สุดยอดคำแนะนำการขึ้น 'ชินคันเซ็น' รถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่น และ Japan Rail Pass สุดคุ้ม !
ชินคันเซ็น (รถไฟหัวกระสุน) เป็นวิธีการเดินทางในญี่ปุ่นที่เรียกได้ว่ารวดเร็วและสะดวกสบายแทบจะที่สุด มาเรียนรู้ว่าชินคันเซ็นคืออะไร รวมถึงวิธีการซื้อตั๋ว และเคล็ดลับอื่นๆ แล้วขึ้นชินคันเซ็นไปเที่ยวรอบญี่ปุ่นกันนะคะ !
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ชินคันเซ็นคืออะไร
อธิบายคร่าวๆ
ชินคันเซ็น (รถไฟหัวกระสุน) เป็นชื่อของรถไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่น ให้บริการโดยบริษัท JR (Japan Railways) ชินคันเซ็นขบวนแรกเปิดตัวในปี 1964 เมื่อโตเกียวจัดการแข่งขันโอลิมปิก ชินคันเซ็นเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความปลอดภัยและความตรงต่อเวลา ตั้งแต่เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี 1964 อุบัติเหตุใหญ่ที่เกิดแทบจะเรียกได้ว่าเป็นศูนย์ ถึงจะวิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 200 กม./ชม. แต่ขบวนรถก็มักจะถึงและออกจากสถานีอย่างตรงเวลาเสมอ !
สายและประเภทของชินคันเซ็น
ชินคันเซ็นมีอยู่หลายสายค่ะ ได้แก่ ฮอกไกโด ชินคันเซ็น (เขียวอ่อน) โทโฮคุ ชินคันเซ็น (เขียว) โจเอ็ตสึ ชินคันเซ็น (เขียวเข้ม) โทไกโด ชินคันเซ็น (สีน้ำเงิน) โฮกูริกุ ชินคันเซ็น (สีน้ำตาล) ซันโย ชินคันเซ็น (สีคราม) และคิวชู ชินคันเซ็น (สีแดง) แล้วก็ยังมีหลายประเภทอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น โทไกโด ชินคันเซ็นและซันโย ชินคันเซ็นมีสามประเภท ได้แก่ Nozomi, Hikari และ Kodama รูปภาพที่อยู่ด้านล่างคือ Nozomi ค่ะ
ซื้อตั๋ว!
ซื้อตั๋วได้ที่ไหน
สถานี JR จะมีห้องตั๋วเรียกว่า Midori no Madoguchi (みどりの窓口) อยู่ค่ะ คุณสามารถไปซื้อตั๋วได้ที่นั่น และยังมีเว็บไซต์ให้คุณเข้าไปดูได้อีกด้วยที่ www.jreast.co.jp
ระบบตั๋ว
ระบบตั๋วของชินคันเซ็นนั้นค่อนข้างซับซ้อนเล็กน้อย ตั๋วสองใบ ได้แก่ ตั๋วราคาปกติและตั๋วราคารถไฟด่วนเป็นสิ่งที่จำเป็นในการใช้บริการชินคันเซ็นค่ะ ตั๋วราคาปกตินั้นจำเป็นสำหรับการขึ้นรถไฟทุกรูปแบบ และตั๋วราคารถไฟด่วนเป็นตั๋วที่ต้องมีเพิ่มเติมสำหรับใช้ขึ้นชินคันเซ็น แต่ก็มีกรณีที่ตั๋วทั้งสองแบบรวมอยู่ในใบเดียวกันด้วยเหมือนกันค่ะ
การจะขึ้นรถไฟ คุณจะต้องผ่านประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติของชินคันเซ็น โดยจะต้องสอดตั๋วสองใบเข้าไปด้วยกันตอนที่ผ่านประตู ตั๋วจะถูกแสตมป์และคืนจากประตูตรวจตั๋วโดยอัตโนมัติมาในตอนท้าย ฉะนั้น อย่าลืมหยิบมาด้วยนะคะ ! บางครั้งพนักงานของ JR ก็จะเดินไปรอบๆ และคอยตรวจตั๋วระหว่างการเดินทางค่ะ
ที่นั่งของชินคันเซ็นมีทั้งหมดสามแบบด้วยกัน แบบไม่จองที่นั่ง จองที่นั่ง และ green seat (ที่นั่งชั้นหนึ่ง) แบบไม่จองที่นั่งจะราคาถูกที่สุด แต่แนะนำให้จองแบบจองที่นั่งจะดีกว่า เพราะถ้ามีผู้โดยสารมาก คุณก็อาจจะไม่สามารถหาที่นั่งได้และจะต้องแยกกันนั่ง ช่วงฤดูท่องเที่ยวนั้นถึงขั้นเป็นไปได้ว่าคุณจะต้องยืนไปตลอดการเดินทางเลยทีเดียว นอกจากนี้ถ้าคุณอยากสนุกไปกับการเดินทางสุดหรู ขอแนะนำให้ซื้อตั๋ว green seat เลยค่ะ ราคาจะแพงกว่าตั๋วแบบจองที่นั่งมาก แต่ก็ได้การเดินทางที่สะดวกสบายมากกว่ากันค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม เข้าไปดูได้ที่ www.jreast.co.jp
วิธีการเลือกที่นั่งและใช้เวลาอยู่ในตู้รถไฟชินคันเซ็น
การจัดเรียงตู้รถไฟแบบไม่จองที่นั่งกับจองที่นั่งนั้นแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของชินคันเซ็นค่ะ รถไฟชินคันเซ็นส่วนใหญ่จะมีตู้รถแบบไม่จองที่นั่งอยู่ที่ตู้หมายเลข 1 ถึงหมายเลข 3 แต่บางขบวนก็จะอยู่ที่ตู้หมายเลข 1 ถึงหมายเลข 5 และบางขบวนก็มีมากกว่านั้นค่ะ
ถ้าคุณต้องการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องเสียบสายชาร์จ พยายามเลือกที่นั่งริมหน้าต่างนะคะ บนชินคันเซ็นส่วนใหญ่ ปลั๊กจะมีอยู่แค่ตรงหน้าต่างเท่านั้น ชินคันเซ็นบางขบวนจะมี Wi-Fi ด้วย แต่ความสามารถในการติดต่อสื่อสารจะยังคงช้าอยู่ ไม่ควรคาดหวังมากเกินไปค่ะ ที่สถานีชินคันเซ็นบางแห่งเองก็มี Wi-Fi สำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ มี JR-Central_FREE, JR-EAST_FREE_Wi-Fi และ JR-WEST_FREE_Wi-Fi ให้ใช้ โดยคุณต้องลงทะเบียนโดยใช้อีเมล บางที่จะมีห้องสูบบุหรี่หรือที่เขี่ยบุหรี่ไว้ให้ ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในห้องน้ำนะคะ
Japan Rail Pass
สำหรับคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นจากต่างประเทศ Japan Rail Pass คือความสะดวกสบายและประหยัดมากๆ คุณสามารถขึ้นรถไฟ JR ทั้งหมดรวมไปถึงรถไฟธรรมดา ชินคันเซ็นและรถไฟพิเศษอื่นๆ ได้ด้วย Japan Rail Pass ใบเดียวใบนี้ แถมราคายังสมเหตุสมผลด้วย แบบ 7 วัน 29,110 เยน แบบ 14 วัน 49,390 เยน และแบบ 21 วัน 59,350 เยน คุณสามารถซื้อ Japan Rail Pass ออนไลน์ได้ แต่จะสามารถซื้อได้จากนอกญี่ปุ่นเท่านั้นค่ะ
เว็บไซต์ Japan Rail Pass: www.japan-rail-pass.com
ดูเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลย ! : สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ JR Pass ระหว่างเดินทางในญี่ปุ่น
บริการอื่นๆ ของชินคันเซ็น
เอกิเบน
เอกิเบน (駅弁) คือกล่องอาหารกลางวันสำหรับทานในไฟ มีวางขายที่สถานีรถไฟ บางสถานีใหญ่ๆ จะใช้วัตถุดิบพิเศษของภูมิภาคมาทำเอกิเบน อย่างที่สถานีซัปโปโรในฮอกไกโดนั้นขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดๆ เอกิเบนจึงมีแซลมอนด้วย คุณสามารถซื้อเอกิเบนบนชินคันเซ็นระหว่างการเดินทางได้เช่นเดียวกับที่ซื้อในสถานี ลองไปที่สถานีเช้าขึ้นหน่อยแล้วสนุกไปกับการเลือกซื้อเอกิเบนกันดูนะคะ !
ห้องน้ำ ถังขยะ ที่เก็บกระเป๋า
ห้องน้ำ ถังขยะและที่เก็บกระเป๋ามีให้บริการอยู่ที่ส่วนหน้าและหลังของตู้รถไฟชินคันเซ็น ที่เก็บกระเป๋ามีไว้สำหรับกระเป๋าใบใหญ่ๆ อย่างเช่น สกี สโนว์บอร์ดและเซิร์ฟบอร์ด ส่วนชั้นวางกระเป๋านั้นมีอยู่ด้านบนของทุกที่นั่งค่ะ
ภาคผนวก: หมุนที่นั่ง!
ที่นั่งบนชินคันเซ็นถูกออกแบบมาให้หมุนเพื่อที่คุณและกลุ่มเพื่อนจะได้สนุกไปกับการเดินทาง ระวังอย่าให้เสียงดังจนเกินไปนักนะคะเพราะว่ามีผู้โดยสารคนอื่นอยู่ด้วย หวังว่าคุณจะสนุกไปกับการเดินทางในญี่ปุ่นบนชินคันเซ็นค่ะ!
ภาคผนวก 2: Doctor Yellow
ชินคันเซ็นสีเหลืองขบวนนี้เป็นรถไฟพิเศษสำหรับตรวจสอบรางที่ผิดปกติ มีระบบสายไฟอยู่ด้านบนและให้สัญญาณปัจจุบันของชินคันเซ็น เป็นฮีโร่ที่ไม่มีชื่อเสียงซึ่งช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยของชินคันเซ็นแบบเงียบๆ และมีชื่อเล่นว่า "Doctor Yellow" ค่ะ
Doctor Yellow จะวิ่งแค่ทุกๆ สิบวันเท่านั้นและตารางเดินรถก็ไม่เปิดเผยสู่สาธารณะด้วย ว่ากันว่าคุณจะมีความสุขถ้าโชคดีพอที่จะได้เห็น Doctor Yellow ลองเสี่ยงโชคด้วยการมองหาชินคันเซ็นสีเหลืองระหว่างการเดินทางดูสิคะ !
บทความที่เกี่ยวข้อง :
3 ความลับเบื้องหลังความมหัศจรรย์ของชินคันเซ็น (รถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่น)
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่
เกี่ยวกับนักเขียน
