【คู่มือเที่ยวโตเกียวฉบับสมบูรณ์!】อาหาร ที่เที่ยว สภาพอากาศ ทุกเคล็ดลับเที่ยว 'โตเกียว' รวมจบครบที่นี่ !!

「โตเกียว」เมืองหลวงในดวงใจใครหลายๆ คน

มหานครโตเกียว เมืองหลวงอันเป็นทั้งศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรม การเมือง และการเงินของประเทศญี่ปุ่น มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 13 ล้านคน โตเกียวเป็นเมืองที่มีบริษัทและธุรกิจต่างๆ มากมาย และจะได้เป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกและพาราลิมปิกในปี 2020 อีกด้วย จึงเรียกว่าเป็นหนึ่งในมหานครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

โตเกียวเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น แน่นอนว่าก็ต้องมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น 'อาซากุสะ' ที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยเมืองเก่าของญี่ปุ่น, 'ชิบูย่า' ย่านรวมเทรนด์ใหม่ของวัยรุ่น, 'ชินจูกุ' หนึ่งในสถานีที่พลุกพล่านที่สุดในโลก, 'กินซ่า' ย่านรวมแบรนด์เนมสุดหรู, 'อุเอโนะ' ย่านแห่งวัฒนธรรมและพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และ 'อากิฮาบาระ' สวรรค์ของเหล่าโอตาคุ เป็นต้น 

แต่ที่กล่าวมาก็ไม่ใช่ทั้งหมดของโตเกียวเสียทีเดียว เพราะหากไปยังบริเวณตะวันตกของโตเกียว เช่น โอคุทามะ (奥多摩) และภูเขาทาคาโอะ (高尾山) แล้วคุณจะพบกับธรรมชาติแสนงดงามที่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในโตเกียว ! ฟังดูอาจจะน่าแปลกใจ แต่ขอบอกได้เลยว่าโตเกียวเป็นเมืองใหญ่ที่คุณสามารถสัมผัสได้ทั้งชีวิตเมืองแสนวุ่นวาย และบรรยากาศร่มรื่นของธรรมชาติไปด้วยกันในที่เดียว

・ตำแหน่งที่ตั้งของโตเกียว

จังหวัดโตเกียวตั้งอยู่ทางตอนใต้ของที่ราบคันโต และอยู่บริเวณเกือบกึ่งกลางของเกาะญี่ปุ่นโดยติดกับอ่าวโตเกียวที่เชื่อมต่อไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนี้ หมู่เกาะอิสึ (伊豆) และหมู่เกาะมรดกโลกทางธรรมชาติโอซากะวาระ (小笠原) ที่อยู่กลางทะเลและห่างจากโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงใต้กว่าพันกิโลเมตรก็นับเป็นส่วนหนึ่งของมหานครโตเกียวเช่นกัน ! 

จังหวัดที่อยู่ติดกับโตเกียวได้แก่ จังหวัดชิบะทางติดตะวันออก, จังหวัดยามานาชิทางทิศตะวันตก, จังหวัดคานากาว่าทางทิศใต้ และจังหวัดไซตามะทางทิศเหนือ

สภาพอากาศของโตเกียว

・อุณหภูมิโดยเฉลี่ยและปริมาณน้ำฝน

หากพูดถึงสภาพอากาศของโตเกียวแล้วก็คงไม่พ้นฤดูร้อนที่ทั้งร้อนชื้น และมักมีฝนตกหนักในแต่ละพื้นที่ แต่ในฤดูหนาวเองก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นกัน เนื่องจากมีพื้นยางมะตอยเป็นบริเวณกว้าง หากหิมะตกแล้วจะลื่นได้ง่าย อันตรายต่อการเดินเล่นในตัวเมือง นอกจากนี้บางปีก็อาจมีหิมะตกหนักในโตเกียวอีกด้วย

ดังนั้นจึงควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนเดินทางมาถึง และยิ่งจำเป็นมากเป็นพิเศษสำหรับใครที่เดินทางมาญี่ปุ่นในช่วงเดือนก.ค. - ก.ย. ที่มักจะมีใต้ฝุ่นเข้าบ่อยเป็นพิเศษนั่นเอง

วิธีเดินทางสู่โตเกียว

การเดินทางจากเมืองต่างๆ ไปยังโตเกียวมีหลายวิธี ซึ่งเครื่องบินเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ สนามบินโดยรอบโตเกียวได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) และท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (สนามบินนาริตะ)

โดยสนามบินฮาเนดะเรียกได้ว่าสะดวกมากเป็นพิเศษเพราะอยู่ใกล้ย่านใจกลางเมืองอย่างชินากาว่า และอื่นๆ ส่วนการเดินทางจากสนามบินฮาเดนะเข้าสู่ใจกลางเมืองก็แสนสะดวก สามารถใช้รถไฟที่เข้าใจง่าย และหากมีประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นมากแล้ว รถบัสด่วนก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเช่นกัน

วิธีการเดินทางภายในโตเกียว

โตเกียวมีประชากรประมาณ 15.92 ล้านคน ในช่วงกลางวัน (※) ยิ่งช่วงที่ผู้คนเดินทางไปทำงานรถไฟจะแน่นมากเป็นพิเศษ โดยช่วงเวลาที่คนแน่นที่สุดคือ เช้าวันธรรมดาเวลาประมาณ 7.00 - 8.30 น. และตอนเย็นช่วง 17.30 - 18.30 น. ในช่วงเวลานี้ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยรถไฟจะดีกว่า

※ จากผลการสำรวจประชากรวันที่ 1 ตุลาคม 2015

・รถไฟ

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในตัวเมืองขอแนะนำให้ใช้รถไฟ (JR, Tokyo Metro, Toei Subway) เพราะสามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ได้แทบจะทุกที่เลยทีเดียว แต่สถานีที่มักจะเป็นปัญหาสำหรับนักท่องเที่ยวเลยก็คือ 'สถานีชินจูกุ' (新宿駅) ที่ใหญ่มากและเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟหลายสาย อย่างไรก็ตาม หากวางแผนการเดินทาง หาวิธีเปลี่ยนสายเตรียมไว้ก็จะสามารถเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายได้อย่างรวดเร็วและประหยัดที่สุด  

แน่นอนว่าในสมัยนี้ก็มีแอปพลิเคชันช่วยวางแผนการเดินทางทั้งบัสและรถไฟในภาษาต่างๆ มากมาย ส่วนในเว็บไซต์ของสำนักขนส่งมหานครโตเกียว (東京交通局) เองก็มีแผนที่รวมสายรถไฟบางส่วน แปลเป็นภาษาต่างๆ ไว้เช่นกัน

▼โฮมเพจสำนักขนส่งมหานครโตเกียว
ภาษาญี่ปุ่น    ：https://www.kotsu.metro.tokyo.jp/
ภาษาอังกฤษ ：https://www.kotsu.metro.tokyo.jp/eng/
ภาษาไทย     ：https://www.kotsu.metro.tokyo.jp/thai/

・รถบัส

ในโตเกียวมีป้ายรถบัสมากมายตามแทบจะทุกสถานี หากวางแผนดีๆ เผลอๆ อาจจะสะดวกกว่าเดินทางโดยรถไฟเลยก็เป็นได้ แต่การเดินทางโดยรถบัสอาจจะไม่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ เพราะทั้งป้ายรถบัสและเสียงประกาศในรถบัสส่วนมากจะมีแค่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น จึงควรระวังเอาไว้

・แท็กซี่

การเดินทางโดยแท็กซี่จะค่อนข้างแพงสักหน่อย แต่ถ้าหากเดินทางทีละหลายคน บางทีหารกันแล้วอาจจะถูกกว่าเดินทางโดยรถไฟหรือบัสก็เป็นไปได้เช่นกัน (ขึ้นกับระยะทางและจุดหมายด้วย) ตอนนี้แท็กซี่หลายบริษัทก็รองรับบัตรเครดิตหลายชนิด จ่ายได้อย่างสะดวกแถมยังไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมอีกด้วย

ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีแท็กซี่ที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาต่างประเทศได้ แต่แค่เพียงระบุจุดมุ่งหมายให้คนขับเข้าใจได้ก็หายห่วง โดยทั่วไปจะมีจุดขึ้นแท็กซี่ตามสถานีรถไฟต่างๆ หรือจะโบกมือเรียกแท็กซี่จากข้างถนนก็ได้เช่นกัน

สำหรับท่านที่ต้องการความสะดวกสบายและมีงบประมาณเพียงพอ เราขอแนะนำบริการ 'แท็กซี่ท่องเที่ยว' ซึ่งมีคอร์สเส้นทางท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย แถมไม่ต้องแบกสัมภาระหนักๆ เที่ยวโตเกียวแบบง่ายสุดๆ ! เหมาะกับนักท่องเที่ยวมือใหม่ หรือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุซึ่งอาจจะไม่สะดวกเดินเท้านานๆ

・รถเช่า

คนญี่ปุ่นจำนวนมากไม่นิยมขับรถในย่านเมืองใหญ่ด้วยถนนที่แคบและกฎจราจรที่ค่อนข้างเข้าใจยาก จึงอาจจะเป็นวิธีเดินทางที่ไม่แนะนำมากสักเท่าไหร่นักสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่

อย่างไรก็ตาม การใช้รถเช่าจะสะดวกมากเป็นพิเศษสำหรับการเดินทางไปยังเมืองใกล้เคียงโตเกียวที่การขนส่งสาธารณะอาจจะยังไม่สะดวกเท่าไรนัก ยิ่งไปเป็นกลุ่มก็ยิ่งประหยัดเพราะช่วยกันหารค่ารถได้ แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าในช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่นอย่าง 'โกลเด้นวีค (ปลายเดือนเม.ย. - ต้นเดือนพ.ค.)', 'โอบ้ง (กลางเดือนส.ค.)', 'ปีใหม่' นั้นการจราจรอาจจะติดขัดมากเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงาารใช้รถยนต์จะดีกว่า

・จักรยานเช่า

สำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ใกล้เคียง จักรยานเช่าก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ โดยขอแนะนำเป็นพิเศษสำหรับการปั่นจักรยานไปยังจุดหมายปลายทางพลางชมวิวข้างทางในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้หากเจอสถานที่ที่น่าสนใจระหว่างทางก็สามารถแวะเยี่ยมชมได้ตามใจชอบ เรียกได้ว่าสามารถเที่ยวได้เหมือนเป็นคนท้องถิ่นเลยทีเดียว

・อื่นๆ

ยังมีวิธีการเดินทางที่น่าสนใจอื่นๆ อีก เช่นการเดินทางไปยังอาซากุสะ, สวนฮามะริคิว, โอไดบะ, Tokyo Big Sight โดยเรือบัส (水上バス) นอกจากจะสามารถชมวิวโตเกียวยามค่ำคืนได้จากกลางน้ำแล้วยังมีรอบมากเป็นพิเศษในช่วงงานเทศกาลของฤดูกาลต่างๆ เช่น ฮานามิ (ชมดอกซากุระ) และเทศกาลดอกไม้ไฟ เป็นต้น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือบัส (ตารางรอบเดินเรือ ราคา และอื่นๆ) สามารถตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์ Tokyo Cruise

สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในโตเกียว

ในโตเกียวมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย มากี่ครั้งก็สนุกได้ไม่เบื่อ สำหรับครั้งนี้ขอแนะนำที่เที่ยวที่ถ้าได้มาแล้วห้ามพลาดเป็นอันขาด ! ไปดูกันเลย

1. ชมวิวโตเกียวแบบพาโนรามาที่「โตเกียวสกายทรี」

หากได้มาที่โตเกียวแล้วก็ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชมโตเกียวสกายทรี (東京スカイツリー) สักครั้ง ที่นี่เป็นหอคอยส่งสัญญาณการสื่อสารดิจิตัลขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 634 เมตร ! จนได้รับการบันทึกสถิติในกินเนสส์บุ๊คเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกในปี 2011

บนหอชมวิวความสูง 450 เมตร จากพื้นดิน คุณสามารถชมวิวทั่วเมืองโตเกียวได้แบบพาโนรามา และยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ตื่นเต้นท้าทายโดยการเดินบนระเบียงพื้นแก้วใส เรียกได้ว่าราวกับกำลังเดินบนอากาศเลยทีเดียว

นอกจากนี้ บนหอชมวิวยังมีร้านอาหารบรรยากาศดีที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของโตเกียวไปพลางลิ้มรสอาหารแสนอร่อย ขอบอกเลยว่าวิวโตเกียวที่แต่งแต้มไปด้วยแสงไฟในยามค่ำคืนนั้นพลาดไม่ได้เป็นอันขาด ! อย่าลืมพกกล้องติดตัวมา รับรองว่าได้รูปเด็ดๆ กลับไปอย่างแน่นอน

2. สัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่「อาซากุสะ」

ย่านอาซากุสะ (浅草) อีกย่านเรโทรใจกลางเมืองโตเกียวที่คงไม่มีใครไม่รู้จัก สัญลักษณ์ของที่นี่คือประตูใหญ่ที่มีโคมสีแดงขนาดใหญ่ยักษ์ 'ประตูคามินาริมง' (雷門 ประตูแห่งสายฟ้า) ซึ่งอยู่บริเวณทางเข้าของ 'วัดเซนโซจิ' (浅草寺 ชื่อทางการคือ 'วัดอาซากุสะคันนน') วัดเซนโซจิมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1400 ปี ทั้งยังเป็นสถานที่ที่นักรบผู้ยิ่งใหญ่อย่างโทคุกาว่า อิเอยาสุเคยมาสักการะเพื่อชัยชนะในสงครามอีกด้วย

บริเวณตั้งแต่ประตูคามินาริมงไปยังอาคารหลักของวัดเซนโซจิคือ 'ถนนนาคามิเสะ' (仲見世通り) ซึ่งมีร้านขายของฝากและร้านขายอาหารกว่า 90 ร้าน ขอแนะนำร้านดังที่ห้ามพลาดอย่าง ขนมคามินาริโอโคชิจากร้าน 'คามินาริโอโคชิฮงโปะ', ขนมคิบิดังโงะจากร้าน 'อะสึมะ', มันจูทอดจากร้าน 'โคโคโนเอะ', เมนชิคัตสึ (เนื้อบดชุบแป้งทอด) จากร้าน 'อาซากุสะเมนชิ', เมลอนปังไซส์บิ๊กจากร้าน 'คะเกตสึโด' ลองมาชิมของดังอาซากุสะพลางเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศ รับรองว่าจะได้ความประทับใจไม่รู้ลืมกลับไปอย่างแน่นอน

3. สนุกกับแสงสีเสียงยามค่ำคืนที่「ชินจูกุ」

ย่านคาบุกิโจ (歌舞伎町) อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสถานีชินจูกุ เป็นหนึ่งในย่านสถานบันเทิงที่คึกคักที่สุดในโตเกียว มีทั้งร้านอาหาร ร้านเหล้า ร้านขายของ โรงหนัง และอื่นๆ อีกมากมาย สถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดก็แน่นอนว่าต้องเป็นสถานีชินจูกุ (新宿駅) สถานีที่เรียกได้ว่ามีผู้คนเดินทางเข้าออกมากที่สุดในโลก และเนื่องจากว่าแม้แต่ในยามค่ำคืน ไม่ว่าจะดึกดื่นสักแค่ไหน ที่นี่ก็ยังมีแสงไฟนีออนส่องสว่างโดดเด่นจากย่านอื่นๆ ชินจูกุจึงถูกเรียกว่าเป็น 'ย่านที่ไม่เคยหลับใหล' อีกด้วย

'ถนนชินจูกุโกลเด้นไก' (新宿ゴールデン街) คืออีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของชินจูกุ ที่นี่มีร้านอาหารร้านเล็กๆ มากมายเรียงรายในอาคารไม้ยาว รวมพื้นที่กว่า 6,612 ตารางเมตร เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับใครที่อยากสัมผัสไนท์ไลฟ์ในโตเกียว แต่ก็มีร้านค้าที่อาจจะดูอันตรายอยู่บ้างจึงขอเตือนให้ระมัดระวังกันสักหน่อย

ของกินห้ามพลาดในโตเกียว

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าอาหารดังของโตเกียวคืออะไร เราขอแนะนำให้ลอง 'เอโดะมาเอะซูชิ' (江戸前鮨 ซูชิสไตล์โตเกียว) และ 'มอนจายากิ' (もんじゃ焼き) แต่ขอบอกเลยว่าโตเกียวไม่ได้มีดีแค่อาหารญี่ปุ่น แต่คุณสามารถลิ้มลองอาหารแสนอร่อยจากทั่วโลกได้ที่นี่ !

นอกจากร้านอาหารดาวมิชลินที่ใช้ทั้งวัตถุดิบคุณภาพดี เทคนิคขั้นสุดยอดแล้ว โตเกียวก็ยังมีร้านอาหารถูกและอร่อยเกินคุ้ม รวมถึงคาเฟ่นั่งชิลล์อยู่อีกมากมายเช่นกัน อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของโตเกียวก็คือที่นี่จะมีร้านอาหารที่เปิดถึงดึกดื่นมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อื่นๆ โดยเฉพาะที่อะเมโยโกะในอุเอโนะ, คาบุกิโจในชินจูกุ, บริเวณใต้รางรถไฟของยูราคุโจ ถ้าอยากสัมผัสไนท์ไลฟ์ของโตเกียวล่ะก็พลาดไม่ได้เลย ! 

ในช่วงระยะหลังมานี้เองก็ยังมีร้านค้าแปลกใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทั้งร้านที่แสดงให้ถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม ร้านที่ให้คุณได้สัมผัสศิลปะสมัยใหม่ขณะรับประทานอาหาร ร้านอาหารมังสวิรัติหรือฮาลาล และอื่นๆ อีกมากมาย ตอบสนองความต้องการของคุณได้ทุกรูปแบบ

แต่อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารยอดนิยมก็มักจะมีลูกค้าแน่นอยู่ตลอด และอาจจะต้องต่อคิวรอเป็นระยะเวลานาน ขอแนะนำให้จองร้านล่วงหน้าก่อนไปทานจะดีกว่า ลองค้นหาร้านอาหารและจองผ่านเว็บไซต์นี้ก่อนได้เลย 

ที่พักในโตเกียว

จากผลสำรวจในปี 2017 (※) พบว่าในปีหนึ่งๆ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมายังโตเกียวกว่า 537 ล้านคน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 13 ล้านคน ด้วยจำนวนที่มากขึ้นในทุกปี แน่นอนว่าที่พักยอดนิยมตามย่านต่างๆ ก็มักจะเต็มอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงควรวางแผนและจองโรงแรมไว้แต่เนิ่นๆ จะดีกว่า

เราได้รวบรวมที่พักในโตเกียวไว้แล้ว สามารถตรวจสอบได้ที่นี่เลย !

(※) ผลสำรวจจาก Tokyo Metropolitan Government Bureau of Industrial and Labor Affairs

・โรงแรม

ที่โตเกียวมีโรงแรมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอยู่เป็นจำนวนมาก และมีโรงแรมในลิสต์ 'มิชลินไกด์โตเกียว 2019' อยู่ถึง 33 โรงแรม ! คุณสามารถผ่อนคลายในห้องพักสุดกว้างขวาง เพลิดเพลินไปกับอาหารเช้าชั้นยอดโดยเชฟมากฝีมือ หรือแม้กระทั่งชมวิวเมืองสุดอลังการได้จากห้องพักของคุณ แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกโรงแรมได้จากตัวเลือกในหลากหลายช่วงราคา แต่ถ้าหากมีงบประมาณมากสักหน่อย ก็ไม่ควรพลาดที่จะลองพักในโรงแรมหรูพร้อมบริการอันไร้ที่ติ !

・เรียวคัง (โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น)

สำหรับใครที่ชื่นชอบและอยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้เข้าพักที่เรียวคัง หรือก็คือที่พักสไตล์ญี่ปุ่นนั่นเอง ในเรียวคังจะมีการตกแต่งแบบบ้านสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม มีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นมากมายไม่ว่าจะเป็นเสื่อทาทามิ, ชุดยูกาตะ, บ่อออนเซ็น, สวนญี่ปุ่น เป็นต้น

อีกอย่างที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมที่จะเสิร์ฟส่งตรงถึงห้องพักของคุณ และสัมผัสฤดูกาลทั้งสี่จากการตกแต่งในห้องพัก มาสร้างความทรงจำสุดประทับใจไม่รู้ลืมจากการบริการชั้นเลิศไม่เหมือนใครของญี่ปุ่นที่เรียวคังกันเถอะ !

・โรงแรมธุรกิจ (business hotel)

ในเมืองที่มีการติดต่อธุรกิจมากมายอย่างโตเกียว แน่นอนว่าก็ต้องมีโรงแรมธุรกิจ (business hotel) อยู่เป็นจำนวนมาก คอนเซ็ปต์หลักๆ คือเป็นที่สำหรับพักผ่อนนอนหลับ มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นจัดบริการไว้ให้ จึงมีราคาถูกกว่าโรงแรมทั่วไป และเป็นที่นิยมค่อนข้างมากสำหรับนักท่องเที่ยว 

ทั้งสะอาด สะดวก และราคาย่อมเยา จึงไม่แปลกใจที่โรงแรมธุรกิจยอดนิยมก็จะถูกจองเต็มเร็วเป็นพิเศษ ดังนั้นโปรดอย่ารอช้า เดี๋ยวที่พักดีๆ จะเต็มหมดเสียก่อน !

・โรงแรมแคปซูล

โรงแรมแคปซูล อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่คุณควรลองสัมผัสสักครั้ง จุดเด่นอยู่ที่ที่พักแคปซูลที่มีขนาดสำหรับพัก 1 ท่าน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น และราคาสุดย่อมเยาเพียงไม่กี่พันเยนต่อคืนเท่านั้น

ในสมัยก่อนโรงแรมแคปซูลนั้นเป็นที่นิยมสำหรับเหล่าพนักงานบริษัทที่พลาดรถไฟรอบสุดท้ายไป แต่ในปัจจุบันนี้มีโรงแรมแคปซูลจำนวนมากที่ปรับปรุงใหม่จนมาพร้อมดีไซน์สุดโมเดิร์น ที่นอนสุดนุ่มสบาย บริการข้าวของเครื่องใช้ครบครัน และห้องโถงรวมน่านั่ง จึงไม่แปลกใจที่มีผู้เลือกพักผ่อนที่โรงแรมเแคปซูลมากขึ้น

・เกสต์เฮ้าส์

เกสต์เฮ้าส์ ที่พักยอดนิยมสำหรับเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ ด้วยราคาที่ถูกกว่าเรียวคังและโรงแรมทั่วไป แถมยังมีห้องส่วนกลางที่ผู้เข้าพักสามารถพูดคุยกับนักท่องเที่ยวหรือชาวท้องถิ่นคนอื่นๆ ได้ นอกจากนี้เกสต์เฮ้าส์ที่สร้างใหม่ก็มักจะมีคาเฟ่ บาร์ ทาวน์เฮ้าส์ผู้อยู่อาศัย หรือแม้กระทั่งงานศิลป์ดีไซน์ที่เจ้าของชื่นชอบอยู่ในตัวเกสต์เฮ้าส์เอง !

เกสต์เฮ้าส์จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่และต้องการพบปะผู้คนที่น่าสนใจระหว่างการเดินทาง

ตะลุยช็อปปิ้งในโตเกียว

หนึ่งในเป้าหมายของคนที่มาเที่ยวโตเกียวก็คงไม่พ้นการช็อปปิ้ง !! ด้วยย่านร้านค้ามากมายที่จะตอบสนองทุกความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็น 'กินซ่า' ย่านแบรนด์เนมหรู, 'ฮาราจูกุ' ย่านชิคๆ สำหรับเหล่าวัยรุ่น, 'ชิโมคิตะซาว่า' ย่านสินค้ามือสองและของวินเทจ, 'อากิฮาบาระ' เมืองแห่งเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอนิเมะ, 'โทโยสุ' ที่ตั้งของตลาดปลาสึคิจิแห่งใหม่ในปี 2018 และ 'สถานีโตเกียว' แหล่งช็อปปิ้งของฝากห้ามพลาด 

อีกจุดเด่นของโตเกียวคือหลากหลายของฝากยอดนิยม ทั้งขนมสุดคลาสสิกอย่างโตเกียวบานาน่า, นินเกียวยากิ (人形焼き), คามินาริโอโคชิ (雷おこし) รวมถึงขนมใหม่ๆ ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ และได้รับความนิยมมากไม่แพ้กัน ลองหาของฝากที่เหมาะกับคุณ และคนที่คุณรักดู รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน 

ลองดูบทความช็อปปิ้งในโตเกียวที่เราคัดสรรไว้ แล้วไปลุยกันเลย !

เทศกาลต่างๆ ที่ไม่ควรพลาด

・ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค. - พ.ค.)

เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นจากฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ หากคุณมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ก็จะได้พบกับโตเกียวที่ถูกย้อมไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระบานสะพรั่ง

แม้ว่าโตเกียวจะเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า แต่ก็ยังมีสถานที่สำหรับชื่นชมธรรมชาติอยู่มากมายเช่นกัน โดยสถานที่สำหรับฮานามิ (ชมดอกซากุระ) ที่เราขอแนะนำคือ สวนอุเอโนะ (上野恩賜公園), สวนโยโยกิ (代々木公園) และ สวนจิโดริกะฟุจิ (千鳥ヶ淵) ที่จะมีผู้คนมากมายมานั่งปิกนิกชมซากุระ และพายเรือในสายน้ำ

・ฤดูร้อน (มิ.ย. - ส.ค.)

เทศกาลฤดูร้อน, การแสดงดอกไม้ไฟ, เทศกาลดนตรี, เบียร์การ์เด้น และอีเวนต์อื่นๆ ในฤดูร้อนของญี่ปุ่น ที่มากเสียจนกระทั่งแม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็เลือกไม่ถูก 

สำหรับโตเกียวแล้ว ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมของทุกปีจะมีการจัด 'เทศกาลฟุคุกาวะฮะจิมัง' (深川八幡祭り) ที่ศาลเจ้าโทมิโอกะฮะจิมัง (富岡八幡宮) โดยในเทศกาลสุดอลังการนี้จะมีเหล่าผู้คนแห่ขบวนเกี้ยวมิโคชิหลากหลายขนาดกว่า 120 หลัง ไปรอบๆ เมืองพลางร้องตะโกนว่า 'วัชโชอิ วัชโชอิ' โดยผู้ชมก็จะคอยสาดน้ำใส่ไปด้วย ภาพของผู้เข้าร่วมและผู้ชมที่แสนคึกคักนี้เรียกได้ว่าสนุกจนไม่อยากให้พลาดเป็นอันขาด !

 

・ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย. - พ.ย.)

ฤดูใบไม้ร่วง คือฤดูแห่งการเก็บเกี่ยว จึงมีอีเวนต์เกี่ยวกับอาหารมากมายในฤดูนี้ หากคุณได้มาโตเกียวในช่วงนี้ ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ลองไป 'เทศการซันมะเมกุโระ' (目黒のさんま祭り) ที่คุณจะสามารถลิ้มลองปลาซันมะสดใหม่ได้อย่างฟรีๆ ! นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลที่เกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น 'เทศกาลหนังสือมือสองคันดะ' (神田古本まつり), 'เทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศ โตเกียว' (東京国際映画祭) เป็นต้น

ถ้าหากอยากชมวิวทิวทัศน์แสนสวยงามของฤดูใบไม้ร่วงแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ 'เทศกาลต้นแปะก๊วยจิงกูไกเอ็น' (神宮外苑 いちょう祭り) ที่สวนรอบนอกศาลเจ้าเมจิ จัดขึ้นในช่วงกลางเดือนพ.ย. - ต้นเดือนธ.ค. ซึ่งผู้คนจากทั่วญี่ปุ่น (รวมถึงต่างประเทศ !) จะเดินทางมาชื่นชมทางเดินต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองอร่ามสุดตระการตา ผ่อนคลายกับวิวฤดูใบไม้ร่วงแสนงดงามนี้

・ฤดูหนาว (ธ.ค. - ก.พ.)

ในช่วงปีใหม่ของประเทศญี่ปุ่น ผู้คนมักจะไปสักการะวัดและศาลเจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลในปีต่อไป และขอบคุณสำหรับปีที่ผ่านมา กิจกรรมนี้เรียกว่า 'ฮัตสึโมเดะ' (初詣) และเป็นเหตุผลหลักที่ในช่วงปีใหม่มักจะมีผู้คนหนาแน่นตามวัดและศาลเจ้า สำหรับใครที่อยากสักการะฉลองปีใหม่ที่ญี่ปุ่น ในโตเกียวเองมีสถานที่สำหรับฮัตสึโมเดะอยู่มากมาย เช่น 'ศาลเจ้าเมจิ' (明治神宮) ที่มีผู้สักการะมากที่สุดในญี่ปุ่น, 'วัดเซนโซจิ' (浅草寺) พร้อมบรรยากาศแบบเมืองเก่า, 'ศาลเจ้าคันดะ' (神田明神) เป็นต้น 

นอกจากนี้ยังมีเทศกาลน่าสนใจในฤดูหนาวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการประดับไฟอิลลูมิเนชั่นในช่วงคริสต์มาส, อีเวนต์เคาท์ดาวน์ปีใหม่, เซ็ตสึบุน หรือเทศกาลปาถั่วเพื่อปัดเป่าปีศาจร้ายในวันที่ 3 ก.พ. เป็นต้น

ศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยวโตเกียว

ถ้าหากคุณเกิดหลงทาง หรือไม่ทราบวิธีไปยังสถานที่ต่างๆ ขอให้คุณมุ่งหน้าไปยังศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว ! ในโตเกียวเองมีศูนย์บริการท่องเที่ยวมากมาย แต่เราขอแนะนำที่ที่ได้รับการรับรองโดย JNTO (องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น)

สำหรับบทความนี้จะขอนำเสนอ 3 ศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยว ที่ให้บริการทั้งภาษาอังกฤษ รวมถึงภาษาอื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว ไม่ต้องกังวลว่าจะหาไม่เจอแต่อย่างใด ! ลองไปเพื่อทริปเที่ยวญี่ปุ่นที่สนุกยิ่งขึ้นของคุณ !

・ศูนย์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาซากุสะ [อาซากุสะ]

ศูนย์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาซากุสะ (Asakusa Culture Tourist Information Center) อยู่ภายในตึกไม้ดีไซน์โดดเด่นที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังก้องโลก เคงโกะ คุมะ โดยตั้งอยู่หน้าประตูคามินาริมงของอาซากุสะ ที่นี่คุณสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงิน สูบบุหรี่ ทั้งยังมีจุดชมวิวพาโนรามาของอาซากุสะให้ขึ้นไปชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่น : http://www.city.taito.lg.jp/index/bunka_kanko/oyakudachi/kankocenter/index.html

・ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวชินจูกุ [ชินจูกุ]

※写真撮影？

ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวชินจูกุ (Shinjuku Tourist Information Center) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทางออกทิศตะวันออกของสถานีชินจูกุ หนึ่งในสถานีขนส่งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากบริการข้อมูลการท่องเที่ยวโตเกียวในภาษาต่างๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังมีATM, เคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตรา, ล็อกเกอร์ฝากของให้บริการอีกด้วย

ภาษาญี่ปุ่น：http://www.kanko-shinjuku.jp/office/-/index.html
ภาษาอังกฤษ：http://www.kanko-shinjuku.jp.e.xm.hp.transer.com/
 

・TIC TOKYO [นิฮงบาชิ]

※写真撮影？

TIC TOKYO ตั้งอยู่ใกล้ทางออกนิฮงบาชิของสถานีโตเกียว พนักงานของที่นี่สามารถให้บริการได้หลากหลายภาษา แถมยังสามารถช่วยคุณจองที่พักได้ และใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์บริการเองก็ยังมีคาเฟ่ให้คุณได้นั่งผ่อนคลายจากการเดินทางอีกด้วย

ภาษาญี่ปุ่น：https://www.tictokyo.jp/
ภาษาอังกฤษ：https://www.tictokyo.jp/en/

หากเกิดปัญหาฉุกเฉิน

・โรงพยาบาลและคลินิก

หากเกิดอุบัติเหตุหรือล้มป่วยในญี่ปุ่น โปรดตรวจสอบลิงก์เว็บไซต์ด้านล่าง คุณจะสามารถค้นหาโรงพยาบาลและคลินิกกว่า 900 แห่ง ที่ให้บริกาารรักษานักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้ยังมี 'คู่มือการใช้บริการสถานพยาบาล' แบบไฟล์ PDF ให้ดาวน์โหลด ซึ่งมีทั้งข้อควรระวัง วิธีการบอกอาการป่วยแก่แพทย์ รวมถึงวิธีรับมือกับภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวอีกด้วย !

ภาษาญี่ปุ่น：https://www.jnto.go.jp/emergency/jpn/mi_guide.html
ภาษาอังกฤษ：https://www.jnto.go.jp/emergency/eng/mi_guide.html
 

・ตำรวจ

หากเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย, ของหาย, หลงทาง หรือมีปัญหาใดๆ ให้คุณไปที่สถานีหรือป้อมตำรวจที่ใกล้ที่สุด เว็บไซต์ข้างล่างนี้จะช่วยคุณค้นหาข้อมูลการติดต่อสถานีตำรวจและป้อมตำรวจในญี่ปุ่น รวมถึงกฎและความรู้พื้นฐานอย่างเช่นการจราจร ลองตรวจสอบเว็บไซต์เหล่านี้ แล้วทริปญี่ปุ่นของคุณจะทั้งปลอดภัยและสนุกมากขึ้นไปอีก !

ภาษาญี่ปุ่น：https://www.keishicho.metro.tokyo.jp/about_mpd/shokai/ichiran/
ภาษาอังกฤษ：　https://www.keishicho.metro.tokyo.jp/multilingual/english/finding_services/index.html

▼สำหรับผู้อยู่อาศัยในโตเกียว
ภาษาอังกฤษ：https://www.keishicho.metro.tokyo.jp/multilingual/english/for_residents/index.html

・สำหรับชาวมุสลิม

สำหรับชาวมุสลิมท่านใดที่ต้องการค้นหาร้านอาหารและที่พัก เราขอแนะนำ 'TOKYO MUSLIM Travelers’ Guide' ในเว็บไซต์ด้านล่างนี้ ซึ่งได้รวบรวมร้านอาหาร, ห้องละหมาด, ที่พัก และร้านค้าต่างๆ สำหรับชาวมุสลิมรวมกว่า 124 สถานที่ 

ภาษาอังกฤษ：https://www.gotokyo.org/book/0001-079-en/html5.html#page=1

วิธีเดินทางจากโตเกียวไปยังเมืองอื่นๆ

สำหรับการเดินทางไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างฮอกไกโด, โอซาก้า, ฟุกุโอกะ, นาโกย่า, โอกินาว่า และอื่นๆ มีวิธีการเดินทางมากมายไม่ว่าจะเป็นชินคันเซ็น, บัสด่วน, เครื่องบิน 

●ชินคันเซ็น
การเดินทางโดยรถไฟชินคันเซ็นอาจจะใช้เวลาเดินทางนานกว่าเครื่องบิน แต่ถ้าหักลบเวลาเดินทางจากสนามบินไป-กลับตัวเมืองแล้ว ชินคันเซ็นอาจจะรวดเร็วกว่า นอกจากนี้หากใช้ Japan Rail Pass (เจอาร์พาส) ก็ยิ่งสามารถประหยัดค่าเดินทางได้มากขึ้นไปอีก ! ขอแนะนำให้ซื้อเบนโตะรถไฟ (駅弁) ขึ้นไปลิ้มลองเบนโตะแสนอร่อยพร้อมทอดสายตาชมวิวข้างทาง เป็นอีกประสบการณ์ที่อยากให้คุณได้ลอง

●เครื่องบิน
วิธีนี้อาจเป็นวิธีการเดินทางสู่ที่หมายที่รวดเร็วที่สุดหากเดินทางระยะทางไกลมากๆ แต่ก็ขึ้นกับตำแหน่งที่ตั้งของสนามบินด้วย คุณสามารถสัมผัสถึงบริการอันไร้ที่ติจากสายการบินต่างๆ ของญี่ปุ่น ปัจจุบันนี้ก็มีสายการบินโลว์คอสต์หลายสายการบินให้คุณได้เดินทางไปยังจังหวัดไกลๆ ได้ในราคาประหยัด

●รถบัสด่วน
สำหรับใครที่อยากประหยัดค่าเดินทางให้มากที่สุด รถบัสด่วน เป็นวิธีที่เราขอแนะนำมากที่สุด อาจจะใช้เวลาเดินทางนานสักหน่อย แต่แลกมาด้วยราคาสุดย่อมเยาเพียงไม่กี่พันเยน ! (ขึ้นกับจุดหมาย) สามารถเลือกเดินทางได้ทั้งเวลากลางวันพลางชมวิวเมืองข้างทาง หรือจะเลือกใช้บริการบัสกลางคืนที่คุณอาจจะถึงที่หมายขณะนอนอยู่โดยไม่รู้ตัว ! อีกสิ่งที่น่าสนใจคือจะมีการแวะตามจุดพักรถระหว่างทาง ซึ่งคุณสามารถลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของบริเวณนั้นๆ ได้อีกด้วย

ลองค้นหาตัวเลือกที่เหมาะกับความชอบและงบประมาณของคุณมากที่สุด แล้วไปสนุกกับทริปเที่ยวต่อจากโตเกียวกันเถอะ !

・โตเกียว 〜 ฮอกไกโด (ฮาโกดาเตะ)

ชินคันเซ็น：4 ชั่วโมง 30 นาที (สถานีโตเกียว - ฮอกไกโดชินคันเซ็น・สถานีชินฮาโกดาเตะโฮคุโตะ - สถานีฮาโกดาเตะ)
เครื่องบิน：3 ชั่วโมง 30 นาที (สถานีโตเกียว - สนามบินฮาเนดะ - สนามบินฮาโกดาเตะ - สถานีฮาโกดาเตะ)

・โตเกียว 〜 โอซาก้า (ชินโอซาก้า)

ชินคันเซ็น：2 ชั่วโมง 30 นาที (สถานีโตเกียว - สถานีชินโอซาก้า)
เครื่องบิน：3 ชั่วโมง 30 นาที (สถานีโตเกียว - สนามบินฮาเนดะ - สนามบินอิตามิ - สถานีชินโอซาก้า)
รถบัสด่วนพิเศษ : 8 ชั่วโมง (สถานีรถบัสด่วนในโตเกียว - สถานีรถบัสด่วนในโอซาก้า)

・โตเกียว 〜 ฟุกุโอกะ (ฮากาตะ)

ชินคันเซ็น：5 ชั่วโมง (สถานีโตเกียว - สถานีฮากาตะ)
เครื่องบิน：3 ชั่วโมง 50 นาที (สถานีโตเกียว - สนามบินฮาเนดะ - สนามบินฟุกุโอกะ - สถานีฮากาตะ)
รถบัสด่วนพิเศษ : 8 ชั่วโมง (สถานีรถบัสด่วนในโตเกียว - สถานีรถบัสด่วนในโอซาก้า)

・โตเกียว 〜 โอกินาว่า (นาฮะ)

เครื่องบิน：4 ชั่วโมง (สถานีโตเกียว - สนามบินฮาเนดะ - สนามบินนาฮะ)


※ทั้งหมดเป็นการประมาณระยะเวลาที่สั้นที่สุด อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาหรือสภาพการจราจร

มหานครโตเกียว เมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลมาท่องเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย ที่นี่มีทั้งที่เที่ยวเด็ด อาหารอร่อย และกิจกรรมมากมายให้คุณได้ไปสัมผัส อย่าลืมหาข้อมูลที่เที่ยวและการเดินทางเตรียมล่วงหน้าไว้ แล้วไปสนุกสุดเหวี่ยงให้เต็มที่ !

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทริปเที่ยวญี่ปุ่นของคุณสนุกยิ่งขึ้นไม่มากก็น้อย  

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !