[คู่มือเที่ยวอาซากุสะฉบับสมบูรณ์ 2020] เที่ยวครบไม่พลาดสิ่งสำคัญใน "อาซากุสะ"

อาซากุสะคืออะไรนะ？

สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบ คำว่า อาซากุสะ (Asakusa) เป็นชื่อของเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตไทโตะ (Taito) ในโตเกียวค่ะ อาซากุสะถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่นเดียวกับ "อุเอโนะ" เราสามารถเดินทางมาที่อาซากุสะจากอุเอโนะ หรือไปที่อุเอโนะจากอาซากุสะได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ

บริเวณอาซากุสะ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ แสดงถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่ อีกทั้งบรรยากาศบ้านเมืองแบบญี่ปุ่นท้องถิ่นดั้งเดิม ดึงดูดให้ที่นี่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งตลอดปี

อาซากุสะยังเต็มไปด้วยร้านอาหารการกิน และแหล่งจับจ่ายใช้สอย ให้คุณได้ช็อปปิ้งเพลินๆ อยู่มากมายอีกด้วย ถ้าหากว่าคุณกำลังจัดทริปมาเที่ยวโตเกียวอยู่ล่ะก็ ต้องห้ามพลาดที่จะแวะมาอาซากุสะเลยนะคะ!

การเดินทางไปยังอาซากุสะ

รถไฟ

ที่ "สถานีอาซากุสะ (Asakusa station)" มีสายรถไฟวิ่งผ่านอยู่หลายสายด้วยกัน เช่น สาย Tokyo Skytree (หรืออีกชื่อคือสาย Tobu Isesaki), สาย Tokyo Metro Ginza, สาย Toei Asakusa เป็นต้น ถึงจะดูลายตาค่อนข้างเข้าใจยากก็จริง แต่ถ้ามาลองดูกันดีๆ ล่ะก็ รับรองว่าไม่ยากเกินความสามารถแน่นอนค่ะ 

ในกรณีแรก ถ้ามาจาก "สถานีโตเกียว (Tokyo station)" ให้ขึ้นรถไฟ (เช่นสาย JR Yamanote) ไปเปลี่ยนที่ "สถานีอุเอโนะ (Ueno station)" หรือ "สถานีคันดะ (Kanda station)" จากนั้นขึ้นรถไฟสาย Tokyo Metro Ginza ที่เขียนว่ามุ่งหน้าไปทางอาซากุสะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะถึงสถานีอาซากุสะ หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือขึ้นรถไฟจากสถานี JR Ueno (สถานี Keisei Ueno) จะใช้เวลาประมาณ 5 นาที

ในกรณีที่มาจาก "สถานีอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro station)" "สถานีชินากาว่า (Shinagawa station)" หรือ "สถานี ชินจูกุ (Shinjuku station)" ให้เดินทางโดยมุ่งหน้าไปที่ "สถานี JR Ueno" ก่อน ซึ่งการเดินทางไปยังสถานี JR Ueno ไม่มีอะไรซับซ้อนนัก จากนั้นก็เดินทางต่อตามในกรณีแรกค่ะ หรือถ้าหากคุณเริ่มเดินทางมาจาก "สถานีชิบูย่า (Shibuya station)" ให้ใช้รถไฟสาย Tokyo Metro Ginza โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟใดๆ เลย ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีค่ะ

นอกจากนี้ หากมาจาก "สถานีชิมบาชิ (Shinbashi station)" หรือว่า "สถานีนิฮงบาชิ (Nihonbashi station)" แนะนำให้ใช้รถไฟสาย Toei Asakusa ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถเลยค่ะ

อีเว้นต์ตลอดปีรอบบริเวณอาซากุสะ

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม)

・เทศกาลชมดอกซากุระ Sumida Park Sakura Festival

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน จะมีการจัดงานเทศกาล "Sumida Park Sakura Festival" โดยจะมีร้านแผงลอยมาเปิดเป็นซุ้ม ให้ความรู้สึกแห่งฤดูใบไม้ผลิได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในช่วงงานเทศกาลนี้ ยังมีอีเว้นต์ต่างๆ จัดอยู่ตลอดอีกด้วย

ไฮไลต์ของสถานที่นี้คือ สวนสาธารณะสุมิดะ (Sumida Park) ซึ่งสามารถชื่นชมความสวยงามของ Tokyo skytree จากอีกฝั่งของแม่น้ำสุมิดะ ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเลยค่ะ

・เทศกาลซันจา (Sanja Matsuri)

ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่อาซากุสะจะมีการจัด "เทศกาลซันจา (Sanja matsuri)" กล่าวกันว่าเป็นเทศกาลที่บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของฤดูร้อนค่ะ เทศกาลจะดำเนินเป็นเวลาสามวัน โดยในวันสุดท้าย จะมีการแห่ mikoshi (ศาลเจ้าแบบที่ยกเคลื่อนย้ายได้) จากตัวลานวัดศาลเจ้าอาซากุสะ ไปยังภายในตัวเมืองอาซากุสะค่ะ

ข้อมูลที่น่าสนใจ: ตัวศาลเจ้าเคลื่อนที่นี้ มีน้ำหนักกว่า 1 ตัน ดังนั้นจึงต้องมีผู้แบกหลายคนที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการแห่ศาลเจ้าอันศักสิทธิ์แห่งนี้

 

ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน - เดือนสิงหาคม)

・เทศกาลดอกไม้ไฟที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River Fireworks Festival)

ช่วงปลายเดือนกรกฏาคม จะมีการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในญี่ปุ่น ทุกๆ ปีที่เทศกาลดอกไม้ไฟที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River Fireworks Festival) จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวกว่า 1 ล้านคน อีกทั้งยังมีผู้คนล่องเรือรับประทานอาหาร จิบสาเกอย่างเพลิดเพลิน พร้อมกับชมดอกไม้ไฟ พูดได้ว่าเป็นค่ำคืนอันสวยงามราวกับภาพลวงตาหรือภาพฝันเลยค่ะ

เนื่องจากเทศกาลนี้ได้รับความนยิมอย่างล้นหลาม ทำให้บริเวณงานเทศกาลจะมีคนหนาแน่น ทางพื้นที่จึงได้จัดระเบียบเส้นทางเดินต่างๆ เช่นทางเดิน one-way ในการชมดอกไม้ไฟ เราขอแนะนำให้ทุกคนตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ก่อนไปถึงสถานที่จริงนะคะ

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน)

ในช่วงเดือนตุลาคม จะมีการจัดเทศกาล "Kappabashi Dougu Festival" ที่ถนน Kappabashi Dougu ซึ่งจะมีร้านเกี่ยวกับเครื่องครัวและอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งอยู่เรียงราย โดยในช่วงนี้จะมีการทำโปรโมชั่นลดราคาต่างๆ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกันอย่างคึกคักค่ะ

ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)

・Hatsumode ที่ศาลเจ้าเซนโซจิ (Sensoji Shrine)

ในเดือนธันวาคม ที่บริเวณภายในศาลเจ้าเซนโซจิ วัดอาซากุสะ จะมีการจัด Hagoita-ichi เป็นเทศกาลสิ้นปีที่จัดขี้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ (1603 - 1868) โดยในเทศกาลจะมีการขาย hagoita (แผ่นไม้ที่มีด้ามจับตกแต่งในลวดลายต่างๆ) ตั้้งแต่การตกแต่งแบบดั้งเดิมไปจนดีไซน์ทันสมัยแปลกตาค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสำคัญในช่วงสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่ นั่นก็คืองาน Hatsumode หรือการไปใหว้พระครั้งแรกของปีนั่นเอง ของที่วัดอาซากุสะนั้นมักจะมีคนมารอกันตั้งแต่หัวค่ำของวันสิ้นปีเนื่องจากเป็นวัดอันศักสิทธิ์ ในช่วงวันที่ 1 ถึงวันที่ 3 ในช่วงปีใหม่ มีผู้คนได้มาไหว้พระครั้งแรกที่วัดแห่งนี้กว่า 2,900,000 (สองล้านเก้าแสน) คนเลยทีเดียว คนที่มาเข้าเยี่ยมเยือนที่นี่เนืองแน่นตั้งแต่ประตูคามินาริมง (Kaminari-mon) ร้านขายของต่างๆ ไปจนถึงตัววัด ถึงขนาดไม่สามารถขยับตัวได้เลยค่ะ ถ้าหากมีแพลนไปไหว้พระที่นี่ในวันปีใหม่ก็ขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษนิดนึงนะคะ

สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด

・วัดอาซากุสะ (คามินาริมง และ ถนนนากามิเสะ)

ถ้าหากพูดถึงอาซากุสะแล้วล่ะก็ อย่างแรกที่ต้องนึกถึงก็คือคามินาริมง (Kaminari-mon แปลความหมายได้ว่าประตูสายฟ้า) ซึ่งเป็นเสาประตูด้านนอกของวัดอาซากุสะ โดยจุดเด่นของคามินาริมงแห่งนี้ก็คือโคมไฟขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่ตรงกลางเสาประตูค่ะ

เมื่อเดินผ่านเสาประตูเข้ามาด้านใน ก็จะพบกับถนนช็อปปิ้งนากามิเสะ (Nakamise Street) โดยระหว่างทางเดินจะมีร้านขนม ร้านของฝากต่างๆ ตั้งอยู่เรียงราย หากเดินไปเรื่อยๆ ก็จะไปถึงตัววัดอาซากุสะได้ค่ะ

・Asakusa Culture Tourist Information Center

ที่ Asakusa Culture Tourist Information Center เป็นที่แรกที่อยากให้คุณไปแวะเมื่อมาที่อาซากุสะค่ะ

นอกจากคุณจะสามารถสอบถามข้อมูลต่างๆ โดยมีเคาท์เตอร์ภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลีรองรับ รวมไปถึงบริการแลกเงินแล้ว ยังมีมุมที่ทางศูนย์แห่งนี้ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ เตรียมไว้ให้คุณอย่างครบถ้วนแล้ว คุณจึงสามารถไปหยิบแผ่นพับข้อมูลที่ต้องการมาเตรียมเอาไว้ก่อนออกไปเที่ยวได้อีกด้วย!

ที่ชั้น 6 ของศูนย์แห่งนี้จะเป็นหอประชุมอเนกประสงค์ ในบางวัน (ที่กำหนดไว้แล้ว) จะมีการแสดงเต้นจากเกอิชาของอาซากุสะให้สามารถรับชมอีกด้วย ส่วนที่ชั้น 8 จะเป็นจุดชมวิวที่คุณสามารถเห็นวัดอาซากุสะและถนนนากามิเสะจากมุมสูงได้ค่ะ

สถานที่ดีๆ ที่คนไม่รู้จัก 6 แห่งรอบอาซากุสะที่สนุกไปกับเด็กๆ ได้

ร้านอาหารแนะนำในอาซากุสะ

・Chochin Monaka Ice Cream

ร้านไอศกรีมอันเป็นเอกลักษณ์ "Chochin Monaka Ice Cream" ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับ ถนนนากามิเสะและวัดอาซากุสะ ที่นี่ใช้ monaka (วาฟเฟิลแบบญี่ปุ่น) ที่ทำขึ้นเป็นรูปคามินาริมง สามารถเลือกรสชาติของไอศกรีมได้หลายรูป รวมไปถึงรสยอดนิยมอย่างรสมัทฉะชาเขียว ถ้ามีโอกาสได้มาอาซากุสะล่ะก็ ห้ามพลาดร้านไอศรีมแห่งนี้นะคะ

※ระวังเรื่องการเดินรับประทานอาหารในถนนนากามิเสะนะคะ เนื่องจากเป็นมารยาทของที่นี่ที่จะไม่เดินรับประทานอาหาร ดังนั้นควรรับประทานในบริเวณ eat-in corner ที่ทางร้านจัดไว้ให้ค่ะ

・ถนน Hoppy Street

ทางด้านตะวันตกของตัววัดอาซากุสะเป็นที่ตั้งของถนน "Hoppy Street" หรืออีกชื่อนึงว่า "Nikomi-dori (แปลว่า ถนนสตู)" ที่นี่ คุณสามารถหาร้านอาหารและบาร์แบบญี่ปุ่นที่สามารถรับประทานอาหารพร้อมๆ กับจิบเครื่องดื่มแบบญี่ปุ่นได้ เมนูแนะนำของหลายๆ ร้านในถนนแห่งนี้ก็คือ "Motsu Nikomi" เป็นเมนูที่นำไส้ของวัวมาตุ๋นกับมิโซะ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนได้ชื่อถนนว่าเป็น "ถนนแห่งสตู"
ช่วงเวลาอาหารกลางวันเป็นช่วงที่ลูกค้าไม่เยอะมาก และในร้านจะยังมีที่นั่งว่างอยู่พอสมควร ดังนั้นเราขอแนะนำให้ไปในช่วงเวลานี้ แล้วนั่งจิบสาเกกับอาหารอร่อยๆ โดยไม่ต้องรีบร้อนค่ะ

รวม 10 ร้านอิซากายะน่านั่งในย่านอาซากุสะ

7 ร้านอิซากายะในย่านอาซากุสะ พักเหนื่อยระหว่างเที่ยวได้ที่นี่ !

8 ร้านอาหารกลางวันห้ามพลาดในย่านอาซากุสะ ทั้งถูกและอร่อยสุดคุ้ม !

ช็อปปิ้ง

・ถนนนากามิเสะ (Nakamise Street)

ถนนนากามิเสะ (Nakamise Street) นั้นจริงๆ แล้วหมายถึงถนนที่มีร้านขายของและอาคารห้างร้านต่างๆ ตั้งแต่บริเวณทางเข้าของคามินาริมง ไปจนถึง โฮโซมง (Hozomon แปลว่าประตูแห่งโรงสมบัติ) นับได้ว่าที่นี่เป็นหนึ่งในถนนการค้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยค่ะ ที่ถนนช็อปปิ้งนากามิเสะแห่งนี้ มีร้านขายอาหาร ขนม และของฝากต่างๆ กว่า 90 ร้านเลยทีเดียว

นอกจากร้านที่ตั้งเรียงรายตามตัวถนนหลักแล้ว ตามซอกซอยที่แยกเข้าไปจากตัวถนนหลัก ก็มีร้านขนม และร้านของฝากต่างๆ อยู่เช่นกัน ลองเดินเล่นพลางเมียงมองร้านต่างๆ ดูนะคะ เพลิดเพลินมากๆ เลยค่ะ

・ ถนน Kappabashi Dougu Street

ที่ถนน Kappabashi Dougu Street เรียงรายไปด้วยร้านจำหน่ายเครื่องครัวและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ตั้งแต่จานชามที่ใช้กันทั่วไป ไปจนถึงเครื่องครัวสำหรับมืออาชีพ คุณสามารถหาซื้อสินค้าคุณภาพดีที่มีขายแต่เพียงที่นี่เท่านั้นได้อีกด้วย

อีกทั้ง ที่นี่ยังมีของฝากน่าซื้อสุดๆ อย่างร้านที่ขายตัวอย่างอาหารที่หน้าตาเหมือนของจริงจนแทบแยกไม่ออก คุณสามารถมาลองทำโมเดลตัวอย่างอาหารด้วยตัวเองได้อีกด้วย พูดได้ว่าถึงจะไม่ชอบการทำอาหาร แต่รับรองว่าคุณสามารถเพลิดเพลินกับถนนแห่งนี้ได้แน่นอนค่ะ
 

50 สิ่งที่ต้องไปสัมผัสในย่าน Ueno และ Asakusa

โรงแรมและที่พัก

ที่อาซากุสะ มีโรงแรมแสนสะดวกสบายอยู่มากมาย ตั้งแต่โรงแรมราคาประหยัดราคาเป็นกันเอง ไปจนถึงโรงแรมเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นเหมาะกับนักท่องเที่ยว ถือเป็นอีกหนึ่งข้อดีของอาซากุสะที่มีโรงแรมหลากหลายแบบให้ได้เลือกกันค่ะ

MyCUBE by MYSTAYS Asakusa Kuramae

 

ในบรรดาโรงแรมหลายแห่งที่อาซากุสะนี้ โรงแรมที่เป็นที่จับตามองในช่วงนี้ก็คือโรงแรมทรงลูกบาศก์แห่งนี้ค่ะ

เสน่ห์หนึ่งที่ทำให้ MyCUBE by MYSTAYS Asakusa Kuramae แตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ ก็คือการบริการ Bar lounge และพื้นที่ส่วนรวม (common space) รวมถึงความรู้สึกถึงพื้นที่อันกว้างขวางที่ไม่สามารถหาได้จากโรงแรมแคปซูลที่ไหน

ความเพลิดเพลินที่หาได้ที่อาซากุสะเท่าน้ัน

・รถลาก (พลังคน!)

ที่อาซากุสะนี้ มีกิจการน่าสนใจซึ่งสืบทอดมาแต่โบราณ นั่นก็คือ รถลากพลังคน ที่จะให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวแบบใหม่อยู่มากมายเลยค่ะ สิ่งที่เหนือกว่าการเดินเที่ยวอย่างหนึ่งเลยก็คือ คุณจะไม่เสียเวลามึนงงว่าต้องเดินไปตรงไหน หรือตรงไหนมีอะไรที่ต้องไปค่ะ ถ้าหากขึ้นนั่งรถลากพลังคนหล่ะก็ คุณจะได้รับการนำเที่ยวแบบละเอียดทุกซอกซอยของอาซากุสะ พร้อมกับสะดวกสบายระดับพรีเมี่ยมเลยค่ะ

・เรือเมล์​ water bus

TOKYO CRUISE

ที่อาซากุสะมีเรือเมล์ water bus แล่นล่องอยู่ตามแม่น้ำสุมิดะ (Sumida river) ที่ซึ่งสามารถสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของอาซากุสะในมุมมองใหม่ แบบที่หาชมไม่ได้จากบนฝั่งแน่นอนค่ะ

TOKYO CRUISE ให้บริการจากอาซากุสะ ไปยัง Hamarikyu, ท่าเรือ Hinode, สวน Odaiba Seaside และ Toyosu ค่ะ

ในบทความนี้ เราได้นำเสนอสิ่งต่างๆ ใน "อาซากุสะ" ย่านเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาหลายยุคหลายสมัย และยังคงสถานะสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นของญี่ปุ่นไม่เสื่อมคลายมาทุกยุคสมัยค่ะ ถ้าหากได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวในโตเกียวล่ะก็ ห้ามพลาดที่จะมาเยือนอาซากุสะ แล้วมาลองเรียนรู้ และสัมผัสเสน่ห์ของที่นี่กันนะคะ

หากคุณมีความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา รวมถึงไอเดียใหม่ๆ หรือคำถามเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถทักทายเข้ามาได้ที่ Facebook, Twitter, หรือ Instagram ได้เลย !