เรื่องน่าประหลาดใจของห้องน้ำญี่ปุ่น ความเอาใจใส่ในมุมที่คาดไม่ถึง
คุณรู้สึกกังวลไหมเมื่อต้องใช้บริการห้องน้ำสาธารณะนอกบ้าน? แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่หากห้องน้ำสะอาดและสะดวกสบายแล้ว มันก็จะช่วยให้คุณอารมณ์ดีไปได้ทั้งวันเลยทีเดียว ห้องน้ำของญี่ปุ่นได้รับคำชื่นชมว่า "สะอาด สวยงาม และไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็น" มาอย่างยาวนาน สำหรับผู้เขียนซึ่งเป็นคนไต้หวันแล้ว ห้องน้ำสาธารณะของประเทศนี้เป็นสิ่งที่น่าตกใจมาก ทำไมคนญี่ปุ่นถึงให้ความสำคัญกับห้องน้ำขนาดนี้? จริงไหมที่ว่ามีเทพอยู่ในห้องน้ำ? ในบทความนี้เราจะมาบอกเล่าเรื่องน่าประหลาดใจของห้องน้ำญี่ปุ่นจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน พร้อมแทรกด้วยคำอธิบายจากคนญี่ปุ่นโดยตรง
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
สุดทึ่งกับห้องน้ำในโตเกียวโดม ไร้กลิ่นเหม็นแม้ว่าจะมีคนต่อแถวใช้งานยาวเหยียด
นี่เป็นเรื่องราวตอนที่ผู้เขียนไปดูคอนเสิร์ตครั้งแรกที่โตเกียวโดมซึ่งรองรับคนได้ถึง 55,000 คน ก่อนงานเริ่มมีผู้คนต่อแถวใช้บริการห้องน้ำสาธารณะตั้งแต่ชั้น 4 ไปจนถึงชั้น 2 และหางแถวก็ยาวเหยียดกลับมาที่ชั้น 4 อีกที ฉันจึงคาดการณ์เลยว่า "มีคนใช้บริการเยอะขนาดนี้ห้องน้ำคงเหม็นมากแน่ๆ" และเตรียมตัวบีบจมูกและเข้าทำธุระให้เสร็จเร็วๆ แต่ปรากฏว่าผิดคาดมาก นอกจากจะไม่มีกลิ่นเหม็นแล้วยังไม่มีขยะตกอยู่เลยสักชิ้น ในตอนนั้นฉันตกใจมาก มันช่วยให้ฉันมีภาพจำที่ดีต่อห้องน้ำสาธารณะของญี่ปุ่น และยังช่วยลดความขยาดในการใช้บริการห้องน้ำสาธารณะลงเล็กน้อยอีกด้วย
ห้องน้ำสาธารณะครบครันกว่าบ้านตัวเอง
ประสบการณ์ในอดีตทำให้ผู้เขียนเข้าใจว่าห้องน้ำสาธารณะเป็นเพียงสถานที่ในการทำธุระส่วนตัว เนื่องจากเป็นการใช้บริการเพียงระยะเวลาสั้นๆ แม้มันจะสกปรกบ้างก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ในกรณีของห้องน้ำสาธารณะของญี่ปุ่น นอกจากจะสะอาดและได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงแล้ว ส่วนใหญ่ยังเป็นโถแบบฉีดก้นอัตโนมัติอีกด้วย ระบบต่างๆ ก็มีความหลากหลาย บางที่ถึงกับมีถังขยะอัตโนมัติที่เปิดปิดฝาด้วยระบบเซ็นเซอร์ สภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้มีช่วงหนึ่งที่ฉันเข้าใจว่าห้องน้ำตามบ้านเรือนญี่ปุ่นก็ต้องไฮเทคแบบนี้แน่ๆ แต่พอได้หาอพาร์ทเม้นท์เพื่อจะย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นจริงๆ ก็พบว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป ความจริงที่น่าประหลาดใจคือห้องสาธารณะของญี่ปุ่นมักจะครบครันกว่าห้องน้ำตามบ้าน เพราะเหตุใดคนญี่ปุ่นถึงเอาใจใส่กับห้องน้ำสาธารณะและลงเรี่ยวแรงไปกับมันถึงขนาดนี้?
●คอมเมนต์จากคุณ E กองบรรณาธิการชาวญี่ปุ่น
เป็นเรื่องจริงที่ห้องน้ำสาธารณะตามสถานที่ท่องเที่ยว สถานีรถไฟ และออฟฟิศมักจะมีอุปกรณ์ต่างๆ อยู่อย่างครบครัน
เรามาดูที่พื้นหลังทางประวัติศาสตร์กันก่อน TOTO ซึ่งเป็นผู้ผลิตโถส้วมระบบฉีดรายใหญ่ได้วางจำหน่าย "Washlet (โถระบบฉีดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด)" ขึ้นในปี 1980 คนญี่ปุ่นจำนวนมากได้สัมผัสกับโถดังกล่าวเป็นครั้งแรกตามห้องน้ำสาธารณะต่างๆ เมื่อได้ลองแล้วคนส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าไม่สามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่มีมัน จากนั้นโถระบบฉีดจึงแพร่หลายเข้าสู่บ้านเรือนปกติ กล่าวคือโถระบบฉีด "เป็นที่แพร่หลายก่อนตามห้องน้ำสาธารณะ" นั่นเอง ความแพร่หลายของโถระบบฉีดตามบ้านเรือนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลสำรวจปี 2020 พบว่าบ้านกว่า 80% นั้นมีโถระบบฉีดติดตั้งอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าบ้านทุกหลังในญี่ปุ่นที่จะมีโถระบบนี้
แน่นอนว่าหากเป็นสถานที่ที่ไม่ได้ร่ำรวยมากนักก็จะไม่ติดตั้งโถระบบฉีดไว้ นอกจากนี้ ในบรรดาคนที่ "ไม่สามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่มีโถระบบฉีด" มีบางคนที่ถึงกับพกหัวฉีดพกพาติดตัวอยู่ตลอดเวลา จึงอาจเป็นไปได้ว่าการเพิ่มขึ้นของโถระบบฉีดตามห้องน้ำสาธารณะคือ "ความเอาใจใส่" ชนิดหนึ่งเพื่อให้ผู้คนเหล่านี้สามารถใช้บริการห้องน้ำนอกบ้านได้อย่างสบายใจ
ห้องน้ำชมวิวพาโนราม่า การแสวงหาประสบการณ์ที่เป็นที่สุด
ห้องน้ำตามห้างสรรพสินค้าและสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นมักสัมผัสได้ถึงความเอาใจใส่ในเรื่องความกว้างขวางและประสิทธิภาพการใช้งาน นอกจากหน้าที่พื้นฐานในฐานะห้องน้ำแล้ว บางแห่งยังติดตั้งห้องแต่งหน้าไว้คู่กัน หรือเตรียมพื้นที่สว่างๆ พร้อมกระจกใบใหญ่ให้สาวๆ ได้แต่งหน้าอย่างสะดวกสบายไว้อีกด้วย กล่าวกันว่ามีแม้กระทั่งห้องน้ำบนตึกสูงที่ใช้มุมวิวสวยริมหน้าต่างมาทำเป็นห้องแต่งหน้า แค่จินตนาการถึงทิวทัศน์ที่เปิดโล่งก็น่าตื่นเต้นแล้ว! ฉันเคยได้ยินมาว่าคนญี่ปุ่นมีจิตวิญญาณช่างฝีมือที่ชอบทำทุกอย่างให้ยอดเยี่ยมที่สุด แล้วห้องน้ำสาธารณะสุดหรูเหล่านี้ล่ะ มันพยายามส่งมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมรูปแบบไหนให้กับเรา?
●คอมเมนต์จากคุณ E กองบรรณาธิการชาวญี่ปุ่น
สำหรับห้างสรรพสินค้าและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้ว ห้องน้ำเป็นทั้ง "การบริการ" และ "การลงทุน" ที่ญี่ปุ่นนั้นถึงจะไม่ได้เป็นคนที่รักความสะอาดอย่างสุดโต่งก็อาจเลือกใช้บริการสถานที่นั้นๆ โดยดูว่า "ห้องน้ำสะอาดและน่าใช้หรือเปล่า" ความคิดเช่นนี้ทำให้เกิดสถานที่ที่มองว่า "ยิ่งห้องน้ำสะดวกสบายเท่าไรก็ยิ่งดี" และเพียบพร้อมไปด้วยห้องแต่งหน้าและพื้นที่สำหรับผ่อนคลาย แน่นอนว่าการใช้มุมริมต่างสุดหรูมาทำเป็นห้องน้ำอาจดูเกินไปหน่อย แต่มันก็เป็นธรรมชาติของคนญี่ปุ่นที่พอได้ให้ความสำคัญกับอะไรแล้วก็จะไปสุดทางอย่างหยุดไม่อยู่
อุปกรณ์ดับกลิ่นหลากหลายรูปแบบ ความเอาใจใส่ของคนญี่ปุ่นซึ่งอ่อนไหวต่อกลิ่นเหม็น
เมื่อได้ลองอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ผู้เขียนก็รู้สึกได้ว่าคนญี่ปุ่นนั้นให้ความสำคัญกับเรื่องกลิ่นเหม็นมาก หากลองมองไปรอบๆ มุมของใช้ในชีวิตประจำวันในซูเปอร์มาร์เก็ต ก็จะพบว่ามีอุปกรณ์ดับกลิ่นในห้องน้ำอยู่อย่างหลากหลาย มีให้เลือกทั้งแบบสเปรย์และแบบวาง ตั้งแต่กลิ่นดอกไม้ กลิ่นส้ม ไปจนถึงกลิ่น Aqua Soap จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่เคยซื้อมาใช้เอง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ให้กลิ่นหอมที่เป็นธรรมชาติ ค่อนข้างต่างจากอุปกรณ์ดับกลิ่นที่เราคุ้นเคยกัน ถึงขนาดที่สามารถนำไปวางตามห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้โดยไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสินค้ามีเยอะมาก จึงทำให้เหนื่อยทุกครั้งที่ต้องเลือกซื้อ เวลาคนญี่ปุ่นเลือกผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นเหล่านี้ เขาให้ความสำคัญกับอะไรและคาดหวังอะไรกันบ้างนะ?
●คอมเมนต์จากคุณ E กองบรรณาธิการชาวญี่ปุ่น
สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว ห้องน้ำเป็น "สถานที่ที่ชวนให้ผ่อนคลาย" ด้วยเช่นกัน จึงมีการใช้กลิ่นหอมๆ จากอุปกรณ์ดับกลิ่นมาสร้างให้เกิดเป็นพื้นที่ที่น่าผ่อนคลาย ในกรณีของบ้านเรือนทั่วไป คนส่วนใหญ่ชอบกลิ่นธรรมชาติและไร้กลิ่น (แบบที่ลบกลิ่นเหม็นอย่างเดียวโดยไม่ได้ส่งกลิ่นอะไร) มากกว่าการใช้กลิ่นแรงๆ มากลบความเหม็นเฉยๆ นอกจากนี้ ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาอุปกรณ์ดับกลิ่นแบบ "ฆ่าเชื้อ" ก็ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 คนญี่ปุ่นก็พากันแสวงหาการฆ่าเชื้อต่อทุกสิ่งทุกอย่าง จะสามารถยับยั้งการเพาะตัวของเชื้อโรคได้จริงไหมนั้นไม่สำคัญ เพียงแค่ใส่คำว่า "ฆ่าเชื้อ" ลงไปบนแพ็กเกจก็ช่วยเพิ่มยอดขายได้แล้ว
สาเหตุที่อุปกรณ์ดับกลิ่นในห้องน้ำมีวางจำหน่ายอยู่เยอะขนาดนี้นั้น มันมีที่มาจากโครงสร้างห้องน้ำตามบ้านเรือนของญี่ปุ่น เมื่อเทียบกับต่างประเทศ ญี่ปุ่นมีบ้านที่มี Unit Bath (ห้องน้ำที่รวมโถส้วมและที่อาบน้ำไว้ในห้องเดียวกัน) น้อยกว่า เมื่อไม่ได้เป็น Unit Bath แล้ว ห้องน้ำก็จะมีคราบปัสสาวะกระเด็นไปติดพื้นและกำแพง ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ง่ายกว่า ด้วยเหตุนี้เอง อุปกรณ์ให้ความหอมและดับกลิ่นในห้องน้ำจึงถูกให้ความสำคัญในฐานะ "ของใช้ในชีวิตประจำวัน" ที่ผู้คนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
จริงไหมที่ห้องน้ำเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีเทพอาศัยอยู่?
ห้องน้ำมักมีอิมเมจที่มืดๆ ชวนหลอนหน่อยๆ และให้บรรยากาศราวกับว่าจะมีผีออกมาในตอนกลางคืน ดังที่เห็นได้จากผีห้องน้ำในโรงเรียนที่มีให้เห็นบ่อยๆ ตามอนิเมชั่นและหนังผีสำหรับเด็กของญี่ปุ่น
อีกด้านหนึ่ง ญี่ปุ่นก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ "เทพทั้งหมื่นแสน" มาแต่โบราณ ซึ่งรวมถึงแนวคิดที่มองว่าในห้องน้ำเองก็มีเทพสิงสถิตอยู่ เทพแห่งห้องน้ำนี้มีชื่อว่า "อุซุซามะเมียวโอ (ウスサマミョウオウ)" ผู้ใช้ไฟมาชำระล้างสิ่งสกปรก ทำความสะอาดจิตใจ รวมถึงปัดเป่าสิ่งเจือปนทั้งหลายในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้คนญี่ปุ่นจึงถูกสอนว่า "หากทำให้ห้องน้ำสะอาดแล้วจะได้รับการคุ้มครอง" มาแต่โบราณ นอกจากจะทำให้สบายใจแล้วยังเชื่อว่าช่วยเรื่องโชคลาภ และมีธรรมเนียมการประดับห้องน้ำด้วยดอกไม้เพื่อแสดงความเคารพต่อเทพ คนญี่ปุ่นเชื่อเรื่องเล่าเหล่านี้กันจริงหรือเปล่า? แล้วมันส่งผลต่อการใช้ชีวิตของพวกเขาบ้างไหม?
●คอมเมนต์จากคุณ E กองบรรณาธิการชาวญี่ปุ่น
ปัจจุบันไม่ค่อยมีคนที่เชื่ออย่างจริงจังว่า "มีเทพอยู่ในห้องน้ำ" แต่ที่ญี่ปุ่นก็นิยมสอนเด็กๆ ตั้งแต่เล็กว่า "ห้องน้ำเป็นสถานที่สำคัญ" นอกจากนี้ เมื่อปี 2010 นั้นมีเพลงที่ชื่อว่า "คุณเทพแห่งห้องน้ำ (トイレの神様)" ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพลงนี้ไม่ได้พูดถึงเทพอุซุซามะเมียวโอที่คุ้นเคยกันมาแต่โบราณ แต่เป็นบทสนทนาของคุณยายที่มีต่อหลานที่ไม่ชอบล้างห้องน้ำว่า "ในห้องน้ำมีเทพสาวสวยอยู่ หากทำให้ห้องน้ำสะอาดอยู่ทุกวัน เธอเองก็จะกลายเป็นคนสวยด้วย (ช่วยให้จิตใจสะอาดบริสุทธิ์)" อาจจะฟังดูแปลกๆ อยู่บ้าง แต่มันเป็นการช่วยพัฒนาจิตใจผ่านการทำความสะอาดห้องน้ำที่บ้านและที่โรงเรียน กล่าวกันว่ามีประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ท่านหนึ่งที่ทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ทุกวันเพื่อไม่ให้ลืมรากฐานของตัวเองอีกด้วย
ส่งท้าย
ห้องน้ำสาธารณะอาจเป็นเพียงสถานที่แวะทำธุระสั้นๆ ในระหว่างเดินทาง แต่หากห้องน้ำมีความสะดวกสบายแล้ว มันก็จะกลายเป็นสถานที่ที่ฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของเราอย่างคาดไม่ถึง ทั้งยังส่งผลกระทบกับทัศนคติที่เรามีต่อประเทศนั้นๆ ด้วย ในครั้งนี้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาจิตใจและแนวคิดที่มีต่อห้องน้ำผ่านคำอธิบายของชาวญี่ปุ่นโดยตรง หากคุณมีโอกาสได้มาญี่ปุ่น ก็ไม่ควรพลาดที่จะลองสังเกตรายละเอียดเล็กๆ ที่แอบซ่อนอยู่ใน "เรื่องปกติ" เหล่านี้ดูด้วย
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่