พูดถึง “ฤดูหนาว” คนญี่ปุ่นนึกถึงอะไร? หน้าหนาวแล้วกินอะไร ทำอะไร ใช้ของแบบไหนกันนะ?
ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นก็เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว หลายๆ คนพอพูดถึงฤดูหนาวอาจจะนึกถึงภาพท้องฟ้าขมุกขมัว อากาศหนาวๆ ที่ทำให้ไม่อยากจะอยู่ข้างนอกนานๆ แต่จริงๆ แล้วฤดูหนาวในญี่ปุ่นมีของกินอร่อยๆ มีกิจกรรมให้ทำมากกว่าที่คิด และยังมีวิธีคลายหนาวหลายๆ วิธีด้วย ใครอยากรู้ว่าในฤดูหนาวคนญี่ปุ่นเขาคิดถึงอะไร กินอะไร และทำอะไรกันบ้าง ตามไปดูในบทความนี้กันได้เลยค่ะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
อาหารคลายหนาว ของกินประจำเทศกาล และผลไม้ประจำฤดู
เช่นเดียวกับฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาวเองก็มีของกินประจำฤดูเช่นกัน ในฤดูหนาวชาวญี่ปุ่นจะนิยมรับประทานอาหารร้อนๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นและไม่เป็นหวัดง่าย จะเป็นอาหารประเภทไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย!
1. หม้อไฟ หรือ นาเบะ (鍋)
เริ่มกันที่นาเบะ หรือหม้อไฟ อาหารยอดนิยมในฤดูหนาวของชาวญี่ปุ่น จากผลสำรวจที่สอบถามความคิดเห็นของชาวญี่ปุ่นกว่าพันคนโดยเว็บ Jalan (เว็บไซต์ท่องเที่ยวภายในญี่ปุ่น) พบว่านาเบะเป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นอยากรับประทานในฤดูหนาวมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียว
นาเบะ หมายถึง อาหารประเภทต้มที่เสิร์ฟในหม้อระหว่างต้มเลย ไม่ได้ตักอาหารใส่ถ้วยก่อนแล้วค่อยนำขึ้นโต๊ะอย่างน้ำซุปหรืออาหารที่นำไปต้มประเภทอื่น ดังนั้นหลายคนที่กำลังสงสัยว่านาเบะนั้นต่างกับสุกี้ยากี้และชาบูชาบูอย่างไร ก็ขอตอบว่าไม่ต่าง แต่สุกี้ยากี้และชาบูชาบูเป็นหนึ่งในอาหารประเภทนาเบะนั่นเองค่ะ
สาเหตุที่นาเบะเป็นที่นิยมในฤดูหนาวก็เพราะว่านอกจากจะทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้ว ยังทำกินเองที่บ้านได้ง่ายๆ อีกด้วย และด้วยความที่ทำได้ง่ายและเป็นอาหารที่มีลักษณะเป็นหม้อนี่แหละก็ทำให้ทุกคนในครอบครัวหรือแก๊งเพื่อนๆ สามารถมานั่งรับประทานร่วมกันได้ ทานแล้วไม่ได้อุ่นกายเพียงอย่างเดียว แต่ยังอุ่นใจจากสายสัมพันธ์ที่ได้จากการมาทำกิจกรรมร่วมกันอีก จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นาเบะจะครองอันดับหนึ่งในใจของคนญี่ปุ่นไปได้อย่างง่ายดาย
2. โอเด้ง (おでん)
ถ้าพูดถึงอาหารประจำฤดูหนาวของคนญี่ปุ่น จะไม่พูดถึงโอเด้งเลยก็คงไม่ได้ เพราะพอเข้าฤดูหนาวทีไร เจ้าโอเด้งนี้ก็จะมายึดพื้นที่หน้าเคาเตอร์จ่ายเงินในร้านสะดวกซื้อไปทันที ด้วยราคาที่ถูกและหาซื้อได้ง่ายทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
โอเด้ง เป็นอาหารที่นำไปต้มในน้ำซุปที่ปรุงรส โดยวัตถุดิบยอดนิยมก็จะมีหลายอย่าง เช่น หัวไชเท้า ไข่ต้ม เต้าหู้ทอด ชิคุวะ (เนื้อสัมผัสคล้ายลูกชิ้นมีลักษณะเป็นแท่ง) คินจาคุ (โมจิที่ห่อด้วยเต้าหู้ทอดบางๆ ทำเป็นรูปร่างคล้ายถุงใส่เงิน) และอื่นๆ ส่วนใหญ่จะรับประทานคู่กับคาราชิ มัสตาร์ดแบบญี่ปุ่น หรือพริกไทยยูซุโคโชที่มีรสเผ็ดนิดๆ
โอเด้งเป็นอาหารที่รับประทานกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ จะเรียกเป็นฟาสต์ฟู้ดสมัยโบราณเลยก็ว่าได้ น้ำซุปและอาหารต้มร้อนๆ แบบนี้กินตอนหน้าหนาวแล้วทั้งอร่อยแล้วก็ทำให้ร่างกายอบอุ่นด้วย ไม่แปลกใจเลยที่โอเด้งจะเป็นขวัญใจชาวญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
3. โมจิ (もち)
หนึ่งในเทศกาลสำคัญช่วงหน้าหนาวคือเทศกาลปีใหม่ค่ะ และในเทศกาลนี้คนญี่ปุ่นก็จะนิยมรับประทานโมจิกัน หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า เอ...ทำไมขึ้นปีใหม่แล้วต้องกินโมจิด้วยนะ สาเหตุของการกินโมจิในช่วงปีใหม่นี้ต้องย้อนกลับไปถึงสมัยเฮอันเลยค่ะ
ในสมัยเฮอันจะมีพิธีที่เรียกว่า “ฮากาตาเมะ (歯固め)” พิธีนี้เป็นพิธีที่จะรับประทานของที่เคี้ยวยากๆ โดยมีความเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายแข็งแรงนั่นเอง โมจิเองก็เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมในพิธีนี้ และรับประทานต่อกันมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันค่ะ
นอกจากนี้โมจิยังสามารถยืดได้ยาวและตัดให้ขาดได้ยาก การกินโมจิในวันปีใหม่จึงมีความหมายแฝงในการขอให้มีอายุที่ยืนยาวด้วยนั่นเอง
แต่การรับประทานโมจิก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะคะ เพราะว่าเป็นของที่เคี้ยวและกลืนยากทำให้มีผู้เสียชีวิตจากอาการสำลักโมจิที่รับประทานในวันปีใหม่จำนวนไม่น้อยทีเดียว โดยส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุค่ะ ดังนั้นก่อนทานอาจตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อน และควรรับประทานด้วยความระมัดระวังนะคะ
4. สตอเบอรี่ (いちご)
สตอเบอรี่ ถือเป็นหนึ่งในผลไม้ยอดฮิตประจำฤดูหนาวเลยค่ะ พอเข้าเดือนธันวาคมก็จะเริ่มเห็นซุปเปอร์ต่างๆ วางขายสตอเบอร์รี่กันแล้ว แถมปลายเดือนยังมีเทศกาลคริสต์มาสที่คนญี่ปุ่นนิยมประดับเค้กด้วยสตอเบอรี่ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่สตอเบอรี่!
นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาว สวนผลไม้ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มเปิดให้เข้าไปเก็บสตอเบอรี่กันแบบสดๆ อีกด้วย ได้เลือกเก็บสตอเบอรี่พันธุ์ที่ชอบ และยังได้กินตอนสดๆ อีก บอกเลยว่าอร่อยมากค่ะ
การเก็บสตอเบอรี่ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยในฤดูหนาว ทางเว็บ tsunagu Japan ก็เคยพาไปเก็บสตอเบอรี่ที่สวนกันสดๆ เลยด้วย ถ้าใครสนใจสามารถแวะไปอ่านได้ที่บทความนี้ได้เลยค่ะ
สิ่งของในความทรงจำประจำฤดูหนาวของชาวญี่ปุ่น
นอกจากอาหารแล้ว ยังมีสิ่งของหลายๆ อย่างที่ญี่ปุ่นมักจะนึกถึงเมื่อพูดถึงฤดูหนาว จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ
1. โต๊ะโคตัทสึ (こたつ)
เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วไม่พูดถึงโต๊ะโคตัทสึก็คงจะไม่ได้ หลายๆ คนอาจเคยเห็นตามซีรีส์หรือการ์ตูนกันบ้าง
โต๊ะโคตัทสึ หรือโต๊ะอุ่นขา เป็นโต๊ะไม้เตี้ยๆ ที่คลุมด้วยผ้านวม และสามารถให้ความร้อนได้ ปัจจุบันจะใช้พลังงานจากไฟฟ้า โดยพัฒนาขึ้นมาจากโต๊ะโคตัทสึในสมัยอดีตที่นำโต๊ะและผ้ามาวางคลุมบนหลุมที่ขุดไว้จุดไฟกลางบ้าน ซึ่งอาจเกิดอันตรายจากไฟไหม้ได้
โคทัตสึเป็นไอเทมประจำบ้านของหลายๆ ครอบครัวในฤดูหนาวเลย อากาศหนาวๆ นั่งในโต๊ะอุ่นๆ ที่คลุมด้วยผ้านุ่มๆ ได้ลองนั่งลงไปแล้วก็แทบไม่อยากลุกเลยทีเดียว
2. ส.ค.ส. หรือ เน็นกะโจ (年賀状)
เน็นกะโจ คือส.ค.ส.ปีใหม่แบบฉบับของคนญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ คนญี่ปุ่นมักจะส่งเน็นกะโจให้กันในช่วงปีใหม่เพื่อทักทาย ขอบคุณสำหรับปีที่ผ่านมา และเพื่อฝากเนื้อฝากตัวกันในปีถัดไป
เน็นกะโจจะมีความแตกต่างจากส.ค.ส.ปกติที่ไทยอยู่บ้าง โดยที่ไทยเรามักจะได้รับส.ค.ส.ที่เป็นการ์ดซะส่วนใหญ่ แต่ที่ญี่ปุ่นจะนิยมส่งกันเป็นไปรษณียบัตร โดยจะมีความพิเศษต่างไปจากไปรษณียบัตรปกติตรงที่ ไปรษณียบัตรแบบปกตินั้นจะไม่สามารถกำหนดวันที่ที่จะส่งถึงมือผู้รับได้ แต่เน็นกะโจนั้นทางไปรษณีย์จะนำไปส่งให้ที่บ้านของผู้รับในวันปีใหม่เลย
โดยมีข้อแม้ว่าไปรษณียบัตรนั้นจะต้องมีเครื่องหมายที่พิมพ์มาแล้ว หรือจะเขียนเองก็ได้ที่แสดงว่าไปรษณียบัตรใบนั้นเป็นเน็นกะโจ และจะต้องส่งก่อนวันที่ 25 ธันวาคม ถึงจะรับรองได้ว่าถึงในวันที่ 1 มกราคมแน่ๆ
คนญี่ปุ่นส่งเน็นกะโจกันอย่างจริงจังมากทีเดียว โดยเฉลี่ยแล้วจะส่งกันประมาณ 45 ใบต่อคนเลยค่ะ! ดังนั้นถ้าบังเอิญเดินผ่านไปรษณีย์ในช่วงสิ้นปีก็จะเห็นคนถือเน็นกะโจเป็นปึกหนาๆ ไปส่งที่ไปรษณีย์อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ
3. ถุงนำโชค หรือ ฟุคุบุคุโระ (福袋)
อีกหนึ่งไอเทมยอดฮิตประจำเทศกาลปีใหม่ก็หนีไม่พ้นเจ้าฟุคุบุคุโระหรือถุงนำโชคนั่นเอง ฟุคุบุคุโระจะเป็นถุงที่ของภายในจะเป็นปริศนา มีหลายขนาดและราคาให้เลือกซื้อ อารมณ์คล้ายๆ การจับฉลากวันปีใหม่ของบ้านเราค่ะ หลังๆ มานี้ก็มีแบบที่บอกมาเลยว่าของข้างในคืออะไรเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือราคาของที่ได้จะเกินราคาที่จ่ายไป บางทีมากถึง 3-4 เท่าเลยทีเดียว
เจ้าฟุคุบุคุโระส่วนใหญ่จะวางขายตามห้างต่างๆ หรือแบรนด์สินค้าต่างๆ เช่น แบรนด์เสื้อผ้า หรือร้านขนม ร้านกาแฟต่างๆ วางขายเองก็มี และเดี๋ยวนี้ก็มีให้สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตด้วย โดยแบรนด์ที่ฮ็อตฮิตมาก คนอยากได้เยอะก็จะต้องลงชื่อจับฉลากกันล่วงหน้าเลยทีเดียวค่ะว่าใครบ้างที่จะได้สิทธิ์ในการซื้อ เรียกได้ว่าเป็นการจับฉลากในจับฉลากอีกทีนั่นเองค่ะ
กิจกรรมและเทศกาลในฤดูหนาว หนาวแค่ไหนก็ต้องไปให้ได้สักครั้ง!
1. ไลท์อัพ/อิลลูมิเนชั่น (イルミネーション)
พอเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว ตามท้องถนนในญี่ปุ่นก็มักจะถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟต่างๆ เป็นไฟสวยงามธรรมดาบ้างหรือทำเป็นรูปต้นคริสต์มาสให้เข้ากับช่วงเทศกาลบ้าง และไม่ใช่เพียงแค่ตามถนนเท่านั้น บางครั้งก็มีการจัดพื้นที่ขึ้นมาเพื่อแสดงการจัดไฟโดยเฉพาะและเก็บค่าเข้าชมอีกด้วย โดยส่วนใหญ่ก็จะมีความอลังการสมกับค่าเข้าชมที่เก็บไป กิจกรรมนี้เรียกกันว่า อิลลูมิเนชั่น นั่นเองค่ะ
สาเหตุที่คนญี่ปุ่นนิยมจัดแสดงไฟอิลลูมิเนชั่นในฤดูหนาว ก็เพราะในฤดูหนาวมักจะมีช่วงเวลากลางคืนที่ยาวนานกว่า ทำให้ชมแสงไฟได้นานกว่า นอกจากนี้อากาศในญี่ปุ่นจะโปร่งกว่า ทำให้เห็นแสงไฟได้สวยงามและชัดเจนกว่าในฤดูอื่นๆ อีกด้วย ดังนั้น ถ้ามีโอกาสมาญี่ปุ่นในฤดูหนาวห้ามพลาดการชมอิลลูมิเนชั่นกันนะคะ!
2. สกี หรือสโนว์บอร์ด
ถ้าพูดถึงหน้าหนาวก็ต้องนึกถึงหิมะ ถ้าพูดถึงหิมะก็ต้องพูดถึงสกีและสโนว์บอร์ด กีฬาหน้าหนาวยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น พอเข้าหน้าหนาวลานสกีต่างๆ ทั่วประเทศก็จะเริ่มเปิดให้บริการ มีแค่ฤดูหนาวเท่านั้นที่หิมะจะตกมากจนมีความสูงพอที่จะเล่นสกีได้ ดังนั้นถ้าใครชอบเล่นสกีหรืออยากลองเล่นสกีล่ะก็ ต้องหาโอกาสมาญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาวให้ได้แล้วนะคะ
3. ออนเซ็น (温泉)
นอกจากสกีแล้ว การไปแช่น้ำพุร้อน หรือออนเซ็นก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนญี่ปุ่นนิยมทำกันในฤดูหนาว บางคนก็นิยมไปแช่ออนเซ็นหลังจากเล่นสกี เพื่อเป็นการผ่อนคลายร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการเล่นสกีและบรรเทาความหนาวหลังจากอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน แต่ถึงไม่ได้ไปเล่นสกีก็สามารถไปออนเซ็นได้นะ โดยจะไปแบบพักในโรงแรม หรือจะไปแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้ การได้แช่น้ำอุ่นๆ ในอากาศหนาวๆ นั้นเป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกดีมากๆ แถมยังคลายความเหนื่อยล้า รวมไปถึงบำรุงผิวพรรณตามสรรพคุณของน้ำพุร้อนอีกด้วย
ใครที่สงสัยว่าคนญี่ปุ่นเขาแช่ออนเซ็นกันอย่างไรบ้างก็ลองตามไปอ่านในบทความนี้ดูได้เลยค่ะ
4. ฮัตสึโมเดะ (初詣)
เมื่อวันขึ้นปีใหม่มาถึง คนญี่ปุ่นมักจะไปไหว้ศาลเจ้ากันเพื่อขอบคุณสำหรับปีที่ผ่านมา และขอพรให้ปีใหม่เป็นปีที่สงบสุขและปลอดภัย โดยจะเรียกการไปศาลเจ้าครั้งแรกของปีว่า “ฮัตสึโมเดะ (初詣)”
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะนิยมไปไหว้ศาลเจ้ากันในวันที่ 1 - 3 มกราคม เพราะยังเป็นวันหยุด ที่ทำงานหลายๆ ที่ยังไม่เปิด ทำให้หลายๆ คนก็เข้าใจว่าต้องไปภายในไม่กี่วันแรกของปีใหม่ ส่งผลให้ตามศาลเจ้าดังๆ จะมีคนไปไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก และต้องต่อแถวยาวเป็นเวลานานกว่าจะได้เข้าไปไหว้ แต่จริงๆ แล้วฮัตสึโมเดะนั้นเป็นคำที่ใช้เรียกการไปศาลเจ้าครั้งแรกของปีเท่านั้น จะไปวันที่เท่าไหร่ก็ได้
สำหรับปีนี้เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์โควิด19 รุนแรงขึ้น หากใครจะไปฮัตสึโมเดะล่ะก็ รอไปวันที่คนน้อยลงอาจจะดีกว่านะคะ นอกจากประหยัดเวลาได้แล้ว ยังลดความเสี่ยงได้ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย
5. เทศกาลหิมะซัปโปโร (さっぽろ雪まつり)
เทศกาลหิมะซัปโปโรเป็นหนึ่งในงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงประจำฤดูหนาวของญี่ปุ่น โดยงานเทศกาลนี้เป็นงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดฮอกไกโดเลยทีเดียว ในงานจะมีการจัดแสดงรูปปั้นหิมะและน้ำแข็งภายในสวน Odori (大通り公園) ใจกลางเมืองซัปโปโร
งานนี้ปกติจะจัดช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด19ที่รุนแรงในภูมิภาคฮอกไกโดทำให้งานในสถานที่จริงของปี 2021 ถูกยกเลิก โดยเปลี่ยนไปจัดการถ่ายทอดผ่านอินเตอร์เน็ตแทน สำหรับใครที่สนใจสามารถติดตารายละเอียดได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยค่ะ
นอกจากเทศกาลนี้แล้วก็ยังมีเทศกาลประจำฤดูหนาวต่างๆ มากมายที่อลังไม่แพ้กัน ลองไปตามอ่านที่บทความนี้ดูได้เลย
มาทำฤดูหนาวให้อบอุ่นกันเถอะ
สำหรับคนที่อยู่ในญี่ปุ่น ช่วงนี้อากาศหนาวอาจทำให้เป็นหวัดได้ง่ายขึ้น อย่าลืมทำร่างกายให้อบอุ่นกันนะคะ อย่างในบทความนี้ก็ได้แนะนำอาหารอย่างนาเบะไป ว่างๆ อาจจะลองทำรับประทานกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว จะได้ทั้งความอุ่นกายและได้อุ่นใจจากการได้ใช้เวลาร่วมกัน แต่ก็อย่าลืมป้องกันการติดต่อของโรคโควิด19ด้วยการใช้ช้อนกลาง และอย่าลืมใส่มาสก์ตอนคุยกันนะคะ
สำหรับนักท่องเที่ยว อากาศหนาวอาจจะทำให้หลายๆ ไม่อยากรู้สึกออกไปเที่ยว แต่จริงๆ แล้วก็มีหลายๆ กิจกรรมที่ถ้าไม่ใช่หน้าหนาวก็ทำไม่ได้ อย่างการเล่นสกี การไปชมอิลลูมิเนชั่น หรือกิจกรรมที่อากาศหนาวๆ ทำให้รู้สึกดีขึ้นอย่างการแช่ออนเซ็น หน้าหนาวถึงปีนี้จะยังมาเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้เพราะการระบาดของโควิด19 แต่ถ้ามาได้แล้วก็อย่าพลาดที่จะมาสัมผัสเสน่ห์ของฤดูหนาวที่ญี่ปุ่นดูสักครั้งนะคะ
หากใครสนใจในเรื่องราววัฒนธรรมในแต่ละฤดูกาลของคนญี่ปุ่นอย่างในบทความนี้ ขอแนะนำให้ไปลองอ่านบทความของฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ค่ะ!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่