รู้ไว้ใช่ว่า ! 10 เรื่องควรรู้ของสถานีโตเกียว

1. จุดชาร์จโทรศัพท์มือถือ

・ จุดนั่งทานอาหาร Fubutsushi (フーブツシ)

คุณสามารถชาร์จโทรศัพท์ได้ที่จุดนั่งทานอาหาร "Fubutsushi" ที่อยู่ใน ecute Tokyo เป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่แม้จะฟังดูไม่แปลกนัก แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ไม่ทราบกัน

・ คาเฟ่

GARDEN HOUSE CAFE

"GARDEN HOUSE CAFE" ตั้งอยู่ใน GRANSTA MARUNOUCHI เนื่องจากภายในร้านมีที่นั่งอยู่ถึง 50 ที่ จึงเหมาะสำหรับเป็นจุดพักผ่อนอย่างมาก

5 CROSSTIES COFFEE

"5 CROSSTIES COFFEE" ตั้งอยู่ใน GRANSTA MARUNOUCHI เป็นร้านที่สามารถเข้าได้ทั้งจากฝั่งนอกประตูตรวจตั๋วและฝั่งในประตูตรวจตั๋ว

※ไม่อนุญาตให้เข้าจากฝั่งหนึ่งและออกไปทางอีกฝั่ง

นอกจากนี้แล้ว ภายใน GRANSTA MARUNOUCHI ก็ยังมีจุดอื่นๆ ที่สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือได้ อาทิเช่น "EATALY (イータリー)", "Boulangerie Asanoya (ブランジェ浅野屋)", และ " Daisy Tokyo (デイジイ東京)" 

2. จุดรับฝากสัมภาระ

สถานที่ที่ให้บริการรับฝากสัมภาระแบบวันต่อวัน ไม่ว่าสัมภาระจะมีขนาดใหญ่แค่ไหนก็มีราคาอยู่ที่ 600 เยนเท่านั้น ภาพด้านบนเป็นภาพของ "GRANSTA Cloak" อยู่ที่ชั้นใต้ดิน 1 บริเวณฝั่งนอกประตูตรวจตั๋ว เป็นที่แสนสะดวกที่นอกจากจะมีบริการส่งของแล้ว ยังสามารถส่งของเย็นๆ หรือของแช่แข็งได้อีกด้วย

นอกจากนี้แล้ว ที่ "JR EAST Travel Service Center" ซึ่งอยู่ในบริเวณฝั่งนอกประตูตรวจตั๋วของชั้น 1 ก็ยังมีบริการรับฝากสัมภาระแบบวันต่อวันอยู่ด้วยเช่นกัน

3. ecbo cloak

ที่สถานีโตเกียว สถานีขนส่งอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบกับสถานการณ์ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญเต็ม และแม้แต่จุดรับฝากสัมภาระเองก็ไม่มีที่ว่าง

ในกรณีดังกล่าว หากได้ทำการจองล่วงหน้าผ่านทาง "ecbo cloak" แล้ว จะสามารถการันตีได้ว่าคุณจะมีที่ให้ฝากสัมภาระอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีความสะดวกเนื่องจากรองรับภาษาอื่นๆ นอกเหนือจากภาษาญี่ปุ่น ซึ่งประกอบไปด้วย ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน และภาษาเกาหลี

4. Locker Concierge (ロッカーコンシェルジュ)

เว็บไซต์แสนสะดวกแสดงสถานะแบบเรียลไทม์ของ Suica Coin Locker ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญที่รองรับบัตร Suica (บัตรรถไฟแบบเติมเงินของบริษัท JR) รองรับการเข้าถึงจากโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังมีภาษาอังกฤษให้เลือก เท่านี้คุณก็ไม่ต้องลากสัมภาระใหญ่ๆ ไปมาเพื่อหาตู้ล็อกเกอร์อีกแล้ว !

5. ตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์

ตั้งอยู่ที่บริเวณประตูตรวจตั๋ว Marunouchi North Exit เป็นตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์ที่มีลายลิมิเต็ดของสถานีโตเกียว เหมาะที่จะเป็นที่ระลึกการเดินทางเป็นอย่างยิ่ง

6. ร้านสะดวกซื้ออันดับหนึ่งของญี่ปุ่น!

"New Days สาขา Tokyo Keiyo Street" ร้านสะดวกซื้อที่ทำรายได้เป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น มีสถิติยอดขายสูงสุดอยู่ที่ 10,000,000 เยนต่อวัน มีคนเข้าใช้บริการในวันธรรมดาประมาณ 10,000 - 12,000 คนต่อวัน รูปในภาพด้านบนนั้นคือชั้นวางโอนิกิริซึ่งมีโอนิกิริวางอยู่กว่า 1,000 ชิ้น! แค่เพียงโอนิกิริอย่างเดียวก็มียอดจำหน่ายถึงประมาณ 5,000 - 6,000 ชิ้นต่อวันแล้ว เรียกด้ว่าเป็นบรรยากาศที่คุณจะได้เห็นที่ร้านสะดวกซื้ออันดับหนึ่งของญี่ปุ่นแห่งนี้เท่านั้น

7. ร้านขนมปังที่ขายได้เฉลี่ย 1 ชิ้นต่อ 1 นาที!

"Tokyo Anpan Mame Ichizu (東京あんぱん 豆一豆)" ตั้งอยู่ภายใน ecute Tokyo เป็นร้านขายอันปัง หรือขนมปังไส้ถั่วโดยเฉพาะ แม้แต่ในญี่ปุ่นเองก็ไม่ค่อยมีร้านแบบนี้ให้เห็นมากนัก

จำนวนสินค้าที่ร้านนี้ขายได้นั้น โดยเฉลี่ยแล้วจะขายออก 1 ชิ้นต่อ 1 นาที (※) ทั้งอร่อยและเหมาะที่จะนำไปเป็นของฝาก โดยได้ครองตำแหน่งของฝากยอดนิยมมาหลายปี ในรูปด้านบนคือ "Tokyo Renga Pan (東京レンガぱん)" หรือขนมปังอิฐโตเกียว เป็นสินค้าที่ถูกทำเลียนแบบให้มีขนาดเท่ากับอิฐสีแดงจริงๆ ของสถานีโตเกียว

※ ผลสำรวจจากเดือนเมษายน 2016 ถึงเดือนมีนาคม 2017

8. กระดิ่งเงิน (銀の鈴)

จุดนัดพบและจุดที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของสถานีโตเกียวคือ "ลานกว้างกระดิ่งเงิน (銀の鈴広場)" ลานกว้างที่มี "กระดิ่งเงิน" ในรูปด้านบน มักถูกใช้เป็นจุดนัดพบ โดยกระดิ่งในปัจจุบันนี้เป็นกระดิ่งรุ่นที่ 4 จึงเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน

9. Tokyo Station Gallery (東京ステーションギャラリー)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่อยู่ภายในอาคารสถานีของสถานีโตเกียว เป็นสถานที่ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์ของสถานีโตเกียว ห้องจัดแสดงมีผนังที่ทำขึ้นจากอิฐ ซึ่งเปรียบได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของสถานีโตเกียว อีกทั้งยังมีการจัดแสดงพิเศษที่จะจัดขึ้นประมาณปีละ 5 ครั้ง หากรู้สึกสนใจแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดที่จะลองเช็คดูอย่างยิ่ง

10. NET de ekinaka (ネットでエキナカ)

บริการจองสินค้ายอดนิยมใน ecute หรือ GRANSTA ผ่านทางอินเตอร์เนต ทำให้คุณสามารถมารับสินค้าได้ที่ร้านที่สั่งจองไว้ได้เลย จึงไม่ต้องห่วงว่าสินค้ายอดนิยมจะขายหมดก่อน อีกทั้งยังไม่ต้องต่อคิวรอซื้อเป็นเวลานานๆ อีกด้วย!

อย่างไรก็ตาม บริการนี้รองรับเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น หากมีเพื่อนที่อยู่ในญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ ลองขอความช่วยเหลือจากเพื่อนดูนะ!