7 ที่พักสุดหรูในเซโตะอุจิ สงบ สบาย ผ่อนคลายสุดๆ! (อัพเดท 2021)
"เซโตะอุจิ" เป็นหนึ่งในสถานที่น่าตื่นตาที่สุดของญี่ปุ่น มีศูนย์กลางอยู่ใน "ทะเลเซโตะใน" ที่ทอดตัวอยู่ระหว่างภูมิภาคชิโกคุและเกาะหลักฮอนชู เซโตะอุจิเป็นที่ตั้งของเกาะจำนวนนับร้อย มีชื่อเสียงเรื่องอากาศอบอุ่น กับประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นผลมาจากภูมิอากาศดังกล่าว ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำที่พักในเซโตะอุจิซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยวและห้องพักโรงแรม ให้คุณได้พักผ่อนแบบส่วนตัวสุดๆ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ที่พักในจังหวัดเฮียวโกะ
จังหวัดเฮียวโกะ (แผนที่) ตั้งอยู่สุดฝั่งตะวันออกของภูมิภาคชูโกคุ และอยู่ทางตะวันตกของโอซาก้าที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น เฮียวโกะหันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่นทางทิศเหนือและทอดตัวไปสู่ทะเลเซโตะในซึ่งอยู่ทางทิศใต้ ส่งผลให้อุณหภูมิในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน อีกทั้งเฮียวโกะยังมีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์สูงและเฟื่องฟูมาแต่โบราณซึ่งฝังรากลึกอยู่แถว "ท่าเรือโกเบ" (Kobe Port) ที่มีชื่อเสียงในฐานะท่าการค้านานาชาติด้วย
ละแวกนี้เต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น "ปราสาทฮิเมจิ" (Himeji Castle รูปซ้าย) มรดกโลกที่มีหอคอยปราสาทอายุกว่า 400 ปี ในสภาพที่สมบูรณ์ และ "ซากปราสาททาเคดะ" (Takeda Castle รูปขวา) บนยอดเขาโคโจ (Mount Kojo) ที่มีความสูงถึง 353.7 เมตร และมีทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาเป็นอย่างยิ่ง
Hanagoyomi
Hanagoyomi เป็นโรงแรมริมทะเลสไตล์ญี่ปุ่นที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ "เกาะอาวาจิ" (Awaji Island) ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในทะเลเซโตะในและเชื่อมระหว่างฮอนชูกับภูมิภาคชิโกคุ ภาพด้านบนนี้คือวิวจากระเบียงกลางแจ้งที่เชื่อมอยู่กับทางเข้า คุณจะได้ชมทิวทัศน์ของท้องทะเลอันน่าตื่นตาของ "ช่องแคบคิตัน" (Kitan Strait) พลางสัมผัสลมทะเลและดื่มด่ำไปกับเสียงคลื่น
ห้องพักที่นี่มีด้วยกันทั้งหมด 4 แบบ ทุกแบบมาพร้อมกับวิวทะเล คุณสามารถเลือกได้ตั้งแต่ Haruka Type A ที่มีอ่างแช่น้ำกลางแจ้งส่วนตัว (รูปขวา) และระเบียงเปิดโล่ง, Haruka Type B ที่มาพร้อมกับอ่างกลางแจ้งและระเบียงเปิดโล่ง, 10-Mat Japanese Room (รูปซ้าย) ที่มีวิวทะเลให้ผ่อนคลาย และ Japanese-Style Twin Room ที่มีเตียงยกต่ำ
ที่นี่มีออนเซ็น 2 แบบให้คุณแช่ ได้แก่ Scenic Garden Spa Kaze no Ne และ Nami no Ne (รูปซ้าย) ที่ใช้น้ำพุร้อนจาก "ซูโมโตะออนเซ็น" (Sumoto Onsen) และ อ่างแช่น้ำกลางแจ้งส่วนตัวที่ต้องจองล่วงหน้า* (รูปขวา) ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำได้อย่างเป็นส่วนตัว แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน คุณก็จะได้ดื่มด่ำไปกับวิวสุดอลังการของช่องแคบคิตันเช่นเดียวกัน
*มีค่าบริการเพิ่มเติม (2,200 เยนต่อ 45 นาที ใช้ระบบจองผ่านอีเมลหรือโทรศัพท์ หากมีอ่างว่างก็จะสามารถใช้ในวันที่จองได้เลย)
ในส่วนของมื้อค่ำ คุณจะได้ลิ้มรสอาหารแสนอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาะอาวาจิ อาหารทะเลจากทะเลรอบๆ นั้นมีความหลากหลายมาก ถึงขนาดที่กล่าวกันว่าไม่มีปลาชนิดไหนที่ไม่สามารถจับได้ในบริเวณนี้!
"ไคเซกิ" (Kaiseki) คอร์สอาหารแบบญี่ปุ่นชวนน้ำลายสอนี้อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบสุดหรูอย่างผักสดที่ปลูกบนเกาะและเนื้ออาวาจิ ซึ่งเป็นแบรนด์เนื้อที่ต้องผ่านการคัดสรรมาอย่างเข้มงวดก่อนจะได้ขึ้นมาอยู่บนโต๊ะอาหาร
นอกจากนี้ ก็ยังมี "โฮราคุยากิ" (Horakuyaki รูปขวา) เมนูท้องถิ่นของเกาะอาวาจิที่โดดเด่นด้วยการนำปลาไท หอย และวัตถุดิบอื่นๆ ไปนึ่งและอบใน "โฮราคุ" (Horaku หม้อก้นตื้นแบบหนึ่ง) ที่ไม่ผ่านการเคลือบเงา เป็นเมนูที่คุณจะได้เต็มอิ่มไปกับของอร่อยหลากหลายชนิด!
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของ Hanagoyomi คือ คุณสามารถเลือก "ยูกาตะ" (Yukata ชุดกิโมโนผ้าฝ้ายน้ำหนักเบา) ที่มีอยู่หลายสีหลายลายสำหรับใส่ระหว่างพักได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้บริการนวดบำบัดที่เรียกว่า "Lomi Lomi" ที่ซาลอน Kanaloa ได้ด้วย เป็นศาสตร์การรักษาแบบดั้งเดิมของชาวฮาวายมาตั้งแต่ยุคโบราณเลยทีเดียว
ที่พักในจังหวัดโอคายาม่า
จังหวัดโอคายาม่า (แผนที่) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดเฮียวโกะ พื้นที่ติดกับทะเลเซโตะในซึ่งอยู่ทางทิศใต้ และติดกับ "ภูมิภาคซันอิน" (San'in Region อยู่ฝั่งฮอนชูตะวันตก ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดทตโตริและชิมาเนะ) ในทางทิศเหนือ พื้นที่ฝั่งเหนือและฝั่งใต้นั้นมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันมาก เนื่องจากฝั่งเหนือมีภูเขามากและมีหิมะตกหนักในฤดูหนาว ส่วนฝั่งใต้จะโดดเด่นเรื่องอุณหภูมิที่อบอุ่น มีฝนน้อย จนได้ชื่อเล่นว่า "ดินแดนแห่งแสงตะวัน"
ละแวกนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รวมถึง "โคราคุเอ็น" (Korakuen รูปซ้าย) 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของยุคเอโดะเมื่อ 300 ปีก่อน สวนนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการเดินเล่นโดยเฉพาะ มีทางเดินรอบสระน้ำให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ และปราสาทโอคายาม่าที่ตั้งตระหง่านอยู่ในบริเวณหลังสวน จุดท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งหนึ่งคือ "เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง" (Kurashiki Bikan รูปขวา) ซึ่งเจริญรุ่งเรืองขึ้นในฐานะย่านขนส่งสินค้าเลียบแม่น้ำคุราชิกิที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ นับเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดของเซโตะอุจิเลยทีเดียว!
Ryori Ryokan Tsurugata
Ryori Ryokan Tsurugata เป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บริเวณเขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคังและมีประวัติยาวนานกว่า 277 ปี
ภายในโรงแรมอบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่น เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบย้อนยุคและมีสวนภายในที่แม้จะเล็กแต่ก็สวยงาม จากหน้าต่างคุณจะเห็นผู้คนเดินผ่านไปมาในตรอกโดยมีพื้นหลังเป็นกำแพง "นามาโกะ" (Namako) ดังที่เห็นผ่านหน้าต่างไม้ระแนงในรูปขวา มันเป็นกำแพงปูกระเบื้องที่เชื่อมด้วยการใช้ปูนทรงกระบอกผ่าครึ่งที่ทำขึ้นมาจากปูนขาว กาวจากพืช และดินเหนียว
ที่นี่มีห้องพักเพียง 7 ห้อง มาในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ หากคุณเลือกห้องที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Aichi (รูปซ้าย) ก็จะได้ชมต้นสน "โออิมัตสึ" (Oimatsu) ที่อยู่ในสวนของทางโรงแรม ต้นส้นนี้มีอายุกว่า 400 ปีซึ่งจัดว่าเก่าแก่ที่สุดในคุราชิกิเลยทีเดียว นอกจากนี้ คุณยังจะได้ดื่มด่ำไปกับสวนที่ประดับด้วยโคมไฟกระดาษจาก "เอนกาวะ" (Engawa เฉลียงหรือทางเดินที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารเพื่อให้สามารถเข้า-ออกสวนโดยตรงได้เลย)
นอกจากนี้ ยังมีห้องที่เน้นวิวตรอกกำแพงนามาโกะผ่านหน้าต่างระแนงไม้ที่ให้บรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของคุราชิกิด้วย รับรองว่าจะต้องมีห้องที่ถูกใจคุณอย่างแน่นอน!
คุณสามารถรับประทานอาหารได้ที่ร้าน Tsurugata Restaurant ซึ่งเชื่อมต่อกับทางโรงแรม เมนูเด่นๆ ของที่นี่ คือ "ไทฉะสึเคะ" (Taichazuke รูปด้านบน) ที่ต้องรับประทานโดยราดชาร้อนๆ ลงบนเนื้อปลาไทหั่นชิ้นที่เคลือบด้วยซอสงาสูตรพิเศษแล้วปิดฝาถ้วยเพื่ออบเนื้อปลาเสียก่อน
เมนูอื่นๆ ของร้านนี้ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ตัวอย่างเช่น "ชุดอาหารกลางวัน Tsuru-fu" ที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล มาดื่มด่ำไปกับเมนูอันไร้ที่ติเหล่านี้กันเถอะ!
สัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคแบบญี่ปุ่น พลางผ่อนคลายกับโรงแรมอายุ 277 ปี ท่ามกลางวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของเขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคังกันเถอะ!
ที่พักในจังหวัดฮิโรชิม่า
จังหวัดฮิโรชิม่า (แผนที่) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดโอคายาม่า มีลักษณะเป็นพื้นที่ต่างระดับจากสูงไปต่ำ ขนานไปกับภูเขาชูโกคุที่อยู่ทางทิศเหนือ ทั้งยังมีเกาะอีกประมาณ 140 เกาะที่อยู่ในทะเลเซโตะใน มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี แต่ก็มีบางช่วงที่สภาพอากาศเลวลงเช่นกัน อย่างช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงที่มักจะมีพายุไต้ฝุ่นและฝนตกหนัก
ฮิโรชิม่าเป็นที่ตั้งของมรดกโลก 2 แห่ง ได้แก่ "ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ" (Itsukushima Shrine) ของ "เกาะมิยาจิม่า" (Miyajima Island รูปซ้าย) ที่โด่งดังจากโทริอิ (ซุ้มประตูศาลเจ้า) สีแดงสดขนาดใหญ่ที่โผล่พ้นน้ำ ดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมกันหลายพันคนต่อปี นอกจากนี้ ยังมี "โดมระเบิดปรมาณูฮิโรชิม่า" (Hiroshima Atomic Bomb Dome รูปขวา) ที่บอกเล่าเรื่องราวความโหดร้ายจากการทิ้งระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่สองอยู่ด้วย
Iwaso
Iwaso เป็นโรงแรมเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 160 ปี ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่า (อิตสึคุชิมะ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอิตสึคุชิมะที่เราได้กล่าวไปข้างต้น หนึ่งในเสน่ห์หลักของโรงแรมแห่งนี้ คือ สถานที่ที่ตั้งเลียบไปตามธารน้ำใน "หุบเขาโมมิจิดานิ" (Momijidani Valley) ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องใบไม้เปลี่ยนสี ช่วยให้แขกที่มาพักสามารถดื่มด่ำกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
คุณสามารถเลือกพักที่ห้องในอาคารใหม่ (รูปซ้าย) ที่มีวิวของหุบเขาโมมิจิดานิและทะเลเซโตะใน หรือห้องของอาคารหลัก (รูปขวา) ที่สร้างขึ้นในช่วงต้นยุคโชวะ (ราว ค.ศ. 1930) ทุกๆ ห้องในอาคารหลักจะมีดีไซน์ที่ต่างกัน และมาพร้อมกับวิวอันแสนงดงามของหุบเขาโมมิจิดานิ
นอกจากนี้ ยังมีห้องแบบแยกเดี่ยวอีก 4 ห้องที่หรูหราและเคยเป็นที่พักของราชวงศ์ญี่ปุ่นหลายท่านมาก่อน ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ได้อยู่ใน Booking.com และ Agoda แต่ก็สามารถจองผ่านเว็บไซต์ของทางโรงแรมได้โดยตรง (มีภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ)
ออนเซ็นของโรงแรมนี้ใช้น้ำพุร้อนจาก "วาคามิยะออนเซ็น" (Wakamiya Onsen) ซึ่งเป็นน้ำที่หายากของมิยาจิม่า คุณสามารถใช้ได้ 2 บ่อ คือ ออนเซ็นกลางแจ้ง Hinodeyu (รูปขวา) และ Tsukinoyu (รูปซ้าย) ทั้งคู่จะมีการสับเปลี่ยนช่วงเวลาบริการสำหรับผู้ชายและผู้หญิงในแต่ละวัน โดดเด่นมากในเรื่องการเยียวยาความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวในหุบเขาโมมิจิดานิ
ดื่มด่ำไปกับอาหารไคเซกิที่เสิร์ฟโดยผู้เชี่ยวชาญเมนูไคเซกิสไตล์เกียวโต คุณจะได้เพลิดเพลินกับเมนูตามฤดูกาลที่ทำจากอาหารทะเลสดใหม่และวัตถุดิบจากภูเขาที่เชฟคัดสรรมาอย่างดีได้ที่ห้องของตัวเอง เมนูพิเศษรายการหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ "หอยนางรมมิยาจิม่า" สุดหรูที่สามารถสั่งได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะอร่อยเป็นพิเศษหากคุณสั่งแบบย่างหรือทอด ที่อยู่ในรูปขวาด้านบนเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำเช่นกัน มันคือ "ปลาไหลอานาโกะ" ที่นำไปย่างโดยไม่ผ่านการปรุงรส ที่โรงแรมแห่งนี้คุณจะสามารถลิ้มลองอาหารทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ของเซโตะอุจิได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ!
เนื่องจากโรงแรมนี้ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติอันเขียวขจีของอุทยานแห่งชาติ ดังนั้น หากคุณโชคดีก็จะได้ชมกวางด้วย! เป็นการพบเจอแสนพิเศษที่สามารถสัมผัสได้ที่โรงแรมแบบนี้เท่านั้น!
ที่พักในจังหวัดยามากุจิ
จังหวัดยามากุจิ (แผนที่) ตั้งอยู่สุดฟากตะวันตกของเกาะฮอนชูและทางตะวันตกของจังหวัดฮิโรชิม่า ล้อมรอบด้วยทะเลเซโตะในซึ่งอยู่ทางทิศใต้และทะเลญี่ปุ่นทางทิศเหนือ ทั้งยังมีภูเขาชูโกคุทอดตัวอยู่กลางภูมิภาคจากตะวันออกไปตะวันตกอีกด้วย ฝั่งเหนือและใต้ของยามากุจิสามารถแบ่งคร่าวๆ ได้เป็น "ละแวกซันโย" (Sanyo) และ "ซันอิน" (San'in) ตามลำดับ โดยซันโยจะมีจุดเด่นอยู่ที่ภูมิอากาศอันอบอุ่น เช่นเดียวกับซันอินที่เป็นที่รู้จักในเรื่องภูมิอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นอันเป็นผลมาจาก "กระแสน้ำสึชิมะ" (Tsushima)
ยามากุจิมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ "ศาลเจ้าโมโตโนะสุมิ" (Motonosumi Shrine) ในรูปด้านซ้าย ซึ่งโด่งดังหลังจากที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 31 สถานที่ที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่นโดย CNN ไปในปี 2015 ภาพของโทริอิสีแดงสด 123 ต้นที่ตั้งเลียบไปกับทะเลญี่ปุ่นนั้นน่าตื่นตามาก ส่วนรูปขวาคือ "สะพานคินไท" (Kintai Bridge) ที่สร้างขึ้นด้วยเทคนิคอันซับซ้อนที่สืบทอดกันมากว่า 300 ปี วิวของสะพานไม้ที่มีพื้นหลังเป็นธรรมชาติตามฤดูกาลนั้นเป็นทิวทัศน์ที่บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง
Hotel & Resort Sunshine Sazanseto
ดังวลีเด็ดที่ใช้โปรโมท Hotel & Resort Sunshine Sazanseto ว่าเป็น "โรงแรมริมทะเลบนเกาะที่มีหมู่ดาวพร่างพราย" ที่นี่เป็นโรงแรมรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บน "ซูโอโอชิมะ" (Suo Oshima Island) เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องรีสอร์ตและทิวทัศน์อันน่าประทับใจ น้ำสีโคบอลต์บลูและหาดทรายขาวของทะเลเซโตะในจะทอดยาวไปจนถึงหน้าโรงแรม และเมื่อตกกลางคืนคุณก็จะได้ชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวซึ่งเป็นจุดขายของเกาะแห่งนี้
ที่นี่มีห้องให้เลือกหลายแบบ เช่น Suite Room (รูปซ้าย) ที่หันหน้าเข้าหาวิวทะเลและมีบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง, Superior Twin (รูปขวา) ที่มาพร้อมกับบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง และ Welcome Baby Superior Twin ที่คุณสามารถพาลูกๆ มาเข้าพักได้อย่างสบายใจ
ในส่วนของมื้อค่ำ คอร์สอาหารจะถูกปรุงขึ้นเพื่อแสดงความหรูหราของสุดยอดอาหารประจำฤดูกาล มีให้เลือกทั้งคอร์สไคเซกิพื้นฐานที่ผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตก, คอร์สบาร์บีคิวพิเศษเฉพาะฤดูร้อนที่ร้านอาหาร Seaside Garden และคอร์สไคเซกิสุดพิเศษที่เชฟภูมิใจนำเสนอ
ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหน แขกที่เข้าพักก็จะได้ลิ้มรสเมนูแสนอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของเซโตะอุจิได้ รวมถึงเมนูหายากอย่างปลาดาบเงินและหม้อไฟส้มแมนดาริน
น้ำพุร้อนของที่นี่ใช้น้ำจาก "คาทาโซเอะกาฮามะออนเซ็น" (Katazoegahama Onsen) ที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยให้ไม่รู้สึกหนาวหลังการแช่ มาผ่อนคลายและปลดปล่อยจิตใจไปกับบ่อน้ำกลางแจ้งสุดวิเศษอันกว้างขวางกันเถอะ!
ที่พักในจังหวัดเอฮิเมะ
จังหวัดเอฮิเมะตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของชิโกคุ (แผนที่) พื้นที่ส่วนใหญ่มีอากาศอบอุ่นแบบทะเลเซโตะในที่ฝนตกน้อยและแดดออกมาก เอฮิเมะประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 200 เกาะ มีธรรมชาติที่หลากหลายและน่าตื่นตาตื่นใจอยู่มากมาย รวมถึง "ภูเขาอิชิซูจิ" (Mount Ishizuchi) ที่มีความสูง 1,982 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตกซึ่งอยู่ทางใต้ของเอฮิเมะตอนกลาง
เอฮิเมะมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมายนับไม่ถ้วน รูปซ้ายคือ "สถานีชิโมนาดะ" (Shimonada Station) ที่ไม่มีพนักงานประจำสถานี เป็นสถานีเก่าๆ ที่ดูมีเสน่ห์ สร้างขึ้นโดยใช้เพียงม้านั่งและหลังคาบังแดดเก่าๆ ที่หันหน้าออกสู่ทะเล ทิวทัศน์ที่ไม่มีอะไรปิดกั้นทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
นอกจากนี้ เอฮิเมะยังมี "โดโกะออนเซ็น" (Dogo Onsen อาคารหลักอยู่ในรูปขวา) ที่ถูกใช้เป็นบ่อน้ำพุร้อนมากว่า 3,000 ปี, "ปราสาทมัตสึยามะ" (Matsuyama Castle) ที่สามารถเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของทะเลเซโตะใน และ "เมืองมัตสึยามะ" (Matsuyama City) ที่เป็นศูนย์กลางของเอฮิเมะได้ด้วย บอกเลยว่าเป็นจังหวัดที่เหมาะกับการท่องเที่ยวจริงๆ
WAKKA
WAKKA เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบครบวงจรใน "เกาะโอมิชิมะ" (Omishima Island) ที่ตั้งอยู่กลาง "ทางหลวงชิมานามิไคโด" (Shimanami Kaido) มีครบทั้งบริการจักรยาน คาเฟ่ และที่พักหลากหลายรูปแบบ เช่น บังกะโล เต็นท์โดม และหอพัก
ที่นี่มีบังกะโล 3 หลังที่มาพร้อมกับวิวทะเลอันน่าตื่นตา (รูปซ้าย) คุณสามารถเลือกได้ระหว่างบังกะโลแบบตะวันตก และบังกะโลสไตล์ญี่ปุ่นที่ปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิสไตล์ริวกิว ส่วนหน้าของบังกะโลจะมีเตาบาร์บีคิวตั้งอยู่ (รูปขวา) ให้คุณสามารถย่างและลิ้มรสวัตถุดิบท้องถิ่นพลางชมวิวทะเลที่อยู่เบื้องหน้าไปพร้อมๆ กันได้ นอกจากนี้ เหล่าบังกะโลยังมาพร้อมกับห้องอาบน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึง "ผ้าขนหนูอิมาบาริ" (Imabari) คุณภาพสูงที่โด่งดังไปทั่วโลกด้วย
ส่วนเต็นท์โดมนั้นมีให้บริการอยู่ 2 หลัง สร้างในสไตล์แกลมปิ้งและคอยต้อนรับผู้เข้าพักด้วยวิวทะเลอันน่าชื่นใจ ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง อีกทั้งยังมีประตูไม้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ล็อค และเครื่องปรับอากาศเพื่อความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับบังกะโลและเต็นท์โดมมาพร้อมกับเตาบาร์บีคิวเพื่อให้คุณได้รับประทานอาหารไปพร้อมๆ กับการชมวิวทะเล
ส่วนหอพักนั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 4 ห้อง ปัจจุบันเปิดให้จองแบบคนเดียวหรือกลุ่มเดียวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้พื้นที่ในคาเฟ่อย่างอิสระในตอนกลางคืนได้ด้วย
หากคุณเข้าพักในบังกะโลหรือเต็นท์โดมก็จะสามารถเลือกได้ว่าต้องการรับประทานอาหาร 2 มื้อ หรือมื้อเช้าอย่างเดียว ส่วนแบบหอพักนั้นจะมีเฉพาะมื้อเช้าเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ WAKKA ยังมีบริการสำหรับการปั่นจักรยานที่ยอดเยี่ยม โดยมีรถและเรือแท็กซี่สำหรับขนจักรยานให้ด้วย (รูปขวา)
แต่ถึงแม้คุณจะไม่ใช่นักปั่น WAKKA ก็ยินดีต้อนรับเช่นกัน! ที่นี่มีทั้งบริการเช่าจักรยานและกิจกรรมต่างๆ มากมาย บอกได้เลยว่า WAKKA เป็นที่พักที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติของเซโตะอุจิอย่างใกล้ชิดจริงๆ
ที่พักในจังหวัดคากาว่า
จังหวัดคากาว่าตั้งอยู่ในโซนตะวันออกเฉียงเหนือของภูมิภาคชิโกคุ (แผนที่) ถึงแม้จะเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น แต่ก็โดดเด่นเรื่องประวัติศาสตร์และเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมาย หนึ่งในนั้นคือ "เกาะโชโดะชิมะ" (Shodoshima) ในรูปซ้ายซึ่งเป็นเส้นทางที่จะปรากฏขึ้นในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น
เกาะนี้ถูกเรียกว่า "ทางแห่งเทวทูต" (Angel Road) มีของขึ้นชื่อเป็น ซอสโชยุ น้ำมันมะกอก และ "ศาลเจ้าคอมปิระ" (Konpira-gu Shrine) หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ "ซานุกิคอมปิระซัง" (Sanuki Konpira-san) ที่มีบันไดหิน 785 ขั้นจากถนนศาลเจ้าไปจนถึงอาคารหลัก (รูปขวา) คากาว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของธรรมชาติ ภูมิอากาศ และประวัติศาสตร์ที่ไม่เหมือนใครของทะเลเซโตะใน
เนื่องจากบริเวณนี้มีฝนน้อย การปลูกข้าวสาลีจึงรุ่งเรืองมากเพราะต้องการน้ำน้อยกว่าข้าวปกติ คุณจะได้พบกับทะเลสาบเก็บน้ำจากยุคโบราณมากมาย มีการนำข้าวสาลีดังกล่าวมาทำเป็น "ซานุกิอุด้ง" (Sanuki Udon ซานุกิเป็นชื่อเดิมของคากาว่า) และโด่งดังมากในฐานะหนึ่งในอุด้งที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ คากาว่าก็ยังมีเมนูเด็ดๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ เช่น น่องไก่ที่นำไปอบจนมีสีน้ำตาลทอง
URASHIMA VILLAGE
URASHIMA VILLAGE ประกอบไปด้วยวิลล่า 3 หลังบนพื้นที่ประมาณ 6,600 ตารางเมตรริมชายฝั่งที่เงียบสงบของคาบสมุทรโชไน (Shonai Peninsula) เวลาของที่นี่จะเดินตามเวลาของธรรมชาติ รูปด้านบนนี้คือวิลล่าที่ชื่อว่า "Silence" ซึ่งอยู่ใกล้ทะเลที่สุด ทำให้แขกได้พักผ่อนโดยมีเสียงคลื่นอยู่เป็นเพื่อน ทะเลเซโตะในที่ล้อมอยู่โดยรอบจะทำให้เวลาในวิลล่าแห่งนี้ดูช้าลงมากทีเดียว
ที่เห็นอยู่ด้านบน คือ วิลล่า "Timeless" ที่เชิญชวนให้แขก "ลืมเวลาและเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่ล้อมรอบด้วยผู้คน" ถือเป็นวิลล่าที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่และสามารถรองรับแขกได้มากที่สุด (11 คน) วิลล่านี้มีระเบียงติดทะเลที่ใหญ่ที่สุด จึงเหมาะสำหรับการเข้าพักเป็นกลุ่มใหญ่ อีกทั้งยังมีห้องนั่งเล่นอันกว้างขวางอยู่บนชั้นสอง (รูปซ้าย) ซึ่งเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่มีโต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์สูงๆ ทำให้เหมาะสำหรับเด็ก อีกทั้งยังมีจอโปรเจคเตอร์พร้อมสำหรับการใช้งานด้วย
วิลล่าทุกหลังมาพร้อมกับห้องอาบน้ำที่มีวิวสวยๆ ช่วยให้คุณสามารถแช่น้ำพลางชื่นชมทะเลระหว่างการผ่อนคลาย และสนุกไปกับเพื่อนๆ ของคุณได้ คุณจะรู้สึกถึงความสำคัญของเวลาได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
วิลล่าหลังสุดท้ายมีชื่อว่า "Visionary" เป็น "โลกแฟนตาซีที่เฝ้ามองการขึ้น-ลงของกระแสน้ำ" เมื่อมองลงมาด้านล่าง คุณก็จะได้เห็น "ศาลเจ้าอุราชิมะ" (Urashima Shrine) บน "เกาะมารุยาม่า" (Maruyama Island) อันไร้ผู้คน เกาะนี้จะมีทางเดินทรายปรากฏขึ้นจากก้นทะเลวันละ 2 ครั้งในช่วงน้ำลง ทำให้คุณได้สัมผัสกับพลังของธรรมชาติและเวลาเมื่อทะเลอันกว้างใหญ่นี้ถูกดึงให้ขึ้นและลงด้วยแรงดึงดูดของดวงจันทร์
ภาพด้านบนนี้ คือ ห้องนั่งเล่นของวิลล่า "Visionary" ที่หันหน้าเข้าหาทะเลเซโตะในที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
สำหรับมื้ออาหาร คุณมี 3 ตัวเลือกดังนี้:
・ ซื้อวัตถุดิบและทำอาหารด้วยตัวเอง
・ เลือกวัตถุดิบที่โดดเด่นของละแวกนี้และให้ทางโรงแรมเตรียมมันให้อยู่ในสภาพที่คุณสามารถปรุงเองได้ง่ายๆ
・ เรียกเชฟมาที่วิลล่าและให้พวกเขาทำอาหารให้คุณ
คุณยังสามารถเชิญเชฟจาก "Lounge & Reception Building" ที่อยู่ติดกันมาและจัดปาร์ตี้ที่วิลล่าของคุณได้ด้วย (*ต้องจองล่วงหน้า)
ที่พักในจังหวัดโทคุชิม่า
จังหวัดโทคุชิม่าตั้งอยู่ทางตะวันออกของชิโกคุ (แผนที่) พื้นที่กว่า 80% เป็นภูเขาซึ่งส่งผลให้ภูมิอากาศในแต่ละส่วนของจังหวัดแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
หนึ่งในสถานที่ที่เราขอแนะนำเป็นพิเศษ คือ "หุบเขาโอโบเคะและโคโบเคะ" (Oboke and Koboke Gorges) ที่เห็นอยู่ในรูปซ้าย เป็นจุดที่ผาหินชีสต์ทรงผลึกทอดตัวยาวไปกว่า 8 กิโลเมตร ในอดีตที่นี่เคยเป็นบริเวณที่เดินทางลำบาก แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบริการล่องเรือชมวิวไปแล้ว ส่วนรูปขวา คือ "วังน้ำวนนารูโตะ" (Naruto Whirlpools) 1 ใน 3 กระแสน้ำวนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความเร็วถึง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างที่สุดถึง 20 เมตรในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง คุณสามารถชมปรากฏการณ์อันน่าตื่นตานี้ได้อย่างใกล้ชิดบนเรือชมวิวแบบพิเศษ
นอกจากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เห็นได้ตามสถานที่อย่าง "อิยะ" (Iya) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เขตไร้การบุกเบิกที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นแล้ว โทคุชิม่าก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย รวมถึงเทศกาลดั้งเดิม กิจกรรมต่างๆ อย่าง "อาวะ โอโดริ* " (Awa Odori) ที่เป็นงานเทศกาลดั้งเดิมที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น
*จัดขึ้นในช่วงกลางเดือนสิงหาคมของทุกปี (ในปี 2021 นี้จัดขึ้น ณ วันที่ 12 - 14 สิงหาคม)
Hotel Ridge
Hotel Ridge ตั้งอยู่บนเนินของ "เกาะชิมาดะ" (Shimada Island) ที่มองเห็น "ช่องแคบนารูโตะ" (Naruto Strait) ออกแบบขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "สวรรค์ของสัมผัสทั้งห้า" โดยคุณจะได้ชมท้องทะเลแสนสงบของเซโตะอุจิ ฟังเสียงมากมายของธรรมชาติ และเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่เป็นผลมาจากต้นไม้ พระอาทิตย์ และผืนดิน
ห้องของ Hotel Ridge มีทั้งสไตล์ญี่ปุ่น (รูปซ้าย) และตะวันตก (รูปขวา) ทั้ง 2 แบบมาพร้อมกับวิวทะเลและอ่างอาบน้ำในร่ม
นอกจากนี้ ทุกห้องของโรงแรมยังมีระเบียงกลางแจ้ง ให้คุณสามารถดื่มด่ำธรรมชาติของเซโตะอุจิได้อย่างเต็มที่ด้วย!
สำหรับมื้อค่ำ แขกที่เข้าพักจะได้รับประทานอาหารไคเซกิสุดหรูของ "อาวะ" (Awa ชื่อของโทคุชิม่าในอดีต) โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาไทที่จับในกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากของช่องแคบนารูโตะซึ่งมีอยู่ไม่มาก แต่อร่อยมาก เราขอแนะนำให้ลองทาน "ไทเมชิ" (Taimeshi) หรือ ข้าวหน้าปลาไท (รูปขวา) พร้อมดื่มด่ำไปกับรสชาติของมันอย่างเต็มที่!
ภาพด้านบนนี้ คือ วิวของช่องแคบนารูโตะและเกาะต่างๆ ที่มองจากระเบียงไม้ มาเพลิดเพลินไปกับบริการที่หรูหราและพื้นที่เปิดโล่ง พลางปลดปล่อยตัวคุณออกจากเรื่องน่าปวดหัวในชีวิตประจำวันกันเถอะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่