มีทั้งร้อนและหนาว! ข้อมูลสภาพอากาศตลอดปีที่ต้องรู้ก่อนไปโอซาก้า

 

มกราคม

Sora/Flicker

โอซาก้ามีลักษณะเด่นตรงที่ ในฤดูร้อนอากาศจะร้อนจัดและตลอดทั้งปีฝนจะไม่ค่อยตก แต่ในฤดูหนาวก็ค่อนข้างหนาว มีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 10℃ เรียกได้ว่าหนาวพอๆ กับโตเกียวเลยทีเดียวค่ะ ดังนั้นนอกจากเสื้อโค้ทหนาๆ แล้วจึงจำเป็นต้องมีผ้าพันคอ ถุงมือ และอื่นๆ เพื่อป้องกันความหนาวเย็นด้วย

ป้ายกูลิโกะ (ยี่ห้อขนมของญี่ปุ่น ดีไซน์ตามรูปนี้ใช้เป็นแพ็คเกจของลูกอมคาราเมล) ซึ่งอยู่ที่ Dotonbori ที่นี่มักจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายืนขาเดียวร้องโชไยโพสต์ท่านี้ แต่ทว่าในตอนฤดูหนาวพื้นถนนจะลื่นได้ง่าย ควรระวังให้ดีไม่ให้ลื่นหกล้มนะคะ

กุมภาพันธ์

ถึงแม้ความหนาวจะบรรเทาลงกว่าเดือนมกราคม แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ ในเดือนนี้ช่วงเวลากลางวันจะยาวนานขึ้นเล็กน้อยและจะมืดช้าลง อุณหภูมิสุดสุด 10℃ และจะต่ำกว่ามากทีเดียว ควรส่วมใส่เสื้อผ้าป้องกันความหนาวเพื่อไม่ให้เป็นหวัด นอกจากนี้อากาศจะแห้ง สำหรับคุณผู้หญิงจึงควรพกแฮนด์ครีมเพื่อกันผิวแห้งแตกด้วยนะคะ

ตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไป ดอกบ๊วยจะค่อยๆ ผลิบาน จะเริ่มสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพืชพันธุ์ของฤดูใบไม้ผลิ ที่ปราสาทโอซาก้าก็ออกดอกสวยงามเช่นกัน

มีนาคม

พอเข้าเดือนมีนาคม อากาศจะอุ่นขึ้นจนเริ่มรับรู้ถึงฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 14℃ แต่อย่างไรก็ตาม อากาศก็ยังหนาวอยู่ แนะนำให้นำเสื้อโค้ทไปด้วยค่ะ

ขอแนะนำบริการเรือท่องเที่ยว "Osaka Suijo Bus (Aqua-Liner)" ให้ท่านเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์รอบเมืองอย่างสบายๆ ตามรูปคือเรือครูซชื่อ "Himawari" ที่ท่านจะสามารถเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาดีๆ เหนือน้ำได้

เมษายน

เดือนเมษายนนั้น ในที่สุดอุณหภูมิสูงสุดก็ถึง 20℃ สัมผัสได้ถึงฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือน ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อโค้ทหนาๆ แล้ว เรียกได้ว่าอากาศอบอุ่นกำลังดีเลยล่ะค่ะ

ช่วงนี้เป็นช่วงชมซากุระ ที่สวนสาธารณะหรือสถานที่ชมดอกซากุระมีชื่อเสียงนั้นจะครื้นเครงไปด้วยผู้คน ช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานจะแตกต่างกันเล็กน้อยตามชนิดของดอกซากุระ จึงควรเช็คช่วงเวลาการชมให้ดีก่อนไป

พฤษภาคม

เดือนพฤษภาคมนั้นเหมาะกับการออกไปข้างนอก มีอุณหภูมิสูงสุดที่ 25℃ เป็นช่วงอากาศดีต้นฤดูร้อนอันสดชื่น แต่ทว่าบางวันอาจมีช่วงที่อุณหภูมิลดลง อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จึงควรพกเสื้อคลุมไว้สักตัวก่อนออกไปข้างนอก

"ศาลเจ้า Namba Yasaka-jinja" ซึ่งมีชื่อเสียงมาจากหัวสิงโตยักษ์ ปากทางเข้าใหญ่ยักษ์นี้นำมาซึ่งโชคลาภที่ทำให้ประสบความสำเร็จหรือมีชัยชนะ ขอพรเรื่องการเรียน การสอบแข่งขัน การงาน การขยายกิจการ เป็นศาลเจ้าอันเปี่ยมไปด้วยพลังแค่ได้ชมแค่ครั้งเดียวจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน

มิถุนายน

เดือนมิถุนายนที่ญี่ปุ่นนั้นเป็นช่วงหน้าฝน ถึงแม้โอซาก้าเมื่อเทียบกับโตเกียวแล้วจะปริมาณฝนน้อยกว่า แต่อย่าประมาทเตรียมพกร่มพับไว้ ความชื้นจะเพิ่มสูงจนอาจจะรู้สึกเหนียวตัวได้ ขอแนะนำให้สวมเสื้อแขนยาวที่อากาศถ่ายเทดีอย่างเช่น เสื้อที่ทำจากผ้าฝ้าย หรือด้ายป่าน 

ได้รับฝนที่ตกมาจากฟ้า พืชพันธุ์ก็กลับมามีชีวิตชีวาเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง บางสถานที่สามารถชม "ดอกไฮด์เดรนเยีย" ได้ ลองไปชมดูนะคะ

กรกฎาคม

พอถึงเดือนกรกฎาคม จะมีวันที่อากาศค่อนข้างร้อน อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 30℃ เกือบทั้งเดือน ควรใส่เสื้อแขนสั้น และในวันที่ต้องออกไปข้างนอกนานๆ นั้นอย่าลืมทาครีมกันแดด หรือกางร่มกันแดด ฯลฯ รวมถึงอย่าลืมป้องกันรังสี UV ด้วย ส่วนในวันทานาบาตะ (วันที่ 7/7 ของทุกปี เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่จัดขึ้นประจำ โดยเขียนคำอธิษฐานลงในกระดาษสีสันสดใส แล้วแขวนไว้ที่ใบไผ่ เพื่อขอพรจากดวงดาว) จะมีการจัด "เทศกาลทานาบาตะ" ด้วยค่ะ

วิวทิวทัศน์อันงดงามซึ่งสัมผัสได้ถึงการมาเยือนของฤดูร้อน จาก "ตึก Umeda Sky Building" ของโอซาก้า ที่นี่สามารถกวาดตาชมวิวของเมืองจากมุมสูงได้

สิงหาคม

พอถึงเดือนสิงหาคม อุณหภูมิจะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยสูงสุดที่ 33℃ เวลาที่พระอาทิตย์ส่องแสงจะยาวนานขึ้น ไม่ควรฝืนออกไปข้างนอกหากเป็นโรคลมแดด ในตอนที่ไปร่วมงานดอกไม้ไฟหรืองานเทศกาลฤดูร้อน อย่าลืมพกหมวกหรือผ้าเช็ดตัวไปด้วยนะคะ

รูปนี้คือ "งานเทศกาลไฟ Gangara Himatsuri" มีชื่อเสียงว่าเป็นงานเทศกาลประจำฤดูใบไม้ผลิ มีการจุดคบไฟขนาดใหญ่และนำไปเดินแห่รอบเมือง

กันยายน

ในเดือนกันยายนอุณหภูมิจะเริ่มลดลงเรื่อยๆ อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 29℃ อากาศเปลี่ยนแปลงจนอาจป่วยได้ ควรต้องระวังเป็นพิเศษเรื่องอุณหภูมิที่แตกต่างกันระหว่างตอนกลางวันและกลางคืน เสื้อผ้านั้นโดยปกติใส่เสื้อแขนสั้นกำลังดี แต่ในพื้นที่ที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศอาจจะเย็นเกินไปได้ สำหรับท่านที่แพ้ความหนาวพกเสื้อคลุมบางๆ ไว้จะดีกว่าค่ะ

ลองไปสัมผัสธรรมชาติอันเขียวขจี ห่างไกลจากเมืองอันพลุกพล่านดูนะคะ 

ตุลาคม

พอถึงเดือนตุลาคม อุณหภูมิจะลดลงอีก อุณหภูมิสูงสุดที่ 23℃ จากช่วงนี้เป็นต้นไปความชื้นก็ลดลงด้วย เนื่องจากเป็นอากาศแห้ง ควรแต่งกายให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เป็นหวัด

ที่ญี่ปุ่นยังเรียกฤดูใบไม้ผลิว่า "ฤดูแห่งศิลปะ" ตามรูปนี้คือ "พิพิธภัณฑ์เด็ก Kids Plaza Osaka" พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก มีทั้งการจัดแสดงผลงานวิทยาศาสตร์ เวิร์คช็อปสำหรับสัมผัสประสบการณ์การผลิตรายการข่าว เป็นจุดที่เข้ากับฤดูใบไม้ผลิแห่งศิลปะอย่างแท้จริง ในวันหยุดลองไปเยี่ยมชมที่นี่กับทุกคนในครอบครัวดูนะคะ

พฤศจิกายน

พอถึงเดือนพฤศจิกายน จะสามารถเริ่มชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ และพร้อมๆ กันนั้น อากาศก็หนาวเย็นขึ้น จึงจำเป็นต้องสวมเสื้อแขนยาว โดยเฉพาะสำหรับท่านที่แพ้ความหนาวนั้น ควรสวมใส่เสื้อโค้ทก่อนออกไปข้างนอก

ฤดูใบไม้ผลิมีอากาศดี สบายๆ ทั้งยังเป็นช่วงที่เก็บเกี่ยวผลผลิต จึงยังถูกเรียกว่า "ฤดูแห่งของกิน" ที่โอซาก้านั้นอาหารแป้งอย่างเช่น ทาโกยากิ โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) และอื่นๆ โด่งดังที่ "พิพิธภัณฑ์ Osaka Takoyaki Museum" สามารถไปชิมทาโกยากิอันยอดเยี่ยมไม่เหมือนใครและหลากหลายได้ นอกจากจะไปทานทาโกยากิแล้วยังสามารถไปเลือกซื้อสินค้าได้ที่ร้านขายสินค้าเกี่ยวกับทาโกยากิ สำหรับท่านที่เป็นแฟนทาโกยากิ ไม่ควรพลาดเลยนะคะ !

ธันวาคม

พอเข้าสู่เดือนธันวาคม อากาศหนาวขึ้นอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 12℃ มีวันที่อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 5℃ หรือต่ำกว่า 10℃ อาจกล่าวได้ว่าเป็นภูมิอากาศที่ไม่อยากออกไปข้างนอกเลยล่ะค่ะ ฤดูหนาวเป็นฤดูที่นิยมจัดงานอีเวนต์หรือการประดับไฟอิลลูมิเนชั่น สวมใส่เสื้อแขนยาวหลายชั้นทับด้วยเสื้อโค้ทหนาๆ แล้วออกไปสนุกอย่างไร้ขีดจำกัดดู สำหรับท่านที่ไม่ถนัดใส่เสื้อผ้าหนาๆ หลายชั้น ขอแนะนำให้ใส่เสื้อฮีทเทคด้วยนะคะ

วิวกลางคืนของฤดูหนาวในโอซาก้าก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่ "สกายไลน์ Shigi Skyline" "ตึก Umeda Sky Building" ฯลฯ ของโอซาก้าได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 วิวกลางคืนอันสวยงามของญี่ปุ่น

 

โอซาก้านั้นเป็นเมืองที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่อย่างไรก็ตามในฤดูร้อนซึ่งมีปริมาณฝนน้อยอาจจะต้องระวังการนอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากอากาศร้อน เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปโอซาก้า เพื่อจะได้สนุกกับการท่องเที่ยวด้วยสภาพร่างกายเต็มร้อย !