก้า≫

วันให้บริการ：วันนี้ ～ 28 ธันวาคม 2018　※จัดทัวร์ทุกวันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์

ค่าใช้จ่าย：6000 เยน

※ค่าใช้จ่ายข้างต้นยังไม่รวมค่าอาหารกลางวัน ค่าเข้าชมอุโบสถศาลเจ้าเฮอันจิงกู และวัดโทไดจิ

สถานที่รวมพล（เวลารวมพล）：

1. West Umeda Bus Station  ใกล้สถานี Osaka หรือ Umeda（เวลารวมพล  8:20 น.）

2. Namba Parks  ใกล้สถานี Namba（เวลารวมพล：8:50 น.）

*ทัวร์นี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว

 

ทัวร์นี้จะให้บริการแม้ว่าวันนั้นจะมีผู้สมัครมาเพียงหนึ่งท่านเท่านั้นก็ตาม หากท่านสนใจอยากร่วมไปทัวร์นี้ด้วยล่ะก็ รีบทำการจองผ่านเว็บไซต์ข้างต้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ! ณ ตอนนี้ ทัวร์จะให้บริการทุกวันพุธ วันศุกร์ และอาทิตย์ ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2018 นี้เท่านั้น อยากให้ทุกท่านมาร่วมเที่ยวทริปสนุกๆ ไปด้วยกันนะคะ!