20 ที่เที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุ วิวสวย อาหารเด็ด คนเดียวก็เที่ยวได้!

แน่นอนว่าการไปเที่ยวกับเพื่อนหรือครอบครัวเป็นกลุ่มๆ นั้นครึกครื้นอยู่ไม่น้อย แต่บางครั้งหลายคนก็คงจะมีอารมณ์แบบ "อยากใช้เวลาเป็นส่วนตัวไปไหนมาไหนคนเดียวอย่างอิสระบ้างจัง" ถึงกระนั้นถ้าจะให้ไปคนเดียวจริงๆ ก็กังวลอยู่ไม่น้อย แต่ความกังวลนี้จะหายไป เพราะว่าเราได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวมาเป็นอย่างดีเพื่อคุณใช้เป็นฐานข้อมูลวางแผนท่องเที่ยวที่ "โทโฮคุ" ด้วยตัวคนเดียวอย่างอิสระไร้กังวล ทั้งที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ หรือจะไปเที่ยวช็อปปิ้งก็มีเช่นกัน !

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

เที่ยวโทโฮคุให้เต็มอิ่มก็ต้องที่นี่! แหล่งท่องเที่ยวแนะนำ 10 แห่ง

1. หุบเขาลำธาร Oirasekeiryu (Aomori)

"หุบเขาลำธาร Oirasekeiryu" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) ที่นี่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาชมธรรมชาติอันสวยงามแห่งนี้มากมาย คุณสามารถที่จะดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของที่แห่งนี้ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล และยังเหมาะกับการท่องเที่ยวแบบไม่ต้องมีแผนรัดกุมมากอีกด้วย

หุบเขาลำธาร Oirasekeiryu นี้ยังมีเส้นทางสำหรับเดินเล่นทั้งที่มองเห็นน้ำตก หรือเดินมองกระแสน้ำไหลไปตามลำธารซึ่งใช้เวลาเดินราว 30 นาที สำหรับคนที่ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องพละกำลังเท่าไหร่ก็มีรถจักรยานให้เช่าด้วย อีกอย่างการเดินทางที่นี่ก็สะดวกเพราะถึงแม้ไม่มีรถยนต์ขับก็สามารถนั่งรถบัสจากสนามบินตรงไปได้เลย

2. East Hakkoda Rose Country (Aomori)

คุณสามารถที่จะชื่นชมดอกกุหลาบงามของอาโอโมริได้ที่ "East Hakkoda Rose Country" ช่วงกลางเดือนมิถุนายนไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนั้นเป็นช่วงที่คุณสามารถจะพบกับกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์เบ่งบานชูคออยู่ที่นี่ได้ เรียกได้ว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่เหมาะมากๆ สำหรับสาวๆ ผู้ชื่นชอบความงามของดอกไม้ นอกจากนี้ร้านขายของภายในสวนยังมีกระเช้าดอกกุหลาบสดที่จัดไว้แล้วหรือแม้กระทั่งดอกไม้แห้งสำหรับประดับ และสบู่วางขายในราคาย่อมเยาอีกด้วย

East Hakkoda Rose Country ยังมีของดีอย่าง "ไอศกรีมกุหลาบ" สีชมพูสดเหมาะสำหรับถ่ายรูปสวยไปอวดโซเชียลอีกด้วยนะ การเดินทางนั้นก็สามารถเดินทางโดยรถยนต์จากสถานีพักรถ Shichinohe เพียง 11 นาทีเท่านั้นเอง ถ้าหากไม่มีรถยนต์ก็สามารถใช้รถแท็กซี่แทนได้เช่นกัน ลองไปผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยดอกกุหลาบที่ห้อมล้อมตัวเราก็ดีไม่น้อย

3. พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตา Tsugaru Kokeshikan (Aomori)

ที่ที่คุณจะได้พบกับประสบการณ์การลงสีตุ๊กตา Kokeshi ซึ่งที่ "พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตา Tsugaru Kokeshikan" แห่งนี้คุณจะได้ทัศนศึกษาเที่ยวชมวิธีการทำตุ๊กตา Kokeshi ไปจนถึงช็อปปิ้งร้านของฝากที่รวบรวบตุ๊กตา Kokeshi จากทั่วประเทศมาไว้ที่เดียวอีกด้วย ภาพลักษณ์ของตุ๊กตา Kokeshi อาจจะดูน่ากลัวไปบ้าง แต่ปัจจุบันมีการผลิตออกมาให้มีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเหมาะสำหรับซื้อไปเป็นของฝากด้วยเช่นกัน

ที่ชั้น 2 ของอาคารเป็นบริเวณที่ต้องเสียค่าบริการสำหรับเข้าไปชมตุ๊กตา Kokeshi ที่จัดแสดงเอาไว้รวมกับผลงานศิลป์อื่นๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการจัดอีเวนท์ต่างๆ เปลี่ยนไปตามฤดูกาลอีกด้วย ถ้าจะไปก็ลองเช็คผ่านเว็บไซต์กันดูนะ การเดินทางก็สะดวกโดยนั่งรถบัสเพียง 30 นาทีจากสถานี Kuroishi ถึงแล้วก็สามารถเข้าไปนั่งทำ Kokeshi แบบออริจินัลที่มีตัวเดียวในโลกเป็นของตัวเองได้แล้วล่ะ!

4. หอจัดแสดงโคมไฟ Tachineputa no Yakata (Aomori)

"หอจัดแสดงโคมไฟ Tachineputa no Yakata" เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของอาโอโมริซึ่งคุณจะได้พบกับ Tachineputa (โคมลอยกระดาษ) ความสูง 22 เมตรยืนตระหง่านอยู่ภายใน ตัวสถานที่นั้นตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเดินจากสถานี Goshokawahara เพียง 5 นาที จึงไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางเลย นอกจากนี้ภายในหอจัดแสดงยังมีลิฟท์ให้ใช้งานอีกด้วย เราจึงสามารถที่จะมอง Tachineputa ได้จากหลายๆ มุมมอง หลายๆ ความสูงเลยล่ะ

นอกจากจะมี Tachineputa no Yakata แล้วยังมีที่จัดแสดงภาพศิลป์หรือที่จัดแสดงงานฝีมือที่ชื่อ "Hana Shobu" อีกด้วย ที่ Hana Shobu นั้นคุณจะได้พบกับขนมชื่อดังของ Goshokawahara และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมายตั้งเรียงรายให้เลือกชมเลือกซื้อกัน มาถึงอาโอโมริทั้งทีที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรแวะเข้ามาดูกันนะ สำหรับคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์เทศกาล Nebuta Matsuri ลองไปเยี่ยมเยียนหอจัดแสดงโคมไฟ Tachineputa no Yakata ดูนะ !

5. Ouchijuku (Fukushima)

"Ouchijuku" เป็นจุดท่องเที่ยวที่เสมือนพาคุณย้อนยุคไปยังสมัยเอโดะ โดยที่นี่จะมีอาคารที่เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่มีหลังคาใบจาก ตั้งเรียงรายกันอยู่และเปิดเป็นร้านของฝาก ร้านอาหาร คาเฟ่และอื่นๆ มากมาย  คุณจะได้พบกับบ้านเรือนที่เสมือนยุคเอโดะและของฝากพิเศษที่มีเฉพาะใน Aizu แห่งนี้อีกด้วย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันแสนครึกครื้นและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว

ที่ "Minatogawaya" ใน Ouchijuku นั้นยังสามารถที่จะไปสัมผัสกับวิธีการทำตุ๊กตา Akabeko (ตุ๊กตาท้องถิ่นของฟุคุชิม่า รูปร่างคล้ายวัวสีแดง) หรือตุ๊กตาล้มลุก Okiagari Kohoshi ได้อีกด้วย นอกจากนี้การเดินทางยังสะดวกไปได้ทั้งรถบัสและรถไฟเหมาะสำหรับท่านที่เพิ่งจะเดินทางคนเดียวเป็นครั้งแรกด้วย ไปสนุกสนานเพลิดเพลินกับบรรยากาศล้ำค่าของยุคเอโดะกันดูนะ !

Klook.com

6. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kamo เมือง Tsuruoka (Yamagata)

จุดท่องเที่ยวยอดนิยมประจำจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ก็คือ "พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kamo Aquarium" ที่ซึ่งคุณจะได้พบกับเหล่าแมงกะพรุนที่ลอยตัวอยู่อย่างอิสระคอยปลอบประโลมจิตใจอันเหนื่อยล้าให้ผ่อนคลาย โดยภายในพิพิธภัณฑ์นั้นมีตู้โชว์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตรซึ่งแมงกะพรุนราว 10,000 ตัวแหวกว่ายอยู่ภายในเรียกว่า "Kurage Dream Theatre" ลองไปสัมผัสกับโลกในจินตนาการแห่งนี้กันดูนะ !

ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแมงกระพรุนเท่านั้น แต่ยังมีปลาหลากหลายสายพันธุ์ทั้งจากแม่น้ำและทะเล ไปจนถึงแมวน้ำให้ได้ชมกัน ที่ภายนอกอาคารยังมี "Umineko Spot" สำหรับให้ชมการให้อาหารเจ้าแมวน้ำโดยทีมงานของพิพิธภัณฑ์อีกด้วย หากมีโอกาสได้ไปยามากาตะแล้วล่ะก็ลองไปเยี่ยมเยียนพวกแมงกะพรุนตัวน้อยกันดูนะ !

7. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Sendai Kaleidoscopes Art Museum (Miyagi)

"พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Sendai Kaleidoscopes Art Museum" ที่คุณจะได้จ้องมองโลกแห่งจินตนาการ คุณจะได้พบกับกระจกสลับลายมากมายหลายชนิดที่ถูกนำมาจัดแสดงเอาไว้ให้ชื่นชมความสวยงามจนหลงมนต์เสน่ห์ของมันจนแทบกลับออกมาไม่ได้เลยล่ะ กระจกสลับลายที่นี่นั้นสามารถหยิบขึ้นมาจ้องผ่านเลนส์ก็ได้หรือจะไปทำขึ้นเองที่มุมทำกระจกสลับลายก็ได้ด้วย !

ในการทำกระจกสลับลายนั้นคุณต้องเลือกลูกปัดสีต่างๆ ด้วยตัวเองเพื่อใส่เข้าไปในกระบอกทำให้เป็นกระจกสลับลายแบบที่จะมีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Sendai Kaleidoscopes Art Museum ยังอยู่ตรงปากทางของเมืองน้ำพุร้อนอย่าง "Akiho Onsenkyo" อีกด้วย การเดินทางก็สามารถนั่งรถบัสมาได้ ลองวางแผนมาเที่ยวที่นี่บวกกับพักผ่อนที่เมืองน้ำพุร้อนก็เป็นแผนที่ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ

8. ห้างสรรพสินค้า Sendai Izumi Premium Outlet (Miyagi)

คุณสามารถจะช็อปปิ้งอย่างจุใจกับสินค้าทั้งในและต่างประเทศได้ที่ "ห้างสรรพสินค้า Sendai Izumi Premium Outlet" ที่นี่มีรถบัสรับส่ง (มีค่าบริการ) จากสถานีเซนได (Sendai) อีกด้วย ถึงแม้จะไม่มีรถยนต์ก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย หากต้องการเที่ยวเล่นซื้อของให้เพลินแล้วล่ะก็ไม่ควรพลาดที่นี่ด้วยประการทั้งปวงเลย !

ห้างสรรพสินค้า Sendai Izumi Premium Outlet นั้นวางผังให้เหมือนเมืองแถบตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกาซึ่งทำให้คุณสามารถที่จะเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของห้างพร้อมๆ กับเดินช็อปปิ้งได้ นอกจากนี้ยังมีเทศกาลลดราคาหรืออีเวนท์ต่างๆ จัดขึ้นเป็นช่วงๆ อีกด้วย ลองศึกษาข้อมูลกันดูจากเว็บไซต์นะ หากได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนเซนไดแล้วละก็อย่าลืมแวะมาห้างสรรพสินค้า Sendai Izumi Premium Outlet กันดูนะ !

9. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sendai Umi no Mori Suizokukan (Miyagi)

"พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sendai Umi no Mori Suizokukan" เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่สามารถเดินทางไปได้โดยรถขนส่งสาธารณะ ทำให้สามารถที่จะเพิ่มเข้าไปในแผนท่องเที่ยวได้อย่างไม่ต้องกังวลนัก ภายในพิพิธภัณฑ์นั้นมีการจัดแสดงโดยอิงบรรยากาศของทะเลแถบตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น และทะเลต่างๆ ทั่วโลกให้ได้ชมกันอย่างเต็มอิ่มเลยทีเดียว

ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีสระสัมผัสสัตว์น้ำให้คุณได้สัมผัสกับสัตว์ทะเลตัวเป็นๆ อีกด้วย แถมยังมีโชว์โลมาด้วยนะ ที่ชั้นสองของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sendai Umi no Mori Suizokukan มีการจัดแสดงตู้สัตว์ทะเลราว 100 ตู้ให้คุณได้ชมกันอย่างจุใจอีกด้วย หากมีโอกาสได้มา Sendai ก็อย่าพลาดพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sendai Umi no Mori Suizokukan กันนะ !

10. ถ้ำ Ryusendo (Iwate)

หนึ่งในสามสุดยอดถ้ำหินงอกหินย้อยของญี่ปุ่น "ถ้ำ Ryusendo" ภายในมีทะเลสาบที่ตรงก้นเป็นสีน้ำเงินงดงามแค่ได้เห็นเพียงครั้งเดียวก็จะลืมไม่ลงเลย นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีค้างคาวซึ่งถูกลงทะเบียนเป็นสมบัติทางธรรมชาติของประเทศอีกด้วย ที่นี่จึงเป็นที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับนักผจญภัยมากเลยทีเดียว

ในส่วนของโถงถ้ำ Ryusendo ยังมี "พิพิธภัณฑ์โพรงถ้ำธรรมชาติ" อยู่ภายในโดยสามารถที่จะชมสภาพทางธรรมชาติของการไหลของหยดน้ำที่ทำให้เกิดหินย้อยขึ้นด้วย นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ถ้ำ Ryusendo ยังมีทั้งบ่อน้ำพุร้อน คาเฟ่ และจุดนำเที่ยวถ้ำ Ryusendo ให้สามารถเดินเล่นทอดน่องได้ ลองไปเที่ยวที่ถ้ำ Ryusendo หากผ่านจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ดูสักครั้งนะ !

สุดยอดคาเฟ่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว 5 แห่งที่คัดสรรมาเพื่อคุณ

1. คาเฟ่บ้านโบราณ Fujinoya (Yamagata)

หลังจากเพลิดเพลินกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kamo เมือง Tsuruoka กันแล้วก็ถึงเวลาอาหารกลางวันที่อยากแนะนำให้ไปลอง "คาเฟ่บ้านโบราณ Fujinoya" กันดู ที่ Fujinoya นั้นมีข้าวจากท้องถิ่นของยามากาตะ (Yamagata) พันธุ์ Tsuyahime มาจัดเป็นหลากหลายเมนูให้รับประทานกัน ส่วนของหวานก็เป็นพาร์เฟต์ที่อัดแน่นไปด้วยผลไม้แบบเต็มๆ อีกด้วย

ภายในร้านมีบรรยากาศสงบ สามารถนั่งจิบกาแฟพร้อมชมทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างชัดเจน การเดินทางโดยรถยนต์นั้นใช้เวลาราว 30 นาทีจากพิพิธภัณฑ์ หากใช้บริการสาธารณะล่ะก็ให้ลงรถไฟที่สถานี Fujishima แล้วเดินต่ออีกราว 10 นาทีครับ ไหนๆ ก็ไปกันถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแล้ว ลองแวะมาชิมอาหารที่นี่กันดูหน่อยก็ไม่เลวเลยล่ะ

2. Akiusha (Miyagi)

หลังจากไปชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Sendai Kaleidoscopes Art Museum กันเรียบร้อยแล้วก็มาลิ้มรสมื้อกลางวันกันที่ "Akiusha" ที่นี่มีเมนูอาหารกลางวันที่เต็มไปด้วยผักสดที่คุณสุภาพสตรีจะต้องปลาบปลื้มเพราะดีต่อสุขภาพแน่ๆ ที่คาเฟ่แห่งนี้ยังใช้วัตถุดิบปรุงอาหารที่ผลิตในท้องถิ่นและบริเวณใกล้เคียงจึงเหมาะกับสาวๆ ผู้รักสุขภาพอย่างยิ่งเลยล่ะ

ในส่วนของเมนูคาเฟ่นั้นขอแนะนำ Akihosaiseki Chocola และ Akihofu Kuri no Brulee เป็นของหวานหลัก ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็เหมาะสำหรับรับประทานคู่กับกาแฟทั้งนั้น จึงเป็นของหวานหลังอาหารที่ไม่ควรจะพลาดอย่างยิ่งเลยทีเดียว หากมีโอกาสได้ไปพิพิธภัณ์ฑ์กระจกสลับลายก็อย่าลืมแวะมาลองชิมคาเฟ่นี้กันดูนะ

3. SUGAR (Miyagi)

หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sendai Umi no Mori Suizokukan ก็ควรจะใช้โอกาสนี้แวะไปสัมผัสความน่ารักของคาเฟ่ "SUGAR"  ที่คาเฟ่แห่งนี้ใช้เวลาเดินจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแค่เพียง 20 นาทีเท่านั้น การตกแต่งร้านภายนอกก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูทำให้มีสาวๆ แวะเวียนมาเป็นลูกค้าอยู่เสมอ เค้กที่นี่ก็ตกแต่งเสียจนน่ารักจนหลายๆ คนมุ่งหน้ามาเป็นลูกค้าเพื่อถ่ายรูปไปอวดกันเลยทีเดียว

ภายในร้านเองก็ตกแต่งให้เป็นสีพาสเทลเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชอบความน่ารัก ยิ่งของหวานต้องบอกเลยว่าทำมาเพื่อเป็นขวัญใจช่างภาพโดยเฉพาะ ถ้ามีโอกาสแนะนำให้ไปที่นี่กันให้ได้เลยนะครับ หากได้แวะเวียนมาแถบ Sendai ก็อย่าลืมแวะมาชิมเค้กน่ารักๆ ของ SUGAR กันดูนะ

Klook.com

4. Lindt Chocolate Cafe สาขา Sendai Izumi Premium Outlet (Miyagi)

"Lindt Chocolate Cafe สาขา Sendai Izumi Premium Outlet" เป็นคาเฟ่ที่วางขายแบรนด์ช็อคโกแลตชื่อดัง โดยมีช็อคโกแลตคุณภาพสูงมาจัดทำเป็นเมนูต่างๆ ให้ลูกค้าได้สั่งรับประทานกัน นอกจากช็อคโกแลตแล้วยังมีเครื่องดื่ม ขนมเค้ก ซอฟท์ครีมและของหวานอื่นๆ ให้บริการอีกด้วย

ในส่วนของเมนูประจำฤดูกาลนั้นจะเป็นการจัดหาวัตถุดิบตามฤดูกาลมาทำเป็นเมนูต่างๆ ซึ่งทำให้เราสามารถที่จะลิ้มรสของอร่อยได้ตามแต่ละฤดูอีกด้วย ที่เป็นที่นิยมกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นซอฟท์ครีมและเครื่องดื่มช็อคโกแลตต่างๆ ซึ่งการจัดเรียงนั้นสวยงามถ่ายรูปออกมาก็ดูดีทีเดียว สำหรับสาวๆ สายอินสตาแกรมแล้วล่ะก็ถ้ามีโอกาสไปเอาท์เล็ตที่นี่แล้วไม่ควรจะพลาดด้วยประการทั้งปวง !

5. Ouchijuku Bunke Tamaya (Fukushima)

ร้าน "Ouchijuku Bunke Tamaya" เป็นคาเฟ่ที่บริหารงานโดย Ouchijuku แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมประจำจังหวัดฟุคุชิม่า โดยมีเฟอร์นิเจอร์วัสดุไม้สัมผัสอบอุ่นเหมือนบ้านเรือนสมัยเก่าๆ แถมยังมีขนมทำเองไว้รับประทานคู่กับกาแฟให้บริการอีกด้วย นอกจากนี้ทางเจ้าของร้านยังพิถิพิถันอย่างยิ่งในการคัดสรรวัตถุดิบสำหรับทำขนมหวานที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวนั้นได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าหลังจากรับประทานแล้วกลับออกไป

เมนูต่างๆ มักใช้ผลไม้ประจำฤดูกาลซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องความอร่อย นอกจากนี้ขนมหวานที่ทำขึ้นที่นี่ยังมีวางจำหน่ายผ่านอินเตอร์เน็ตอีกด้วย แม้จะเที่ยวเสร็จจนกลับถึงบ้านแล้วก็ยังสามารถย้อนกลับมาสั่งของจาก Ouchijuku Bunke Tamaya กลับไปรับประทานต่อได้ ถ้ามีโอกาสแวะเวียนมาที่ Ouchijuku แล้วล่ะก็อย่าลืมนึกถึงที่นี่กันนะ !

ร้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คัดสรรมาอย่างดี ที่อยากให้คุณได้ไปลิ้มลอง 5 แห่ง

1. Oki Masamune Butique (Yamagata)

"Oki Masamune Butique" เป็นสถานที่ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากวัตถุดิบภายในจังหวัดยามากาตะ โดยเป็นร้านที่เปิดขึ้นในวันที่ 1 เมษายน 2019 ที่นี่ให้ความพิถีพิถันกับเครื่องดื่มมากโดยเฉพาะเหล้าสาเกญี่ปุ่นและไวน์จากบริษัทในเครือซึ่งวางจำหน่ายอยู่ภายในร้าน นอกจากนี้ยังสามารถจองล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของร้านเพื่อทำการเข้าทัศนศึกษาโรงผลิตสุราซึ่งคุณจะได้รับของฝากเล็กๆ น้อยๆ ติดมือกลับบ้านอีกด้วย

Oki Masamune Butique นั้นผลิตเหล้าสาเกที่เข้ากันกับอาหารทุกชนิด จึงทำให้ไม่ว่าจะนำไปดื่มคู่กับเมนูอะไรก็อร่อย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีชีสและช็อคโกแลตวางจำหน่ายเหมาะสำหรับซื้อไปเป็นของฝากอีกด้วย หากมีโอกาสมายามากาตะก็อยากเชิญให้นักท่องเที่ยวลองแวะกันมาดูนะ

2. โรงผลิตสุรา Osaki Shuzo (Aomori)

โกดังเก็บสุราเพียงแห่งเดียวของ Nishikaigan จังหวัดอาโอโมริ "โรงผลิตสุรา Osaki Shuzo" โดยสุราที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมของที่นี่ก็คือ Andosuigun ซึ่งเป็นหน้าเป็นตาของจังหวัดอาโอโมริเลยก็ว่าได้ การผลิตใช้น้ำจากตาน้ำแถบเทือกเขา Shiragami Sanchi จึงทำให้มีรสชาติอันซาบซ่านสดชื่นไม่เหมือนใคร เหมาะสำหรับนักดื่มที่ชอบรสชาติแบบเบาๆ มากเลยล่ะ

ที่โรงผลิตสุรา Osaki Shuzo นั้นยังแบ่งสุราออกเป็นรสชาติฝาดปานกลางไปจนถึงฝาดมาก นอกจากนี้ยังมีสุรายอดนิยมอีกชนิดซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากนักแสดงชายคุณ Morishige Hizaya ว่า "Kami no Za (บัลลังก์เทพเจ้า)" ครับ สุราชนิดนี้มีกลิ่นอ่อนๆ ดื่มง่ายลื่นคอเป็นจุดเด่นครับ หากมีโอกาสไปเที่ยวอาโอโมริก็อย่าลืมแวะไปชิมรสชาติของเหล้าสาเกญี่ปุ่นชื่อดังกันดูนะ

3. โรงกลั่นเหล้าองุ่น Takahata Winery (Yamagata)

"Takahata Winery" ใช้เวลาเดินจากสถานี JR Takahata เพียง 10 นาทีเท่านั้น ภายในโรงไวน์นั้นสามารถเข้าชมได้อีกด้วย ที่ร้านของ Takahata Winery นอกจากจะมีไวน์แล้วยังมีเบียร์ สุราท้องถิ่น ไปจนถึงเหล้าโชจูและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากชนิดจัดเตรียมเอาไว้เป็นทั้งของฝากและรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้กับตัวเองก่อนกลับบ้านด้วย

ที่ "เมือง Takahata" มีองุ่นคุณภาพสูงสำหรับทำไวน์โดยเฉพาะ ทำให้ Takahata Winery สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ให้ออกมามีรสชาติดีและเป็นที่นิยมกันในหมู่นักดื่มด้วย นอกจากนี้ยังมีไวน์ผลไม้ที่สาวๆ ชื่นชอบอีกด้วยจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักดื่มที่ชอบรสชาติหวานหอมแบบผลไม้ อย่าลืมแวะเวียนมาเยี่ยม Takahata Winery ที่จังหวัดยามากาตะกันนะ

4. โรงผลิตสุรา Suehiro Shuzo Kaeigura (Fukushima)

"โรงผลิตสุรา Suehiro Shuzo Kaeigura" เป็นโรงผลิตสุราที่ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องในการประกวดระดับโลก สุรา Sanpai Junpei Ginjo ที่ผลิตใน Suehiro Shuzo แห่งนี้นั้นถูกนำไปใช้ต้อนรับเหล่าผู้นำที่มาประชุมในการประชุมผู้นำนานาชาติ G20 จนเป็นที่เลื่องลือเลยทีเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองลิ้มรสสุราอันโด่งดังดูสักครั้ง

ที่ Suehiro Shuzo ยังสามารถเข้าชมภายในส่วนการผลิตได้อีกด้วย หากไม่ได้มาเป็นกลุ่มแล้วล่ะก็สามารถเข้าชมได้โดยไม่ต้องจองล่วงหน้าโดยเริ่มให้บริการทัศนศึกษาเป็นรอบตั้งแต่ 9:30 น. เป็นต้นไปโดยมีรอบถัดๆ มาทุก 30 นาที นอกจากนี้การเดินทางยังสะดวกสบายโดยลงรถไฟที่สถานี JR Kaizu Wakamatsu แล้วต่อรถบัส "Haikara" มาลงที่ป้าย Yamatomachi เดินต่ออีกแค่นาทีเดียวก็ถึงแล้ว

5. โรงผลิตสุรา Tsukinowa Shuzo (Iwate)

"โรงผลิตสุรา Tsukinowa Shuzo" เป็นชื่อของร้านและชื่อของสุราที่ได้รับรางวัลเหรียญทองในการประกวด KURA MASTER 2019 ที่ฝรั่งเศส โดยการประกวดนี้เป็นเวทีระดับโลกที่มีสุราจากหลายชาติเข้าร่วม สำหรับสินค้ายอดนิยมอันดับแรกของที่นี่นั้นก็คือสุราตามฤดูกาลที่มีชื่อว่า Tsukinowa Akiagari นอกจากนี้ยังมีการผลิตสุราชนิดอื่นๆ หลากหลายรสชาติซึ่งเหมาะกับความชอบของลูกค้าหลากหลายท่าน ลองเข้าไปชิม เลือกสุราที่ชื่นชอบติดไม้ติดมือกันดูนะ

ในพื้นที่โรงผลิตสุรา Tsukinowa Shuzo นั้นยังมีไอศกรีมผลไม้ยอดนิยมที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากเพราะเป็นไอศกรีมที่ไม่มีการเติมน้ำตาล โดยวางจำหน่ายในชื่อ "Wakasaya Ice-cream Garden" ในรสชาติที่วางขายยังมีรส "หัวเชื้อเหล้าสาเก" ให้ลองชิมด้วย สำหรับคนที่ชื่นชอบของหวานและสุราคงจะพลาดร้านนี้กันไม่ได้แล้วล่ะ !

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ที่เที่ยวสุดเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบฉายเดี่ยวของคุณ !

การไปเยือนที่ที่ไม่รู้จักมันก็ทำให้เป็นกังวลใช่ไหมล่ะ ถึงจะมีทั้งที่ที่การเดินทางไม่ได้สะดวกสบายเท่าไหร่นัก แต่เราอยากให้คนที่ไม่ชอบขับรถก็สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจไร้กังวล ก็เลยรวบรวมมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางโดยขนส่งสาธารณะได้เอาไว้แบบนี้ นอกจากนี้ยังใส่ใจเรื่องสถานที่เที่ยวที่สามารถถ่ายรูปสวยๆ ไปเป็นความทรงจำดีๆ เก็บไว้ด้วย หากจะเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุแบบฉายเดี่ยวล่ะก็อย่าลืมใช้บทความนี้เป็นข้อมูลในการวางแผนนะ !

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก  ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

 


บทความนี้ได้รับอนุญาตให้ทำการแปลและเผยแพร่จาก SPIRA (ในอดีตคือ Relux Magazine)
คุณสามารถจองโรงแรมผ่าน Relux (บริหารจัดการโดย SPIRA) ได้ ที่นี่!!
มนต์เสน่ห์โทโฮคุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

maa001
maa001
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร