แค่เข้าวัดก็รวยได้!รวมศาลเจ้าเพิ่มดวงการเงิน 10 แห่งในโตเกียว
จะเป็นด้านความรัก สุขภาพ การค้าขาย ศาลเจ้าแต่ละแห่งก็มีชื่อเสียงด้านการให้โชคแตกต่างกันไปตามเทพประจำถิ่น ครั้งนี้เราจะมาแนะนำศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงด้านการให้โชคทางการเงินในโตเกียว 10 แห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นท่านที่รู้สึกว่าเสียเงินไปกับการเที่ยวมากไป หรือท่านที่อยากจะเก็บเงินได้มากขึ้นก็ลองแวะไปรับโชคกันดูนะคะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. Toyokawa Inari Tokyo Betsuin (豊川稲荷東京別院)
วัดซึ่งตั้งอยู่ในเมืองธุรกิจอย่างอาคาซากะ (Akasaka) แห่งนี้เป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ ภายในประดับด้วยรูปปั้นจิ้งจอกจำนวนมาก และจุดหมายของเราในครั้งนี้ก็คือศาลเล็กๆ ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ หรือ ยุซุอินาริ (Yuzu Inari) นั่นเอง หลังจากขอพรแล้วก็ให้หยิบซองสีเหลืองที่เขียนว่า 'เงินทองไหลมาเทมา' (融通金) มาใบหนึ่ง ถ้านำซองนี้ใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ ว่ากันว่าจะช่วยเพิ่มโชคด้านการเงินไปถึงหนึ่งปีเลยทีเดียว แต่ก็มีเงื่อนไขคือจะต้องนำซองนี้มาคืนในหนึ่งปีให้หลัง พอกระเป๋าสตางค์ที่เคยเบาหวิวหนักขึ้นแล้วก็กลับมาเยี่ยมเยียนประเทศญี่ปุ่นอีกสักครั้งกันเถอะ
เว็บไซต์: www.toyokawainari-tokyo.jp (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 1-4-7 Motoakasaka, Minato-ku, Tokyo (Google Map)
2. Ohtori Shrine (鷲神社)
LuxTonnerre/Flickrสำหรับท่านที่มีธุรกิจส่วนตัว ศาลเจ้าโอโทริ (Ohtori Shrine) ซึ่งช่วยให้ค้าขายร่ำรวยแห่งนี้ก็เป็นที่หนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ที่อาซากุสะ (Asakusa) และจะมีเทศกาลโทริโนะอิจิ (Tori no Ichi) จัดขึ้น 2-3 ครั้งทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน ในช่วงเทศกาล ภายในและรอบๆ บริเวณศาลเจ้าจะเต็มไปด้วยร้านขายของเล็กใหญ่ที่มาในรูปแบบของรถเข็นไม้ไผ่ที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ซึ่งสำหรับคนญี่ปุ่นแล้วไม้ไผ่จะถือเป็นของมงคลที่รวบรวมโชคลาภเอาไว้นั่นเอง นอกจากนี้เรายังจะมีโอกาสได้เห็นเครื่องรางหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางปลาไทหรือไม้ไผ่ประดับต่างๆ ด้วย! ของที่ราคาถูกที่สุดนั้นอาจจะดูเรียบง่ายไปสักหน่อย แต่ก็ซื้อได้ในราคาประมาณเพียง 1,000 เยนเท่านั้น จะใช้เป็นของฝากเพื่อนๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่หยอก
เว็บไซต์: www.otorisama.or.jp (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 3-18-7 Senzoku, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
3. Konno Hachiman-gu (金王八幡宮)
ศาลเจ้าที่มีคันจิสุดมงคล 'ราชาแห่งเงิน' (金の王) ประกอบอยู่ในชื่อแห่งนี้ตั้งอยู่ในชิบูย่า ณ จุดที่เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทชิบูย่าในสมัยก่อน นอกจากตัวศาลแล้วก็ยังมีกำแพงหินของปราสาทส่วนหนึ่งหลงเหลืออยู่ให้เห็นบ้างประปราย ที่นี่จะมีชื่อเสียงในการช่วยให้ผู้มาเยี่ยมชมประสบความสำเร็จในชีวิต ที่ไฮเดน (บริเวณสำหรับขอพรด้านหน้าศาลเจ้าหลัก) มีรูปปั้นต่างๆ เช่นรูปมังกรสีทองประดับไว้อย่างงดงาม จุดที่ว่ากันว่าให้โชคด้านการเงินเป็นพิเศษคือศาลของทามากิอินาริ (Tamaki Inari) ภายในสวน ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กมากจนเหมือนจะมองข้ามไปได้ง่ายๆ แต่ลองไปขอพรกันดูสักครั้งก็ไม่เสียหายนะคะ
เว็บไซต์: www.geocities.jp (ภาษาอังกฤษ)
เว็บไซต์: www.geocities.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 3-5-12 Shibuya, Shibuya-ku, Tokyo (Google Map)
4. Kaichu Inari Shrine (皆中稲荷神社)
ถึงเราจะพูดถึงโชคลาภรวมๆ กันด้วยคำเพียงคำเดียว แต่จริงๆ วิธีการหาเงินนั้นก็มีหลายแบบ และสำหรับศาลเจ้าไคจูอินาริ (Kaichu Inari) แห่งนี้ วิธีที่จะช่วยนำเงินมาให้ทุกๆ ท่านก็คือการพนันนั่นเอง ! คันจิ "ไคจู" (皆中) ที่ประกอบอยู่ในชื่อนั้นมีความหมายว่า "ทุกคนจะถูก (สลากหรือการเสี่ยงดวงต่างๆ)" แต่เริ่มเดิมทีวลีนี้ใช้เพื่ออวยพรให้ฝีมือการยิงธนูดีขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นให้ชนะการพนันในเวลาต่อมา ภายในเขตศาลเจ้าก็จะมีทั้งถุงเสี่ยงโชคและเครื่องรางเพื่อชัยชนะต่างๆ วางขายอยู่ด้วย
เว็บไซต์: kaichuinari-jinja.or.jp (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 1-11-15 Hyakunincho, Shinjuku-ku, Tokyo (Google Map)
5. Anahachimangu (穴八幡宮)
ศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยเด็กนักเรียนอย่างชินจูกุนั้นปกติแล้วจะเป็นศาลเจ้าทีค่อนข้างเงียบสงบ แต่จะมีช่วงที่คึกคักมากๆ หลังจากขึ้นปีใหม่ไปจนถึงปลายเดือนมกราคม เป้าหมายของผู้มาเยือนก็คือเครื่องราง Ichiyouraifuku (一陽来復 แปลตรงตัวว่า "การกลับมาของแสงอาทิตย์" สื่อถึงการได้รับโชคหรือประสบความสำเร็จหลังจากรอมาเป็นเวลานาน) ถ้าหากนำเครื่องรางนี้ไปแปะไว้ในบ้านในทิศที่กำหนดไว้ ว่ากันว่าในช่วง 1 ปีนับจากนั้นจะไม่ลำบากทางการเงินอีกเลย ทิศทางที่กล่าวถึงนี้จะมีการเปลี่ยนทุกปี และฤกษ์ที่จะติดเครื่องรางได้ก็มีเพียงตอนเที่ยงคืนในวันเหมายัน (วันที่พระอาทิตย์อยู่ทางใต้สุด ราววันที่ 21-22 ธันวาคม) วันสิ้นปี และวันเซ็ตสึบุน (วันสุดท้ายของฤดูหนาวตามปฏิทินญี่ปุ่น โดยทั่วไปเป็นวันที่ 3 หรือ 4 กุมภาพันธ์) เพียงสามวันเท่านั้น ถ้าไปในวันธรรมดาจะสามารถหาซื้อเครื่องรางมาได้โดยไม่ต้องต่อแถวรอนานมากนัก ถ้าหากท่านใดสนใจก็ลองไปตามหากันดูนะคะ
ที่ตั้ง: 2-1-11 Nishiwaseda, Shinjuku-ku, Tokyo (Google Map)
6. Kotohiragu Shrine (金刀比羅宮)
ศาลเจ้าโคโตฮิรากุ (Kotohiragu Shrine) เป็นสาขาแยกของเทพเจ้าชื่อดังแห่งเขตคางาวะ (Kagawa) ที่รู้จักกันดีในชื่อของ "คุณคมปิระ" สัญลักษณ์ของศาลเจ้าเป็นวงกลมที่มีตัวคันจิ "เงิน" (金) เขียนอยู่ภายใน เทพเจ้าท่านนี้ให้พรได้หลากหลายด้าน แต่ด้านที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือโชคลาภกับการค้าขายนี่เอง จะไปแค่ขอพรก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าอยากให้ผลดียิ่งขึ้นไปอีก็ลองแวะไปซื้อเครื่องรางเพิ่มโชคลาภของทางศาลเจ้ามาไว้ติดตัวกันได้ โดยเครื่องรางนี้จะมีขายจำกัดในช่วง 1-10 มกราคมเท่านั้น
เว็บไซต์: www.kotohira.or.jp (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 1-2-7 Toranomon, Minato-ku, Tokyo (Google Map)
7. Koami Shrine (小網神社)
ศาลเจ้าโคอามิ (Koami Shrine) เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ภายในเมืองนิฮงบาชิ (Nihonbashi) ที่นี่เป็นที่สิงสถิตของเทพธิดาเบ็นไซเท็น (Benzaiten) ซึ่งว่ากันว่าเป็นผู้นำพาโชคลาภ สำหรับท่านที่ต้องการเสริมดวงด้านการเงินก็ลองทำ "เซนิอาไร" (Zeniarai แปลตรงตัวว่าการล้างเหรียญเงิน) กันดูนะคะ วิธีทำก็ไม่ยาก เพียงนำเหรียญหรือธนบัตรใส่ในตะแกรงที่วางไว้ข้างรูปปั้น จากนั้นก็ล้างโดยใช้น้ำที่อยู่ด้านหน้า แล้วนำเงินที่ล้างแล้วกลับไปใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์เท่านั้น โดยเงินที่นำไปล้างจะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงทรัพย์เข้ามาหาเรา เพราะฉะนั้นก็ระวังอย่าเผลอนำไปใช้จ่ายเสียก่อนนะคะ
เว็บไซต์: www.koamijinja.or.jp (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 16-23 Nihonbashikoamicho, Chuo-ku, Tokyo (Google Map)
8. Yoyogi Hachimangu Shrine (代々木八幡宮)
ศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยพืชพรรณธรรมชาติจำนวนมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ใกล้กับเขตเมืองอย่างชิบูย่า ที่นี่มีชื่อเสียงมากในด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงานถึงขนาดที่ว่ามีคนดังๆ ในวงการบันเทิงและวงการธุรกิจแวะมาสักการะกันอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว สำหรับท่านที่อยากรวยและประสบความสำเร็จก็เป็นที่หนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยล่ะค่ะ ในที่นี่จะมีงานเทศกาลปลาทองจัดขึ้นทุกปีในวันเสาร์ที่ 4 ของเดือนพฤษภาคม และโคมไฟปลาทองที่วางขายในเทศกาลก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมเสริมดวงการเงินที่มีชื่อไม่น้อย นอกจากนี้ในงานยังมีของหายากต่างๆ อย่างศาลปลาทองจัดแสดงไว้ด้วย ยังไงก็ลองไปเยี่ยมชมกันได้นะคะ
เว็บไซต์: www.yoyogihachimangu.or.jp (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 5-1 Yoyogi, Shibuya-ku, Tokyo (Google Map)
9. Shinobazunoike Bentendo Temple (不忍池辯天堂)
วัดเบ็นเท็นโด (Bentendo Temple) ก็เป็นอีกที่หนึ่งซึ่งมีเทพธิดาเบ็นไซเท็นสถิตอยู่ ด้วยความที่ตัววัดตั้งอยู่ภายในสวนอุเอโนะ จะแวะไปสักการะหลังจากไปเที่ยวสวนสัตว์หรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะก็เป็นความคิดที่ไม่เลว โดยทั่วไปแล้วทางวัดจะไม่ได้เปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมภายในอาคาร แต่ถ้าตั้งใจภาวนาความปรารถนาจะต้องส่งไปถึงท่านเทพเจ้าอย่างแน่นอนค่ะ ในช่วงเดือนกันยายนทางวัดจะมีการจัดเทศกาลมินารุคาเนะ (Minarukane) ซึ่งเป็นเทศกาลใหญ่ประจำปี ภายในงานก็จะมีของเล็กๆ น้อยๆ อย่างกระเป๋าสตางค์นำโชคหรือเหรียญทองคำโคบังวางขายด้วย แต่เนื่องจากเป็นเทศกาลขนาดใหญ่ที่มีผู้คนมาเข้าร่วมค่อนข้างเยอะ ถ้าหากอยากหลบความวุ่นวายก็อาจจะต้องไปถึงงานให้เร็วหน่อยนะคะ
เว็บไซต์: www.geocities.jp (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 2-1 Uenokoen, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
10. Gotokuji Temple (豪徳寺)
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่